|
In Her Shoes ... ศิลปะของการสูญเสีย
ก่อนอื่นอยากให้อ่านบทกวี One Art นี่ก่อน อ่านช้าๆ นะ ... อ่านออกเสียงเหมือนกับที่แมกกี้ (คาเมรอน ดิแอซ) ในเรื่องเธออ่านได้เลยยิ่งดี
Elizabeth Bishop - One Art
The art of losing isn't hard to master; so many things seem filled with the intent to be lost that their loss is no disaster.
Lose something every day. Accept the fluster of lost door keys, the hour badly spent. The art of losing isn't hard to master.
Then practice losing farther, losing faster: places, and names, and where it was you meant to travel. None of these will bring disaster.
I lost my mother's watch. And look! my last, or next-to-last, of three loved houses went. The art of losing isn't hard to master.
I lost two cities, lovely ones. And, vaster, some realms I owned, two rivers, a continent. I miss them, but it wasn't a disaster.
--Even losing you (the joking voice, a gesture I love) I shan't have lied. It's evident the art of losing's not too hard to master though it may look like (Write it!) like disaster.
รู้สึกไหม... เขาสูญเสียอะไร และลำนำบทนี้ถูกเขียนด้วยความรู้สึกเช่นใด
In Her Shoes เป็นหนังที่เล่าเรื่องของสองพี่น้องคู่หนึ่งที่ต่างกันสุดขั้ว ที่แทบไม่มีอะไรเหมือนกันเลยนอกจาก ดีเอ็นเอ และเบอร์รองเท้า
คนหนึ่ง แมกกี้ หญิงสาวผู้ใช้ชีวิตสนุกสนาน (หรือเหลวแหลก) ท่ามกลางแสงสีกลางคืนผู้ซ่อนปมด้อยเรื่องปัญหาในการอ่านและคิดเลขเอาไว้ (โรคดิสเล็กเซีย)
คนหนึ่ง โรส ทนายสาวผู้ใช้ชีวิตอยู่กับงาน และการคอยตามแก้ปัญหาให้กับน้องสาวสุดแสบของเธอ เวลาเธอเหนื่อยเธอก็จะปรนเปรอตัวเองด้วยการไปซื้อรองเท้ามาเก็บไว้ในตู้ โดยไม่ได้ใส่มัน
"เพราะเสื้อผ้ามันทำให้ฉันอ้วน แต่งผมก็ไม่ทำให้ดูดีเมื่อมีแว่นตาอยู่ มีแต่รองเท้าเท่านั้นที่มันพอดีกับฉัน"
หนังดำเนินไปถึงจุดแตกหักเมื่อแมกกี้วูบไปนอนกับแฟนพี่สาวตัวเอง ความสัมพันธ์พี่น้องที่กระท่อนกระแท่นอยู่แล้วจึงแทบกระจุยกระจายตามแรงอารมณ์ของทั้งคู่
ความสนิทสนมที่มีมาแต่วัยเยาว์กำลังกลายเป็นความแตกต่างที่ไม่ลงตัว นำไปสู่ความไม่เข้าใจ การทุ่มเถียง และสุดท้ายการประชดซึ่งกันและกัน โดยเธอทั้งคู่ต่างก็ไม่ยอมรับว่าเธอกำลังทำร้ายตัวเธอเอง
เพราะเธอต่างก็เหมือนรองเท้าคู่เดียวกันที่ไม่อาจเดินอย่างมั่นคงได้โดยมีแค่ข้างเดียว...
เมื่อแมกกี้ไปอยู่กับยาย เธอได้พบตัวเองในมุมมองใหม่และกำลังแก้ไขปมด้อยของตัวเอง พร้อมกับมิตรภาพดีๆ และความห่วงใยที่เพื่อนผู้สูงวัยของคุณยายมอบให้
เมื่อโรสเปิดใจยอมรับผู้ชายคนใหม่ ลาออกจากงานที่วุ่นวายไปพาหมาเดินเล่นแทน
ชีวิตของทั้งคู่เหมือนจะดีขึ้น... แต่แมกกี้ก็ไม่มีพี่สาวที่เธอจะแบ่งปันความสุขด้วยได้ และโรสก็ไม่รู้ว่าชีวิตเธอควรจะเป็นยังไงหากไม่มีน้องสาว อย่างที่เธออธิบายกับแฟนหนุ่มของเธอว่า...
without her, I don't make sense."
แล้วเรื่องของสองพี่น้อง และปัญหาครอบครัวเดิมต่างๆ เช่น การตายของแม่ แม่เลี้ยงและลูกใหม่ของพ่อ คู่เดตของโรส จิ๊กซอว์ชิ้นต่างๆ ถูกปะติดปะต่อให้เข้าที่โดย "คุณยาย" ผู้ซึ่งหลานสาวทั้งสองไม่เคยรู้ว่ามีตัวตน
เรื่องนี้เป็นหนังดราม่าที่ดูแล้วสบายใจ และทำให้เรา "อิ่ม" ไปกับเนื้อหาไปด้วยได้ หนังนำเสนอถึงความสัมพันธ์ระหว่าง "คน" ปัญหาลูกเขยแม่ยาย แม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยง แก๊ปของคนแก่กับหนุ่มสาว พี่น้องต่างขั้ว การมีความลับระหว่างคู่รัก ความหลังในอดีตที่ถูกปิดบัง การค้นหาตัวตน,,,การทำงานหรือการเป็นตัวของตัวเอง
ล้วนเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตของเราๆ นั่นเอง ล้วนเป็นเพียงปัญหาธรรมดาที่ถูกเยียวยาด้วย "ความรัก" และ "ความเข้าใจ" และนั่นคือสิ่งที่ให้หนังเรื่องนี้มีเสน่ห์มากเหลือเกิน...
Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2551 |
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2551 16:32:12 น. |
|
3 comments
|
Counter : 505 Pageviews. |
|
|
|
โดย: p_tham วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:58:19 น. |
|
|
|
โดย: ไร่ปลายตะวัน วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:27:54 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
Tokyo ---> now : Kyoto Japan
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
เพียงคนหนึ่งที่มีความฝัน มีความคิด มีเรื่องราวมากมายที่อยากบอกเล่า กำลังก้าวเดินไปในโลกกว้างเพื่อเรียนรู้ เพื่อเข้าใจ และเพื่อทำความรู้จักกับ "ชีวิต"
|
|
|
|
|
|
|
|
ขอบคุณ ขอบคุณ และ ขอบคุณ