Group Blog
All Blog
รักเพียงฝัน...(บท 6/2) อัปเดตชื่อ


ตลาดนัดของบราซิลไม่ต่างจากตลาดนัดวันอาทิตย์ของไทย ตั้งอยู่กลางแจ้งและมีการออกร้านจำหน่ายสินค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าตามแฟชั่นสมัยนิยม ภาพถ่าย ภาพเขียน และของที่ระลึกที่เป็นสินค้าพื้นเมืองต่างๆ และที่ขาดไม่ได้ ‘หมอดู’

ซุ้มของหมอดู ตกแต่งด้วยกระดาษสีสันแปลกตา หากกลับดึงดูดความสนใจอย่างมาก ด้านหน้ามีป้ายเขียนบอกเป็นภาษาโปรตุเกส อังกฤษและสเปนว่าหมอดู…รับทำนายดวงชะตา น่าแปลก…อะไรบางอย่างที่อยู่ภายในซุ้มเรียกร้องให้เธอก้าวขาเข้าไป หากไม่ทันได้ขยับ มือหนาของเรนัลโดก็เอื้อมมาแตะแขนเธอเสียก่อน

“อยู่นี่เอง ผมหาเสียนาน” เรนัลโดเอ่ยขึ้น เสียงทุ้มอ่อนโยน

ปลายรุ้งเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เขา ก่อนจะเหลียวมองรอบตัวและถามว่า “สัมภาษณ์เสร็จแล้วหรือคะ”

“ครับ” ทอดเสียงนุ่มตอบ

“แล้วนี่นักข่าวหายไปไหนกันหมดคะ”

เรนัลโดเหลียวมองตามสายตาของอีกฝ่าย เห็นนักข่าวปะปนไปกับชาวบ้าน เขาก็หันมาตอบว่า “ปะปนไปกับคนในพื้นที่ แทบจะแยกไม่ออกใช่ไหม”

ปลายรุ้งเบิกตาโต “ไม่ค่ะ…รุ้งแทบแยกไม่ออกว่าไหนนักข่าว ไหนนักท่องเที่ยว ถ้าไม่สะพายกล้องแบบมืออาชีพ”

ชายหนุ่มพยักหน้า “ถ้าไม่ใช่คนในวงการ ยากจะแยกออกจริงๆ ที่ผมรู้ก็เพราะคุ้นหน้าคุ้นตากัน”

“อืม…แล้วสื่อถามอะไรคุณบ้างคะ”

“ก็ถามว่าเราเป็นอะไรกัน รู้จักกันนานแค่ไหนแล้ว และรู้จักกันได้อย่างไร”

“แล้วคุณตอบไปว่าไงคะ?”

แววตาใสดุจลูกแก้วเงยหน้าจ้องเขาอย่างรอคอยคำตอบ และเรียวปากคลี่ยิ้มน้อยๆ ท่วงท่าไม่ต่างจากเด็กเล็กที่กำลังรอไอศกรีมถ้วยโปรด… ภาพนั้นทำให้เรนัลโดมองอย่างเอ็นดู อดไม่ได้จึงคว้าเอวบางมารัดแรงๆ อย่างมันเขี้ยว แล้วจึงตอบว่า “ผมบอกไปตรงๆ ว่า คุณเป็นแฟนผม เรากำลังคบหากันอยู่แต่เพิ่งคบได้ไม่นาน ส่วนคำถามว่าเรารู้จักกันได้อย่างไร ผมโกหกไปว่ารู้จักผ่านเพื่อนในก๊วนอีกที หวังว่าคุณคงไม่ว่าที่ผมโกหกไปอย่างนั้น” ประโยคท้ายออกตัวด้วยน้ำเสียงขอโทษอยู่ในที โดยตลอดเวลาที่พูด มือหนายังคงวางหมิ่นๆ อยู่ที่สะโพกกลมกลึง

“ไม่เลยค่ะ ดีใจเสียอีกที่คุณเลี่ยงไปอย่างนั้น เพราะถ้าบอกออกไปตรงๆ เห็นทีเรื่องคงยาวแน่”

