เกษตรสร้างชาติ : ผักไร้ดินเงินแสน

กรุงเทพฯ 4 ม.ค.-แม้อากาศในกรุงเทพฯ จะค่อนข้างร้อนตลอดทั้งปี แต่ไม่เป็นอุปสรรในการปลูกผักเมืองหนาว ซึ่งเกษตรกรปรับปรุงวิธีการปลูกโดยไม่ต้องใช้ดิน ได้ผลผลิตสมบูรณ์และขายได้ตลอดทั้งปี

40

ผักสดเขียวชะอุ่มเหล่านี้เป็นแปลงผักเมืองหนาวที่ปลูกขึ้นอยู่ใจกลางเมืองหลวง ย่านรามอินทรา 39 กรุงเทพมหานคร โจนส์สลัดฟาร์มแห่งนี้เริ่มมากว่า 10 ปี เจ้าของฟาร์มเลือกใช้วิธีการปลูกแบบไม่ใช้ดิน หรือที่เรียกว่าผักไฮโดรโปนิกส์ ด้วยไม่ต้องใช้พื้นที่มาก และคนดูแลเพียงไม่กี่คนก็เพียงพอในการปลูกผักได้

44

โครงสร้างและรางปลูกเป็นสิ่งสำคัญอันแรก ต้องใช้วัสดุที่ทนทานไม่เกิดโรค ส่วนเมล็ดพันธุ์จะต้องเลือกที่ทนต่อสภาพอากาศของไทย หรือชนิดที่ชอบแสงแดด จะช่วยลดปัญหาจากอากาศร้อนและโรคได้ น้ำนับเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการปลูกผักไร้ดิน น้ำสะอาดผสมสารอาหารต่างๆ ที่พืชต้องการ ปรับสูตรได้ตามเหมาะสม อีกทั้งน้ำที่ใช้จะต้องหมุนเวียนตลอดเวลา ผักจึงสมบูรณ์ได้น้ำหนักเฉลี่ยหัวละ 100-300 กรัม

41

คุณชัยยุทธบอกว่าผักจะปลูกไล่ระดับอายุ ตั้งแต่เพาะเมล็ด อนุบาล 1 อนุบาล 2 และรุ่นที่พร้อมเก็บขายได้ในสัปดาห์ที่ 6 ซึ่งวิธีนี้จะเก็บผักขายได้ทุกวัน เฉลี่ยทุกสัปดาห์จะมีผักส่งออก 160 กิโลกรัม กิโลกรัมละ 110 บาท เคล็ดลับต้องปลูกในที่โล่ง แดดส่องถึงตลอดวันจึงจะเติบโตได้ดี

43

ปัจจุบันผลผลิตที่ออกมายังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ตลาดเกษตรของผักไร้ดินยังเติบโตได้อีกมาก ด้วยคนหันมาทานผักสลัดมากขึ้น ร้านอาหารนิยมใช้เป็นผักเครื่องเคียง หรือกระทั่งเพิ่มมูลค่าจัดเป็นกระเช้าของขวัญสุขภาพในเทศกาลสำคัญอีกด้วย ฟาร์มผักแห่งนี้ยังเปิดอบรมให้ผู้สนใจมาศึกษาตั้งแต่ขั้นตอนแรกถึงครบกระบวนการ เป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมที่มีรายได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะอบรมทุกวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน




 

Create Date : 05 มกราคม 2558    
Last Update : 5 มกราคม 2558 8:29:02 น.
Counter : 3215 Pageviews.  

