ฝาครอบจุดเชื่อมต่อในระบบท่อน้ำยา และระบบไฟฟ้าจะถูกยึดไว้ด้วยเดือยล็อก ร่วมกับสกรูยึดเพียงตัวเดียว เปิดออกมาก็จะพบส่วนของเซอร์วิสวาล์วที่อยู่ด้านล่าง และด้านบนจะเป็นส่วนเชื่อมต่อทางวงจรไฟฟ้า
ที่วาล์วตัวล่างของชุดเซอร์วิสวาล์วจะเป็นวาล์วของท่อ Suction หรือท่อทางดูดวาล์วนี้จะต่อกับท่อที่มีขนาดใหญ่กว่า เป็นท่อที่น้ำยาแอร์ที่มีแรงดันต่ำกว่า เพราะเป็นท่อทางเดินของน้ำยาที่ถูกดูดกลับเข้ามาโดยคอมเพรสเซอร์เพื่อเริ่มกระบวนการอัดใหม่
โดยที่ด้านนี้จะมีการติดตั้งวาล์วลูกศร ซึ่งใช้เป็นจุดสำหรับต่อสายเกจวัดแรงดัน โดยการทำสุญญากาศระบบแอร์ หรือการเติมน้ำยาเข้าระบบ ก็จะใช้ช่องทางนี้เป็นหลักนั่นเอง
ในแอร์เครื่องนี้ ซึ่งใช้สารทำความเย็น R32 ผู้ผลิตได้กำหนดให้ขนาดของวาล์วลูกศรมีขนาดเดียวกับแอร์ที่ใช้สารทำความเย็น R410a ซึ่งทำให้สายเกจวัดแรงดันของ R410a สามารถนำมาใช้งานร่วมกันได้ แต่สายเกจวัดแรงดันของ R22 ไม่สามารถนำมาต่อใช้งานได้โดยตรง เพราะมีขนาดที่เล็กกว่า ที่ต้องใช้วาล์วลูกศรขนาดต่างกัน ก็เพื่อที่จะป้องกันการนำมาใช้งานผิดนั่นเอง
มาเริ่มถอดดูการออกแบบด้านในชองชุดคอยล์ร้อน โดยเริ่มจากถอดฝาครอบด้านบนสุด
ส่วนของแผ่นเหล็กที่เป็นฝาครอบด้านบน ผู้ผลิตออกแบบให้ใช้สกรูยึดเพียงแค่ 3 ตัว แต่สามารถยึดชิ้นส่วนได้อย่างแน่นหนา ซึ่งการที่ใช้สกรูเพียงไม่กี่อันนี้เป็นข้อดีที่ช่วยในด้านการบำรุงรักษา เพราะทำให้ให้การถอดซ่อมบำรุงภายหลังจากที่ติดตั้งไปแล้วสามารถทำได้ง่าย
แผ่นโฟมยางสีเทา เป็นส่วนที่ช่วยปิดช่องว่างด้านบน มีส่วนช่วยกันไม่ให้จิ้งจกหรือหนู เข้ามาภายในส่วนที่เป็นบอร์ดวงจรไฟฟ้า เพราะสัตว์เหล่านี้มักจะเป็นเหมือนแขกไม่ได้รับเชิญที่อาจจะเข้ามาสร้างความเสียหาแก่วงจรไฟฟ้าได้
ในภาพด้านบนก็จะเห็นสองส่วนหลักๆ ซึ่งก็คือบอร์ดวงจรหลัก และขดลวดรีแอคเตอร์ โดยทั้งหมดนี้เป็นส่วนที่ใช้ควบคุมรอบการทำงานของคอมเพรสเซอร์ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะแอร์อินเวอร์เตอร์จะทำงานไม่ได้ หากขาดหัวใจหลักซึ่งก็คือบอร์ดควบคุม ที่ทำให้แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์สารมารถปรับรอบการทำงานของคอมเพรสเซอร์ได้นั้นเอง