เรนัลโดยิ้มอย่างเห็นด้วย

“แล้วสื่อถามอะไรอีกคะ” ปลายรุ้งยิงคำถามต่อ

“ที่เหลือก็เป็นเรื่องสัพเพเหระทั่วไป ส่วนใหญ่จะถามเรื่องงานและธุรกิจของผม”

“อ้อ…ค่ะ แล้วเรื่องที่รุ้งถามคุณก่อนหน้านี้ละคะ ไม่เห็นคุณตอบเลย”

“หือ? เรื่องไหน” เรนัลโด ลดสายตามอง พลางลากเสียงสูง เขาเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ

“ก็เรื่องที่รุ้งถามว่าอธิษฐานอะไรตอนที่ขึ้นไปสักการะคริสต์รีดีมเมอร์ที่เขาคอร์โควาโดไงคะ” ทวงคำตอบอย่างคนที่ยังติดใจ

เรนัลโดหัวเราะแผ่วเบา เขารวบมือนุ่มมาจดริมฝีปาก จูบแรงๆ ก่อนจะสารภาพออกไปตรงๆ ว่า “ผมอธิษฐานว่า ขอให้คุณใจอ่อนกับผมเร็วๆ”

“อะไรนะ?” ทวนถามเสียงสูง สีหน้าตกใจอย่างมาก

ดาราหนุ่มยังคงหัวเราะในลำคอ “ผมขอไปแบบงั้นจริงๆ อ้าว…ไม่เชื่ออีก”

ปลายรุ้งกลอกตาไปมา “เชื่อเขาเลย ต้องเป็นตลกฝืดของคุณแน่”

“เปล่าเลยเลียนดา(Linda)” คำท้ายของเขาแปลว่าคนน่ารักในภาษาโปรตุเกส “ผมหมายความตามนั้นทุกอย่าง คุณไม่รู้เหรอว่าการต้องหักห้ามใจเวลาที่อยู่กับแฟนสองต่อสองน่ะ มันลำบากลำบนและทรมานจิตใจแค่ไหน” หางเสียงโอดครวญ เรียกร้องความเห็นใจ

คนถูกตัดพ้อ ตวัดตาค้อน พวงแก้มสุกปลั่ง หากยังคงตีหน้าเรียบเฉยขณะตอบไปว่า “ลำบากลำบนและทรมานจิตใจอย่างไรก็ต้องทนค่ะ…คุณรับปากรุ้งแล้วว่าจะไม่เร่งรัด”

เรนัลโดทำหน้ามุ่ย “ตกลงๆ…ไม่เร่งรัดก็ได้ เล่นเอาคำผมมาย้อน ผมจะพูดอะไรได้อีก”

ปลายรุ้งหัวเราะ

คนเป็นแฟนหัวเราะตาม ก่อนถามกลับไปว่า “แล้วคุณล่ะปลายรุ้ง คุณอธิษฐานอะไรกับคริสต์รีดีมเมอร์” ถามเสียงอ่อนโยนขณะยกมือนุ่มจูบหลังมือแผ่วเบา

เธอหน้าแดงขณะมองตามท่วงท่านั้น ช้อนตาขึ้นสบตาเขาแล้วจึงตอบว่า “รุ้งขอให้เราได้รักกันทุกชาติไป”

เรนัลโดอึ้ง ด้วยสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงเศร้าสร้อยหากแฝงด้วยรอยจริงจังของหญิงสาว “คุณเชื่อในชาติหน้าเหรอ”

“เชื่อค่ะ…คนเรามีกรรมเป็นตัวกำหนดว่าจะไปเกิดใหม่หรือว่าต้องชดใช้กรรมอยู่ในนรก”

“คุณนับถือศาสนาอะไรปลายรุ้ง”

“พุทธค่ะ ส่วนคุณ…รุ้งเดาว่าคงเป็นคริสต์สินะ”

“ใช่ครับ…ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องชาติหน้า แต่ผมสัมผัสได้ถึงความรักของคุณที่มีต่อผม ขอบคุณนะปลายรุ้ง” พูดพลางคว้าร่างบางเข้ามาสวมกอดแนบแน่น ด้วยความรู้สึกขอบคุณ