ดึงเทคโนโลยีGIS เก็บข้อมูลสวนยาง 4จังหวัดภาคเหนือ

นายอนุสรณ์ พรชัย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 1 เชียงใหม่ (สศข.1) เปิดเผยว่า ในปี 2557 ยางพาราที่อายุ 5 ปีขึ้นไปใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน มีเนื้อที่ยืนต้นจำนวน 81,757 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2556 จำนวน 11,067 ไร่ ดังนั้นเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด และเพื่อการจัดทำข้อมูลเอกภาพร่วมกับจังหวัดในปี 2558 สศข.1 จึงลงพื้นที่ตรวจสอบเนื้อที่การเพาะปลูกยางพารา โดยนำเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ (GIS) มาเป็นเครื่องมือในการสำรวจ ซึ่งเป็นการวิเคราะห์เนื้อที่เพาะปลูกโดยใช้ข้อมูลระยะไกล (Remote Sensing) ที่ต้องอาศัยข้อมูลเชิงพื้นที่จากภาพถ่ายทางอากาศร่วมกับภาพถ่ายดาวเทียมเป็นเครื่องมือในการจัดทำข้อมูล เช่น การใช้แผนที่ภาพถ่ายออร์โธสีปี 2545 มาตราส่วน 1:4000 ทำการจำแนกข้อมูลพื้นที่การใช้ประโยชน์ที่ดิน

ทั้งนี้ การตรวจสอบเนื้อที่เพาะปลูกยางพาราด้วยระบบ GIS จะทำให้ทราบถึงข้อมูลเนื้อที่ยืนต้นของยางพาราที่อายุ 5 ปีขึ้นไปว่ามีปริมาณเท่าใด รวมทั้งสามารถระบุพื้นที่เพาะปลูกยางพาราแหล่งสำคัญที่กระจายอยู่ตามท้องที่ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการติดตามสถานการณ์การเพาะปลูกยางพาราในปีต่อๆ ไปได้เป็นอย่างดี ซึ่งหากหน่วยงานหรือประชาชนที่สนใจข้อมูล สามารถสอบถามได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลเศรษฐกิจการเกษตรเขต 1 เชียงใหม่ โทร. 0-5312-1318-9

cr.naewna




 

Create Date : 05 มกราคม 2558    
Last Update : 5 มกราคม 2558 8:22:32 น.
Counter : 618 Pageviews.  

จัดสรรทุนปลอดดอกเบี้ย พัฒนากลุ่มเกษตรกร 500 ล้านบาท


จัดสรรทุนปลอดดอกเบี้ย พัฒนากลุ่มเกษตรกร 500 ล้านบาท
นายโอภาส กลั่นบุศย์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้รับอนุมัติเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรเป็นเงินกู้ยืมปลอดดอกเบี้ย วงเงิน 500 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนากลุ่มเกษตรกร

โดยกลุ่มเกษตรกรที่ขอกู้ต้องเป็นกลุ่มเกษตรกรที่ได้มาตรฐานมีวัตถุประสงค์ในการกู้ยืมเพื่อไปส่งเสริมการผลิตหรือพัฒนาธุรกิจทุกด้าน ได้แก่ ผลิตข้าว พืชต่าง ๆ เลี้ยงสัตว์ จัดหาสินค้ามาจำหน่ายและรวบรวมผลผลิต เพื่อสร้างฐานะทางการเงินที่มั่นคงและดำเนินธุรกิจได้ด้วยตนเอง

โดยกรมฯ มีเป้าหมายพิจารณาจัดสรรให้กลุ่มเกษตรกรที่ขอรับการสนับสนุนปีละ 1,400 กลุ่ม สัญญากู้ยืมปีต่อปี เมื่อกลุ่มเกษตรกรได้รับการจัดสรรเงินกู้ส่งคืนเงินยืมครบถ้วนโดยไม่มีการผิดนัดชำระหนี้จะสามารถขอกู้ยืมใหม่ได้ถึง 3 รอบ ในปี 2557 ได้อนุมัติให้กลุ่มเกษตรกรแล้วจำนวน 1,456 กลุ่ม ใน 69 จังหวัด และโอนเงินให้จังหวัดเพื่อเบิกจ่ายให้แก่กลุ่มเกษตรกรแล้ว สำหรับในปี 2558–2559 กรมฯ ได้จัดสรรเงินกู้ยืมตามโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนากลุ่มเกษตรกรปีละ 500 ล้านบาท กลุ่มเกษตรกรที่ประสงค์ขอกู้ยืมเงินทุนปลอดดอกเบี้ยเพื่อส่งเสริมการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของสมาชิก หรือต้องการได้รับการสนับสนุนเงินทุนในการพัฒนาธุรกิจทุกด้านเพื่อให้กลุ่มมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง มีความเข้มแข็ง สามารถดำเนินธุรกิจได้ด้วยตนเองให้แจ้งความประสงค์ไปที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดที่สังกัดตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


