ขอหยุดเวลา นั่งพักให้หายเหนื่อย
 

Health and Beauty

คิดเร็วช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น

"การเร่งความคิด" เป็นอาการที่พบบ่อยในโรคบุคลิกภาพแตกแยก หรือโรคจิตซึมเศร้าชนิดคลุ้มคลั่ง แต่การศึกษาที่มหาวิทยาลัยพรินสตัน รัฐนิวเจอร์ซีย์ พบว่า เมื่อผลักดันให้คนที่มีสุขภาพปกติคิดเร็วขึ้น พวกเขากลับรู้สึกมีความสุขมากขึ้น

นักวิจัยขอให้กลุ่มตัวอย่างกลุ่มหนึ่งอ่านข้อความจากจอคอมพิวเตอร์ให้เร็วกว่าปกติสองเท่า (นักวิจัยควบคุมความเร็วของคำด้วยการเลื่อนคำบนจอภาพ) จากนั้นก็ขอให้กลุ่มตัวอย่างอีกกลุ่มอ่านข้อความเดียวกันแต่ช้ากว่าปกติสองเท่า แล้วให้กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดกรอกแบบสอบถามที่ใช้ประเมินอารมณ์ระดับพลังงาน และความรู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง ปรากฏว่าเมื่อถูกกำหนดให้อ่านเร็วขึ้น คนจะถูกผลักดันให้คิดเร็วขึ้นและรู้สึกมีความสุขมากขึ้นตามมา ซึ่งที่จริงแล้วพวกเขายังรู้สึกกระฉับกระเฉง คิดสร้างสรรค์ และมีอำนาจมากขึ้น

คณะนักจิตวิทยาที่ดำเนินการศึกษานี้เชื่อว่าการกำหนดมุมมองของผู้คนเกี่ยวกับความเร็ว ในการคิดอาจมีประโยชน์ต่อการบำบัดพฤติกรรมการเรียนรู้ ซึ่งจะช่วยรักษาผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางอารมณ์ เช่น บุคลิกภาพแตกแยกและภาวะซึมเศร้า
(ที่มา: Reader's Digest)


น้ำผึ้งทำให้ร่างกายแข็งแรง

เมื่อคุณรู้สึกอ่อนล้าไม่สดชื่น ให้นำน้ำผึ้ง ๓ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล (หรือ Apple Vinegar) ๓ ช้อนชา ผสมน้ำเปล่า ๑ แก้ว ดื่มทุกเช้าหลังตื่นนอนและระหว่างมื้อเป็นประจำทุกวัน จะทำให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงและสดชื้นขึ้นค่ะ
(จากนิตยสารHealthyToday)

ผิวเนียนเหมือนเด็กด้วยมะม่วง

ถ้าอยากมีผิวเนียนเหมือนเด็ก ให้รับประทานมะม่วงสุก เนื่องจากมีเบต้าแคโรทีน ช่วยทำให้ผิวมีสุขภาพดี วิตามินในมะม่วงจะช่วยกระตุ้นการสร้างผิวหนัง รวมทั้งหนังศีรษะที่หยาบแห้ง และขรุขระให้กลับมีความชุ่มชื้นและนุ่นเนียนอีกครั้ง ถ้ารับประทานร่วมกับไข่และตับจะได้ผลดียิ่งขึ้นค่ะ
(จากนิตยสารHealthyToday)


กลิ่นปาก

ถ้าคุณลองทดสอบกลิ่นปากตัวเองแล้วสอบตก อย่าเพิ่งตกอกตกใจ เพราะมีหลากหลายวิธี ที่สามารถบรรเทาอาการลมหายใจมีกลิ่นได้อย่างฉับไว ถ้ากลิ่นปากเกิดจากแบคทีเรียที่เกาะอยู่ตามเหงือก ลิ้น และฟัน คุณต้องยับยั้งมันด้วยการรักษาความสะอาดในช่องปาก เริ่มต้นด้วยการเลือกยาสีฟันให้เหมาะสม แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันสม่ำเสมอ

