Group Blog
All Blog
รักเพียงฝัน...(บท 10/1)บีจีronalda


สิบเจ็ดปีต่อมา ณ เพนต์เฮาส์ ชั้นสูงสุดของห้างสรรพสินค้าแบบครบวงจร ‘จิออร์ดาโน เซ็นเตอร์’

“ปลายรุ้ง…ไม่!”

เรนัลโดตะโกนก้องสุดเสียงก่อนจะผุดลุกนั่ง เหงื่อกาฬเม็ดเป้งๆ ผุดขึ้นทั่วกายจากฝันร้ายที่ตามมาหลอกหลอนอีกครา นับแต่ปลายรุ้งจากไป…เป็นเวลาสิบเจ็ดปีมาแล้วที่เขาเฝ้าฝันถึงคืนสุดท้ายที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน ก่อนที่ร่างกายของอีกฝ่ายจะสูญสลาย…

ปลายรุ้งพูดความจริง…เธอพูดจริงทุกอย่าง พอครบสามสิบวัน ร่างกายที่เขาเคยตระกองกอดตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็หายวับไปกับตาในทันทีที่เข็มสั้นและเข็มยาวของนาฬิกาเดินมาบรรจบกันที่เลขสิบสอง

หญิงสาวมลายหายไปต่อหน้าต่อตาราวกับที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่ความฝันและเธอไม่เคยมีอยู่จริง… ด้วยทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่าในอ้อมแขนไว้ให้เขาถวิลหา อย่างเดียวที่มั่นใจว่าเธอเคยมีเลือดเนื้อ…ไม่ใช่เขาหลงละเมอไปฝ่ายเดียว ก็คือกลิ่นหอมของนวลเนื้อที่ยังคงทิ้งกลิ่นซาบซ่านให้เขาโหยหาไม่รู้ลืม กระทั่งสุดท้ายต้องหลุดเสียงสะอื้นร่ำไห้ออกมาอย่างสกัดกลั้นไม่อยู่ เรนัลโดจำได้ว่าคืนนั้นเขาร้องไห้คร่ำครวญอย่างหนักราวกับคนที่หัวใจกำลังแหลกสลาย…ร้องราวกับโลกกำลังจะถล่มทลายลงมาตรงหน้า

ปลายรุ้งไม่ได้ไปแต่ตัว แต่เธอยังเอาหัวใจ จิตวิญญาณและทุกสิ่งทุกอย่างของเขาติดไปด้วย ทุกอย่างในชีวิตดูจะดับสูญไปพร้อมๆ กับเธอ…ความรัก ความหวังและความฝัน แทบไม่เหลืออยู่อีกแล้ว

นับจากวันนั้นเขาก็ใช้ชีวิตอยู่อย่างคนที่ไม่รับรู้ความเป็นไปของโลกภายนอก คนรอบข้างเริ่มตัดพ้อหนาหูว่าเขาตัดขาดจากเพื่อนฝูง ไม่ไปสุงสิงกับใครหากแต่เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ทำงานอย่างซังกะตาย วันว่างก็ไปเดินเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ที่เคยไปกับหญิงสาว ด้วยความหวังแบบลมๆ แล้งๆ ว่าอาจจะเจอเธอเข้าสักวัน

ความมีชีวิตชีวาและความสดใส…หายไปพร้อมกับเธอ กลายเป็นคนอมทุกข์ ไม่ต่างจากต้นไม้ที่ขาดน้ำเลี้ยง นับวันมีแต่จะเหี่ยวเฉาและเฝ้ารอวันที่จะโรยราไปในที่สุด

เรนัลโดฟุบหน้าสะอื้นไห้กับหมอนอย่างหมดความอดกลั้นอีกต่อไป เมื่อภาพในอดีตหวนกลับมาสู่ความทรงจำ…ทุกบททุกตอนชัดเจนราวกับเพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘คุณรู้หรือเปล่าว่าตัวเองจะสลายไปในรูปแบบไหน’ จำได้ว่าคืนนั้นเขาถามประโยคนั้นออกไป หลังจากที่พวกเขาเข้านอนแต่หัวค่ำ ร่วมรักกันอย่างเร่าร้อนหลายชั่วโมงติดต่อกัน ก่อนจะนอนซุกวงแขนของกันและกันเพื่อหาไออุ่น โดยไม่มีใครพูดอะไรไปพักใหญ่ๆ

ปลายรุ้งเงยหน้ามองเขา เธออยู่ใกล้เสียจนได้กลิ่นหอมสะอาดของลมหายใจของเขา หากชะโงกหน้าขึ้นไปอีกนิด ริมฝีปากก็จะแตะเข้ากับปลายคางเขา

‘ไม่ค่ะ…รุ้งไม่ทราบ ท่านพญายมบอกแค่ว่าร่างนี้จะดับสูญไปเมื่อถึงกำหนดสามสิบวัน’ ปลายรุ้งตอบเขา น้ำเสียงแผ่วต่ำ

เรนัลโดขยับวงแขนสวมกอดแน่นเข้า ลดริมฝีปากจูบหน้าผากกลมมนขณะพูดว่า ‘ผมไม่อยากให้ถึงวินาทีนั้นเลย อยากจะหยุดเวลาไว้แค่นี้’

ปลายรุ้งยิ้มอย่างเศร้าสร้อย ซุกใบหน้ากับซอกคอเขา ก่อนว่า ‘รุ้งก็อยากจะหยุดเวลาไว้แค่นี้ ถ้าเป็นไปได้รุ้งอยากจะเกิดมาเป็นคนบราซิลและสามารถใช้ชีวิตคู่กับคุณตราบจนแก่เฒ่าไปด้วยกัน’

