Group Blog
All Blog
รักเพียงฝัน...(บท 6/1) อัปเดตชื่อ


ขออีกครั้งด้วยความคิดถึงพี่เรย์ค่ะ >_<



“คนบราซิลทานอะไรเป็นอาหารจานหลักในมื้อเที่ยงคะ” ถามกลับไปอีกทาง ขณะกวาดตามองภาพรายการอาหารตรงหน้าซึ่งมีสิบกว่ารายการ

“ข้าวกับถั่วต้มครับ เราเรียกว่าอาโฮซส์ เฟเจา (Arroz e Feijão)” เรนัลโด ตอบ

“รสชาติเป็นไงคะ” ถามด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ

“ต้องลองครับ” คนเป็นแฟนตอบยิ้มๆ

“อืม…ก็ได้ค่ะ งั้นรุ้งขออาโฮซส์ เฟเจาที่หนึ่ง” ตอบอย่างนึกสนุก

เรนัลโดยิ้มกับภาพนั้น เขาเอื้อมมือไปโคลงศีรษะแผ่วเบา ท่วงท่าเต็มไปด้วยความเอื้อเอ็นดู แล้วชี้ชวนให้ดูรายการอื่นต่อไป “ถัดมาคือบิฟ (Bife) เรานิยมกินอาโฮซส์ เฟเจากับบิฟ อาจจะเป็นเนื้ออบ เนื้อปิ้ง หรือเนื้อทอดก็ได้ แต่มื้อเที่ยงส่วนใหญ่ต้องเมนูเนื้อสักอย่าง ส่วนใหญ่ผมมักจะกินฟิเล่ มิยอง (Filé Mignon) เป็นสเต็กเนื้อที่ทำมาจากสันในน่ะครับ เอามาหมักกับเกลือ กระเทียม ทอดกับเนย น้ำส้มสายชู มะเขือเทศและพริกไทย ที่นี่ทำอร่อย รับรองไม่มีกลิ่นคาว ลองดูไหมครับ?”

“ไม่มีสเต็กหมูหรือคะ?”

เรนัลโดส่ายหน้า ทำหน้าเสียใจ “เสียใจครับ ที่ร้านนี้ไม่มี หมูไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่ากับเนื้อและไก่น่ะครับ เลยหากินยากสักหน่อย เมนูอาหารส่วนใหญ่ที่นี่จึงเน้นเนื้อ ไก่และปลา แต่หมูก็หาได้ในบางร้าน เพียงแต่จะมีอยู่น้อยร้านสักหน่อย”

ปลายรุ้งพยักหน้ารับรู้ “ก็ได้ค่ะ งั้นรุ้งขอสเต็กฟิเล่ มิยองด้วยค่ะ”

เรนัลโดยิ้มอย่างถูกใจ ก่อนจะชี้ชวนดูภาพต่อไป ซึ่งเป็นโถสตูถั่วดำ “ลองดูอีกอย่างนะครับ เฟยโจด้า(Feijoada) เป็นอาหารพื้นเมืองที่ขึ้นชื่ออีกอย่างของบ้านผม ถ้าไม่ได้ลอง ถือว่ามาไม่ถึงบราซิล” หลิ่วตาให้ในประโยคท้ายอย่างล้อเลียน

“ดูเหมือนบ้านคุณ จะมีถั่วเป็นอาหารหลักแทบทุกเมนูนะคะ”

“ประมาณนั้นครับ เดี๋ยวผมสั่งชูฮาสโค่(Churrasco) ให้คุณชิมอีกอย่าง เป็นบาร์บีคิวที่ขึ้นชื่อในบราซิลไม่แพ้เฟยโจด้า”

“ทำจากเนื้ออีกล่ะสิคะ?” ถามอย่างเดาได้

“ถูกต้องครับ เนื้อหมักกับเกลือ เสียบกับไม้แล้วนำไปย่างไฟ อร่อยครับ ลอง ฟา รอ ฝะ(Farofa) อีกอย่างนะครับ เป็นเมนูที่เรามักกินคู่กับข้าวและบาร์บีคิว”

“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

“ลองอะไรอื่นอีกไหมครับ” ถามพลางกวาดตามองรายการอาหารอื่นๆ

“พอแล้วค่ะเรย์ เยอะแล้ว กินแค่สองคน เดี๋ยวก็ไม่หมดหรอก”

“งั้นมาดูเครื่องดื่มกันครับ คุณอยากดื่มอะไร” ถามพลางเปิดหน้าเมนูเครื่องดื่มซึ่งมีอยู่หลายสิบภาพ

“ขอไคปิรินย่ามะนาวเหมือนเดิมค่ะ”

“ลองอย่างอื่นไหมมีไคปิรินย่ากีวี สตอร์เบอรี่ แตงโม หรือถ้าผสมกับว้อดก้า ก็จะเป็นไคปิร้อสก้า (Caipiroska)”

“ไคปิร้อสก้า?” ทวนคำด้วยสำเนียงไม่คุ้นหู

เรนัลโดพยักหน้า ก่อนตอบว่า “ผมเคยบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าไคปิรินย่า เป็นเครื่องดื่มค็อกเทลประจำชาติของบราซิล ทำจากคาชาซ่าที่กลั่นมาจากน้ำอ้อยหมัก ผสมกับผลไม้สดกับน้ำตาล แต่ถ้าค็อกเทลนั้น ใส่ว้อดก้าแทนที่จะเป็นเหล้าคาชาซ่า เครื่องดื่มนั้น ก็จะเรียกว่าไคปิร้อสก้าทันที”

“แปลว่าไคปิร้อสก้าทำมาจากว้อดก้าผสมผลไม้สดและน้ำตาล?”