มาตรการฉุกเฉิน

ปากที่แห้งเป็นสวรรค์ของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นปาก จึงควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่า เพราะน้ำจะกำจัดแบคทีเรียให้หลุดออกและช่วยให้ลมหายใจมีกลิ่นดีขึ้นบ้าง
ไม่ว่าจะเป็นมื้อเที่ยงทางธุรกิจหรือมื้อเย็นแสนโรแมนติก ให้จิ้มผักชีที่เหลือในจานมาเคี้ยว ผักชีอุดมด้วยคลอโรฟิลซึ่งมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรียจึงช่วยลดกลิ่นปากได้
กินส้มสักลูก กรดซิตริกในส้มจะกระตุ้นต่อมน้ำลายให้หลั่งน้ำลายออกมา ทำให้ลมหายใจ
สดชื่นขึ้น

ดับกลิ่นด้วยเครื่องเทศ

กานพลูมีสารยูจินอล (eugenol) ซึ่งมีฤทธิ์ขจัดแบคทีเรีย หยิบกานพลูสักดอกเข้าปากแล้วเคี้ยว น้ำมันหอมระเหยในกานพลูจะระเหยออกมา เคี้ยวจนกระทั่งน้ำมันหอมระเหยแผ่ซ่านในปากแล้วจึงคายทิ้ง ห้ามใช้น้ำมันกานพลูหรือดอกกานพลูบดแห้งเนื่องจากจะแรงเกินไป ปากอาจจะไหม้ได้
ดูดอบเชยสักชิ้น อบเชยมีฤทธิ์ขจัดแบคทีเรียเช่นเดียวกับกานพลู

เลือกน้ำยาบ้วนปากให้เหมาะ

น้ำยาบ้วนปากส่วนใหญ่โฆษณาว่าช่วยให้ปากหอมสดชื่น แต่มีน้อยมากที่จะให้ผลดีในระยะยาว แต่ดูเหมือนว่าน้ำยาบ้วนปากผสมคลอรีนไดอ็อกไซด์ (chlorine dioxine) เช่น Eliminator Mouthwash (ซื้อได้ทางอินเทอร์เน็ต) สามารถขจัดสารประกอบซัลเฟอร์ที่ทำให้ลมหายใจมีกลิ่นเหม็นได้

(ที่มา: Reader's Digest)

ว่าด้วยเรื่องสิว

การเป็น "สิว" บอกอะไรมากกว่าที่คิด สถาบัน Leonard Darke วิเคราะห์การดูแลผิวหน้าแบบตะวันตกกับการอ่านใบหน้าแบบจีน ได้ผลสรุปว่าสิวที่ขึ้นตามตำแหน่งต่างๆ ของหน้าสามารถบอกความผิดปกติที่เกิดกับอวัยวะภายในได้

ผู้สื่อข่าวรายงาน เคล็ดการสังเกตความผิดปกติของอวัยวะภายใน โดยสถาบัน Leonard Darke ไม่ระบุที่อยู่ ได้ส่งอีเมลไปเผยแพร่ โดยอ้างว่าสถาบัน Leonard Darke ได้คิดค้นวิธีการวิเคราะห์ผิวลึกลงไปอีก ด้วยการผสานความรู้ในการดูแลผิวหน้าแบบตะวันตกเข้ากับศาสตร์การอ่านใบหน้าแบบจีน ซึ่งสามารถบอกได้ว่าสิวที่ขึ้นตามตำแหน่งต่างๆ ของใบหน้าหรือร่างกาย บอกความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับอวัยวะส่วนใดบ้าง

ข้อมูลนี้ระบุตำแหน่งการขึ้นของสิว กับความสัมพันธ์กับอวัยวะต่างๆ ว่า

1.ขึ้นที่หน้าผากด้านซ้าย เกี่ยวกับอวัยวะการย่อยอาหาร กระเพาะปัสสาวะ ต่อมหมวกไต สาเหตุคือ มีความเครียดสูง ล้างหน้าไม่สะอาด

