Group Blog
All Blog
ตามรักข้ามเวลา...บท 3/2




“เอาล่ะฉันพร้อมที่จะรับมือกับระเบิดหรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะหล่นใส่หัวแล้ว เพราะฉะนั้นเรามาคุยกันให้เป็นกิจจะลักษณะกันเถอะ” อัตราพูดขึ้นอย่างเป็นงานเป็นการ แสดงความพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ภายหลังเสร็จสิ้นการกินอาหารมื้อนั้น พวกเขาก็ย้ายมานั่งที่ห้องรับแขก เขาจ้องหน้าเด็กสาวซึ่งกำลังนั่งเท้าคางกับหมอนอิงบนตักมองตรงมาที่เขาอย่างไม่ว่อกแว่ก แววตาเธอสะท้อนความไว้เนื้อเชื่อใจ

น่าตลก...ที่เด็กสาวคนนี้ไว้ใจเขา ทั้งที่เขาไม่ได้ไว้ใจตัวเองสักนิด ก็ผู้ชายเต็มร้อยที่ไหนจะไว้ใจได้เมื่ออยู่ใกล้ผู้หญิงที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาเหมือนเธอคนนี้...

มินตรายิ้มแล้วว่า “สัญญากับมิ้นก่อน ถ้ามิ้นเล่าทุกอย่างให้พี่ฟังแล้ว พี่ต้องช่วยมิ้นอย่างหนึ่ง”

“ช่วยอะไร” อัตราถามกลับทันควัน แววตาบอกถึงความระแวง

“อะไรก็แล้วแต่ที่มิ้นอยากให้ช่วย”

“นั่นไม่ฉลาดเลยนะ การรับปากก่อนที่จะรู้ความต้องการของคุณน่ะ คุณคิดว่าผมเป็นคนฉลาดน้อยขนาดนั้นเลยเหรอ”

“เปล่า...เปล่า...เปล่า คิดมากเกินไปแล้ว มิ้นเห็นว่าพี่เป็นคนที่น่ารักและจิตใจดีมากที่สุดต่างหากล่ะ” แก้ความเข้าใจของเขา แล้วส่งยิ้มประจบให้

อัตราแยกเขี้ยว เจอไม้นี้ใครจะปฏิเสธลง? เขานึกในใจ แต่ปากตอบว่า “รับปากก็ได้ เอาล่ะ...เริ่มต้นเล่าได้หรือยังว่าเป็นใคร มาจากไหน เล่าใหม่ตั้งแต่ต้นเลยนะ แล้วก็ขอแบบเนื้อๆ น้ำไม่ต้อง”

มินตราตวัดตาค้อน “มิ้นเคยพูดน้ำท่วมทุ่งเหรอ”

“เปล่า แต่เห็นแววอยู่” อัตราโต้กลับหน้าตาเฉย

“พี่อัตน่ะ” เธอตวัดตาค้อนอีกคำรบ

“นี่แม่คู้น ขืนค้อนอีกขวับเดียว สัญญาเลยว่าผมจะจับจูบตรงนี้แน่”

มินตราชะงักหน้าร้อนซู่ เธอตบแขนเขาไปป้าบหนึ่งก่อนว่า “พี่อัตนี่เซี๊ยวจริง มิ้นรู้แล้วว่าพี่ธันว์ได้ความหื่นมาจากใคร ที่แท้ก็พี่อัตนี่เอง...ขนาดน้องนุ่งยังไม่เว้น”

“น้อยๆ หน่อยแม่คุณ” อัตราพูดแล้วทำท่าแจกมะเหงก “เจ้าธันว์น่ะ เจ้าชู้ในแบบฉบับมาสเตอร์ของมันเอง ไม่ต้องลอกเลียนแบบใครเขาหรอก”

มินตราหัวเราะ พลอยทำให้อัตราหัวเราะตาม เขารู้สึกอารมณ์ดีเมื่ออยู่ใกล้เด็กสาวและนึกชอบความตรงไปตรงมาของเธอ โดยเฉพาะการยิ้มง่ายและหัวเราะอย่างเปิดเผยของเธอ

“เริ่มต้นเล่าได้แล้วแม่หนูน้อย”