สำหรับโครงการนี้มีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2554–2559 วงเงิน 500 ล้านบาท เป็นเงินกู้ยืมปลอดดอกเบี้ย ซึ่งกรมฯ ต้องส่งเงินพร้อมดอกผลที่เกิดขึ้นคืนกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรภายใน 15 วัน นับแต่สิ้นสุดโครงการคือวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 ซึ่งในการดำเนินการ 2 ปีที่ผ่านมากรมฯ สามารถจัดสรรเงินดังกล่าวเป็นทุนหมุนเวียนให้กลุ่มเกษตรกรกู้ไปดำเนินธุรกิจจำนวน 5,091 กลุ่ม เป็นเงิน 1,421 ล้านบาท เฉลี่ยได้รับจัดสรรกลุ่มละ 279,120 บาท และมีกลุ่มเกษตรกรที่มีหนี้ค้างชำระประมาณ 1.11% ของเงินทุน 500 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระหว่างการติดตามเร่งรัดชำระหนี้ต่อไป




 

Create Date : 26 ธันวาคม 2557    
Last Update : 26 ธันวาคม 2557 16:43:47 น.
Counter : 540 Pageviews.  

กระดาษทรายน้ำกับกระดาษทรายธรรมดา ต่างกันอย่างไร ??


กระดาษทรายน้ำ หรือ กระดาษทรายขัดเปียก คุณสมบัติคือ เวลาขัดควรจุ่มน้ำให้เปียกแล้วค่อยขัด สามารถล้างน้ำเพื่อเอาเศษฝุ่นออกจากกระดาษทรายแล้วนำมาขัดต่อได้
ข้อดี
- ฝุ่นไม่ฟุ้ง เพราะส่วนใหญ่จะลงไปอยู่กับน้ำที่ล้าง
- หาซื้อง่าย ร้านขายฮาร์ดแวร์ส่วนใหญ่ เกือบ 100% มีขาย แค่ไปบอกว่าเอากระดาษทรายขัดเหล็กก็มักจะได้พวกนี้มา มีเบอร์ให้เลือกเยอะ ตั้งแต่หยาบยันละเอียดถึง 2000 เลย
ข้อเสีย
- กระดาษมักจะเปื่อยยุ่ยเวลาขัดไปได้ซักพักนึง ทำให้ใช้งานได้ไม่ทน
- ถ้าไม่จุ่มน้ำ ฝุ่นจะเข้าไปตันกระดาษทรายเร็วมาก 

กระดาษทรายขัดแห้ง หรือกระดาษทรายขัดปาร์เก้ 
เป็นกระดาษทรายที่ออกแบบมาให้ใช้สำหรับขัดแห้งเท่านั้น ห้ามโดนน้ำเลย ถ้าโดนน้ำกระดาษจะเปื่อยแทบจะทันที
ข้อดี
- ทนทาน ใช้ได้นาน แผ่นนึงขัดซ้ำได้หลายรอบ ฝุ่นไม่ค่อยเข้าไปอุดกระดาษทรายให้ทื่อเท่าไหร่ 
ข้อเสีย
- ฝุ่นฟุ้งมาก ไม่เหมาะกับคนเป็นโรคภูมิแพ้
- หาซื้อยากกว่า ร้านฮาร์ดแวร์มีขายเป็นบางร้านเท่านั้น และถึงมีก็มีเบอร์ให้เลือกไม่มาก เลยไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่




 

Create Date : 26 ธันวาคม 2557    
Last Update : 26 ธันวาคม 2557 10:41:07 น.
Counter : 4962 Pageviews.  

เทคนิคการกำจัดหญ้า ไม่ให้เกิดขึ้นใหม่ได้อีก

เทคนิคการกำจัดหญ้า ไม่ให้เกิดขึ้นใหม่ได้อีก

วิธีกำจัดต้นหญ้าไม่ให้เกิดใหม่รกสวน ใครอยากกำจัดวัชพืชหรือต้นหญ้าที่ไม่ต้องการ ลองมาทำตามนี้กันเลย