ปลายรุ้งชะงักงันครู่หนึ่ง แล้วจึงโอบตอบเขา เธอกระซิบแผ่วเบาว่า “รุ้งรักคุณ ต่อให้คุณไม่รักรุ้ง…รุ้งก็จะรักคุณอย่างนี้ตลอดไป ไม่ว่าจะเป็นชาติไหน” น้ำเสียงราวกับให้คำมั่น แฝงด้วยรอยเศร้าหมองจนบาดลึกไปถึงใจคนฟัง

วงแขนหนาปานคีมเหล็กจึงรัดกายนุ่มแน่นขึ้นอีกเท่าตัว “ขอเวลาให้ผมอีกนิดปลายรุ้ง…ขอเวลาสำรวจความรู้สึกตัวเองที่เป็นอยู่ในขณะนี้ว่ามันคืออะไรกันแน่ ทุกอย่างมาเร็วเกินไปสำหรับผมจนตั้งรับไม่ทัน ผมไม่เคยต้องการใครมากขนาดนี้มาก่อน…มากขนาดที่ว่าลมหายใจเข้าออกเป็นอีกฝ่าย…แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วกับคุณ และหากต้องเกิดความรักชนิดที่เรียกว่าลึกซึ้งปานจะกลืนกิน เพิ่มมาอีกอย่างละก็ ขอให้ผมได้มีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับมันสักนิด”

ปลายรุ้งอึ้งกับคำสารภาพของเขา เธอพยักหน้ารับกับแผงอกกว้าง ลอบเช็ดน้ำตาที่ซึมขอบตากับเสื้อเขา แล้วจึงตอบว่า “ไม่เป็นไรค่ะ…รุ้งบอกแล้วว่าไม่เป็นไรเลย ถึงจะไม่ใช่ความรักรุ้งก็ไม่เสียใจ เท่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็มากเกินพอสำหรับผู้หญิงอย่างรุ้งแล้ว”

ผู้หญิงอย่างคุณเหมาะสมกับสิ่งที่คู่ควรมากกว่านี้…การแต่งงาน เรนัลโดนึกโต้ทันควัน หากกระนั้นปากเขากลับพูดออกไปไม่ออก

ปลายรุ้งรีบป้ายน้ำตา ก่อนจะดันตัวออกห่างและเงยหน้ายิ้มสดใสให้เขา “เปลี่ยนเรื่องเถอะค่ะ อย่าคุยเรื่องเครียดๆ อย่างนี้เลย วันนี้เรามาออกเดตกันนะ” พูดแล้วเอียงคอมองเขา ก่อนว่า “ถามหน่อยสิคะ คุณคิดยังไงถึงพารุ้งมาเที่ยวตลาดนัดนี่คะ?”

เปลี่ยนเรื่องเร็วจนเขาตามแทบไม่ทัน เรนัลโดยกมือกอดอก มาดกลับมาเป็นไกด์ผู้ทรงภูมิ “ผมอยากให้คุณสัมผัสประสบการณ์ชีวิตในบราซิลอีกแง่มุมหนึ่ง ถือเป็นโปรแกรมปิดท้าย ก่อนจะพาไปกินพิซซ่า”

ปลายรุ้งเบิกตาโตแล้วจึงพยักหน้า “ขอบคุณค่ะสำหรับความหวังดี”

“ไปกันเถอะ…ไปเดินดูสินค้ากันเผื่อคุณจะถูกใจอะไรบ้าง” พูดแล้วเอื้อมมือไปฉุดข้อมือเล็ก ทว่าอีกฝ่ายกลับขืนตัวเต็มที่

“เดี๋ยวค่ะ…รุ้งอยากเข้าไปดูซุ้มนี้ก่อน” พูดพลางผินหน้าไปทางซุ้มหมอดูทางด้านข้าง

เรนัลโดมองตามสายตาหญิงสาวแล้วชะงัก “คนพวกนี้เพี้ยนๆ นะปลายรุ้ง อย่าเข้าไปเลย”

“คุณไม่เชื่อเรื่องหมอดูหรือคะ?” หันหน้ากลับมาถามเขา

ดาราหนุ่มส่ายหน้า “ไม่เลยสักนิด”