มินตราฉีกยิ้ม ก่อนบอกว่า “ที่จริงมิ้นบอกพี่ไปหมดแล้ว แต่จะให้สาธยายอีกรอบก็ได้ มิ้น...มีชื่อจริงว่ามินตรา ชื่อเล่นว่ามิ้น เป็นน้องสาวของพี่อัตที่อายุห่างกันมากถึง 16 ปี พ่อกับแม่อยากได้ลูกสาวมาก ลองหลายวิธีรวมถึงการทำกิฟท์แต่ก็ไม่ได้ผล สุดท้ายมาสำเร็จด้วยวิธีธรรมชาติในอีกสิบกว่าปีต่อมา ปู่ของเรามีชื่อว่าเอ็ดเวิร์ด เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งที่สุดในโลก เขาคิดค้นสิ่งประดิษฐ์มากมายจนได้รับการจดสิทธิบัตร...”

“เดี๋ยว...เดี๋ยว” อัตรายกมือห้าม ก่อนที่เธอจะพูดอะไรต่อ “เรื่องพวกนี้...รู้กันทั้งนั้นในสังคมทั่วไป ไม่เห็นแปลกตรงไหน ประวัติครอบครัวของผมเป็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ออกบ่อย เผลอๆ เสิร์ชทางกูเกิล...ก็ขึ้นมาพึ่บพั่บ”

“แปลว่าพี่อัตไม่เชื่อคำพูดของมิ้นเหรอ” มินตราร้องอย่างผิดหวัง

“ผมก็อยากจะเชื่อหรอกนะ แต่มันเชื่อยากจริงๆ ถ้าคุณเป็นน้องสาวของผมจริง ก็ต้องหาหลักฐานที่มีน้ำหนักมาพิสูจน์มากกว่านี้สิ ไม่ใช่อ้างคำพูดลอยๆ อย่างนั้นใครก็ทำได้ ความจริงผมชอบคุณมากนะมินตรา ถ้าพลาดจากตำแหน่งน้องสาวผม สนใจจะมาเป็นแฟนผมไหมล่ะ ตำแหน่งนี้ยังว่างอยู่” อัตราพูดแล้วหลิ่วตาใส่เด็กสาวอย่างล้อเลียนแกมเจ้าชู้

เธอตบบ่าเขาไปอีกป้าบหนึ่ง “หยุดพูดเล่นได้แล้วพี่อัต ถนัดจริงนะพูดจาประเภทหมาหยอกไก่เนี่ย มิ้นละไม่อยากเชื่อเลยพี่ชายมิ้นจะเป็นไปได้ถึงเพียงนี้”

อัตราหัวเราะ เขาวกกลับมาสู่หัวข้อสนทนาเดิม “ก็ได้...ว่าเรื่องของคุณต่อไปซิ”

เด็กสาวทำหน้าเซ็ง “ที่มิ้นพูดทั้งหมดพี่ไม่เชื่อเหรอ”

“ไม่เชื่อ”

“งั้นพี่คิดว่ามิ้นโกหกอย่างนั้นสิ”

อัตราพยักหน้า

มินตราส่งเสียงครางทันที “เหลือเชื่อ... ถามหน่อยเถอะ ถ้าเรื่องทั้งหมดโกหก แล้วมิ้นจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร มิ้นมีเหตุผลอะไรถึงต้องหลอกพี่”

“นั่นสิ...ผมกำลังรอฟังอยู่”

เด็กสาวสูดหายใจเข้าปอดอย่างพยายามเรียกสติ เธอตั้งสติอีกครั้งก่อนว่า “เอาใหม่นะ ถ้าพี่ไม่เชื่อว่าที่มิ้นพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง มิ้นจะขึ้นไปเอาหลักฐานมาพิสูจน์เดี๋ยวนี้”

“ขอพาสปอร์ตด้วยนะ” อัตราตะโกนสำทับ

มินตราแทบค้อน เธอวิ่งขึ้นไปเอาเอกสารจากห้องนอนของเขามาส่งให้พี่ชาย ซึ่งมีทั้งบัตรประชาชนและรูปถ่ายของครอบครัวที่ถ่ายกันที่สตูดิโอ