‘ไม่ต้องเกิดเป็นคนบราซิล เกิดมาเป็นคุณอย่างที่เป็นอยู่อย่างนี้ก็พอแล้ว’ ทอดเสียงนุ่มตอบหญิงสาว พลางลดศีรษะจูบปลายจมูกโด่งแผ่วเบา กิริยาบอกถึงความรักใคร่ทะนุถนอม

‘ทำไมไม่อยากให้รุ้งเกิดมาเป็นคนบราซิลล่ะคะ’

‘ก็แล้วทำไมไม่อยากเกิดมาเป็นคนไทยล่ะ’

‘ก็ถ้าเป็นคนชาติเดียวกับคุณ ก็สามารถทำให้คิดและเข้าใจคุณมากขึ้น เขาว่ากันว่าคนชาติเดียวกัน มักจะเข้ากันได้มากกว่าคนละเชื้อชาติ’

‘ไม่จริงเลย…ถ้าจริงตามนั้น ประเทศบราซิลคงไม่มีปัญหาครอบครัวแตกแยก หย่าร้าง หรือคู่รักเปลี่ยนคู่ควงกันบ่อยๆ หรอก ฉะนั้นเป็นอย่างที่คุณเป็นอยู่ก็เพอร์เฟ็กต์แล้วเมว อมอร์ อย่าเปลี่ยนแปลงอะไรไปอีกเลย ผมรักคุณอย่างที่คุณเป็นอยู่ และไม่ขออะไรไปมากกว่านี้อีกแล้ว’

‘หวานเหลือเกิน’ ปลายรุ้งน้ำตาซึม เธอแหงนหน้าควานหาจูบจากเขา บดเบียดกลีบปากนุ่มด้วยจังหวะอ่อนหวานระคนเศร้าสร้อย ก่อนพูดชิดริมฝีปากของเรนัลโดว่า ‘รู้อะไรไหม…คุณเป็นผู้ชายที่น่าทึ่งที่สุดในโลก คุณทำให้ผู้หญิงรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าและเป็นที่ปรารถนาของอีกฝ่ายตลอดเวลา รุ้งเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลกที่ได้รับความรักจากคุณ ขอบคุณนะคะเมว อมอร์’

เรนัลโดเบิกตาโต เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ยินหญิงสาวใช้คำว่าเมว อมอร์…my love กับเขา ร่างสูงใหญ่สวมกอดคนรักแนบกระชับอีกเท่าตัว บอกถึงความรู้สึกซาบซึ้งใจระคนขอบคุณ ขณะตอบว่า ‘ผมต่างหากที่เป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก…ได้รับความรักที่แสนจะยิ่งใหญ่จากผู้หญิงที่แสนจะใสซื่อบริสุทธิ์อย่างคุณ ขอบคุณนะเมว อมอร์ที่สอนให้ผมรู้จักกับรักแท้…ขอบคุณที่มอบตัวเองให้กับผม คุณเป็นของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิตผม…รู้หรือเปล่าเลียนดา’ เรนัลโดจบประโยคด้วยการลดศีรษะจุมพิตปลายจมูกโด่ง ก่อนจะเลื่อนไปจูบผะแผ่วที่กลีบปากนุ่มสีกุหลาบและเพิ่มน้ำหนักกดจูบนิ่งนานในเวลาต่อมา

น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างอดกลั้นไม่อยู่ เมื่อได้ยินคำรักจากปากเขา จิตใจถูกบีบคั้นอย่างหนักจนหลุดเสียงสะอื้นไห้ออกมาโดยไม่รู้ตัว เรนัลโดเลื่อนใบหน้าขึ้นมาจูบซับน้ำตาให้หญิงสาว พลางพร่ำรำพันคำปลอบโยน

‘อย่าร้องไห้เมว อมอร์…อย่าร้องนะคนดี’ ปากบอกหญิงสาวไม่ให้ร้องไห้ หากทว่าตัวเองกลับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ หยาดใสๆ คลอหน่วยตา ก่อนจะตกลงบนร่องแก้มของหญิงสาวทั้งสองข้าง คละเคล้ากับน้ำตาของเธอ

ปลายรุ้งสะดุ้งกับหยดน้ำอุ่นๆ ที่รินรดใบหน้า ลืมตาขึ้นมองจึงเห็นว่าเขากำลังหลั่งน้ำตา สวรรค์ช่วย…ปลายรุ้งเกิดอาการนิ่งงันกับภาพนั้น เธอเศร้าอาดูรยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อคิดว่าเป็นคนทำให้ชีวิตเขาเลวร้ายลง

‘รุ้งขอโทษ รุ้งไม่น่ามาพบคุณเลยและไม่น่าขอพรจากท่านพญายมแบบนั้น ไม่อย่างนั้นคุณก็ไม่ต้องมาพบกับความเศร้าเช่นนี้ สวรรค์ช่วย…รุ้งจะแก้ไขความผิดของตัวเองยังไงดี’ หลุดเสียงร่ำไห้ พร้อมกับพร่ำโทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง ปลายรุ้งเลื่อนใบหน้าขึ้นไปจูบซับน้ำตาให้เขา กิริยาเป็นไปอย่างอ่อนโยน และบอกถึงความรักระคนเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง

‘ไม่ใช่ความผิดของคุณเมว อมอร์ ไม่ใช่สักนิดเดียว ขอร้องอย่าโทษตัวเองและอย่านึกเสียใจกับการที่เราได้รักกัน ถ้าคุณไม่ขอพรจากท่านพญายมอย่างนั้น เราจะได้รักกันหรือ…คิดถึงแง่นั้นสิ ลองคิดดู…ผมจะพลาดโอกาสครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตกับการได้เจอผู้หญิงที่แสนจะน่าทึ่งและมีหัวใจรักที่ยิ่งใหญ่อย่างคุณอย่างไรบ้าง ฉะนั้นขอร้องอย่าโทษตัวเองอีกเลย…เรารักกันนั่นดีแล้ว เพียงแต่ขอเวลาผมทำใจสักนิด มันยังเร็วเกินไปที่จะสูญเสียคุณ พระเจ้า…ผมยังสงสัยว่าตราบจนลมหายใจสุดท้ายของผม…ผมจะทำใจให้ชินกับการสูญเสียคุณได้หรือไม่’ ประโยคตอนท้ายพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น

ปลายรุ้งยิ่งสะอึกสะอื้นมากขึ้นเมื่อได้ยินน้ำเสียงปวดร้าวลึกซึ้งแฝงมากับคำพูดเหล่านั้น เธอกอดคอเขาร่ำไห้ พลางว่า ‘รักรุ้ง…เราเมคเลิฟกันเถอะ’

เรนัลโดสวมกอดหญิงสาวแนบแน่น สะเทือนใจอย่างมากกับความพยายามของหญิงสาว ที่จะปลุกปลอบเขา ‘ไม่เป็นไรเมว อมอร์’ ปฏิเสธด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ‘ขอแค่ได้กอดคุณอย่างนี้จวบจนนาทีสุดท้าย ผมก็พอใจแล้ว’

‘แต่รุ้งอยากจะทำอะไรให้คุณบ้าง สวรรค์ช่วย อะไรก็แล้วแต่ที่จะทำให้คุณคลายเศร้าเสียใจในตอนนี้ได้ รุ้งยินดีทำทุกอย่าง’

เรนัลโดรู้สึกสะท้านใจอีกเท่าตัวกับความรักและความอาทรที่หญิงสาวแสดงต่อเขา วงแขนที่สวมกอดอยู่แล้วจึงแนบกระชับเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า น้ำเสียงที่ตอบออกไปทอดอ่อนโยนและนุ่มทุ้มเป็นเท่าทวีคูณว่า ‘ขอบคุณเมว อมอร์ แต่ไม่ต้องทำอะไรเลยคนดี…คุณให้ผมมาเยอะแล้ว ต่อไปนี้ขอผมได้ให้คุณบ้างเถอะนะ หลับในอ้อมแขนผมให้สบายใจ อย่าได้วิตกทุกข์ร้อนกับอะไรอีกเลย ไม่มีอะไรให้คุณต้องกังวล ผมสามารถจัดการและรับมือกับทุกอย่างได้ เชื่อผมสิ’ ปลอบหญิงสาวเพื่อให้คลายความกังวล

‘รุ้งไม่อยากหลับ อยากจะให้คุณหลับมากกว่า รุ้งไม่อยากให้คุณเห็นภาพตอนที่รุ้งกำลังจะจากไป’

‘แต่ผมไม่อยากพลาดอะไรสักอย่าง ไม่อยากพลาดแม้แต่โอกาสที่จะได้เห็นคุณเป็นครั้งสุดท้าย’ น้ำเสียงตอนท้ายแผ่วต่ำ

‘มันคงเจ็บปวดอย่างมากกับการที่ต้องเห็นคนที่ตัวเองรักจากไปต่อหน้าต่อตา’

‘แต่คงจะเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าถ้าไม่มีโอกาสได้เห็นภาพนั้น และไม่มีโอกาสได้ล่ำลาเธอ’

ปลายรุ้งจ้องหน้าเขา เห็นแววตาคมเข้มจ้องตอบกลับมาด้วยประกายตามุ่งมั่นไม่หวั่นไหว…ประกายตาที่บอกถึงความรักและอาลัยหา เธอโผเข้ากอดเขา ‘รุ้งยอมแพ้แล้ว…ยอมแพ้แล้วจริงๆ เราจะเฝ้านับเวลาไปด้วยกันนะคะ’ พูดเสียงเศร้าสะเทือนใจ พร้อมกับลอบป้ายน้ำตาลวกๆ ก่อนจะผละจากอ้อมแขนเขาและเหลือบตามองนาฬิกาปลุกเหนือหัวเตียง ปลายรุ้งกล่าวว่า ‘ตอนนี้ห้าทุ่มห้าสิบนาที ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด รุ้งหมายความว่าถ้ารุ้งเข้าใจไม่ผิด อีกสิบนาทีจากนี้…ทันทีที่เข็มสั้นและเข็มยาวเดินไปถึงเลขสิบสอง ร่างกายของรุ้งก็จะสลายไปทันที’ เจ้าตัวพยายามพูดด้วยน้ำเสียงสดใสร่าเริง ก่อนว่า ‘อีกสิบนาที คุณอยากจะทำอะไรระหว่างนี้คะ?’