“แต่รุ้งเชื่อ…น่านะเข้าไปดูด้วยกันหน่อยนะ” ออดอ้อนพลางออกแรงฉุด พาเดินตรงเข้าไปในซุ้ม

เรนัลโดกลอกตาไปมา พระเจ้าช่วย…หวังว่าความตั้งใจดีที่ต้องการจะเอาใจหญิงสาวครั้งนี้ จะไม่กลับมาหลอกหลอนหรือเล่นงานเขาเสียย่อยยับในภายหลังหรอกนะ นึกอย่างขยาดๆ แล้วจึงก้าวตามแรงฉุดของอีกฝ่ายอย่างทำอะไรไม่ได้



ในชีวิตเรนัลโดบอกกับตัวเองว่าไม่เคยดูหมอดูและไม่เคยคิดที่จะเชื่อด้วย หากทว่าทันทีที่ก้าวพ้นประตูที่ขึงไว้ด้วยผ้าม่านเข้าไป เกิดลมแปลกๆ ปะทะผิวกายวูบหนึ่ง จนขนลุกชันและเย็นวาบตลอดแนวสันหลัง ภายในซุ้มสลัวๆ แห่งนั้น เต็มไปด้วยแสงเทียนจากเทียนไขมากมาย ข้างฝาเหนือเชิงเทียน มีรูปบูชาสีดำประดับเอาไว้ ถัดลงมาก็เป็นของแปลกๆ ที่ชวนขนหัวลุกชนิดที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

เรนัลโดเกิดความรู้สึกแปลกๆ จนนึกอยากรั้งแขนแฟนสาวให้กลับออกไป หากทว่าไม่ทันได้ขยับตัว หญิงสูงวัยในชุดเสื้อผ้ารุ่มร่ามสีสันฉูดฉาดก็ปรากฏกายขึ้นเสียก่อน ชายหนุ่มไม่ทันสังเกตว่าอีกฝ่ายนั่งอยู่ตรงไหนก่อนหน้านี้ เพราะความรู้สึกเขาเหมือนว่าอยู่ดีๆ นางก็โผล่มาให้เห็นตรงหน้า

“ข้าได้รับเกียรติที่พวกเจ้ามาเยี่ยมเยียน” หญิงสูงวัยพูดขึ้นพลางผายมือเชิญคนทั้งคู่ให้นั่งบนเก้าอี้ตัวเก่าคร่ำคร่า ขณะที่ตัวเองก้าวไปนั่งด้านหลังโต๊ะที่ใช้ในการประกอบพิธีเข้าทรง

น้ำเสียงและถ้อยคำที่นางใช้ฟังดูแปลกหู หากน่าแปลกกลับทรงพลังและให้ความรู้สึกขลังระคนน่ายำเกรงราวกับอีกฝ่ายมีอำนาจลึกลับ เรนัลโดเกิดความรู้สึกขนลุกชันขึ้นมาอีกรอบอย่างหาคำอธิบายไม่ได้ เหลียวมองคนข้างกายพบว่าเธอจ้องอีกฝ่ายตาไม่กะพริบ สีหน้าบอกถึงความเชื่อมั่นศรัทธา ไม่นานต่อมาเขาได้ยินปลายรุ้งเอ่ยขึ้นว่า

“สวัสดีค่ะ รุ้งอยากดูดวงชะตาค่ะ”

“เจ้าอยากดูเรื่องอะไรล่ะ” น้ำเสียงก้องกังวาน หากแฝงอำนาจ

“รุ้ง เอ่อ…” เหลียวมามองทางเรนัลโด ก่อนจะละสายตากลับไปสบตาหมอดู และตอบว่า “รุ้งอยากรู้ว่ารุ้งเป็นเนื้อคู่ของผู้ชายคนนี้หรือเปล่าน่ะค่ะ”

“สิ่งที่เจ้าอยากรู้ ต้องใช้วิธีเข้าทรง ข้าจะเชิญดวงวิญญาณที่หยั่งรู้มาเข้าร่างข้า”