อัตรารับรูปถ่ายไปดูเป็นอันดับแรก เป็นรูปถ่ายที่เขามีติดกระเป๋าด้วยใบหนึ่ง แต่มีสภาพใหม่กว่าของเด็กสาวมาก เขาเงยหน้าจ้องเธอ “คุณเอารูปนี้มาจากไหน”

“ของมิ้นเองสิ ไม่ได้ไปปล้นจี้ใครเขามาหรอกน่า”

“เห็นอยู่ว่าไม่ใช่ มันเป็นรูปของครอบครัวผม”

“ก็นั่นล่ะมิ้นตอนเด็กๆ”

อัตราลดสายตาจ้องรูปถ่าย สลับกับมองใบหน้าของเด็กสาวอีกครา แววตาฉายรอยไม่เชื่อถือ

มินตราสำทับว่า “เสียดายมิ้นไม่ได้เอารูปถ่ายตอนปัจจุบันมาด้วย ไม่อย่างนั้นพี่อัตคงได้เห็นหน้าตัวเองตอนอายุ 35 ปี”

“ผมทำอะไรอยู่ตอนนั้น”

“ช่วยคุณพ่อคุมกิจการของครอบครัว”

“มีเมียหรือยัง”

“ยัง...พี่อัตยังโสดทั้งแท่ง มัวแต่ลอยไปลอยมาเป็นพ่อพวงมาลัย ไม่ยอมตกล่องปล่องชิ้นกับใครสักที”

“โห...ผมนี่ช่างเลือกจริง”

มินตรานิ่วหน้าเพราะเพิ่งจับน้ำเสียงของเขาได้เดี๋ยวนี้เองว่าเขาต้องการประชดมากกว่าจะอยากรู้เรื่องราวจริงจัง หรือคิดจะเชื่อถือคำพูดของเธอ เด็กสาวถอนใจ ไม่พูดอะไรอีก เลือกที่จะเฝ้ามองปฏิกิริยาของเขาที่มีต่อบัตรประชาชนของเธอเงียบๆ

ใบหน้าของอัตราฉายความรู้สึกหลากหลาย เริ่มต้นจากการขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจ ก่อนจะตามมาด้วยการเลิกคิ้วสูง แสดงความเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง อัตราเงยหน้ามองเด็กสาวสลับกับมองบัตรอีกครั้ง พลางตั้งข้อสังเกตขึ้นว่า “บัตรประชาชนของคุณหน้าตาแปลกนะ เหมือนบัตรเครดิต แต่สีและข้อมูลในบัตรไม่เหมือนนัก”

“ใช่...ในโลกอนาคตที่มิ้นจากมา บัตรประชาชน...เขาเปลี่ยนไปใช้บัตรสมาร์ทไอดีการ์ดกันแล้ว”

“คุณมาจากปีอะไร”

“ค.ศ.2008”

“งั้นก็เกือบ 10 ปีจากนี้”

“ใช่ค่ะ พี่คิดยังไงกับบัตรนั่น เชื่อมิ้นแล้วใช่ไหมว่ามิ้นเดินทางข้ามเวลามาจริงๆ”

“ยัง...อาจมีการทำปลอมขึ้นมาก็ได้”

“ทำปลอม? อย่างมิ้นนี่นะจะมีปัญญาไปทำปลอม” พูดพลางหันนิ้วแม่โป้งเข้าหาตัวเอง “พี่พูดตลกไปแล้ว มิ้นจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร พี่จะอธิบายข้อมูลที่อยู่บนบัตรนั่นได้ยังไง ไหนจะรูปถ่าย ชื่อและนามสกุลที่อยู่บนบัตร ซึ่งตรงกับน้องสาวของพี่ ข้อมูลวันเดือนปีที่ทำบัตรและบัตรหมดอายุพวกนั้น ก็ล้วนบอกว่าเป็นเวลาในอนาคตที่มิ้นจากมา”

“ผมบอกแล้วไงว่าอาจทำปลอมขึ้นก็ได้ สมัยนี้วิวัฒนาการของพวกมิจฉาชีพก้าวหน้าจะตายไป แต่ผมไม่ได้ว่าคุณเป็นโจรหรอกนะ แค่พูดให้ฟัง” ประโยคท้ายรีบออกตัว

