ยิ้มน้อยน้อย...ตามรอยธรรม
 
1. เมตตา

หนังสือ "ความประเสริฐสุด 4 สถาน"
เรียบเรียงโดย ท่านญานโปนิกมหาเถระ
แปลโดย อาจารย์ทัศนีย์ หงศ์ลดารมภ์
ตีพิมพ์เป็นภาษาไทยครั้งแรกในปีพ.ศ.2519

(ท่านญานโปนิกเถระนี้ เดิมเป็นชาวเยอรมัน เกิดเมื่อพ.ศ. 2444 เริ่มเป็นพุทธมามกะเมื่ออายุ 19 ปีเศษ จากการศึกษาหนังสือ อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อปีพ.ศ. 2479 ท่านสนใจวิปัสสนาธุระ มุ่งเน้นด้านการภาวนา ได้เรียบเรียงงานที่สำคัญหลายเล่ม เช่น "หัวใจกรรมฐาน" "พลังแห่งสติ" เป็นต้น

งาน "ความประเสริฐสุด 4 สถาน" นี้ ท่านเริ่มด้วย อัปปมัญญา 4 อย่าง ซึ่งเป็นพระธรรมตัวบทจากพระไตรปิฎก ว่าด้วยการแผ่ เมตตา กรุณา มุทิตา และ อุเบกขา ไปทั้งสี่ทิศ และทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวาง แผ่ไปตลอดโลก ทั่วสัตว์ทุกเหล่า ในทุกสถาน ด้วยใจประกอบด้วย อัปมัญญา 4 อย่างนี้

ข้อความข้างบนนี้ ดิฉันสรุปย่อมา เพราะเพื่อนสมาชิกอาจค้นได้ในเน็ตอยู่แล้ว แต่ข้อความต่อไปที่ท่านญานโปนิกมหาเถระได้รจนา เกี่ยวกับ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ดิฉันจะพิมพ์เต็มไปตามนั้น

***********************

..........ความประเสริฐสุด 4 สถาน

....................1.
.................เมตตา

เมตตา คือความรักโดยไม่ปรารถนาจะครอบครอง เพราะรู้ดีว่า ในความจริงเหนือจริงในโลกนี้นั้น ไม่มีการครอบครอง และไม่มีใครเป็นเจ้าของ- นี่คือความรักอันประเสริฐ

เมตตา คือรักโดยไม่ต้องนึกและพูดว่า "ฉันรัก" เพราะรู้ดีว่า ที่ว่า "ฉัน" นั้นเป็นเพียงภาพลวงตา.

เมตตา คือรักโดยไม่เลือกเอามา และไม่คัดออกไป เพราะรู้ดีว่า การกระทำเช่นนั้น หมายถึงการทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับเมตตา : นั่นคือ ความชิงชัง ความเกลียด ความโกรธ.

เมตตา คือรักมวลสัตว์โลก, ไม่ว่าเล็กว่าใหญ่, ไม่ว่าไกลว่าใกล้, ไม่ว่าจะอยู่บนบก ในน้ำ หรือในอากาศ.

เมตตา คือรักมวลสัตว์โลกเสมอกันหมด, ไม่ใช่รักเฉพาะที่เป็นประโยชน์แก่เรา, เฉพาะที่มาทำให้เราพึงพอใจ, หรือเฉพาะที่มาทำให้เราครื้นเครงเท่านั้น.

เมตตา คือความรักมวลมนุษย์, ไม่ว่าผู้ดีหรือไพร่, คนดีหรือคนชั่ว,
รักผู้ดีหรือคนดี ก็เพราะความรักหลั่งไหลไปถึงเองอยู่แล้ว รักไพร่และคนชั่ว ก็เพราะเขาเหล่านี้เป็นผู้ที่ขาดความรักมากที่สุด. มีหลายคนในจำนวนนี้ ที่เชื้อพันธุ์แห่งความดีของเขาอาจจะฝ่อไป เพียงเพราะเขาขาดแคลนความอบอุ่นที่จำเป็นแก่ความเจริญของความดีเหล่านั้น, เพราะความดีมันตาย เนื่องจากความเย็นเยือกแห่งโลกที่ปราศจากเมตตา.

เมตตาคือรักมวลสัตว์โลก, รู้ดีว่าเราทั้งหลายนี้เป็นเพื่อน เกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่ในวังวนแห่งสงสาร รู้ดีว่าเราทั้งหลายนี้ ถูกเอาชนะคะคานด้วยกฎแห่งความทุกข์อย่างเดียวกัน

น่าจะเป็นอย่างนี้มากกว่า เมตตา คือความรัก ที่เหมือนรอยลูบไล้บนสัตว์ป่วย, อย่างแผ่วเบาแต่มั่นคง, ไม่เคยเปลี่ยนรสมือแห่งความเห็นอกเห็นใจ, ปราศจากร่องรอยแห่งความสะทกสะท้าน, ไม่ถือสาต่ออาการตอบสนองที่จะได้รับ. เมตตา เป็นความรักที่ชโลมความเย็นชื่นไปยังผู้ที่ถูกเผาลนด้วยไฟแห่งทุกข์และตัณหา; เป็นความอบอุ่นสำหรับเอื้ออำนวยชีวิต-

แก่ผู้ที่ถูกทอดทิ้งอยู่ในความเปล่าเปลี่ยวอันเย็นเยือก;
แก่ผู้ที่สั่นอยู่ในความหนาวเหน็บแห่งโลกที่ปราศจากความรัก ความปรารถนาดี;
แก่ผู้ที่ น้ำใจ ถูกวิดจนขอดแห้งลงไป เพราะการร้องเรียกให้ช่วยอยู่นานแสนนาน, ด้วยความสิ้นหวังอันล้ำลึก;

เมตตา คือรัก ที่เป็นความดีสุดยอดของหัวใจและปัญญา, ที่รู้, ที่เข้าใจ, และที่พร้อมจะช่วยเหลือ.

เมตตา คือรัก ที่เป็นกำลังและที่ให้กำลัง, นั่นแหละคือรักอันประเสริฐ.

เมตตา ที่พระพุทธองค์ประทานชื่อว่า "ผู้ยื่นอิสรภาพให้แก่หัวใจ", "สุดยอดแห่งความงามทั้งหลาย" , นั่นแหละคือรักอันประเสริฐสุด

แล้วอะไรเล่า คือการแสดงออกซึ่งเมตตา อย่างสูงส่งที่สุด?

การชี้ทางอันนำไปสู่ความสิ้นสุดแห่งทุกข์ ให้แก่มวลชาวโลก โดยองค์สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างไรเล่า, ทางซึ่งได้ทรงชี้แล้ว, ทรงพระดำเนินมาด้วยพระองค์เองแล้ว, และถึงซึ่งความล้ำเลิศด้วยพระองค์เองแล้ว.

(จบตอนที่ 1 ว่าด้วยเรื่อง เมตตา)



Create Date : 08 กันยายน 2552
Last Update : 8 กันยายน 2552 14:26:38 น. 0 comments
Counter : 392 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

oDaineo
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Photo Frames. Yellow Flowers Border
[Add oDaineo's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com