เมนูเห็ด เมนูสุขภาพ


คนโบราณเชื่อว่า หากกินแกงเห็ดรวมตั้งแต่ 3 ชนิดขึ้นไป โดยเฉพาะเห็ดป่าจะเป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน เห็ดมีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย อาทิ ช่วยล้างพิษที่สะสมในตับ ช่วยสร้างสมดุลร่างกาย ช่วยลดความเครียด กระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย มีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าผักถึง 40 เท่า ลดไขมันโคเลสเตอรอลในหลอดเลือด ฯลฯ อย่างไรก็ตามเห็ดหลายชนิดกินได้ บางชนิดกินไม่ได้ ควรระมัดระวังเห็ดที่จะกินด้วย

cr.เฟสบุ๊ค มูลนิธิหมอชาวบ้าน




 

Create Date : 23 มกราคม 2558    
Last Update : 23 มกราคม 2558 17:00:29 น.
Counter : 740 Pageviews.  

ควายไทยก้าวไกลสู่สากล


ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรกระบืออยู่จำนวน 840,064 ตัว ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา ระบุว่า มีเกษตรกรผู้เลี้ยงกระบือในประเทศไทยมีจำนวน 185,702 ราย ซึ่งในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ประชากรกระบือของประเทศไทยลดลงอย่างรวดเร็ว คิดเป็นร้อยละ 56.22 ขณะที่ผู้เลี้ยงกระบือก็ลดลงร้อยละ 50.04

เนื่องจากการถูกแย่งชิงพื้นที่ไปทำประโยชน์อื่น เกษตรกรไม่อยากเลี้ยง และคาดว่าจะมีการลักลอบนำออกไปขายยังต่างประเทศ รวมทั้งมีการฆ่ากระบือเพศเมียและกระบือที่ตั้งท้องเพื่อนำไปบริโภค ประกอบกับราคาที่สูงขึ้นได้เข้ามาเป็นเหตุจูงใจให้เกษตรกรขายกระบือมากขึ้น

เพื่อเป็นการรณรงค์ส่งเสริมให้เกิดการฟื้นฟูการเลี้ยงกระบือให้สอดคล้องตามแนวพระราชดำริ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นการอนุรักษ์กระบือให้คงอยู่คู่กับวิถีชีวิตเกษตรกรไทย ตลอดจนเป็นเวทีพบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การแสดงผลงานในการพัฒนาการผลิตกระบือของประเทศไทย และเป็นการแสดงห่วงโซ่การผลิตถึงการบริโภคระหว่างหน่วยงานภาครัฐ องค์กรเกษตรกร ผู้ประกอบการ และ ภาคเอกชน เพื่อกระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจการพัฒนาการผลิตกระบืออย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน อันจะเป็นการเพิ่มประชากรกระบือของประเทศได้อีกทางหนึ่ง

กระทรวงเกษตรฯ จึงได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น และองค์กรต่าง ๆ จัดงานกระบือแห่งชาติ ครั้งที่ 19 ประจำปี 2558 ขึ้น เพื่อน้อมนำพระราชดำริสู่เกษตรกรไทย ควายไทยก้าวไกลสู่สากล ในระหว่างวันที่ 23 มกราคม–1 กุมภาพันธ์ 2558 ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

สำหรับการส่งเสริมการเลี้ยงกระบือให้เพิ่มขึ้นนั้น จะมีการจัดซื้อกระบือให้กับเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเลี้ยงกระบือกว่า 500 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ตั้งเป้าหมายให้ปริมาณกระบือเพิ่มขึ้น 1 ล้านตัวภาย ใน 5 ปี

ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดขอนแก่น หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา สมาคมอนุรักษ์พัฒนาควายไทย ตลอดจนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาควายไทย องค์การส่งเสริมกิจการโคนมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยขอนแก่น

โดยภายในงานจะมีการประกวดกระบือประเภทต่าง ๆ แข่งขันการไถนาโดยกระบือ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เกี่ยวข้องกับด้านปศุสัตว์ โครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามแนวพระราชดำริ(ธคก.) โครงการปศุสัตว์อินทรีย์ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เทคโนโลยีการผลิตโค-กระบือ เทคโนโลยีด้านอาหารสัตว์ โรคและวัคซีนป้องกันโรคในโค-กระบือ รวมทั้งนิทรรศการความหลากหลาย ทางชีวภาพ ควายไทยมรดกทางวัฒนธรรมเป็นต้น.

cr.dailynews




 

Create Date : 21 มกราคม 2558    
Last Update : 21 มกราคม 2558 16:01:55 น.
Counter : 1586 Pageviews.  