ทว่าน้ำเสียงหญิงสาวกลับเศร้าสร้อยเหลือเกิน แม้เจ้าตัวจะพยายามยิ้มแย้มแจ่มใส ภาพนั้นบีบคั้นจิตใจเรนัลโดจนต้องคว้าร่างบางมาสวมกอดกระชับอก สวรรค์ช่วย…ปลายรุ้งมีจิตใจที่เข้มแข็งเหลือเกิน มือหนากดนาบกับแผ่นหลังคนรักจนข้อนิ้วปูดโปน สะท้อนถึงภาวะจิตใจที่เศร้าสะเทือนใจอย่างหนัก ปลายรุ้งเจ็บแต่ไม่ปริปากพูด ยังคงตั้งใจฟังคนรักพูดเงียบๆ

‘ผมอยากให้คุณคิดถึงผมให้เยอะๆ เผื่อว่าตอนที่คุณมาเกิดใหม่ คุณจะได้ฝังใจรักในตัวผม หรืออย่างน้อยก็จดจำได้ว่าผมเคยเป็นคนรักและสามีของคุณก็ยังดี’ จำได้ว่าครั้งสุดท้ายหญิงสาวเล่าว่าก่อนเธอเสียชีวิต ความคิดคำนึงสุดท้ายมีแต่เขา ด้วยเหตุนี้เมื่อพญายมถามว่าต้องการได้พรอะไรเพื่อชดเชยกับความผิดพลาดของท่านยมทูต จิตใต้สำนึกจึงตอบว่าขอให้ได้สมหวังในความรักกับเขา เรนัลโดอยากให้เกิดเหตุการณ์นั้นซ้ำอีกครั้ง เผื่อว่าเมื่อเธอมาเกิดใหม่ จะได้วนเวียนอยู่ใกล้ๆ เขา หรือไม่…หากต้องไปเกิดห่างไกลกันคนละมุมโลก ก็ขอให้มีเหตุให้หญิงสาวต้องมาทำงานอยู่ใกล้ๆ เขา

ปลายรุ้งผละใบหน้าขึ้นมองหน้าเขา ยิ้มอ่อนโยนเกลี่ยทั่วเรียวปากขณะถามว่า ‘คุณมั่นใจได้อย่างไรว่ารุ้งจะมาเกิดใหม่คะ บางทีกรรมดีที่รุ้งทำไว้ อาจไม่เพียงพอที่จะมาเกิดใหม่ก็ได้’

‘ไม่…คุณต้องมาเกิดใหม่เลียนดา ผมเชื่ออย่างนั้น เพราะคุณเป็นคนจิตใจดี คิดช่วยคนอื่นตลอดเวลา ฉะนั้นผลบุญที่คุณทำไป จะเกื้อหนุนให้คุณไปเกิดเร็วขึ้น และหากที่ผ่านมาเรายังทำบุญด้วยกันไม่พอ ผมสัญญาว่าจากนี้จะไปทำบุญเพื่อคุณเพิ่มขึ้นไปอีก สัญญากับผมสิ…ถ้าคุณมาเกิดใหม่ จะต้องกลับมาหาผม’

ปลายรุ้งหลับตาอย่างสะเทือนใจ หลายวันที่ผ่านมาเขาบริจาคเงินให้แก่องค์กรการกุศลมากมายจริงๆ ทั้งมีการตั้งเป็นมูลนิธิการกุศลในชื่อเธอด้วย เรนัลโดบอกว่าเผื่อผลบุญจะหนุนให้เธอไปเกิดใหม่และวนเวียนอยู่ใกล้ๆ เขา ปลายรุ้งน้ำตาซึม เธอกรีดน้ำตาด้วยหลังมือ ก่อนจะเงยหน้าตอบเขาว่า ‘ขอบคุณค่ะ ที่คิดทำบุญมากมายเพื่อรุ้ง แต่ที่ผ่านมาคุณก็ทำมามากพอแล้ว’

‘ยังไม่พอหรอกเมว อมอร์ จะพอก็ต่อเมื่อผมได้เจอคุณอีกครั้งเท่านั้น ไม่เป็นไรเลย เงินแค่นั้นนิดหน่อยมากเมื่อเทียบกับโอกาสที่ผมจะได้เจอคุณอีกครั้ง’ พูดเสียงอ่อนโยน พลางเชยคางคนรักขึ้นมาจูบซับน้ำตาให้ ‘เวลาเหลือน้อยแล้วเมว อมอร์ พูดถึงผมสิ…พูดอะไรก็ได้ที่คุณอยากพูด ผมอยากให้คุณคิดถึงผม…อยากให้จิตใต้สำนึกคุณมีแต่ผมเพื่อว่าเวลาคุณมาเกิดใหม่ จะได้วนเวียนอยู่ใกล้ๆ ผม’

ปลายรุ้งยิ้มทั้งน้ำตา รอยยิ้มหญิงสาวอ่อนหวาน หากก็เศร้าสร้อยอยู่ในที ‘รุ้งรักคุณ…รักมากจนคิดเรื่องอื่นไม่ออกอย่างนี้แล้ว คุณยังจะให้พูดอะไรอีกคะ’ ถามกลับเสียงอ่อนๆ กลับไป

‘พูดอีก…พูดคำว่ารักผมอีกเมว อมอร์ ผมอยากฟัง พระเจ้า…คำรักของคุณ…ฟังอ่อนหวานเหลือเกิน’ เรนัลโดพร่ำรำพันพลางลดศีรษะลงเคล้าเคลียกลีบปากนุ่ม สัมผัสเขาโหยหาหากก็อ่อนหวานละมุนละไมอย่างที่คนในอ้อมแขนรู้สึกได้

หากทว่าปลายรุ้งไม่ทันได้เอ่ยปากตอบเขา ด้วยวินาทีนั้นเองร่างหญิงสาวก็หายวับไปในทันที พร้อมกับเสียงนาฬิกาเหนือผนังดังติ๊กต๊อกๆ บอกเวลาเที่ยงคืนพอดิบพอดี