2.ขึ้นที่หว่างคิ้ว เกี่ยวกับตับ สาเหตุคือ อาจมีปัญหาในการย่อยแลคโทส กินอาหารรสจัด หรือกินอาหารดึกเกินไป

3.ขึ้นที่หน้าผากด้านขวา เกี่ยวกับอวัยวะการย่อยอาหาร กระเพาะปัสสาวะ ต่อมหมวกไต สาเหตุคือ มีความเครียดสูง ล้างหน้าไม่สะอาด

4.ขึ้นที่ใบหูทั้ง 2 ข้าง อวัยวะที่เกี่ยวข้องคือ ไต สาเหตุคือ ล้างแชมพูหรือสบู่ออกไม่หมด ใช้โทรศัพท์มือถือมากเกินไป ดื่มกาแฟ แอลกอฮอล์ หรือกินเนื้อสัตว์มากเกินไป

5.ขึ้นที่แก้มทั้ง 2 ด้าน แก้มส่วนบนเกี่ยวกับไซนัสและปอด แก้มส่วนล่าง เกี่ยวกับเหงือกและฟัน สาเหตุคือ สูบบุหรี่จัด แพ้ควันบุหรี่ ภูมิแพ้ เป็นหวัดเรื้อรัง ใช้รองพื้นไม่เหมาะสม ถ้าเป็นริ้วรอยลึกบริเวณโหนกแก้ม อาจบ่งบอกถึงปัญหาเรื่องปอด หรือการหายใจ ถ้ามีสิวแบบเป็นๆ หายๆ ที่แก้มด้านล่าง อาจมีปัญหาเรื่องเหงือกและฟัน รวมทั้งโทรศัพท์ไม่สะอาด

6.ขึ้นที่รอบดวงตา 2 ข้าง เกี่ยวกับอวัยวะไต และปัญหาภูมิแพ้ สาเหตุอาจมาจาก เครื่องสำอาง แว่นตา การมีสารพิษตกค้างในร่างกายมาก พักผ่อนน้อย หรืออาการภูมิแพ้ และขาดสารอาหาร

7.ขึ้นที่จมูก และเหนือริมฝีปาก เกี่ยวกับอวัยวะหัวใจ และระบบสืบพันธุ์ สาเหตุถ้ามีผิวสีแดงเข้มที่จมูก อาจบ่งบอกถึงโรคความดันโลหิตสูง ผลกระทบจากฮอร์โมน การมีประจำเดือน และวัยทอง

8.ขึ้นที่ใต้ริมฝีปากด้านซ้ายและขวา เกี่ยวกับอวัยวะรังไข่ สาเหตุคือ อาจทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ หรือมาจากความสมดุลทางฮอร์โมน หากมีปัญหาการอุดตันช่วงใบหู แสดงว่าฟันกรามมีปัญหา อาจจะเพิ่งทำฟันมา รวมทั้งการมีประจำเดือนด้วย

9.ขึ้นที่ปลายคาง เกี่ยวกับอวัยวะ กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็ก สาเหตุคือ กินอาหารรสจัดไป จนทำให้ลำไส้มีปัญหาในการดูดซึม และ 9.ขึ้นลำคอและหน้าอก มีสาเหตุมาจากความเครียด.

นสพ. ไทยโพสต์

.............................................................................

ข่าววันที่ 7 มี.ค. 49
สับเละสิวพยากรณ์ ซินแสหยันมั่วศาสตร์

ซินแสดังสับเละ ใครอ้างสิวขึ้นหน้าบอกอวัยวะผิดปกติ ประณามเอาหลักโหงวเฮ้งมาใช้แบบไม่รู้เรื่อง พวกนี้ชอบสร้างมั่วศาสตร์ ชี้ถ้าสิวขึ้นแล้วบอกอวัยวะภายในผิดปกติ