          แปลงพืชที่ปลูกมักมีต้นหญ้าไม่ได้รับเชิญมาอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งหญ้าเหล่านี้กำจัดยากนักเชียว แถมยังแพร่กระจายและเกิดใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากจะกำจัดให้ไม่เหลือซากก็ต้องมีเทคนิคกันหน่อย ด้วยวิธีกำจัดและป้องกันต้นหญ้าเกิดใหม่ ที่กระปุกดอทคอมนำมาฝากให้เลือกใช้กันตามความถนัด เอาเป็นว่าใครสะดวกวิธีไหนก็ไปเลือกใช้กันได้เลยจ้า


1. กำจัดหญ้าด้วยสารเคมี
 ใช้ไกลโฟเซตจัดการ
        หากพยายามกำจัดหญ้าด้วยยาฆ่าหญ้าแบบต่าง ๆ แต่ไม่ได้ผล ให้ลองพิจารณายากำจัดพืชไกลโฟเซต เพราะแม้ว่าตัวยาอันนี้จะแรงจนฆ่าพืชทุกชนิด แต่นี่คือวิธีที่ดีที่สุดที่จะรีเซ็ตแปลงพืชจากต้นหญ้าที่เคยกวนใจมานาน 

ทำซ้ำหลาย ๆ ครั้ง
        แม้ว่าหญ้าจอมดื้อจะตายไปแล้ว แต่ก็อาจเกิดขึ้นมาใหม่ได้ ดังนั้นเพื่อความมั่นใจ ให้ใช้เครื่องพ่นยาพ่นยา 2-3 ครั้งเป็นอย่างน้อย โดยรอให้หญ้าชุดแรกตายก่อนประมาณ 2 สัปดาห์ จึงค่อยพ่นยาครั้งต่อไป

ผสมผสานสารเคมีเข้ากับวิธีออร์แกนิค
        ยาฆ่าหญ้าแบบเคมีอาจจะแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด แต่ลองใช้การกำจัดหญ้าด้วยวิธีออร์แกนิคควบคู่ไปด้วย ก็จะยิ่งเป็นตัวช่วยเร่งผลลัพธ์ให้เร็วขึ้น โดยทุก ๆ 7-10 วัน หลังจากใช้เครื่องพ่นยาพ่นยาฆ่าหญ้า ให้พลิกเศษหญ้าที่ตายขึ้นมา หรือหากมีแผนที่จะปรับปรุงดินให้ทำในขั้นตอนนี้เลย

2. กำจัดหญ้าด้วยวิธีออร์แกนิค
พลิกดิน
        กำจัดต้นหญ้าแบบปลอดภัยด้วยการขุดลงไปใต้รากของต้นหญ้าและพลิกดินขึ้น เพื่อกลับต้นหญ้าให้ฝังลงไปในดินที่มืดและร้อน ซึ่งจะช่วยยับยั้งการเติบโตและทำให้หญ้าตายในที่สุด โดยมีเทคนิคคือให้ทำในเวลากลางคืนหรือหลังพระอาทิตย์ตกดิน เพราะการพลิกดินในเวลาที่มีแสง จะทำให้พืชรวมถึงต้นหญ้าโตขึ้นด้วยความรวดเร็ว ดังนั้นการพลิกดินในเวลากลางคืนจะช่วยลดโอกาสที่หญ้าจะฟื้นขึ้นได้ถึง 78%

ขุดต้นหญ้าและดึงทิ้งไป
        อีกทางเลือกในการกำจัดหญ้าแบบออร์แกนิคคือ ให้ขุดรากถอนโคนต้นหญ้าแล้วดึงทิ้งไปไกล ๆ จากบริเวณแปลง และเน้นกำจัดต้นหญ้าที่มีเมล็ดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายให้มากขึ้น นอกจากนี้ต้นอ่อนหรือพื้นดินที่ชุ่มจะทำให้ดึงออกได้ง่ายขึ้น และหากใช้กรรไกรเล็มต้นไม้มาช่วยตัดต้นหญ้า ก็ควรทำความสะอาดให้ดีหลังใช้ เพราะอาจหลงเหลือเมล็ด จนแพร่กระจายเป็นปัญหาอีกได้