เรนัลโดปล่อยเสียงโฮออกมาอย่างไม่อายในทันที จิตใจรวดร้าวสุดจะทานทนเมื่ออ้อมแขนเขาว่างเปล่า…เหลือเพียงกรุ่นกลิ่นหอมของเนื้อตัวผู้เป็นภรรยาสาว

สวรรค์ช่วย…เขาจะทำอย่างไรดี ต่อไปนี้เขาจะทำอย่างไรดี เรนัลโดเฝ้าวนเวียนถามตัวเองกลับไปกลับมาอย่างคนที่จนหนทาง หัวใจเขากำลังแหลกสลายไปพร้อมๆ กับการสูญเสียหญิงคนรัก




ตลาดนัดริโอ เดอ จาเนโร วันนี้ เปลี่ยนแปลงไปมากเมื่อเทียบกับสิบเจ็ดปีก่อน ด้วยร้านรวงที่เคยตั้งอยู่ประจำที่เดิม บัดนี้หายไปและมีร้านใหม่ๆ เข้ามาแทนที่ เรนัลโดชอบไปในที่ที่เคยไปกับหญิงสาวไม่ว่าจะเป็นตลาดนัดแห่งนี้ ชายหาด และสถานที่อื่นๆ ด้วยคาดหวังว่าสักวันจะได้เจอเธอในรูปลักษณ์ที่มาเกิดใหม่ อาจจะเป็นความหวังที่เลื่อนลอย หรืออย่างที่หญิงสาวชอบใช้คำว่า ‘ลมๆ แล้งๆ’ หากกระนั้นเขาก็ยินดียื้อเอาไว้ตราบจนลมหายใจสุดท้าย

เรนัลโดนึกพลางเดินมาหยุดหน้าร้านเครื่องดื่มที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นซุ้มหมอดู รู้สึกเศร้าสะเทือนใจทุกครั้งเมื่อคิดว่าซุ้มหมอดูหายไปตลอดกาลแล้ว ครั้งหนึ่งนานหลายปีมาแล้ว หลังจากที่ปลายรุ้งจากไปราวหนึ่งสัปดาห์ เขาได้มายังตลาดแห่งนี้และมาเจอหมอดูรายเดิมอีกครั้ง ทว่านั่นดูจะเป็นครั้งเดียวที่เขาได้เจอนางนับแต่ปลายรุ้งจากไป ด้วยในเวลาต่อมาเขาไม่มีโอกาสได้เจออีกเลย แม้จะเพียรมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ตาม นางทำตัวราวกับหายสาบสูญไปพร้อมๆ กับปลายรุ้ง

ภาพและบทสนทนาเมื่อครั้งที่เขาเจอกับหมอดูหวนกลับมาสู่ความทรงจำอีกครั้ง ซึ่งชัดเจนราวกับแผ่นสไลด์ชั้นดี

‘เจ้า…พ่อหนุ่มเมื่ออาทิตย์ก่อนนี่นา’ หมอดูทักขึ้นเป็นประโยคแรกเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของเรนัลโดก้าวเข้ามาในซุ้มของนาง

‘ใช่ครับ…ผมเอง’

‘แล้วแม่หนูหน้าตาจิ้มลิ้มคนนั้นไปไหนแล้วล่ะ ไม่มาด้วยกันเหรอ’ หมอดูพูดอย่างจดจำปลายรุ้งได้

เรนัลโดนิ่งอึ้ง ก่อนตอบว่า ‘เธอติดธุระครับ เลยมาไม่ได้’

แม่หมอพยักหน้ารับรู้ ‘งั้นเธอฝากให้เจ้าถามแทนเรื่องอะไรล่ะ’

เรนัลโดขมวดคิ้วหนักขึ้น ‘ทำไมคิดว่าต้องเป็นเธอที่ฝากมาถาม ทำไมไม่คิดว่าเป็นผมที่อาจมีข้อสงสัยที่อยากจะมาถามหมอดูเองก็ได้’

‘ก็เจ้าไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เหรอ เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลที่ต้องกลับมาถามซ้ำอีก’

ดาราหนุ่มอึ้งอีกครา แล้วตอบว่า ‘ผมขอโทษที่ครั้งที่แล้วเสียมารยาทกับคุณ ผมคิดว่าเรื่องเหนือธรรมชาติพวกนี้ถ้าไม่เจอกับตัวเอง ไม่มีทางเชื่อได้ง่ายๆ หรอก’

‘งั้นเจ้าก็คงเจอมาแล้วล่ะสิ ถึงได้ย้อนกลับมาหาข้าอย่างนี้’

เรนัลโดนิ่งอีกคำรบ ก่อนยอมรับออกไปตรงๆ ‘ครับ…ผมคิดว่าอย่างนั้น ถ้าไม่รบกวนเกินไปผมอยากจะให้แม่หมอช่วยเข้าทรงอีกครั้ง ผมอยากรู้ว่าเนื้อคู่ของผมเป็นใคร ใช่คนที่คบหากันอยู่หรือเปล่า’

แม่หมอนิ่งชั่วครู่แล้วจึงตอบว่า ‘ไปนั่งที่เสื่อนั่นสิ ข้าจะลองดู’

พิธีเริ่มต้นเหมือนเมื่อครั้งอดีตอีกครา ข้าวของเครื่องใช้สั่นไหวไปมา ก่อนจะกระแทกกันดังโครมครามแล้วจึงตามมาด้วยการล้มระเนระนาด จากนั้นร่างหมอดูสั่นเทาซึ่งเป็นสัญญาณว่าวิญญาณผู้หยั่งรู้ได้เข้ามายังร่างทรงแล้ว