โดยเรื่องประสิทธิภาพของระบบอินเวอร์เตอร์ในแอร์ ผมไม่ขอลงลึกในรายละเอียดมาก เพราะหลายๆท่านก็คงทราบกันดีว่าไดกิ้นเป็นเจ้าแรกๆเลย ที่ริเริ่มนำแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์เข้ามาทำตลาดในบ้านเรา นับตั้งแต่เริ่มเข้ามาทำตลาดเมื่อหลายปีก่อน มาจนถึงปัจจุบันนี้ ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพ ในเรื่องเทคโนโลยีระบบอินเวอร์เตอร์ของไดกิ้น ให้ได้เป็นที่ประจักษ์กันแล้ว
ภาพรวมของชุดคอยล์ร้อนเมื่อนำฝาครอบด้านบน และฝาปิดด้านหน้าออก
ใบพัดของพัดลมระบายความร้อน ผลิตจากพลาสติกที่แข็งและมีความยืดหยุ่น ไม่แตกหักง่าย
มอเตอร์ที่ขับเคลื่อนใบพัดของพัดลมระบายความร้อน เป็นมอเตอร์แบบปิดสนิท ออกแบบให้สามารถทำงานได้ในความเร็วรอบที่หลากหลายเพื่อช่วยลดเสียงรบกวน
แผงควบแน่น (Condenser) ที่อยู่ในชุดคอยล์ร้อนของแอร์เครื่องนี้ทางผู้ผลิตยังคงเลือกใช้แผงควบแน่นแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นแผงแบบท่อและครีบ ที่ประกอบไปด้วยท่อทองแดงและครีบอลูมิเนียม
แม้ว่าในปัจจุบัน ผู้ผลิตแอร์หลายยี่ห้อเริ่มหาวิธีการลดต้นทุนบางส่วนโดยการหันมาใช้แผงควบแน่นแบบที่ทำมาจากอลูมิเนียมทั้งแผง แต่นั่นไม่ใช่กับไดกิ้น เพราะแอร์เครื่องนี้ยังคงใช้แผงแบบดั้งเดิม แม้ว่าราคาทองแดงในปัจจุบันจะสูงก็ตาม
ครีบอลูมิเนียมที่อยู่ในชุดคอยล์ร้อน ก็ได้รับการป้องกันการกัดกร่อนโดยมีการเคลือบสารป้องกันการกัดกร่อนสีเขียวเอาไว้ด้วย
ส่วนของคอมเพรสเซอร์ มีการห่อหุ้มด้วยผ้าห่มคอมเพรสเซอร์ถึงสองชั้น ซึ่งผ้าห้มคอมเพรสเซอร์ก็จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยดูดซับและป้องกันเสียงรบกวน ที่จะเล็ดลอดออกมาภายนอกตัวเครื่องในระหว่างที่เครื่องกำลังทำงาน
แอร์เครื่องนี้มีความสามารถในการทำความเย็นได้กว่า 12,000 BTU แต่ขนาดของคอมเพรสเซอร์ที่เป็นเหมือนขุมพลัง กลับมีขนาดที่เล็กกะทัดรัด เรียกว่าเล็กจนเห็นได้ถึงความต่าง
ซึ่งผมพยายามหาอะไรมาเปรียบเทียบขนาด เพื่อจะให้ได้เห็นขนาดที่ชัดๆท้ายที่สุดก็ไปยืมเอาขวดใส่ซีอิ้วขาวที่วางไว้ในครัวมาเทียบให้เห็น
เหตุผลหลักที่ทำให้คอมเพรสเซอร์ของไดกิ้นมีขนาดที่เล็กกว่าชาวบ้านอย่างเห็นได้ชัด นั่นก็เป็นผลมาจากประสิทธิภาพที่มีนั่นเอง เพราะว่าที่ผ่านมาทางไดกิ้นได้มีการพัฒนาประสิทธิภาพของคอมเพรสเซอร์ที่ใช้กับแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์มาโดยตลอด และถือได้ว่าไดกิ้นเป็นเจ้าแรกๆที่บุกเบิกเทคโนโลยีระบบอินเวอร์เตอร์ที่ใช้ในแอร์เลยก็ว่าได้
อ่านรีวิวต่อ ตอนที่ 4 (ตอนจบ) >>>CLICK<<<
กลับไปอ่านรีวิว ตอนที่ 2 >>>CLICK<<<