“ถูกต้องครับ”

“งั้นรุ้งขอลองไคปิร้อสก้าที่หนึ่งค่ะ”

“อะไรดีครับ มะนาว กีวี สตอร์เบอรี่ หรือแตงโม มีแบบปั่นด้วยนะครับ”

“ขอเป็นกีวีแล้วกันค่ะ ไคปิร้อสก้ากีวีปั่น” เจ้าตัวย้ำในประโยคท้าย

“ได้ครับ”

“แล้วคุณละคะจะดื่มอะไร” ย้อนถามกลับบ้าง

“ผมว่าจะดื่มคาชาซ่าครับ”

“เหล้าตอนแดดเปรี้ยงๆ นี่นะคะเดี๋ยวก็เมากันพอดี”

“รับรองจะดื่มแต่พอดี” ประโยคท้ายมีแววล้อเลียนอยู่ในที

“คาชาซ่าเป็นเครื่องดื่มประจำชาติของบราซิลหรือเปล่าคะ”

“ใช่ครับ”

“เล่าความเป็นมาให้ฟังหน่อยสิคะ”

เรนัลโด ยิ้ม “จบรายการทัวร์ คุณจะตบรางวัลอะไรให้ไกด์เรย์คนนี้นี่ เพราะดูเหมือนจะใช้งานคุ้มมาก”

“แล้วไกด์กิตติมศักดิ์คนนี้อยากได้อะไรเป็นรางวัลละคะ”

“อย่าเปิดทางปลายรุ้ง ถ้าคุณยังไม่มั่นใจว่าจะยอมให้ทุกอย่างแก่ผมได้ อย่าเปิดช่องเด็ดขาด” ประโยคท้ายเย้ายิ้มๆ และหลิ่วตาให้อย่างล้อเลียน

ปลายรุ้งหน้าแดงก่ำโดยหาคำตอบไม่ได้ ได้แต่อุบอิบในลำคอว่า “ก็อย่าขออะไรที่รุ้งให้ไม่ได้สิคะ”

เรนัลโดจ้องหน้าหวานของอีกฝ่าย ก่อนตอบว่า “ก็ได้...ในเมื่อคุณไม่อยากให้ผมเร่งรัด ผมก็จะไม่เร่ง”

“ขอบคุณค่ะ...เรา เอ่อ...กลับมาหัวข้อเดิมกันดีมั้ย?”

ดาราหนุ่มหัวเราะเสียงดัง กับใบหน้าแดงก่ำแสดงความเคอะเขินของเจ้าตัว “ตกลง...ว่าแต่เมื่อกี้เราคุยค้างถึงไหนนะ”

“คาชาซ่าเป็นเครื่องดื่มประจำชาติของคุณ รุ้งก็เลยขอให้เล่าความเป็นมา”

เรนัลโดพยักหน้ารับรู้ เขาตอบเสียงนุ่มว่า “คาชาซ่า ผลิตในบราซิลมากว่าห้าร้อยปีแล้ว ปัจจุบันนี้มีกว่าสี่พันยี่ห้อทั่วประเทศ ไล่ตั้งแต่สีขาวไปจนถึงสีทอง เราส่งออกคาชาซ่าประมาณสิบห้าล้านลิตรต่อปี ขณะที่ผลิตเพื่อดื่มภายในประเทศหนี่งพันห้าร้อยลิตร เมื่อก่อนคาชาซ่ามักดื่มคู่กับอาหารเฟยโจด้า แต่ต่อมานิยมเสิร์ฟพร้อมกับค็อกเทล”

“ขอบคุณค่ะสำหรับความรู้”

“อย่าลืมตบรางวัลผมล่ะ” อดไม่ได้ที่จะเย้า ก่อนจะหันไปส่งสัญญาณมือให้กับบริกรเพื่อมารับรายการอาหาร ”ผมขออาโฮซส์เฟเจา ฟิเล่มิยอง เฟยโจด้า ชูฮาสโค่ ฟารอฝะ ทุกอย่างอย่างละสองที่ ส่วนเครื่องดื่มขอไคปิร้อสก้ากีวีปั่นหนึ่งที่ และคาชาซ่ายี่ห้อ...ขวดหนึ่ง แล้วก็น้ำเปล่าสองที่ครับ”

บริกรจดรายการอาหารและรับเมนูคืนไปแล้ว เธอจึงหันไปถามเรนัลโด “สั่งเยอะขนาดนั้นทานหมดหรือคะ ความจริงสั่งมาอย่างละที่ แล้วผลัดกันกินก็ได้ค่ะ”

“ผมทานจุ แย่งคุณทาน เดี๋ยวก็ไม่อิ่มหรอก”

