|
มงกุฎจันทรา (Crown & Court Duel..by Sherwood Smith)
แปลโดย ลมตะวัน สนพ.บลูเบลล์
เป็นบันทึกของท่านหญิงเมเลียร่า แอสเทียร์ แห่งทลานธ์ ในการพยายามรักษาพันธสัญญากับคนภูเขา กฎแห่งสงคราม คุณธรรมของชนชั้นปกครอง ความซื่อสัตย์และความจริงใจ พระเอกของเรื่องสรุปถึงตัวท่านหญิงได้อย่างลงตัวว่า 'เป็นคนจำพวกที่ถูกชะตากำหนดมาให้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ ทั้งๆที่ตัวเองมิได้คิดทำสิ่งใดเลย'
ไม่น่าเชื่อว่าเคาน์เตสบ้านนอก ห่างจากการอบรมเข้าสังคมของชนชั้นสูงจะกลายเป็นวีรสตรีแห่งอาณาจักรรามัลน่า ไม่ว่าจะโดยความบังเอิญ หรือมีองค์ประกอบอื่นๆเข้าช่วย แต่ที่สำคัญคือท่านหญิงไม่ได้หยุดตัวเองอยู่แค่นั้น เธอพยายามขวนขวายหาความรู้ เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่รู้ ใช้สมองคิด พิจารณา ไตร่ตรองหาข้อดี-ข้อเสีย และพยายามปรับปรุงตนเองขึ้นไปอีก แม้ว่าบางครั้งอารมณ์จะมาบดบังเหตุผลไปบ้าง
หนังสือเล่มนี้อ่านได้เรื่อยๆ ไม่หวือหวาหรือโรแมนติกมากมาย เป็นเรื่องเล่าจากท่านหญิง ดังนั้นมุมมองทั้งหมดจึงออกมาจากตัวท่านหญิงเอง เราจะสามารถวิเคราะห์เหตุการณ์ได้จากคำพรรณนาและคำพูดที่ท่านหญิงบันทึกไว้เท่านั้น ไม่แนะนำให้ผู้ที่ไม่ชอบอ่านนิยายแนวนี้มาอ่านเพราะคงไม่น่าสนใจแน่ๆ
แต่ในความรู้สึกของเราเมื่ออ่านแล้วมันมีเสน่ห์ของวัฒนธรรม ประเพณี คุณธรรมและจริยธรรม ความกล้าหาญ ความมีน้ำใจ ความเป็นไปในการดำรงชีวิตของหลายๆชนชั้นในยุคการปกครองแบบกษัตริย์ ท่านเคานท์ และดยุค ฯลฯ มีข้อคิดต่างๆแฝงไปตามเหตุการณ์ เหตุใหญ่ที่ทำให้เกิดเรื่องเสมอในทุกยุคทุกสมัยคืออำนาจ และความโลภ คนดีต้องต่อสู้เพื่อความดำรงความเป็นธรรมและความสงบสุขของบ้านเมือง ความซื่อสัตย์และจริงใจที่สามารถซื้อใจผู้คนโดยไม่ต้องลงทุนทางวัตถุนิยม รวมถึงมนต์เสน่ห์ของเวทมนตร์ลึกลับปะปนอยู่บ้างประปราย
มีหลายตอนที่ประทับใจในเรื่องนี้ เช่น
-ตอนที่ท่านหญิงถูกแกล้ง โดนมอมเหล้า เมื่อเธอได้สติสิ่งที่เธอนึกก็คือ '...แน่ละข้าไม่ได้คิดจะดื่มจนเมา และแน่ล่ะทามาร่าคอยให้ท้ายข้าโดยเติมเครื่องดื่มให้ไม่หยุด ทว่านางก็ไม่ได้บังคับให้ข้าดื่มเสียหน่อย ไม่ว่านางจะตั้งใจให้ข้าเมาหรือไม่ ก็ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะไปกล่าวโทษนาง ...มีแต่คนขลาดเท่านั้นที่คิดโทษคนอื่น.... ไม่ได้ข้าต้องฝ่ามันไปให้ได้ ต่อให้คนอื่นจะเหยียดหยามสักเพียงใด คำเหยียดหยามมิได้ก่อให้เกิดบาดแผลถาวรอย่างการถูกคมดาบเสียหน่อย ข้าไม่ตายหรอก แค่ต้องหลบอยู่ในห้องสมุดจนถึงวันแต่งงาน จากนั้นค่อยควบม้ากลับบ้าน...'