‘เจ้าอยากรู้เรื่องอะไรพ่อหนุ่ม’ เสียงแม่หมอแปร่งต่างจากเดิม

‘ผมอยากรู้ว่าเนื้อคู่ของผมเป็นใคร จะใช่คนที่คบหากันอยู่หรือเปล่า’ ย้ำในสิ่งที่อยากรู้ไปอีกครา

‘ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วนี่ว่าเนื้อคู่ของเจ้าไม่ใช่แม่หนูคนนั้น’

‘ทำไมถึงมั่นใจละครับว่าเธอไม่ใช่เนื้อคู่ของผม’

‘ภาพที่ข้าเห็น เจ้าอายุมากกว่าปัจจุบันเยอะ และกำลังเข้าพิธีแต่งงานกับเด็กสาวคนหนึ่ง ภาพผู้หญิงไม่ชัด แต่ดูแล้วน่าจะอายุน้อยกว่าเจ้ามาก แล้วจะเป็นผู้หญิงที่มากับเจ้าได้ยังไง’

‘ท่านเชื่อเรื่องชาติหน้าหรือเปล่าครับ? เป็นไปได้ไหมว่าเธออาจจะกลับมาเกิดใหม่และอาจจะเป็นใครคนนั้นที่เห็นในภาพนิมิตก็ได้’ เรนัลโดถามต่อไป อะไรบางอย่างที่เปล่งรัศมีมาจากร่างทรง ทำให้เขารู้สึกยำเกรงจนต้องเปลี่ยนสรรพนาม เรียกอีกฝ่ายว่า ‘ท่าน’

ร่างทรงนิ่ง เธอจับมือหนาของเรนัลโดและหลับตา พูดต่อไปว่า ‘ข้าตอบเรื่องอื่นไม่ได้ นอกจากสิ่งที่ข้าเห็น’

‘หน้าตาละครับ เหมือนผู้หญิงที่ผมเคยพามาพบแม่หมอหรือเปล่า’ เรนัลโดกระตุ้นถามต่อ

‘ข้าบอกแล้วว่าข้าตอบไม่ได้ รู้แต่ว่าร่างใหม่วิญญาณเดิม’

‘หมายความว่าเธอมาเกิดใหม่ใช่ไหมครับ?’ น้ำเสียงเรนัลโดดีใจอย่างมากขณะกระตุ้นถามอีกรอบ

‘ข้าไม่ได้รู้ทุกเรื่องและบางเรื่องที่รู้ก็พูดออกไปไม่ได้ สิ่งที่พูดได้ ข้าก็บอกเจ้าไปหมดแล้ว’

‘ทำอย่างไรผมถึงจะรู้ได้ว่าเธอมาเกิดใหม่แล้วหรือยัง’ ถามต่อไปราวกับไม่ได้ยินคำตอบจากแม่หมอ

‘เจ้าไม่ได้ยินคำตอบหรือพ่อหนุ่ม ข้าตอบว่าข้าบอกไม่ได้ว่าเธอมาเกิดใหม่หรือเปล่า’

‘แต่แม่หมอบอกว่าร่างใหม่วิญญาณดวงเดิม’

‘ซึ่งอาจเป็นใครก็ได้ร้อยแปดที่มาเกิดใหม่’ ร่างทรงต่อประโยคเขาทันควัน

เรนัลโดอึ้ง ไม่ทันตอบอะไร หมอดูก็พูดต่อไป

‘จงอย่าได้คิดสงสัยคลางแคลงใจกับสิ่งที่เจ้ายึดถือปฏิบัติอยู่ และอย่าได้แม้แต่จะตั้งคำถาม ถ้าคิดว่าถูกต้องตามทำนองคลองธรรมแล้ว ก็จงแน่วแน่ใช้ชีวิตอย่างที่เจ้าตั้งใจไว้ต่อไป ข้าบอกเจ้าได้แค่นี้แหละพ่อหนุ่ม’








Create Date : 11 ธันวาคม 2552
Last Update : 13 มีนาคม 2555 9:48:55 น.
Counter : 516 Pageviews.

17 comments
  

ขอตอบเมนท์ของตอนที่แล้วในวันพรุ่งนี้ค่ะ..

บีจีเพลง Foi um sonho de amor : Ronalda


Estou farta de dizer
Que eu não quero sofrer
E à noite eu me prendo aos teus braços
Entrogo-me a valer
E sem saber porquê
Eu nunca me arrependo do que faço
Mas o meu coração
Ficou sem reacção
Porque não sente mais o teu bater
E só ficou na alma
Estas cinco palavras
Que agora eu vou ter que te dizer
Não sinto amor por ti
Tudo mudou
E o que restou em mim
Foi um sonho de amor
Pois finalmente vi
Que consigo ser feliz
E por não sentir mais nada
Vou dizer na tua cara
Que não sinto amor por ti
Estou farta de ficar
Sozinha a chorar
À espera de encontrar uma esperança
E mesmo que apareças
E até me enlouqueças
Jamais irá haver uma mudança
Mas o meu coração
Ficou sem reacção
Porque não sente mais o teu bater
E só ficou na alma
Estas cinco palavras
Que agora eu vou ter que te dizer.

โดย: คณิตยา วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:1:43:53 น.
  
โห เจ้าอุ๋ย น่าจะเขียนให้คร่ำครวญนาน ๆหน่อย
จะได้เห็นคนอ่านร้องไห้เยอะๆ ได้แกล้งคนอ่าน555
ดูเหมือนเราซาดิสต์เลย ก๊าก

ฝันดีจ้า ข้าวไปนอนละ ไม่ไหว ง่วงมากเลย
โดย: ต้นข้าว IP: 222.123.185.78 วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:3:03:31 น.
  