อย่างนี้หนุ่มสาวก็เป็นโรคกันบานเบอะ ส่วนคนแก่โรคน้อยแข็งแรงดี มั่วทั้งนั้น ด้านหมอผิวหนังยังไม่สรุป แพทย์สมัยใหม่ไม่เกี่ยวกัน แต่แพทย์โบราณอาจเป็นไปได้ เหมือนพวกฝังเข็ม

จากกรณีที่หนังสือพิมพ์ เอ็กซ์-ไซท์ ไทยโพสต์ ได้เสนอข่าวเกี่ยวกับการเป็นสิว ซึ่งสามารถบอกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับอวัยวะภายในร่างกายได้ อาทิ ขึ้นที่หน้าผาก การย่อยอาหาร กระเพาะปัสสาวะผิดปกติ ขึ้นที่แก้ม มีปัญหาเรื่องปอดหรือการหายใจ โดยสถาบัน Leonard Darke อ้างว่าอาศัยการวิเคราะห์ผิวผสมผสานกับการอ่านใบหน้าแบบจีนนั้น ซินแสชื่อดังไม่เห็นด้วย โดยระบุว่าเป็นมั่วศาสตร์ นำศาสตร์โหงวเฮ้งมารวมกับอะไรก็ไม่รู้

อ.ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ซินแสโหงวเฮ้งและหมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง กล่าวถึงกรณีนี้ว่า เพิ่งเคยได้ยินมาเหมือนกัน ตามหลักวิชามันไม่มี ปกติโหวงเฮ้งบนใบหน้าจะบอกจังหวะก้าวเดินของชีวิต แต่ถ้าสิวขึ้นตรงนี้แล้วอาจเกิดสิ่งผิดปกติกับอวัยวะภายใน หรือระบบร่างกาย อันนี้คงไม่ใช่ มันน่าจะมั่วมากกว่า จับเอาโหงวเฮ้งมารวมกันเละไปหมด

"เรื่องสิวไม่เกี่ยวกันเลย น่าจะอยู่ที่ฮอร์โมน และการรักษาความสะอาดมากกว่า ไม่ได้เกี่ยวกับโหงวเฮ้งเลยว่า สิวขึ้นตรงนี้แล้วจะเป็นอย่างนี้ ถ้าอย่างนั้นหนุ่มสาวที่เป็นสิวก็ต้องเป็นโรค อวัยวะมีปัญหากันหมด ร่างกายแย่ไปหมด มันไม่เกี่ยวกัน ข้อมูลนี้มันเป็นมั่วศาสตร์ คนที่ออกมาพูด หรือสถาบันที่อ้างวิธีการนี้แล้วลงเว็บไซต์ อาจจะหวังผลทางการค้ามากกว่า หนุ่มสาวไม่ต้องกังวล พวกนี้มันเอาโหงวเฮ้งมาผสมกันมั่วไปหมด"

ซินแสภาณุวัฒน์กล่าวอีกว่า ตามหลักจริงโหงวเฮ้งจะบอกบุคลิกลักษณะนิสัย แต่ยืนยันว่าสิวไม่เกี่ยวกัน แต่ถ้ามีไฝ ขี้แมลงวัน ถ้าขึ้นที่หน้า อาจบอกได้ว่าส่วนอื่นของร่างกายอาจมีไฝด้วย อาจมีส่วนที่เกี่ยวกับร่างกาย แต่ถ้ามีราศีขึ้นบนใบหน้าอันนี้บอกได้แน่นอน ยกตัวอย่าง ถ้าปากซีด จะเกี่ยวกับโรคกระเพาะ จมูกหมอง มีปัญหาเรื่องตับ หน้าซีด ความดันต่ำ หน้าแดง ความดันสูง ตรงนี้ถึงจะบอกได้ แต่เรื่องสิวไม่เกี่ยวกับโหงวเฮ้งแน่นอน ไม่อย่างนั้นเด็กหนุ่มสาวโรคก็เยอะไปหมด แต่คนแก่ไม่มีสิว โรคต่างๆ ไม่มีเลย