มูลค่าพริกสูง จากไทยสู่อินโดนีเซีย


มูลค่าพริกสูง จากไทยสู่อินโดนีเซีย
หน่วยงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศประจำกรุงจาการ์ตา กล่าวว่าจากเหตุการณ์เกิดการเปลี่ยนฤดูกาลในประเทศอินโดนีเซีย จากฤดูร้อนเป็นฤดูฝนในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ทำให้พืชผลพริกในอินโดนีเซียมีปริมาณลดลง

ซึ่งส่งผลให้ราคาพริกในอินโดนีเซียมีราคาสูงขึ้นอย่างมาก จากราคาปกติ 20,000 รูเปียห์–40,000 รูเปียห์ต่อกิโลกรัม หรือประมาณ 56 บาทถึง 111 บาท ได้สูงขึ้นถึง 75,000 รูเปียห์–80,000 รูเปียห์ต่อกิโลกรัม หรือที่ราคาประมาณ 208-222 บาท ขณะเดียวกันบางท้องถิ่น เช่น เกาะสุมาตรา ได้รับผลกระทบจากการระเบิดของภูเขาไฟ เมื่อปลายเดือนตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา มีผลให้ราคาพริกเพิ่มราคาถึง 100,000 รูเปียห์ หรือที่ 278 บาท ต่อกิโลกรัม

เช่นนี้ชาวอินโดนีเซียจะใช้พริก หอมแดง และกระเทียมเป็นส่วนผสมหลักของการปรุงอาหาร เพราะฉะนั้นการที่พริกมีราคาสูงขึ้นจึงมีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน อินโดนีเซียระดับกลางและระดับล่าง ส่วนแหล่งผลิตหลักของอินโดนีเซีย จะอยู่ที่เขตพื้นที่ เกาะชวาตอนกลาง และเกาะสุมาตรา ซึ่งขณะนี้ได้ล่วงเลยฤดูเก็บเกี่ยวไปแล้ว

ประกอบกับแหล่งผลิตบนเกาะสุมาตราได้รับผลกระทบจากการปะทุของภูเขาไฟ และได้ผ่านพ้นฤดูเก็บเกี่ยวไปแล้วเช่นกัน ราคาพริกที่สูงขึ้นจึงไม่ได้ทำให้เกษตรกรที่เพาะปลูกพริกของอินโดนีเซียมีรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากว่าผลผลิตพริกเสียหายมากจากการเปลี่ยนฤดูกาล ซึ่งปีนี้ค่อนข้างแล้ง และค่อนข้างมีฝนตกหนักด้วย ทำให้สามารถเก็บเกี่ยวพริกได้เพียง 30 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนการผลิตเมื่อเทียบกับฤดูกาลปกติ ทำให้ปริมาณพริกในตลาดลดน้อยลง ส่งผลให้มีราคาสูงขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2557 เป็นต้นมา ได้เพิ่มขึ้นจาก 6,500 รูเปียห์ต่อลิตร หรือ 18 บาท มาเป็น 8,500 รูเปียห์ หรือ 24 บาทต่อลิตร ทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในอินโดนีเซียหลายชนิดมีการปรับราคาสูงขึ้น

จากข่าวสารดังกล่าว ส่วนงานที่เกี่ยวข้องของประเทศอินโดนีเซียได้ประเมินว่า ทางการอินโดนีเซียคงจะปล่อยให้มีการนำเข้าพริก และหอมแดงจากต่างประเทศมากขึ้น เพื่อช่วยเหลือราษฎรอินโดนีเซียได้บริโภคสินค้าที่มีราคาถูกลงซึ่งนั่นก็หมายถึงลู่ทางของประเทศไทยในการส่งพริกและหอมแดงได้มากขึ้นในปี 2558 นี้

อย่างไรก็ตาม หากการบริหารเพื่อการตลาดและการผลิตที่ได้คุณภาพของพริก ตลอดถึงการลดเงินลงทุนในการผลิตพริกของไทยมีน้อย โอกาสที่จะเสียตลาดนี้ไปให้กับประเทศเวียดนาม อินเดีย และฟิลิปปินส์ก็สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะว่าการนำเข้าพริกของอินโดนีเซียจากต่างประเทศราคาในการนำเข้าจะเป็นข้อตกลงหลัก

สำหรับประเทศไทยนั้นในแต่ละปีมีราคาการค้าพริกโดยรวมประมาณ 3,324.67 ล้านบาท โดยส่งออกมากถึง 2,597.95 ล้านบาท โดยท้องตลาดอยู่หลายประเทศหนึ่งในนั้นก็มีอินโดนีเซีย ที่เฉลี่ยนำเข้าพริกจากประเทศ ไทยไม่น้อยกว่า 54 ตันต่ออาทิตย์.