ปลายรุ้งตวัดตาค้อนอย่างไม่จริงจังนัก ภายหลังยี่สิบนาทีต่อมา บริกรก็ทยอยนำอาหารมาเสิร์ฟ จานแรกเป็นอาโฮซส์เฟเจา กับฟารอฝะ อาโฮซส์เฟเจาคือข้าวราดด้วยถั่วต้ม เรนัลโดบอกวิธีทำว่าต้มถั่วให้เละไปพร้อมกับกระดูกวัวและไส้กรอก ส่วนข้าว...ตั้งกระทะให้ร้อนด้วยน้ำมันมะกอก ใส่หัวหอม และข้าวลงไปผัดให้เข้ากัน แล้วเติมน้ำ รอจนสุก เธอลองชิม ปรากฏว่าข้าวจะร่วนๆ และแข็งๆ ไม่ค่อยอร่อยนัก ส่วนถั่วก็เค็มมาก ทว่าคนที่นั่งตรงข้ามเธอ กลับทานได้ทานดี

เธอลองอาหารจานต่อไป ฟารอฝะ ซึ่งเป็นการนำส่วนผสมหลายๆ อย่างมาคลุกรวมกัน มีสีเหลืองอ่อนๆ ลักษณะคล้ายกับข้าวยำ แต่รสจืดอย่างมาก ถามส่วนผสมจากเรนัลโด เขาบอกว่าทำมาจากฟารินย่า (Farinha) เบคอนทอด ไข่สุก ผักชีฝรั่ง หัวหอม เนย โดยนำทุกอย่างไปผัดในกระทะที่ตั้งไฟ ชายหนุ่มให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ฟารินย่าทำมาจากมันสำปะหลังคั่ว

ส่วนเมนูถัดมาคือ ฟิเล่มิยอง เฟยโจด้า ชูฮาสโค่ สำหรับฟิเล่มิยอง สำหรับเธอไม่ค่อยแปลกนัก เพราะเหมือนกับสเต็กเนื้อทั่วไป ต่างกันเพียงว่าเนื้อสเต็กที่นี่หวานนุ่มและมีรสชาติเค็มนิดหน่อย ส่วนเฟยโจด้า คือสตูถั่วดำที่เคี่ยวกับเนื้อจนเปื่อย ใส่ไส้กรอก เบคอนและหมูรมควัน สำหรับชูฮาสโค่ คือ เนื้อหมักเกลือเสียบไม้ย่าง

“เป็นอย่างไรบ้าง” เรนัลโดถามขึ้นเป็นประโยคแรกหลังจากหญิงสาวทานเสร็จแล้ว

ปลายรุ้งวางแก้วไคปิร้อสก้า แล้วว่า “ก็โอเคค่ะ...รุ้งชอบชูฮาสโค่กับฟิเล่มิยองมากที่สุด”

“เพราะว่ารสชาติคุ้นปากคุณเหรอ?” ถามอย่างรู้ทัน

เธอหัวเราะเก้อๆ “แต่รุ้งชอบค็อกเทลบ้านคุณนะคะทั้งไคปิรันย่าและไคปิร้อสก้า รสชาติโอเคเลย”

เรนัลโดยิ้ม “ดีจัง อย่างน้อยก็มีบางอย่างที่ถูกปากคุณ จะรับอะไรเพิ่มเติมไหม ขนมหวานหรือไอศกรีม?”

ปลายรุ้งส่ายหน้า “ไม่ล่ะค่ะ อิ่มตื้อเลย”

ชายหนุ่มพยักหน้า เขาเช็กบิลแล้วพาหญิงสาวไปเที่ยวต่อยังยอดเขาคอร์โควาโด เพื่อสักการะรูปปั้นคริสต์ รีดีมเมอร์ ความสูงจากระดับน้ำทะเลเจ็ดร้อยเมตร ซึ่งต้องนั่งรถรางขึ้นไป เมื่อไปถึงมีลิฟต์ขึ้นไปยังด้านบนสุดซึ่งเป็นฐานที่ตั้งของรูปปั้น ใต้ฐานรูปปั้น มีลักษณะคล้ายกับโบสถ์เล็กๆ เธอเข้าไปอธิษฐานขอให้สมหวังในรักกับเรนัลโดทุกชาติไป

ตลอดการเดินทาง เรนัลโด ได้รับการทักทายจากบรรดาแฟนคลับ แม้เขาจะสวมแว่นตาดำ แต่ดูจะไม่ลอดจากสายตาช่างสังเกตของพวกสาวๆ ไปได้ อาจด้วยรูปร่างสูงใหญ่และใบหน้าหล่อเหลาอย่างหาตัวจับยากของเขา กลายมาเป็นความโดดเด่น และเรียกร้องความสนใจจากพวกผู้หญิงได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าเขาจะเดินไปมุมไหนหรือทำอะไร เป็นต้องถูกถ่ายภาพจากบรรดาแฟนคลับเสมอ

เรนัลโดพาเธอไปดูวิวของเมือง มองจากด้านบน แลเห็นทะเลสาบกว้างใหญ่ของบราซิล ตรงกลางมีภูเขาชูการ์ โลฟโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำ และเห็นชายหาดของเมืองทอดยาวหลายกิโลเมตร ดูเป็นภาพที่สวยงามยากจะพรรณนา