“คะ?” ตวัดเสียงสูงอย่างตกใจ ตาจ้องแม่หมอด้วยอาการตกตะลึง ด้วยไม่คิดว่าในบราซิลจะมีคนเข้าทรงด้วย หญิงสูงวัยตรงหน้ามีผมสีแดงเพลิงและสวมตุ้มหูสีทองวงใหญ่ที่บัดนี้แกว่งไปแกว่งมาตลอดเวลา

“ปลายรุ้งกลับเถอะ…” เรนัลโดเริ่มสะกิด เขามีความคิดว่าคนเข้าทรงภูติผีวิญญาณมีความเพี้ยนเสียยิ่งกว่าหมอดู

“เดี๋ยวสิคะ” เธอหันมาโต้เสียงนุ่ม ก่อนจะหันกลับไปคุยกับคนเข้าทรงต่อ “ได้ค่ะ…ว่าแต่รุ้งต้องทำยังไงบ้างคะ”

“ไปนั่งที่เสื่อนั่น…เจ้าทั้งคู่” หญิงร่างทรงย้ำในประโยคท้าย พลางผายมือไปทางเสื่อเก่าๆ เหนือเสื่อมีโต๊ะหมู่บูชาซึ่งมีแจกันดอกไม้และรูปปั้นแปลกๆ ประดับอยู่ด้านบน

“ผมมะ…” ทว่าเขาพูดไม่ทันจบ มือเรียวนุ่มของปลายรุ้งก็เอื้อมมาแตะแขนเขา สายตาฉายแวววิงวอนอยู่ในที ขณะเอ่ยเชิญชวน

“ไปนั่งด้วยกันเถอะนะคะ” กระซิบบอกเขาแล้ว ปลายรุ้งก็เดินไปทรุดนั่งบนเสื่อตามที่คนเข้าทรงบอกอย่างว่าง่าย ท่ามกลางสายตาของเรนัลโดที่มองตามอย่างห่วงใย แต่ทว่าก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากเดินตามไปทรุดนั่งข้างๆ หญิงสาว

เขาคงบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่นึกอยากเอาใจเธอกระทั่งเป็นผลให้ตามใจเลยเถิดมาไกลถึงขนาดนี้… เรนัลโดนึกอย่างปลงตก

พิธีกรรมเริ่มต้นจากการที่หญิงเข้าทรงบอกให้เธอกับเรนัลโดจับมือกันและหลับตาลง จากนั้นเจ้าตัวเริ่มร่ายมนตร์คาถา แล้วจึงเริ่มพิธีเข้าทรงเพื่อที่จะเรียกวิญญาณ ไม่นานต่อมาทั่วทั้งซุ้มเกิดอาการสั่นไหวราวกับแผ่วดินไหว เริ่มจากสั่นเบาๆ แล้วค่อยทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ข้าวของบนโต๊ะกระทบกันโครมคราม

เนื้อตัวแม่หมอสั่นเทาราวกับมีอะไรเข้าสิง นางยื่นมือออกไปจับมือของคนทั้งสอง ก่อนจะกดตรงใจกลางฝ่ามือด้วยปลายนิ้วหัวแม่มือ แล้วจึงกล่าวอะไรบางอย่างที่รัวเร็ว เธอฟังไม่ออก ปลายรุ้งค่อนข้างแน่ใจว่าไม่ใช่ภาษาโปรตุเกส สเปนหรืออังกฤษ แต่เป็นอีกภาษา ไม่นานนางก็กลับมาพูดาษาโปรตุเกสอีกครา หากคราวนี้ด้วยน้ำเสียงที่แหบห้าวราวกับเสียงผู้ชาย

“พวกเจ้าไม่ใช่เนื้อคู่กัน” คนเข้าทรงฟันธงขึ้น ก่อนจะพูดต่อโดยไม่สนใจปลายรุ้งที่หน้าเผือดสี ขณะที่เรนัลโด ขมวดคิ้วมุ่นด้วยท่าทีที่ไม่พอใจ เจ้าตัวหันไปทางปลายรุ้ง แล้วขยายความต่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “เนื้อคู่เขาไม่ใช่เจ้า…แต่จะเป็นสาวน้อยที่อายุอ่อนกว่าเขากว่าสองรอบ ส่วนเจ้า…ข้าคงบอกได้คำเดียวว่าเจ้าทำบุญมามากแล้วถึงได้เจอเขา”