 

Create Date : 16 มกราคม 2558    
Last Update : 16 มกราคม 2558 9:23:30 น.
Counter : 1207 Pageviews.  

ชาวพิจิตรจี้ขอหมื่นบาท สุดทนข้าวเหลือตันละ6พัน เดือดร้อนแสนสาหัส แถมพักหนี้ ธกส.3ปี


ชาวนา อ.เมือง จ.พิจิตร ประมาณ 100 คน นำโดย นายมนตรา บุญเรือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.บ้านบุ่ง อ.เมืองจ.พิจิตร นายศิลปชัย ชูศรี และ นายสัมฤทธิ์ เพชรรุ่ง รวมตัวชุมนุมที่บริเวณถนนสายพิจิตร-ตะพานหิน เมื่อวันที่ 13 มกราคม เรียกร้องปัญหาราคาข้าวตกต่ำมากเหลือแค่ตันละ 6 พันบาท อีกทั้งต้นทุนทำนาก็สูงขึ้น และประสบปัญหาขาดทุน
นายมนตรา กล่าวว่า ทุกวันนี้จะใช้ชีวิตความเป็นอยู่ไม่ได้แล้ว เพราะไม่มีเงินเป็นค่าใช้จ่าย อีกทั้งในยุครัฐบาลปัจจุบันไม่เคยมีนโยบายที่จะช่วยเหลือชาวนาเลยทำให้เดือดร้อนทั่วหน้าจึงต้องมารวมตัวกัน ยอมรับว่าขัดต่อกฏอัยการศึก แต่ก็ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส จึงออกมาเรียกร้องขอให้รัฐบาลประกันราคาข้าวเปลือกตันละ 1 หมื่นบาท หรือ ขอให้ช่วยกิโลกรัมละ 2 บาท เหตุเพราะว่ามีความน้อยใจที่รัฐบาลช่วยแต่ชาวสวนยางพารา นอกจากนี้ยังขอให้พักชำระหนี้เงินกู้ที่กู้ยืมมาจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร( ธกส.) 3 ปี

หลังจัดขบวนเสร็จกลุ่มชาวนาได้เคลื่อนขบวนเข้าสู่ภายในศาลากลางจังหวัดพิจิตร โดยมีกำลังทหารและอส.ประมาณ 20 นาย คอยควบดูแล จากนั้นแกนนำชาวนาได้เข้ายื่นหนังสือกับ นายสุรชัย ขันอาสา ผวจ.พิจิตร ขอให้ส่งเรื่องราวความทุกข์ของชาวนาถึงรัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะสลายชุมนุม และระบุว่าหากไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจในเร็ววันนี้จะรวมกลุ่มชาวนาจาก 12 อำเภอ ของ จ.พิจิตรมาชุมนุมใหญ่กันอีกครั้ง

วันเดียวกันร.ต.ท.ภคภพ พูนเพิ่ม ร้อยเวร สภ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ไปตรวจสอบ เหตุลักทรัพย์ข้าว ที่บ้านเลขที่ 30/6 หมู่ที่ 5 บ้านนาโพธิ์ ต.นาวัง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ที่เกิดเหตุ เป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้ ล้อมรั้วรอบบ้าน ประตูหน้าต่างติดเหล็กดัดแน่นหนา มีนางม้วน สีวัน อายุ 66 ปี เจ้าของบ้านยืนรอพบตำรวจอยู่หน้าบ้าน
นางม้วน สีวัน อายุ 66 ปี ผู้เสียหาย ให้การเบื้องต้นว่า ไปเลี้ยงหลานที่บ้านลูกสาว ในหมู่บ้านนาโพธิ์ จึงไม่มีใครอยู่บ้าน เมื่อกลับมาพบว่า ข้าวเปลือกบรรจุถุงปุ๋ย 10 ถุงหายไปหมด เหลือเพียงถุงเปล่าไว้ให้ดู ซึ่งข้าวที่หายเก็บไว้กินให้ถึงหน้านา เมื่อข้าวหาย คงต้องไปยืมข้าวญาติพี่น้องกินกันอดตายไปก่อน นางม้วน บอกอย่างหน้าเศ้า