กลับลงมาจากภูเขาคอร์โควาโด เรนัลโดพาไปเดินเที่ยวตลาดนัดซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเขาคอร์โดวาโดนัก ชายหนุ่มจูงมือเธอเข้าไปในงาน ขณะที่เจ้าตัวพึมพำถามว่า “ถามหน่อยสิคะ ตอนสักการะคริสต์รีดีมเมอร์ คุณอธิษฐานอะไรคะ”

เรนัลโดหันมาเลิกคิ้ว ไม่ตอบในทันทีแต่ขยับโอบร่างบางมาแนบชิดในจังหวะที่ก้าวเดินไปด้วยกัน มือหนึ่งกุมมือเล็ก หากอีกมือ วาดวงแขนไปรอบแผ่นหลังในลักษณะโอบลำตัว แต่เนื่องจากรูปร่างเธอเล็กและบอบบางกว่าเขามาก ส่งผลให้โอบเลยแผ่นหลัง มือไปตกอยู่ในระดับเกาะกุมทรวงอกอูมข้างหนึ่งพอดี แค่เกือบจะ…หากฝ่ายนั้นจะไม่รีบกระตุกมือเขาลงไปเกาะกุมไว้ข้างลำตัวเสียก่อน ร้ายยิ่งกว่านั้นเจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมายิ้มสดใสปานประหนึ่งผู้บริสุทธิ์ให้กับเขา ทำเหมือนว่าไม่รู้อีโหน่อีเหน่กับการที่กันมือเขาออก เรนัลโดมันเขี้ยวกับแววตาไร้เดียงสาคู่นั้น จึงแสร้งรั้งร่างบางมารัดแรงๆ ก่อนจะก้มจูบนิ่งนาน

ปลายรุ้งชะงักงันกับจูบที่เร่าร้อนไม่ปล่อยให้เธอได้ตั้งเนื้อตั้งตัวนั้น เจ้าตัวเกิดอาการก้าวขาไม่ออกและพลอยหยุดเดินไปโดยปริยาย เสี้ยววินาทีต่อมารู้สึกได้ถึงฝ่ามือหนาที่เลื่อนขึ้นมาประคองสองข้างแก้มเพื่อให้แหงนหน้ารับจูบอย่างถนัดถนี่ เรียวฟันที่เคยชื่นชมในความเป็นระเบียบสวยงาม ขบเม้มลงมาบนกลีบปากล่างแบบเน้นๆ จนเธอเผลอร้องอุทาน เป็นผลให้ปลายลิ้นร้อนๆ ราวผ้าซาตินสอดเข้ามาในโพรงปากอย่างว่องไว

คนถูกขโมยจูบ หลับตาพริ้มอย่างไร้แรงต้านทาน ชั่วขณะนั้นรู้สึกเพียงปลายลิ้นร้อนๆ ที่กำลังหยอกล้อกับแนวไรฟัน ก่อนจะเลื่อนมาดูดกลืนปลายลิ้น ร่างสูงใหญ่ขยับมาเบียดชิดกับร่างเธอจนแทบประสานเป็นเนื้อเดียวกัน ปลายรุ้งใจสั่นรัว ลมหายใจหอบกระชั้นและเข่าอ่อนปานไร้กระดูก จนต้องเอื้อมมือไปเกาะบ่ากว้างเพื่อช่วยพยุงตัว เล็บยาวมนจิกกดลงไปบนผิวเขาอย่างต้องการคลายความตื่นกลัวระคนหวามไหว พร้อมกับที่กายนุ่มค่อยๆ เอนหาเขาโดยไม่รู้ตัว

แรกเริ่มต้องการเพียงแค่จะหยอกเย้าด้วยการจูบดูดดื่มเพราะความมันเขี้ยว หากเมื่อเริ่มต้นแล้ว เรนัลโดพบว่าไม่ง่ายเลยที่จะหยุดยั้งอยู่แค่จูบเดียวนั้น ร่างกายเขาเหมือนจะต้องการเธอ ปลายรุ้งมีอิทธิพลต่อกายเขาไม่ว่าเขาจะต้องการหรือไม่ก็ตาม แต่มันก็ได้เกิดขึ้นแล้ว เธอเป็นเหมือนยาเสพติดที่เมื่อได้ลิ้มลองรสชาติแล้ว ไม่อาจหยุดเสพได้ หากมีแต่จะเพิ่มพูนความต้องการสูงขึ้นทุกขณะ ผิวกายเธอนุ่ม อบอุ่นและหอมกรุ่นกลิ่นราวกับดอกไม้แรกแย้มยามต้องแสงแดดยามเช้า ในขณะที่เขาเร่าร้อนอย่างพร้อมที่จะแผดเผาอีกฝ่ายตลอดเวลา

คุณพระ…ร่างกายเขาครัดเคร่งไปด้วยความต้องการเธอ ปวดร้าวจนแทบจะฉีกทึ้งออกมาเป็นชิ้นๆ จากความปรารถนา แต่ไม่อาจปลดปล่อยได้ดั่งใจนั้น