-ในความหมายของการเกี้ยวพาราสีของท่านหญิง 'สำหรับข้าแล้ว การเกี้ยวพาราสีที่แท้จริงคือการที่เราผูกมิตรกับอีกฝ่าย และพยายามจะเป็นคู่คิดแทนที่จะเป็นเพียงคู่รัก'
-เมื่อถึงฉากร้อน ....'ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วกายข้า เข้าแทนที่ความเย็นยะเยือกจากความตื่นตระหนกครั้งสัมผัสแรก ข้าโน้มตัวเข้าหาจูบนั้นขณะที่มือของเขาลูบไล้ไปทั่วกายข้า สัมพันธ์ฉันชายหญิงเป็นเช่นนี้นี่เอง นี่คือสาเหตุที่คนอื่นๆจับคู่กันและหลบหายไป สาเหตุที่พวกเขายักคิ้วและส่งยิ้มให้กันอย่างมีเลศนัย มันเป็นความสุขที่ทรงอานุภาพเสียจนประสาทรับรู้ของเรามึนชา แต่มันไม่ใช่ความสุขอันอิ่มเอม ข้ารู้ว่าจะเกิดอะไรต่อไป ในห้องห้องนั้น ในบ้านของเขา เพราะไม่มีใครจะเข้ามาหยุดเรา แต่สติวูบสุดท้ายรั้งข้าไว้ และข้ารู้ว่าข้าไม่อยากตื่นขึ้นมาพบตัวเองนอนเคียงข้าง...ตอนที่ความสุขเพียงชั่วแล่นนั้นหมดไป ซึ่งย่อมต้องหมดไปอย่างแน่นอน ข้าเห็นหลายต่อหลายคู่ที่เห็นกันและกันเป็นเพียงภาระหลังจากความสุขเช่นนั้นดับมอดไป...'
'...ข้าก็ยังได้เรียนรู้ด้วยว่าสิ่งที่ร่างกายเรียกร้องนั้น อาจมิใช่สิ่งที่ถูกต้องเสมอไป เพราะเหตุนี้มิใช่หรือ เราจึงต้องมีจิตใจไว้ควบคุมอีกที...'
- ....เรียนถามท่านนักบุญ ผู้เป็นหนึ่งในใจข้า ของขวัญแห่งธารา นี้มอบมาด้วยเหตุใด
เพราะห้วงกระแสธาร ยามสงบหรือโกรธา ล้วนกว้างสุดสายตา มิต่างรักปักกลางใจ
...แล้วอัคคีนี้เล่า ท่านมอบมาด้วยเหตุใด .....เพื่อสื่อแทนใจ ที่โหมไหม้ด้วยรักจริง'
ขอจบโดยให้เครดิตพระเอกของเรื่องว่าช่างมีความเป็นสุภาพบุรุษ ฉลาด ลุ่มลึก ใจเย็นเหมาะจะเป็นผู้นำจริงๆ แม้ว่าจะไม่ค่อยมีบทออกมาโลดแล่นมากมายก็ตาม
Create Date : 29 พฤศจิกายน 2549 |
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2549 12:33:41 น. |
|
6 comments
|
Counter : 948 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Masaomi IP: 125.24.236.202 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:19:20 น. |
|
|
|
โดย: kaokorn IP: 58.8.76.194 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:00:12 น. |
|
|
|
โดย: ลมตะวัน IP: 58.64.113.88 วันที่: 12 ธันวาคม 2549 เวลา:0:45:57 น. |
|
|
|
โดย: ลมตะวัน IP: 58.64.111.176 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:33:08 น. |
|
|
|
| |
|
|
เลยมาอ่านรีวิวเจ๋ยๆ