จับตา! พายุวาชิ ถล่มฟิลิปปินส์ สะเทือนถึงภาคใต้ของไทย
ทิศทางของพายุวาชิ
ทิศทางของพายุวาชิ
พายุวาชิ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก wunderground.com , ครอบครัวข่าว 3 , กรมอุตุนิยมวิทยา
ในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สภาวะการฟื้นฟูประเทศ หลังเกิดเหตุการณ์อุทกภัยถล่มภาคกลางครั้งเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งนั้น ที่ ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเราในอาเซียนก็กำลังเจอกับมรสุมลูกใหญ่ครั้ง ใหม่ เมื่อ "พายุวาชิ" ได้พัดถล่มทางตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม และเพียงพริบตาเดียว พายุวาชิก็ได้คร่าเอาชีวิตของผู้คนชาวฟิลิปปินส์ไปกว่า 600 คน ขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีกเกือบพันชีวิต และบ้านเรือนประชาชนถูกฤทธิ์ของพายุพัดพังพินาศเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงความร้ายกาจของพายุลูกนี้
ทั้ง นี้ สำหรับ "พายุวาชิ" (Washi) นั้น เริ่มก่อตัวเป็นพายุดีเปรสชันในช่วงวันที่ 13 ธันวาคม ด้วยความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนจะทวีกำลังขึ้นกลายเป็นพายุโซนร้อนในวันที่ 14 ธันวาคม และพัดถล่มทางตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ด้วยความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเมื่อดูจากความเร็วลมแล้ว หลายคนอาจจะคิดว่า พายุวาชิ คงไม่น่าจะส่งผลอะไรมากนักต่อประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งต้องเจอพายุระดับไต้ฝุ่นพัดผ่านเข้ามาในประเทศเป็นปกติอยู่แล้ว แต่กลับกลายเป็นว่า พายุวาชิ ได้สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลให้กับประเทศฟิลิปปินส์
โดยเมื่อวัน ที่ 17 ธันวาคม พายุวาชิ ซึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่น ที่มีความหมายว่า หมู่ดาว นกอินทรีย์ ได้พาดผ่านเกาะมินดาเนา และบางพื้นที่ของตอนกลางประเทศฟิลิปปินส์ ก่อนจะพัดถล่มเกาะปาลาวัน ด้วยความเร็วลม 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันนานกว่า 12 ชั่วโมง จนเกิดน้ำท่วมใหญ่บนเกาะมินดาเนา เกาะปาลาวัน มีรายงานด้วยว่า ในบางพื้นที่มีน้ำท่วมสูงถึง 3 เมตร ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
จาก เหตุการณ์พายุวาชิพัดถล่มประเทศฟิลิปปินส์ ก็ได้สร้างความสูญเสียอย่างมหาศาล โดยจนถึงวันที่ 19 ธันวาคม มีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้แล้วถึง 652 ศพ ขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีก 808 คน โดยพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด คือ เมืองคากายัน เด โอโร ทางตอนเหนือของเกาะมินดาเนา รวมทั้งเมืองอิลิกัน ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กัน
อย่างไรก็ตาม มีการวิเคราะห์กันว่า สาเหตุที่พบผู้เสียชีวิตมากมายเช่นนี้ ส่วนหนึ่งเป็นพายุได้พัดถล่มทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้คนกำลังหลับใหล จึงไม่สามารถเตรียมตัวได้ทัน นั่นจึงทำให้สภากาชาดของฟิลิปปินส์ คาดว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะพุ่งสูงมากกว่านี้อีก เนื่องจากยังมีอีกหลายพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปสำรวจความ เสียหายได้
ทั้งนี้ สถานการณ์ในประเทศฟิลิปปินส์น่าจะดีขึ้นตามลำดับ เพราะพายุวาชิได้พัดออกนอกชายฝั่งทะเลของเกาะมินดาเนาไปแล้ว เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม โดยมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก มุ่งสู่ทะเลจีนใต้ตอนล่าง ซึ่งก็คือทิศทางที่จะมายังประเทศมาเลเซีย นั่นจึงทำให้ทางมาเลเซียประกาศเตือนประชาชนในเฝ้าระวังพายุวาชิ ที่จะพัดขึ้นฝั่งประเทศมาเลเซียในวันที่ 21 ธันวาคมนี้
ขณะที่ประเทศไทยเอง ก็ได้จับตาพายุวาชิอย่างใกล้ชิด ซึ่งคาดว่า พายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ก่อนขึ้นชายฝั่งประเทศมาเลเซีย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพายุจะอ่อนกำลังลง และไม่ขึ้นฝั่งประเทศไทยโดยตรง แต่หลายจังหวัดในภาคใต้ก็ยังได้รับอิทธิพลเช่นกัน
โดยเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือนภัยพายุวาชิ ฉบับที่ 1 ว่า พายุดังกล่าวจะส่งผลกระทบทำให้ภาคใต้ตอนล่างบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
ขณะ เดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา ยังได้ประกาศเตือนภัยไปยังสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานี ให้เฝ้าระวังบริเวณแนวชายฝั่งทั้ง 6 อำเภอ คือ อำเภอ หนองจิก อำเภอเมือง อำเภอยะหริ่ง อำเภอปะนาเระ อำเภอสายบุรี และอำเภอไม้แก่น ให้เฝ้าระวังอันตรายจากพายุ และคลื่นลมแรง รวมทั้งประกาศเตือนให้ประชาชนที่อยู่ใกล้แม่น้ำในภาคใต้ตอนล่าง เฝ้าระวังปริมาณฝนที่จะเพิ่มขึ้น ในช่วงวันที่ 20-22 ธันวาคมนี้ด้วย เพราะฝนที่ตกหนักจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายเพิ่มสูงขึ้น จนเกิดน้ำป่าไหลหลากได้ในหลายพื้นที่
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก , กรมอุตุนิยมวิทยา
Create Date : 19 ธันวาคม 2554 |
Last Update : 19 ธันวาคม 2554 20:58:00 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1316 Pageviews. |
|
|
|
|