นานเท่าไรไม่รู้ที่เขาคว้าเธอไปจูบ ปลายรุ้งไม่ได้นับเวลา ด้วยแต่ละวินาทีที่ผันผ่าน เจ้าตัวรับรู้เพียงแค่ริมฝีปากเร่าร้อนที่บดเบียดอยู่กับเรียวปากเธอ และกายหนาเต็มไปด้วยมัดกล้ามที่กำลังเบียดชิดอยู่กับตัวเธอ… รางเลือนราวกับห่างไกล หากกลับเด่นชัดในความคิดคำนึง เป็นความรู้สึกขัดแย้งที่ผสมผสานระหว่างความอบอุ่นวาบหวาม หากก็หวาดหวั่นอย่างยากจะบรรยาย

เวลาผ่านไป…จวบจนกระทั่งได้ยินเสียงรัวกดชัตเตอร์อยู่รอบตัว ปลายรุ้งจึงชะงักและรู้สึกตัว เธอเหลียวไปมองทางต้นเสียงหากพลันต้องหวีดร้องเบาๆ ก่อนจะรีบซุกหน้าหนีกับแผงอกกว้างตามสัญชาตญาณ ในขณะที่เรนัลโดจ้องมองกองทัพนักข่าวและบรรดาแฟนคลับที่กำลังถือกล้องอยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้มกว้างขวาง เจ้าตัวทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นขณะยิ้มทักทายทุกคน

นักข่าวคนหนึ่งยิงคำถามขึ้นว่า “มีข่าวลือว่าคุณไปเที่ยวกับสาวเอเชียคนหนึ่งบ่อยครั้ง ไม่ทราบว่าคือคนนี้หรือเปล่าครับ”

เรนัลโดยังคงกอดแฟนสาวอย่างปกป้องขณะที่ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรว่า “ผมจะให้สัมภาษณ์ แต่หลังจากที่ผมขอคุยอะไรกับแฟนก่อนได้ไหม?”

“แฟน?” อีกฝ่ายส่งคำถามเชิงฉงนกลับมา

“ผมบอกแล้วจะยังไม่ตอบ จนกว่าพวกคุณจะขยับถอยไป ผมขอเวลาส่วนตัวกับแฟนครู่หนึ่ง แล้วจะตอบคำถามทุกข้อของพวกคุณ”

นักข่าวและแฟนคลับต่างมองหน้ากันราวกับจะหารือ จากนั้นพร้อมใจกันขยับถอยหลังคนละก้าวสองก้าว ทว่าก็ไม่ห่างออกไปนัก ยังคงได้ยินบทสนทนาของคนทั้งคู่ เรนัลโดปรายตามองภาพนั้นเงียบๆ แล้วจึงลดสายตามามองสาวในอ้อมแขน ใบหน้าที่เคยขาวอมชมพูบัดนี้แดงก่ำราวกับผลเชอร์รี่สุก และริมฝีปากบวมเจ่อเพราะโดนเขาตะโบมจูบอย่างหนัก แลดูเซ็กซี่

นักแสดงหนุ่มมองภาพนั้นด้วยสายตาอ่อนโยน พร้อมกับเลื่อนมือมาเขี่ยกลีบปากนุ่มด้วยปลายนิ้วอย่างหักห้ามใจไม่อยู่ มืออีกข้างจับปลายคางแผ่วเบาในท่วงท่าทะนุถนอม ขณะกล่าวว่า “ผมขอโทษปลายรุ้ง ดูเหมือนผมจะก่อปัญหาให้คุณแล้ว พรุ่งนี้คงเป็นภาพข่าวโชว์หราทางหน้าหนังสือพิมพ์และหลังจากนั้นก็คงตามมาด้วยภาพขึ้นปกบนแม็กกาซีน ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมจะพาไปรอที่รถในระหว่างที่ผมให้สัมภาษณ์สื่อ ผมคงห้ามพวกนักข่าวเก็บภาพคุณไม่ได้ แต่อย่างน้อยพอจะเจรจาให้พวกเขาปล่อยคุณเป็นอิสระ ไม่ไปยุ่มย่ามวุ่นวายในระหว่างที่ผมเดินไปส่งคุณ”

“ถ้าอย่างนั้น แปลว่าเราต้องงดโปรแกรมเดินเที่ยวตลาดนัดหรือเปล่าคะ?”

“ผมเกรงว่าคงต้องเป็นแบบนั้นปลายรุ้ง เพราะถ้าเรายังอยู่ในงาน สื่อคงล่าไม่ถอยแน่”

“ทั้งที่ได้สัมภาษณ์คุณแล้วอย่างนั้นหรือคะ?”

“แน่นอน…เพราะนั่นแค่บทสัมภาษณ์ แต่การเดินเที่ยวของพวกเรา จะเป็นภาพข่าวอันโอชะของพวกเขา”

“งั้นก็อย่าเลยดีกว่า ไหนๆ ก็ตั้งใจที่จะเที่ยวตลาดนัดแล้ว อย่าเสียความตั้งใจเลยค่ะ”

เรนัลโดเบิกตาโต “แปลว่าคุณพร้อมที่จะเป็นข่าวกับผมแล้วเหรอ?” ถามอย่างไม่แน่ใจ

ปลายรุ้งยิ้มเอียงอายให้กับเขา พลางว่า “คงสายไปแล้วที่จะมาตอบคำถามนี้ เพราะคุณบอกเองว่าภาพข่าวของพวกเราจะขึ้นโชว์หราทางหน้าหนังสือพิมพ์และนิตยสารในเร็วๆ นี้ เพราะฉะนั้นปล่อยเลยตามเลยเถอะค่ะ”