เธอไม่น่าประหลาดใจกับคำตอบนั่น เพราะชัดเจนอยู่แล้วว่าจะต้องตายจากเขาในอีกยี่สิบห้าวันข้างหน้า…เพราะฉะนั้นเนื้อคู่ของเรนัลโด จะกลายเป็นเธอไปได้อย่างไร จะต้องเป็นใครอื่นที่ไม่ใช่เธอ แม้จะรู้คำตอบนั้นดีอยู่แล้ว หากเมื่อมาฟังจากปากหมอดูชัดๆ เธอกลับรู้สึกเจ็บปวดยอกแสยงราวกับมีใครเอากริชคมๆ มาแล่เนื้อเฉือนหัวใจออกเป็นชิ้นๆ เจ็บปวดสุดคณานับเมื่อคิดว่าเนื้อคู่เขาเป็นผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่เธอและยิ่งกว่านั้นมีอายุอ่อนกว่าเขากว่าสองรอบด้วย

คุณพระ…เขามีสาวน้อยคู่แท้รออยู่ ขณะที่เธอเป็นเพียงวิญญาณที่รอการตัดสินจากท่านพญามัจจุราช ช่างยุติธรรมดีแท้… ความเศร้าเสียใจกัดกร่อนจิตใจ ราวกับคลื่นทะเลลูกใหญ่ที่รวมตัวกันถาโถมสาดซัดเข้าใส่ปานประหนึ่งจะปลิดชีวิตก็ไม่ปาน

“ปลายรุ้งเป็นอะไร” เรนัลโดเรียกอย่างตกใจ พร้อมกับพุ่งตัวไปหาหญิงสาว เมื่ออีกฝ่ายทรุดฮวบลงกองกับพื้นในทันทีที่เปิดประตูรถก้าวขาออกไป

ปลายรุ้งสะอื้นฮักกับพื้นหินอ่อนหน้าประตูแมนชันอย่างไม่อายอีกต่อไป เธอฟุบหน้าร่ำไห้ปานคนที่หัวใจแหลกสลาย ภาพนั้นสร้างความอาดูรและบีบคั้นจิตใจเรนัลโดอย่างมาก เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดทุกหยาดหยดที่กำลังไหลวนอยู่ในกระแสเลือดเธอ ด้วยนับตั้งแต่ออกมาจากซุ้มหมอดู ปลายรุ้งก็ร้องไห้และมีอาการเศร้าโศกเสียใจอย่างนี้มาตลอดทาง แม้เขาจะปลุกปลอบอย่างไรว่าเป็นแค่การคาดเดา ไม่มีทางเป็นจริงตามนั้น ก็ไม่อาจหยุดยั้งความทุกข์ระทมของหญิงสาวได้ ความเจ็บปวดดูจะฝังรากหยั่งลึกถึงก้นบึ้งแห่งหัวใจ ชายหนุ่มนึกอย่างห่วงใยขณะคุกเข่ากับพื้นและโอบร่างบางเข้ามาชิดอก

“รุ้งไม่ใช่ …เนื้อคู่คุณ คุณจะแต่งงาน…กับเด็กผู้หญิงคนนั้น” อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น ส่งผลให้เสียงขาดเป็นห้วงๆ

“ไม่เอา…อย่าพูดอะไรอย่างนั้น มันเหมือนจับเอาเรื่องที่อยู่ในอากาศซึ่งไม่มีมูลความจริงเลย มาถือจริงจัง…หยุดร้องไห้เถอะนะคนดี ผมไม่ได้จะไปแต่งงานกับใครที่ไหน ทุกวันนี้เราสัญญากันแล้วไงว่าจะมีกันและกัน จะไม่ปันใจให้คนอื่น แล้วทำไมยังไม่เชื่อใจผมอีก” พูดด้วยเสียงอ่อนโยน พลางดันร่างบางผละห่าง เพื่อซับน้ำตาให้ด้วยหลังมืออย่างทะนุถนอม นึกเสียใจที่พาปลายรุ้งเข้าไปในซุ้มหมอดู ไม่อย่างนั้น เธอก็ไม่ต้องมานั่งเสียใจและที่สำคัญไม่ต้องกลายมาเป็นหัวข้อถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้