ด้าน พญ.พรภุชงค์ เลาห์เกริกเกียรติ แพทย์ผิวหนัง รพ.พญาไท กล่าวว่า ถ้าพูดกันตามแพทย์สมัยใหม่ ตรงนี้ไม่สามารถบอกได้ แต่ถ้าเป็นกรณีสิวขึ้นรุนแรงผิดปกติตามตำแหน่งต่างๆ อาจบอกถึงภาวะของร่างกายในตอนนั้นๆ ได้

"แต่ถ้าบอกว่าสิวที่ขึ้นสัมพันธ์กับอวัยวะภายใน ตรงนี้ยังไม่มีการพิสูจน์ แต่ก็อาจจะเป็นไปได้ เหมือนกรณีการฝังเข็ม หรือกดจุดนวดฝ่าเท้า ที่มีอวัยวะเชื่อมโยงกัน ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ตามหลักจริงๆ ยังไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าคิด คงจะต้องมีการเก็บข้อมูลถ้าต้องการพิสูจน์ อย่างถ้าคนเป็นโรคกระเพาะ สิวจะขึ้นที่บริเวณหน้าผากทุกคน ตรงนี้ก็อาจจะช่วยบอกอะไรได้ แต่ที่ผ่านมากรณีอย่างนี้ยังไม่เคยมีการเก็บข้อมูล" หมอพรภุชงค์กล่าว

ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยโดยสถาบัน Leonard Darke ซึ่งไม่ได้ระบุที่อยู่ โดยอ้างว่าเป็นการผสมผสานการตรวจวิเคราะห์ผิว และการดูแลผิวหน้าแบบตะวันตก กับศาสตร์การอ่านใบหน้าแบบของจีน ซึ่งสามารถบอกได้ว่าสิวที่เกิดขึ้นตามตำแหน่งต่างๆ บนใบหน้าสามารถบอกความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับอวัยวะต่างๆ ของร่างกายได้
.............................................................................


ตามปกติผิวหนังจะมีน้ำมันอยู่ตามธรรมชาติ แต่เมื่อผิวผลิตน้ำมันออกมามากเกินไปจะอุดตันรูขุมขนทำให้เกิดสิว สิวมี 2 ประเภทคือ สิวแบบธรรมดา (acne vulgaris) ซึ่งอาจเป็นสิวอุดตันหรือตุ่มแดงๆ ขึ้นอยู่ตามใบหน้า หน้าอก ไหล่ หรือหลัง สิวอีกชนิดคือ สิวหัวช้าง (cystic acne) ซึ่งเป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรง ขึ้นเป็นเม็ดใหญ่และเจ็บมาก

สาเหตุ

ปัจจัยที่ทำให้ผิวหนังผลิตน้ำมันมากขึ้น ได้แก่ ฮอร์โมนสูงขึ้นช่วงเป็นวัยรุ่น กินยาคุม มีประจำเดือน ตั้งครรภ์ หรือในช่วงที่ร่างกายใกล้หมดประจำเดือน นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น เครื่องสำอาง การอาบแดด หรือความเครียด บ่อยครั้งที่สิวมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม

สกัดไว้ก่อน

ทันทีที่เห็นสัญญาณว่าจะเกิดสิว ให้รีบประคบน้ำแข็ง โดยเอาก้อนน้ำแข็งห่อไว้ในผ้าหรือถุงพลาสติกอีกชั้นหนึ่ง ใช้ประคบจุดที่มีอาการอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือทุกๆ ชั่วโมงยิ่งดี โดยแต่ละครั้งให้ประคบไม่เกิน 5 นาที ความเย็นจะช่วยลดอาการบวมแดงและบรรเทาอาการอักเสบ