ใช้น้ำส้มสายชูเป็นตัวช่วย
        ถ้าอยากใช้ยาฆ่าหญ้าเป็นตัวช่วย แต่ไม่อยากให้ปนเปื้อนสารเคมี น้ำส้มสายชูคือตัวเลือกที่ดี โดยเทน้ำส้มสายชูลงให้ใกล้กับรากของต้นหญ้าให้ชุ่ม แล้วสังเกตดูหลังจาก 1-2 อาทิตย์ ว่าต้นหญ้าตายหรือไม่ ถ้าเจอต้นหญ้าที่ตายให้ดึงออกทันที แต่ถ้ายังไม่ตายให้เทน้ำส้มสายชูลงไปอีกครั้ง และทำบ่อยเท่าที่ต้องการ

น้ำปัสสาวะกำจัดหญ้า
        วิธีที่ประหยัดและดีที่สุดในการกำจัดต้นหญ้า คือการใช้น้ำปัสสาวะของคนเรานี่แหละ เพราะน้ำปัสสาวะถือเป็นยาจำกัดพืชชนิดเข้มข้นที่มีฤทธิ์เป็นด่าง ดังนั้นจึงสามารถฆ่าหญ้าได้เช่นเดียวกับที่ยาฆ่าหญ้าแบบสารเคมี โดยให้นำน้ำปัสสาวะไปรดให้ใกล้โคนของต้นหญ้าให้มากที่สุด และเมื่อต้นหญ้าตายให้ดึงออก โดยทำซ้ำได้บ่อยตามที่ต้องการ แต่อาจจะอี๋ ๆ สักเล็กน้อย

กำจัดหญ้าด้วยปุ๋ยคลุมดิน
        ต้นหญ้าอ่อนฆ่าได้ง่ายด้วยการปุ๋ยที่ทำจากใบไม้หมักเกลี่ยปิดคลุมหน้าดิน เพราะใบไม้หมักเหล่านี้จะปิดโอกาสที่แสงแดดและอากาศจะส่งถึงต้นหญ้า ทำให้ต้นหญ้าไม่สามารถเจริญเติบโตต่อได้ โดยให้คลุมหนาประมาณ 2 นิ้ว



3. ป้องกันหญ้าเกิดใหม่ในอนาคต
 ใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันหญ้าเกิดใหม่
         ลองหาน้ำยาเคมีที่ป้องกันการเกิดใหม่ของหญ้า ส่วนการป้องกันแบบออร์แกนิคให้ใช้ผงโปรตีนข้าวโพดโรยลงในแปลงดินหลังจากพืชที่ปลูกเริ่มขึ้นแล้ว โดยข้อควรระวังคืออย่าโรยก่อนพืชที่ปลูกจะขึ้น มิฉะนั้นพืชที่ตั้งใจปลูกจะไม่ขึ้นไปด้วย

ตรวจสอบค่า pH ของดินอยู่เสมอ
เพราะดินที่เหมาะสม จะทำให้พืชดึงสารอาหารที่ดีไปใช้จนหมด ไม่เหลือเพียงต่อการเจริญเติบโตของต้นหญ้า ดังนั้นจึงควรรู้ค่า pH ที่เหมาะสมกับชนิดของพืชที่ต้องการปลูก อย่างไรก็ตามการใช้เครื่องพ่นยาพ่นยาฆ่าหญ้ามีผลต่อค่า pH ของดิน ดังนั้นหากใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรด ก็ควรเติมสารที่มีฤทธิ์เป็นด่างเข้าไปสร้างสมดุลด้วย

อย่าให้มีที่ว่างสำหรับต้นหญ้า
ทวงคืนพื้นที่ไม่ให้ต้นหญ้าอยู่ ด้วยการปลูกพืชให้แน่นเต็มแปลง หรือหากมีที่ว่างที่ไม่ได้ใช้จริง ๆ ให้ปูหญ้าประดับคลุมดินจนเต็มพื้นที่

 ลองเลือกวิธีที่สะดวกไปใช้กันดูนะคะ แล้วหมั่นดูแลแปลงพืชอยู่เสมอ เพื่อจะได้กำจัดวัชพืชกวนใจได้อย่างทันท่วงทีนั่นเอง

cr.กระปุกดอทคอม




 

Create Date : 25 ธันวาคม 2557    
Last Update : 25 ธันวาคม 2557 11:07:56 น.
Counter : 11122 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

สมาชิกหมายเลข 1556306
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]










เครื่องปั่นไฟ เครื่องพ่นยา
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 1556306's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.