ปลายรุ้งยังคงพูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า “เราหนีโชคชะตาไม่พ้นหรอก เชื่อรุ้ง…ทุกอย่างถูกขีดเส้นมาแล้วและมันจะเป็นจริงตามคำหมอดูทุกประการ รุ้งไม่ใช่เนื้อคู่คุณ แต่เด็กคนนั้นคนที่อายุน้อยกว่าคุณมากคนนั้นต่างหาก จะเป็นเนื้อคู่คุณ พวกคุณจะแต่งงานกันและมีลูกมีหลานสืบทอดทายาทหลายชั่วอายุคน แล้วอย่างนี้จะไม่ให้รุ้งเสียใจได้ยังไง” หญิงสาวนำคำหมอดูมาย้อน ด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น กังวานเสียงแหบโหยราวกับคนที่เหนื่อยอ่อนจากการเดินทางรอมแรมมาไกล และไม่อาจทรงกายลุกยืนได้อีกต่อไปทั้งที่ยังไม่ถึงจุดหมายปลายทาง

“คุณคิดมากเกินไปแล้ว ผู้หญิงคนนั้นจะมีตัวตนอยู่หรือเปล่า ก็ยังไม่รู้เลย เชื่อผมนะ… อย่าตีตนไปก่อนไข้เลย จำเอาไว้ทุกวันนี้เรามีกันและกัน แค่นั้นเท่านั้นพอ…อย่างอื่นไม่สำคัญและไม่ต้องไปใส่ใจอีก ผมสัญญากับคุณแล้วไงว่าจะไม่ปันใจให้คนอื่น เพราะฉะนั้นจะไปแต่งงานกับคนอื่นได้ไง เป็นไปไม่ได้เลย” เรนัลโดปลอบโยนอย่างใจเย็น พลางลูบแผ่นหลังปลายรุ้งไปมาด้วยท่วงท่าอ่อนโยน

“แล้วถ้าเป็นจริงตามนั้นน่ะ…ถ้าคุณมีเด็กคนนั้นเป็นคู่ชีวิตจริงๆ คุณจะลืมรุ้งไหม” เจ้าตัวยังคงพร่ำรำพัน ราวกับคำปลอบโยนของแฟนหนุ่มไม่อาจซึมซับเข้าไปถึงจิตใจ

“มันจะเป็นจริงไปได้ยังไง ร่างทรงคนนั้นพูดไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีมูลความจริงสักนิด ดูจากการแต่งตัวก็รู้แล้วว่าหล่อนเพี้ยนแค่ไหน ไม่เอา…อย่าเก็บมาใส่ใจ นี่ถ้ารู้ว่าพาไปแล้วจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ผมไม่พาไปเด็ดขาด ฟังนะ…ปลายรุ้ง เรื่องทั้งหมดมันไร้สาระทั้งนั้น ไม่มีใครหยั่งรู้ดินฟ้าได้หรอก หมอดูก็คือหมอเดา มันไม่มีทางเป็นจริงไปได้เลย วันนี้คุณเหนื่อยมาพอแล้ว เข้าไปพักผ่อนในบ้านเถอะ”

“ไม่!” ปลายรุ้งกระชากเสียง สีหน้าเธอราวกับคนตกอยู่ในภวังค์ ขณะเลื่อนมือไปขยุ้มเสื้อเขา เธอกล่าวว่า “นอนกับรุ้งนะคะ…”

“อะไรนะ?” เรนัลโดตวัดเสียงสูงอย่างตกใจ จ้องหน้าแฟนสาวราวกับมีเขางอกออกมาจากศีรษะ “คุณว่าอะไรนะ อีกครั้งซิผมตามไม่ทัน” ทวนคำออกไปด้วยสีหน้าเหลอหลาอย่างมาก เขาตามปลายรุ้งไม่ทันจริงๆ เนื่องจากหญิงสาวเปลี่ยนหัวข้อปุบปับ แถมแฉลบไปยังเรื่องที่ชวนให้หวาดเสียวอีกด้วย