ดาราหนุ่มทำเสียงรับรู้ในลำคอ ก่อนตอบว่า “คุณจะให้สัมภาษณ์เปิดตัวคู่กับผมเลยไหมล่ะ” เอ่ยชวนด้วยเสียงอ่อนโยน

คนถูกชวน ส่ายหน้าทันควัน “อย่าเลยค่ะ การถูกเก็บภาพ…แปลว่าเรายังสามารถเป็นตัวของตัวเองได้ แต่การถูกสัมภาษณ์นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง รุ้งกลัวว่าจะตามไม่ทันคำถามของพวกพี่ๆ นักข่าว คุณเป็นคนให้สัมภาษณ์เถอะนะคะ”

เรนัลโดพยักหน้ารับรู้ “เอางั้นก็ได้ครับ แล้วคุณจะไปรอที่ไหนดีระหว่างที่ผมให้สัมภาษณ์”

“รุ้งเดินดูอะไรแถวนี้ได้ไหมคะ”

“อย่าเลย…แถวนี้มีมิจฉาชีพมากมาย อันตราย”

“รุ้งจะเดินไม่ไกลแถวนี้ และจะพยายามทำตัวกลมกลืนกับคนในพื้นที่ ที่สำคัญถ้าคุณตามหารุ้งไม่เจอ ก็โทรเข้ามือถือ โอเค้?” ประโยคท้ายพูดพลางหลิ่วตาให้อย่างคนขี้เล่น และชูนิ้วไปตรงหน้าเขาในลักษณะปลายหัวแม่มือจดกับปลายนิ้วชี้เป็นรูปตัวโอ

เรนัลโดมองอากัปกิริยานั้น แล้วอดไม่ได้ เขาคว้าปลายนิ้วโอเคทั้งสองนิ้วนั่นมากัดเบาๆ อย่างมันเขี้ยว ก่อนจะจดกับริมฝีปากนิ่งนาน แล้วว่า “ตกลง…แต่สัญญากับผมนะว่าจะเดินไม่ไกลแถวนี้”

“สัญญาค่ะ” ตอบรับด้วยพวงแก้มที่สุกปลั่ง

ภาพเขินอายของหญิงสาว ทำให้เขาอดไม่ได้อีกครา เรนัลโดเอื้อมมือไปโคลงศีรษะแฟนสาวเบาๆ ก่อนจะรวบร่างบางมารัดแรงๆ ทีหนึ่ง เขากระซิบข้างหูว่าดูแลตัวเองด้วย แล้วจึงปล่อยเป็นอิสระ

ภาษาทางกายของเขาบอกชัดเจนว่าห่วงใยเธอแค่ไหน ฉะนั้นปลายรุ้งจึงเกิดความอุ่นวาบในใจอย่างห้ามความรู้สึกไม่ได้ แม้ยังไม่ได้ยินคำว่ารักจากปากแฟนหนุ่ม หากนาทีนี้จะสำคัญอะไร ในเมื่อท่วงท่าและการแสดงออกของเขาชัดเจนว่าแคร์เธอมากมาย










Create Date : 28 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 13 มีนาคม 2555 9:38:54 น.
Counter : 575 Pageviews.

9 comments
  
ตอบเมนท์ของตอนที่แล้วในตอนที่แล้วนะคะ ติดตามอ่านกันได้ค่ะ ในตอนนี้ขอสรุปรายชื่อคนร่วมเล่นเกมเพื่อชิงหนังสืออริที่รักนะคะ จำนวน 2 เล่มค่ะ

นักอ่านเก่า

1.คุณหนูเก๋
2.คุณเอ๋
3.คุณ susi
4.น้อง kin
5.คุณ wayvy
6.น้อง laddaler

นักอ่านใหม่
1.คุณสายน้ำ
2.น้องเนส
3.คุณต้นหอมไข่เจียว
4.คุณ belindaz
5.คุณตุ๊ก twansongfa
6.พี่ jee
7.คุณนายหญิง
8.น้องมังกรเขียวหัวยุ่ง

ผู้สนใจร่วมสนุกกับการเล่นเกมได้อีกค่ะ จนกว่านิยายเรื่องอริที่รักจะวางแผงในปลายเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเก็บสะสมรายชื่อผู้ร่วมเล่นเกมไปเรื่อยค่ะ กติกาและของรางวัล คลิกย้อนเข้าไปอ่านในบทนำได้ค่ะ

ป.ล. รายชื่อไหนตกหล่น รบกวนแจ้งได้ค่ะ
โดย: คณิตยา วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:2:47:02 น.
  
สงสารพี่เรย์ถ้าหนูรุ้งทิ้งไป ตามมาอ่านต่อจ้าเจ้าอุ๋ย แล้วก็ราตรีสวัสดิ์ด้วย ฝันดีจ้า ไม่ไหวละ ง่วงมาก ๆ
โดย: ต้นข้าว IP: 117.47.158.172 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:2:48:27 น.
  