มินตราหน้าซีด “มิ้นขอบอกอีกครั้งว่ามิ้นไม่โง่พอจะทำอะไรบ้าๆ อย่างการปลอมบัตรประชาชนซึ่งเป็นเอกสารของทางราชการ นั่นน่ะ ‘ซังเต’ ชัดๆ บัตรประชาชนสมาร์ทไอดีการ์ดทำขึ้นใหม่แทนบัตรแบบเดิม เพราะรัฐบาลต้องการให้มีการเชื่อมข้อมูลระหว่างหน่วยงานราชการด้วยกัน เพื่อสะดวกต่อการเช็กประวัติอาชญากรรมรวมถึงเรื่องอื่นๆ”

อัตราไหวไหล่ “จะพูดอะไรก็พูดได้ เพราะเป็นเรื่องในอนาคตซึ่งตอนนี้ยังไม่เกิด”

“แสดงว่า พี่เชื่อแล้วว่ามิ้นมาจากโลกในอนาคตจริงๆ”

“ผิดแล้ว ผมยังไม่ได้เชื่อ แค่บอกว่าสิ่งที่คุณพูด ยากที่จะพิสูจน์ได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องที่คุณแต่งขึ้น ถ้าอยากจะให้ผมเชื่อ คุณต้องหาข้อมูลที่มีน้ำหนักและน่าเชื่อถือมากกว่านี้”

“สวรรค์ช่วย...ขนาดเอกสารของทางราชการที่จับต้องได้ขนาดนี้ ยังไม่น่าเชื่ออีก” มินตรากลอกตาไปมาอย่างอ่อนใจ

อัตรามองท่วงท่านั้น แล้วตอบว่า “ผมก็เห็นใจอยู่หรอกนะ แต่ทำไงได้ในเมื่อยากเกินกว่าจะเชื่อได้จริงๆ”

มินตรายื่นพาสปอร์ตที่ถืออยู่ในมือให้เขาแทน อธิบายต่อว่า “สมัยที่มิ้นจากมา พาสปอร์ตเปลี่ยนโฉมหน้าไปแล้ว มันแข็งขึ้นเรียกว่า e-Passport“<1>

“อะไรคืออี-พาสปอร์ต” อัตราถามพลางรับมาเปิดดู

“คือหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ มีคุณสมบัติเฉพาะทางเทคนิค ตามข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ”

“แล้วต่างจากของเดิมยังไง” เขาเงยหน้าถาม

“พี่ดูหน้าตามันสิคะ มันต่างจากของเดิมแน่นอน เพราะของใหม่มีการบันทึกข้อมูลชีวภาพ มิ้นหมายถึงข้อมูลจำพวกลายนิ้วมือ รูปใบหน้า ทั้งหมดฝังอยู่ในเล่มหนังสือ และสามารถอ่านได้ด้วยเครื่องออโตเมติกเกต ซึ่งอยู่ที่บริเวณจุดผ่านแดนระหว่างประเทศ พี่อยากรู้อะไรอีก?”

“อยากรู้ว่าคุณปั้นเรื่องทั้งหมดมาเพื่ออะไร”

มินตราชะงัก เธออุทานอย่างหนักใจ “ถึงขนาดนี้แล้วพี่ยังไม่เชื่อมิ้นอีกเหรอ มิ้นรู้ข้อมูลของครอบครัวเราทุกอย่าง ถามมาสิ พี่ชื่ออัตรา ชอบการบันทึกไดอารี่เป็นชีวิตจิตใจ”

อัตรานิ่งไปชั่วครู่อย่างใช้ความคิด และอย่างช้าๆ ที่เขาพูดขึ้นว่า “ผมจะยอมเชื่อ ถ้าคุณบอกข้อมูลอะไรบางอย่างให้กับผมได้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผมกับน้องสาวเท่านั้นที่รู้”

“ข้อมูลอะไร?”