วันนี้คงมีข่าวอะไรจากร่างใหม่วิญญาณดวงเดิมบ้างละนะ ...ลุ้น ๆ

เอ่อ...บทจาเศร้าก็อะ...นะ

รอปลายรุ้งภาคใหม่ต่อไป
โดย: jee IP: 222.123.210.244 วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:8:19:07 น.
  
จากกันแบบเศร้าๆ ปนซึ้งๆ เลยค่ะ สงสารพี่เรย์สุดๆเลย ฮือๆๆๆ TT0TT
นางเอกกลับชาติมาเกิดแล้วแน่ๆเลย จะหน้าตาเหมือนเดิมรึเปล่าคะ แล้วพระเอกจะตามหานางเอกเจอได้ยังไงคะ ลุ้นมากมายเลยค่ะ
อยากให้เรื่องนี้ทำเป็น 2 ภาคจังเลยค่ะ แบบภาคชาติก่อน กับชาติใหม่ ไม่อยากให้จบเร็วเลยค่ะ แหะๆ
โดย: pantan IP: 58.9.18.38 วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:9:29:51 น.
  
ดีนะที่พี่เรย์ไม่เชื่อหนูรุ้ง ไม่งั้นคงค้างคา(ใจ)แน่เลยอิ..อิ
โดย: twansongfa วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:9:47:52 น.
  
ข้าว : ข้าวซาดิสต์ง่า

พี่จี๋ : ถึงเศร้าแต่ก็เรียกความเศร้าจากพี่จี๋ไม่ได้ กระซิกๆ

คุณเอ๋ : จัดให้ตามคำเรียกร้องของคุณเอ๋ค่ะ เรื่องนี้จะแบ่งเป็นสองภาค ในเล่มเดียวกัน คือชาติก่อนกับชาติปัจจุบัน ซึ่งชาติปัจจุบันยังอีก 10 ตอนแน่ะค่ะ กว่าจะจบ ^^

คุณตุ๊ก : อ่า คุณตุ๊กทะลึ่งหง่า 55555555 ตอนแรกงงตั้งนานว่าค้างคาอะไร 555+ 10 นาที ถึงจะเชื่อนู๋รุ้ง ก็ทันหง่า ประเภทอาหารจานด่านอะไรเทือกนั้นไงคะ 55555+
โดย: คณิตยา วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:10:58:03 น.
  
เศร้าอ่ะค่ะ คุณคณิตยา
คิดถึงเรื่อง รหัสทรชน
ที่พระเอกเชื่อว่านางเอกตายไปแล้ว

ปล. โห 17 ปี เลยเหรอค่ะ
ว่าแต่ว่าตอนนี้พี่เรย์อายุเท่าไหร่แล้วคะ
จะได้เรียกถูก
โดย: incanto IP: 146.23.250.105 วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:11:14:44 น.
  
คุณ incanto พี่เรย์ตอนนี้ 26+17 =43 ค่า >_< แต่ยังหล่อ หน้าอ่อนนนนนนนน น้า
โดย: คณิตยา วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:14:23:01 น.
  
ฮ่า..ฮ่า เค้าเปล่าทะลึ่งนะ เพียงแต่จิ้นว่า 10 นาที เกิดหมดเวลาก่อน นู๋รุ้งหายตัวแว้บ แล้วพี่เรย์ทำไงล่ะ เค้าสงสารพี่เรย์อ่ะ 5555555555
โดย: twansongfa วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:16:11:16 น.
  
อยากให้หนูรุ้งมีหน้าตาเหมือนเดิมจัง

จะจำพี่เรย์ได้บ้างหรือเปล่าหนอ ถ้าจำไม่ได้ ขอเนสเถอะค่า ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดย: Hero's girl วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:16:28:16 น.
  
คุณตุ๊ก : น่าน...น... 555555555++ 55555+ ยังไม่วาย 555+ ก็ท่าหายแวบก่อน พี่เรย์ก็ช่วยตัวเองไปก่อนละกัน ฮ่า++

น้องเนส : จัดให้ค่า...นางเอกหน้าตาเหมือนเดิมค่ะ เพียงแต่อาจจะดูหน้าเด็กกว่าเดิม เพราะอายุน้อยกว่าเดิม หุหุ ป.ล. ขอถี่อย่างนี้ แปลว่าเอาจริงแล้วใช่ไหมคะน้องเนส 52555+
โดย: คณิตยา วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:17:49:22 น.
  
ตอนนี้ทำร้ายจิตใจมากเลย TT^TT

แต่ว่าไปพี่เรย์ก็จิตแข็งเหมือนกันเนอะ ลองเป็นคนอื่นเห็นคนเลือนหายไปต่อหน้าต่อตา มีหวังร้องจ๊าก 5555
โดย: unna_jung IP: 124.122.234.240 วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:20:08:14 น.
  
ช่วงนี้ชีพจรลงเท้า ไม่ค่อยอยู่ที่ค่ะ แต่ติดตามเสมอนะคะ แป๊ป ๆ ผ่านไปแล้ว 17 ปี เหอ ๆ ๆ

43 สำหรับหญิงก็ชิว ๆ ค่ะ ถ้าหาได้แล้วหล่ออย่างพี่เรย์ เอาแน่นอน

ไงก็รออ่านพี่เรย์ตอนต่อไปอยู่นะคะ คืนนี้จะพยายามอยู่ดึก เผื่อคุณคณิตยาลงตอนดึก ๆ

แต่ถ้าไม่ไหวก็คงเจอกันตอนเช้ามืดเลยแล้วกัน เพราะวันพรุ่งนี้ไป ตจว แต่เช้าค่ะ

กลับมาอีกทีก็วันอาทิตย์เลย แต่ถ้าว่างแอบเช็คได้ ก็จะมาคอยเร่งคุณคณิตยา ให้มีกำลังใจในการแต่งนิยายค่ะ ^^
โดย: นายหญิง IP: 180.183.148.234 วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:20:14:07 น.
  