ก็นะพี่เรย์เล่นจูบกลางตลาดอย่างนั้นไม่ถูกถ่ายรูปก็ผิดปกติสำหรับดาราดัง

-เรนัลโดส่ายหน้า ทำหน้าเสียใจ "เสียใจครับ ที่ร้านนี้ไม่มี หมู(ไม่ค่อยเป็น)นิยมเท่ากับเนื้อ....===>ไม่ค่อยเป็นที่
โดย: mimny วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:10:03 น.
  
พี่เรย์อยากเปิดตัวแฟนซะแล้ว หุๆ
โดย: kin IP: 58.9.96.225 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:41:35 น.
  
เห็นใจชีวิตคนดังเลยค่ะ กำลังอยู่ในโหมด love อยู่ดีๆ ก็มีมารมาขัดจังหวะซะงั้นเลย แต่หนูรุ้งกำลังจะดังใหญ่แล้วนะในฐานะแฟนของพี่เรย์ จะมีงานเข้าตามมารึเปล่าคะ
โดย: pantan IP: 58.9.21.160 วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:47:58 น.
  
กรี๊ดดดดด เขินแทนหนูรุ้งจัง

พี่เรย์นี่เปิดเผยดีนะคะ นักข่าวถามก็ตอบจริง

หวานมากไปแล้ววววว
โดย: Hero's girl วันที่: 28 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:42:02 น.
  
สวัสดีค่ะ คุณอุ๋ย ไม่ได้เข้ามาคุยสักพักแล้ว แต่ก็ยังเปิดเข้ามาดูที่เวปเรื่อยๆ บอกแล้วว่าชอบเป็นนักอ่านเงา ที่ผ่านมาค่อนข้างยุ่ง เรื่องเจ้าตัวเล็กเพราะทั้งรายงาน ประดิษฐ์ของ(ฝีมือแม่ทั้งน้าน) แล้วยังงานโรงเรียนอีก พอดีโดนดีดเข้ามาเป็นกรรมการผู้ปกครองเครือข่ายน่ะค่ะ เลยวุ่นดี อ้อ..แต่เจ้าตัวเล็กยังคิดถึงพี่อุ๋ยนะคะ เพราะพอกลับมาจากโรงเรียน ก็จะขอเข้ามาคุยกับพี่อุ๋ย แต่แม่ขัดขวาง เพราะต้องให้ทำการบ้านให้เสร็จก่อน คุณเธอเลยลืมๆไป..นั่งนึกอยู่นานว่าคลับคล้ายคลับคลาจะรู้จักคุณอุ๋ยในเวปคุณณารา อ่านตอนนั้นที่โพสแค่ผ่านๆยังไม่สะดุดอะไร จนมามีเพื่อนแนะนำให้อ่านฝากรัก..ก็ยังไม่อ่าน เพราะส่วนตัว เน้นว่าส่วนตัวนะคะค่อนข้างไม่ชอบภาษาไทยรุ่นใหม่(ขอเรียกแบบนี้นะคะ) ประเภท หัวเราะอุอุ..อิอิ หรือเครื่องหมายแปลกๆที่ดูแล้วก็ไม่รู้ว่าคืออะไร(แก่แล้วเข้าใจหน่อย) แต่เพื่อนบอกว่าถ้าอ่านแล้วไม่สนุกเค้าจะเลี้ยงข้าว
โห..เข้าทางมาก อยากได้ของฟรีเลยลองอ่านที่เพื่อนให้มา แล้วก็เสร็จกัน นอกจากไม่ได้กินฟรี ต้องเลี้ยงเพื่อนแล้วยังต้องรีบไปหาซื้อมาเก็บเป็นสมบัติอีกต่างหาก แถมไม่พอ งกอีก ขอเก็บแบบไม่ให้มีร่องรอยช้ำต่างหากอีกเล่ม อย่างที่เคยเล่าให้ฟังนั่นแหละค่ะ หลังจากนั้น..ก็เป็นอย่างทุกวันนี้ คือตามและเก็บ แต่ส่วนใหญ่ถ้าหนังสือออกไม่ตรงช่วงงานหนังสือ ก็จะรอไปเก็บตกช่วงนั้น เพราะจะเมามันส์กันทั้งแม่ทั้งลูก อยู่ศูนย์ประชุมได้ทั้งวันเลย..คุยยาวเลย..ถ้าหายไปอีกก็ให้รู้ว่าเป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ เพียงแต่ไม่ได้เข้ามาโพสเท่านั้นเอง..
โดย: แม่น้องพราว IP: 124.121.248.126 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:14:00 น.
  
ไม่ได้เข้ามานานเพราะมัวแต่เร่งปั่น กลัวคนแถวนี้แซงค่ะ อิอิ
โดย: adel_ew วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:29:00 น.
  