“ตอน 5 ขวบ น้องผมเคยประสบอุบัติเหตุอะไร”

“5 ขวบ?” เธอทวนคำ “ตอน 5 ขวบมิ้นสร้างวีรกรรมตั้งมากมาย พี่จะเอาเหตุการณ์ไหนล่ะคะ ครั้งที่มิ้นขี่หลังพี่แล้วตกบันไดต้องเข้าเฝือกที่ขา หรือครั้งที่พี่เลี้ยงสอนมิ้นว่ายน้ำเป็นครั้งแรกแล้วเกิดจมน้ำ มิ้นมีอาการโฟเบียน้ำเป็นครั้งแรกนับแต่นั้น หรือครั้งที่…”

อัตราจ้องหน้าอีกฝ่ายราวกับช็อก ขณะที่เธอยังคงสาธยายวีรกรรมของเธออย่างน้ำไหลไฟดับต่อไป เขาหลุดเสียงครางออกมา อา...ทำไมก่อนหน้านี้เขาถึงไม่เห็นความคล้ายคลึงระหว่างเด็กสาวคนนี้กับน้องสาววัย 11 ของเขานะ... บางทีอาจเป็นเพราะอีกฝ่ายเติบโตขึ้นมาเป็นสาวน้อยที่สวยคมเฉี่ยวเกินกว่าที่เขาจะคาดคิดกระมัง เด็กสาวตรงหน้าไม่เหลือเค้าเดิมที่เคยสูงโย่งเก้งก้าง ใส่เหล็กดัดฟันและตัดผมทรงนักเรียนหน้าตาเด๋อด๋า หากในตอนนี้ เธอสูงโปร่ง รูปร่างอรชรได้สัดส่วน ผมเหยียดตรงสลวยและฟันเรียงเป็นระเบียบสวยงาม อย่างไรก็ตามเขาต้องยอมรับว่าหากพินิจอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็ยังคงมีเค้าเดิมของน้องสาวเขาอยู่บ้าง นั่นคือ ดวงตาคมโตสีน้ำตาลเข้มและเรียวหน้ารูปไข่

ช่วงที่อัตราเงียบขรึม มินตรายังคงทวนความจำต่อไปถึงวีรกรรมสมัยเด็กที่ตัวเองก่อขึ้น ไม่ทันสังเกตสีหน้าของผู้เป็นพี่ชายที่ช็อกตั้งแต่ได้ยินประโยคแรกแล้ว เพราะวีรกรรมเหล่านั้น มีเพียงคนในครอบครัวของพวกเขาเท่านั้นที่รู้ อัตรารู้แล้วว่าเด็กสาวรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับครอบครัวเขาจริงๆ เพียงแต่ที่เขาสงสัยคือ เธอรู้ได้อย่างไร ข้อมูลลึกซึ้งพวกนั้น ถ้าไม่ใช่คนที่มีญาณวิเศษ ก็ต้องเป็นหนูมิ้นน้องสาวของเขาที่ย้อนเวลากลับมาในอดีตอย่างที่เจ้าตัวว่าจริงๆ ซึ่งหากเป็นอย่างหลัง ใจเขาก็นึกเสียดายอยู่ครามครัน

อัตรายังคงพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ฟังเด็กสาวพูดเจื้อยแจ้ว โดยที่ไม่เอ่ยปากค้านอะไร ชะรอยอีกฝ่ายคงเห็นว่าเขาเงียบนานเกินไป จึงทักว่า “พี่อัตเงียบไป มิ้นพูดอะไรผิดเหรอคะ”

เขาได้สติกลับคืน “เปล่าหรอก ไม่มีอะไรผิด ไม่ต้องเล่าแล้ว”

“พี่อัตเชื่อมิ้นแล้วเหรอ พี่เชื่อมิ้นแล้วใช่ไหมว่ามิ้นเป็นน้องสาวของพี่ที่มาจากโลกอนาคตจริงๆ”

อัตราเมินจากใบหน้าของเด็กสาว “ผมขอถามอีกข้อเดียว วันเกิดของผมกับของน้องสาวของผม คือวันอะไร”

มินตราตอบทันควัน

คนเป็นพี่ชายหลับตาอย่างแสนเสียดาย พยายามทำใจให้ยอมรับกับความจริงตรงหน้า ชัดเจนเสียยิ่งกว่าอะไร เธอเป็นน้องสาวของเขาที่มาจากโลกในอนาคตจริงๆ

คุณพระ...แม้จะรู้ความจริงอย่างนั้น แต่ทำไมใจเขาถึงสลดหดหู่และห่อเหี่ยวเหลือเกิน?