สวัสดีคะพี่อุ๋ยแอบแวบมาอ่านพรุ่งนี้สอบ^^
โดย: belindaz IP: 203.170.234.7 วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:20:35:29 น.
  
โหพี่เรย์43 พี่อุ๋ยบอกว่าอายุมากกว่านางเอกกว่าสองรอบคือมากกว่า24ปีขึ้นไป โอยตายกว่าหนูรุ้งคนใหม่จะโตทันได้แต่งงานป๋าเรย์ก็50กว่าแล้ว
โดย: mimny วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:22:50:08 น.
  
คุณอัญ : อ่านเมนท์แล้วขำหง่า >_< เพิ่งคิดตาม ใจแข็งจริงด้วย ^^

คุณหญิง : 555+ ใช่เผลอแป๊บ ๆ2 วันผ่านไป 14 ปีเน้อ 55+ กลับมาวันอาทิตย์เลยหรือคะ อืม..งั้นรอโพสต์ตอนคุณหญิงกลับมาแล้วดีไหมค้า?>_< ล้อเล่นค่ะ เด๋วโดนคนอ่านคนอื่นตุ๊บตั๊บแน่ แหะๆ...

น้อง belindaz: อวยพรให้โชคดีในการสอบจ้าน้อง belindaz จะสอบยังชะแว้บปมาทักทายพี่ ขอบคุณมากจร้า

น้องมิ้ว : 55+ ไม่ขนาดนั้นนนนนนนน >_< แต่ถึงจะเฉียดๆ 50 แต่ก็ยังหล่อ และหนุ่นแน่น น่ากินอยู่ดีน้า หุหุ ก็ดูตอน 37 ตอนนี้สิ หน้ายังใสปิ๊ง ที่เพิ่มมาก็แค่ประสบการณ์ทางการเพศ เฮ้ย...ทางการใช้ชีวิตเท่านั้น
โดย: คณิตยา วันที่: 12 ธันวาคม 2552 เวลา:11:46:55 น.
  
หวัดดีตอนสาย ๆ จ้า น้องอุ๋ย พี่ติ๋วตามมาจิ๊กรูปหนุ่มเรย์(แฟนพี่)ไปนอนกอดก่อนนะจ้ะ ฮี่ ๆ
โดย: พี่ติ๋ว IP: 119.63.93.70, 117.121.208.2 วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:10:27:11 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คณิตยา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]









รู้จักคณิตยา/คีตฌาณ์

ก้าวสู่โลกแห่งการขีดเขียนในปี 2549 มีผลงานเป็นรูปเล่มกับสนพ.ในเครือสถาพรบุ๊คส์ทั้งหมด 11 เล่ม ไล่ตั้งแต่ รหัสทรชน ทางสายหมอก กุหลาบในเปลวไฟ ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ อริ...ที่รัก บอดี้การ์ด รักเพียงฝัน ตามรักข้ามเวลา ไฟรัก บันทึกแห่งรัก(the Book of Love) มิราเบลล์...ตราบคีตาบรรเลง เป็น 1 ในนิยายชุดแด่เธอที่รัก สาปรัก และใต้ปีกรัก

รหัสทรชน เป็นละครทางช่อง 3 เมื่อปี 2554 แสดงโดย เคน และชมพู่ สร้างโดยค่ายยูม่า และ ไฟรัก ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์ไปแปลเป็นภาษาเวียดนาม วางแผงเดือนสิงหาคม 2556



พูดคุย ทักทาย แลกเปลี่ยนความเห็น และติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง fb โดยกดไลค์เป็นแฟนเพจได้ทาง https://www.facebook.com/keetacha?ref=hl ขอบคุณค่ะ

---------------


ตอนนี้อุ๋ยทยอยนำนิยายที่หมดลิขสิทธิ์กับพิมพ์คำไปวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book บนเว็บ ebooks และเว็บ Mebmarket ค่ะ

ใต้ปีกรัก...ราคาอีบุ๊ก 179 บาท

บันทึกแห่งรัก...ราคาอีบุ๊ก 255 บาท จากราคาปก 310

ไฟรัก...ราคาอีบุ๊ก 279 บาท จากราคาปก 350 บาท

กุหลาบในเปลวไฟ...ราคาอีบุ๊ก 230 บาท



รหัสทรชน ราคาอีบุ๊ก 200 บาท จากราคา 300 บาท 673 หน้า





ทางสายหมอก ราคาอีบุ๊ก 265 บาท จากราคา 280 บาท 690 หน้า



ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ ราคาอีบุ๊ก 125 บาท จากราคา 180 บาท 360 หน้า



รวมเรื่องสั้น...ฉบับวัยหวาน ราคาอีบุ๊ก 45 บาท จากปก 55 บาท



อริ...ที่รัก ราคาอีุบุ๊ก 195 จากปก 240 บาท



หวานใจ...บอดีการ์ด...ราคาอีบุ๊ก 145 บาท จากปก 180 บาท



รักเพียงฝัน...ราคาอีบุ๊ก 225 จากปก 250 บาท



ตามรักข้ามเวลา...ราคาอีบุ๊ก 240 จากปก 270 บาท





















New Comments