ต้นข้าว : ขอบคุณมากจ้าสำหรับกำลังใจจุ๊บๆ

น้องมิ้ว : ขอบคุณสำหรับบรูฟจ้าน้องมิ้ว จุ๊บๆ

น้องเมษ์ : 55+ พี่เรย์น่ารักใช่ม๊า >_<

คุณเอ๋ : จ๊าก..คุณเอ๋ใช้คำว่ามารขัดจังหวะเลยหรือคะ 55 + บรรดานักข่าวมาได้ยินสะดุ้งแน่ ที่แน่ๆ ..แถวนี้สะดุ้งไปคน 55+

น้องเนส : 55+ ดีใจที่ได้ยินว่าหวานค่ะ นานๆ ครั้งน้องเนส จะหลุดมานะเนี่ย >_< แซวเล่นค่ะ

คุณแม่น้องพราว : ขอบคุณมากๆ ค่ะคุณแม่แพร์(หวังว่าอุ๋ยคงจำชื่อมาจากน้องพราวไม่ผิดนะคะ เธอเคยบอกว่าแม่ชื่อแพร์ ถ้าผิดก็ขอโทษด้วยค่ะ)ที่ร่วมพูดคุยและให้กำลังใจกันในบล็อกนี้ >_< เสียงเมนท์จากคนอ่านคือกำลังใจนี่แหละค่ะ แหะๆ…ขอบคุณมากๆค่ะ อุ๋ยใส่ชื่อคุณแพร์ในผู้ร่วมเล่นเกมนะคะ ^^ ฝากความระลึกถึงน้องพราวด้วยค่ะ ลูกสาวคุณแพร์น่ารักมากค่ะ และชื่อก็น่ารักทั้งคุณแม่และคุณลูกค่ะ..คุณแม่แพร์และคุณลูกพราว น่ารักๆๆ >_< แล้วคุณพ่อชื่ออะไรเอ่ย // ขอบคุณที่ยังคงเข้ามาเยี่ยมเยียมบล็อกอุ๋ยค่ะ แม้จะเป็นนักอ่านเงาก็ไม่ว่ากันค่ะ ขอแค่เข้ามาเนอะ // อยากกระโดดจุ๊บแก้มเพื่อนคุณแพร์จังค่ะเพื่อขอบคุณ ที่แนะนำนิยายฝากรักฯให้อ่าน จนเราได้มารู้จักกัน ฝากขอบคุณเธออีกครังค่ะ และยังไงก็ชวนเธอเข้ามาวิ่งเล่นบล็อกอุ๋ยและร่วมเล่นเกมก็จะยินดีมากๆ เลยค่ะ ^^ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับกำลังใจค่ะคุณแพร์ ขอบคุณสำหรับการติดตามงานอุ๋ย..ขอบคุณมากค่ะ

น้องเดล : อ่า น้องเดลก็เพลาๆ มือบ้างน้า เห็นใจคนแถวนี้เร่งสปีดจนตาเป็นหมีแพนด้าแย้ว ก็ยังตามไม่ทัน กระซิกๆ
โดย: คณิตยา วันที่: 29 พฤศจิกายน 2552 เวลา:1:10:06 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คณิตยา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]









รู้จักคณิตยา/คีตฌาณ์

ก้าวสู่โลกแห่งการขีดเขียนในปี 2549 มีผลงานเป็นรูปเล่มกับสนพ.ในเครือสถาพรบุ๊คส์ทั้งหมด 11 เล่ม ไล่ตั้งแต่ รหัสทรชน ทางสายหมอก กุหลาบในเปลวไฟ ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ อริ...ที่รัก บอดี้การ์ด รักเพียงฝัน ตามรักข้ามเวลา ไฟรัก บันทึกแห่งรัก(the Book of Love) มิราเบลล์...ตราบคีตาบรรเลง เป็น 1 ในนิยายชุดแด่เธอที่รัก สาปรัก และใต้ปีกรัก

รหัสทรชน เป็นละครทางช่อง 3 เมื่อปี 2554 แสดงโดย เคน และชมพู่ สร้างโดยค่ายยูม่า และ ไฟรัก ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์ไปแปลเป็นภาษาเวียดนาม วางแผงเดือนสิงหาคม 2556



พูดคุย ทักทาย แลกเปลี่ยนความเห็น และติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง fb โดยกดไลค์เป็นแฟนเพจได้ทาง https://www.facebook.com/keetacha?ref=hl ขอบคุณค่ะ

---------------


ตอนนี้อุ๋ยทยอยนำนิยายที่หมดลิขสิทธิ์กับพิมพ์คำไปวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book บนเว็บ ebooks และเว็บ Mebmarket ค่ะ

ใต้ปีกรัก...ราคาอีบุ๊ก 179 บาท

บันทึกแห่งรัก...ราคาอีบุ๊ก 255 บาท จากราคาปก 310

ไฟรัก...ราคาอีบุ๊ก 279 บาท จากราคาปก 350 บาท

กุหลาบในเปลวไฟ...ราคาอีบุ๊ก 230 บาท



รหัสทรชน ราคาอีบุ๊ก 200 บาท จากราคา 300 บาท 673 หน้า





ทางสายหมอก ราคาอีบุ๊ก 265 บาท จากราคา 280 บาท 690 หน้า



ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ ราคาอีบุ๊ก 125 บาท จากราคา 180 บาท 360 หน้า



รวมเรื่องสั้น...ฉบับวัยหวาน ราคาอีบุ๊ก 45 บาท จากปก 55 บาท



อริ...ที่รัก ราคาอีุบุ๊ก 195 จากปก 240 บาท



หวานใจ...บอดีการ์ด...ราคาอีบุ๊ก 145 บาท จากปก 180 บาท



รักเพียงฝัน...ราคาอีบุ๊ก 225 จากปก 250 บาท



ตามรักข้ามเวลา...ราคาอีบุ๊ก 240 จากปก 270 บาท





















New Comments