*************

<1>e-Passport : กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้นำระบบหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Passport) มาใช้ครั้งแรกในปีพ.ศ. 2548







Create Date : 20 เมษายน 2553
Last Update : 20 เมษายน 2553 18:00:28 น.
Counter : 564 Pageviews.

4 comments
  
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:4:55:53 น.
  
มาตามอ่าน 3 ตอนรวดเลยค่ะ สนุกเหมือนเดิมพี่อัตก็ยังเจ้าชู้เหมือนเดิมด้วย อิอิ
แต่ถึงหนุ่มๆเรื่องนี้จะเจ้าชู้ แต่ก็น่ารักมากๆค่ะ
โดย: pantan IP: 58.9.15.58 วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:13:22:11 น.
  
พี่ธันว์ยังไม่โผล่ซักที ไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ฮ่าๆ

เรื่องนี้หนูมิ้นอ่อนกว่าพี่ธันว์เยอะเลย สงสัยวัวแก่กินหญ้าอ่อนอีกละ
โดย: Hero's girl วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:21:11:23 น.
  
-ว่อกแว่ก===>วอกแวก

-ทำกิฟท์===>ทำกิฟต์
โดย: mimny วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:17:01:09 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คณิตยา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]









รู้จักคณิตยา/คีตฌาณ์

ก้าวสู่โลกแห่งการขีดเขียนในปี 2549 มีผลงานเป็นรูปเล่มกับสนพ.ในเครือสถาพรบุ๊คส์ทั้งหมด 11 เล่ม ไล่ตั้งแต่ รหัสทรชน ทางสายหมอก กุหลาบในเปลวไฟ ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ อริ...ที่รัก บอดี้การ์ด รักเพียงฝัน ตามรักข้ามเวลา ไฟรัก บันทึกแห่งรัก(the Book of Love) มิราเบลล์...ตราบคีตาบรรเลง เป็น 1 ในนิยายชุดแด่เธอที่รัก สาปรัก และใต้ปีกรัก

รหัสทรชน เป็นละครทางช่อง 3 เมื่อปี 2554 แสดงโดย เคน และชมพู่ สร้างโดยค่ายยูม่า และ ไฟรัก ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์ไปแปลเป็นภาษาเวียดนาม วางแผงเดือนสิงหาคม 2556



พูดคุย ทักทาย แลกเปลี่ยนความเห็น และติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง fb โดยกดไลค์เป็นแฟนเพจได้ทาง https://www.facebook.com/keetacha?ref=hl ขอบคุณค่ะ

---------------


ตอนนี้อุ๋ยทยอยนำนิยายที่หมดลิขสิทธิ์กับพิมพ์คำไปวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book บนเว็บ ebooks และเว็บ Mebmarket ค่ะ

ใต้ปีกรัก...ราคาอีบุ๊ก 179 บาท

บันทึกแห่งรัก...ราคาอีบุ๊ก 255 บาท จากราคาปก 310

ไฟรัก...ราคาอีบุ๊ก 279 บาท จากราคาปก 350 บาท

กุหลาบในเปลวไฟ...ราคาอีบุ๊ก 230 บาท



รหัสทรชน ราคาอีบุ๊ก 200 บาท จากราคา 300 บาท 673 หน้า





ทางสายหมอก ราคาอีบุ๊ก 265 บาท จากราคา 280 บาท 690 หน้า



ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ ราคาอีบุ๊ก 125 บาท จากราคา 180 บาท 360 หน้า



รวมเรื่องสั้น...ฉบับวัยหวาน ราคาอีบุ๊ก 45 บาท จากปก 55 บาท



อริ...ที่รัก ราคาอีุบุ๊ก 195 จากปก 240 บาท



หวานใจ...บอดีการ์ด...ราคาอีบุ๊ก 145 บาท จากปก 180 บาท



รักเพียงฝัน...ราคาอีบุ๊ก 225 จากปก 250 บาท



ตามรักข้ามเวลา...ราคาอีบุ๊ก 240 จากปก 270 บาท





















New Comments