ต่อมาพนักงานสอบสวนเข้าไปตรวจสอบพบกระสอบปุ๋ยเปล่าขนาด 50 กก.ไม่มีข้าวเปลือกทิ้งอยู่เกลื่อน 10 ใบ และยังพบร่องรอยของหัวขโมย ปีนเข้ามาทางหลังคาบ้านฟ้าเพดานชั้น 2 แล้วลงมาชั้นล่าง ไปที่ห้องครัว ซึ่งเก็บข้าวเปลือกบรรจุถุงปุ๋ยขนาด 50 กก. จำนวน 10 กระสอบ โดยที่หัวขโมย เทข้าวเปลือกใส่กระสอบที่เตรียมมา แล้วหลบหนีไป
สันนิฐานว่าผู้ที่เข้ามาขโมยข้าว จะต้องเป็นคนรู้จัก กับนางม้วน ผู้เสียหาย เป็นอย่างดี โดยฉวยโอกาสที่ไม่มีคนอยู่บ้าน เข้ามาลักข้าว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้มีการตรวจหาลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายไว้แล้ว เพื่อเป็นแนวทางในการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนขโมยข้าวรายนี้มาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ขณะเดียวกันแหล่งข่าวจากกรมชลประทานระบุว่า ในส่วนการจัดสรรน้ำลุ่มเจ้าพระยาและลุ่มน้ำแม่กลอง ได้งดส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปรัง เพื่อจัดสรรน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศน์ให้เพียงพอตลอดฤดูแล้งเท่านั้น แต่ขณะที่ปัจจุบันนี้พื้นที่ราบลุ่มน้ำเจ้าพระยา ยังมีเกษตรกรทำนาปีต่อเนื่องและนาปรัง รวมกันกว่า 3.50 ล้านไร่จึงอยากขอร้องชาวนางดทำนาปรังเพิ่มเพราะจะต้องได้รับความเสียหายแน่นอน
วันเดียวกันพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ให้สัมภาษณ์แบ่งรับแบ่งสู้กรณีชาวสวนยางเสนอให้ คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เพื่อยกเลิกการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.สวนป่าแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ที่กำหนดให้ต้นยางพาราต้องอยู่ภายใต้พรบ.ฉบับนี้




 

Create Date : 14 มกราคม 2558    
Last Update : 14 มกราคม 2558 13:53:19 น.
Counter : 615 Pageviews.  

กระทรวงเกษตรฯติวเข้มแก้ปัญหายางพารา


นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการดำเนินการแก้ไขปัญหาสินค้ายางพาราอย่างเป็นระบบครบวงจร ผ่านระบบประชุมทางไกล และถ่ายทอดไปยังศาลากลางจังหวัด 69 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมี นายสมปอง อินทร์ทอง รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้แทนกรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้าร่วมประชุม

เพื่อมอบนโยบายการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายางพารา ด้วยกลไกคณะกรรมการดำเนินการแก้ไขปัญหาสินค้ายางพาราอย่างเป็นระบบครบวงจร ทั้งระดับจังหวัด และกลุ่มจังหวัด รวมทั้งติดตามสถานการณ์ปัญหายางพารา การดำเนินการแก้ไขปัญหายางพารา

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินมาตรการต่าง ๆ อาทิ โครงการชดเชยรายได้แก่เกษตรกรชาวสวนยางไร่ละ 1,000 บาท (รายละไม่เกิน 15,000 บาท) ขณะนี้ ธ.ก.ส.จ่ายเงินให้เกษตรกรแล้ว 3 แสนกว่าครัวเรือน เป็นเงินประมาณ 3,400 ล้านบาท โดยจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกลางเดือนมกราคม 2558 นี้ ส่วนโครงการควบคุมปริมาณการผลิต โดยการลดพื้นที่ปลูกยางพาราไปปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนนั้น สกย.ดำเนินการได้พื้นที่ 9 หมื่นไร่ จากเป้าหมาย 1 แสนไร่

สำหรับโครงการพัฒนาตลาดตามแผนปรับโครงสร้างระบบตลาดยางพารานั้น นอกจาก กรมวิชาการเกษตรได้ติดตามสถานการณ์ราคายางพาราอย่างใกล้ชิด ยังได้มีการปรับปรุงพัฒนาเรื่องตลาดยางพารา โดยดำเนินการเรื่องตลาดแลกเปลี่ยนยางธรรมชาติในประเทศ เพื่อให้ตลาดกลางที่มีอยู่ทั้งในส่วนของกรมวิชาการเกษตร สกย. และ อบต. มีมาตรฐานและเครือข่ายเดียว เพื่อให้เกษตรกรรายย่อยสามารถเข้าถึงตลาดดังกล่าวได้ รวมทั้งการขับเคลื่อนเรื่องตลาดต่างประเทศด้วย.
cr. dailynews




 

Create Date : 14 มกราคม 2558    
Last Update : 14 มกราคม 2558 9:14:03 น.
Counter : 694 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

สมาชิกหมายเลข 1556306
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]










เครื่องปั่นไฟ เครื่องพ่นยา
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 1556306's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.