“นอนกับรุ้ง…” หญิงสาวย้ำ สีหน้าขาวซีดสลับแดงอย่างคนที่เลือดสูบฉีดผิดปกติ

เรนัลโดหรี่ตา มองอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง “คุณพูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า หรือว่าเพราะหมอดูคนนั้น ถึงทำให้คุณเพี้ยนไปแล้ว” ไม่พูดเปล่า แต่ยังเอื้อมมือไปอังหน้าผากแฟนสาวด้วย

ปลายรุ้งปัดมือเขาออกพร้อมกับตวัดตาค้อนที่โดนหาว่าบ้า…เธอจะบอกเขาได้อย่างไรว่าอยากผูกมัดเขาอย่างน้อยก็ในทางความรู้สึก เผื่อว่าวันหน้าที่เขาไม่มีเธอแล้ว ก็จะยังคงระลึกถึงเธอเสมอ ไม่ลืมเลือน

ใช่…ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะเข้ามามีอิทธิพลในบั้นปลายชีวิตของเรนัลโดอย่างไร เธอก็อยากจัดการให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ลืมเธอไปชั่วชีวิต เหมือนดั่งเธอ ก็จะไม่ลืมเขาตราบจนชั่วลมหายใจสุดท้ายที่ลาจากโลกนี้ไป









Create Date : 29 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 13 มีนาคม 2555 9:40:04 น.
Counter : 447 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คณิตยา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]









รู้จักคณิตยา/คีตฌาณ์

ก้าวสู่โลกแห่งการขีดเขียนในปี 2549 มีผลงานเป็นรูปเล่มกับสนพ.ในเครือสถาพรบุ๊คส์ทั้งหมด 11 เล่ม ไล่ตั้งแต่ รหัสทรชน ทางสายหมอก กุหลาบในเปลวไฟ ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ อริ...ที่รัก บอดี้การ์ด รักเพียงฝัน ตามรักข้ามเวลา ไฟรัก บันทึกแห่งรัก(the Book of Love) มิราเบลล์...ตราบคีตาบรรเลง เป็น 1 ในนิยายชุดแด่เธอที่รัก สาปรัก และใต้ปีกรัก

รหัสทรชน เป็นละครทางช่อง 3 เมื่อปี 2554 แสดงโดย เคน และชมพู่ สร้างโดยค่ายยูม่า และ ไฟรัก ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์ไปแปลเป็นภาษาเวียดนาม วางแผงเดือนสิงหาคม 2556



พูดคุย ทักทาย แลกเปลี่ยนความเห็น และติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง fb โดยกดไลค์เป็นแฟนเพจได้ทาง https://www.facebook.com/keetacha?ref=hl ขอบคุณค่ะ

---------------


ตอนนี้อุ๋ยทยอยนำนิยายที่หมดลิขสิทธิ์กับพิมพ์คำไปวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book บนเว็บ ebooks และเว็บ Mebmarket ค่ะ

ใต้ปีกรัก...ราคาอีบุ๊ก 179 บาท

บันทึกแห่งรัก...ราคาอีบุ๊ก 255 บาท จากราคาปก 310

ไฟรัก...ราคาอีบุ๊ก 279 บาท จากราคาปก 350 บาท

กุหลาบในเปลวไฟ...ราคาอีบุ๊ก 230 บาท



รหัสทรชน ราคาอีบุ๊ก 200 บาท จากราคา 300 บาท 673 หน้า





ทางสายหมอก ราคาอีบุ๊ก 265 บาท จากราคา 280 บาท 690 หน้า



ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ ราคาอีบุ๊ก 125 บาท จากราคา 180 บาท 360 หน้า



รวมเรื่องสั้น...ฉบับวัยหวาน ราคาอีบุ๊ก 45 บาท จากปก 55 บาท



อริ...ที่รัก ราคาอีุบุ๊ก 195 จากปก 240 บาท



หวานใจ...บอดีการ์ด...ราคาอีบุ๊ก 145 บาท จากปก 180 บาท



รักเพียงฝัน...ราคาอีบุ๊ก 225 จากปก 250 บาท



ตามรักข้ามเวลา...ราคาอีบุ๊ก 240 จากปก 270 บาท





















New Comments