ลบเลือนเร็วทันใจ

วิธีแรกคือใช้ยาแก้สิวที่อาจเป็นครีม โลชั่น ยาน้ำ หรือเจลที่มีส่วนผสมของเบนซอยล์เปอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide) เช่น ผลิตภัณฑ์ในชุด Oxy ของ PanOxyl ซึ่งจะเร่งให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดลอกเร็วขึ้นโดยไม่ทำร้ายผิว และส่งผลให้รูขุมขนที่อุดตันเปิดออก เบนซอยล์เปอร์ออกไซด์ยังช่วยฆ่าแบคทีเรียที่ทำให้
รูขุมขนที่อุดตันเกิดการติดเชื้อด้วย
สารในกลุ่มกรดอัลฟาไฮดรอกซีหรือเอเอชเอ (alpha-hydroxy acid: AHA) เช่น กรด
ไกลโคลิก (glycolic acid) จะกำจัดผิวหนังที่ตายแล้วชั้นบนสุด ช่วยให้รูขุมขนไม่อุดตัน คุณอาจใช้ครีม โลชั่น หรือเจลที่มีส่วนผสมของกรดไกลโคลิกมาใช้ได้
กินแอสไพรินหรือไอบูโพรเฟน ยาแก้ปวดเหล่านี้มีฤทธิ์ต้านอักเสบและยับยั้งการลุกลามของสิว โดยกินตามคำแนะนำบนฉลากวันละ 4 เวลา (ห้ามกินแอสไพรินติดต่อกันเกิน 2-3 วันโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ก่อน และไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีกินแอสไพริน)
ทางเลือกใหม่ในการรักษาสิว

น้ำมันทีทรี (tea tree oil) จะช่วยฆ่าเชื้อและเร่งให้หายเร็วขึ้น ใช้น้ำมันทีทรี 1 หยด ทาวันละ 3 ครั้ง มีงานวิจัยพบว่าน้ำมันทีทรี 5% สามารถรักษาสิวได้มีประสิทธิภาพเท่าๆ กับน้ำยาเบนซอยล์เปอร์ออกไซด์ 5%
(ที่มา: Reader's Digest)




 

Create Date : 05 มิถุนายน 2550    
Last Update : 30 มิถุนายน 2550 1:34:32 น.
Counter : 380 Pageviews.  

วาทะดังตฤณ ฉบับ ความรักหลากสี

ความรัก กับ บุพเพสันนิวาสและเนื้อคู่

คู่หญิงชายนั้นมีหลายแบบ ไม่ได้มีแต่คู่เวรกับคู่แท้ คำว่า ‘คู่แท้’ จะทำให้คุณนึกถึงเพศตรงข้ามที่ติดตามกันไปทุกภพทุกชาติ เป็นตัวเป็นตนจับจองกันอย่างถาวรไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งธรรมชาติไม่ได้มีอะไรอย่างนั้น ตามกฎเหล็กข้อแรกสุดคือ ‘ทุกสิ่งต้องเปลี่ยนแปลงไป’

หากหันมาใส่ใจกับคำว่า ‘คู่บุญ’ และ ‘คู่บาป’ แทน อย่างนี้จะเห็นอะไรกระจ่างขึ้น เพราะคนเราทำบุญทำบาปสลับกันได้ ไม่มีใครทำบุญทำบาปร่วมกันอย่างใดอย่างหนึ่งได้ตลอดไป และนั่นก็แปลว่า คู่บุญอาจหมายถึงคู่ที่ร่วมทำบุญกันมามากกว่าร่วมทำบาป ส่วนคู่บาปก็อาจหมายถึงคู่ที่ร่วมทำบาปกันมากกว่าร่วมทำบุญ

มองอย่างนี้อคติจะลดลงอย่างฮวบฮาบทันที ประเภทขัดเคืองใจนิดหน่อยก็เหมาว่านี่คู่เวรของเรา หรือประเภทต้องตาต้องใจเมื่อเริ่มพบก็เหมาว่านี่แหละคู่แท้ของฉัน เราจะเห็นตามจริงว่า ถ้าต้องตาเมื่อเห็น ถ้าเย็นใจเมื่อใกล้ อันนั้นก็เป็นคะแนนทางความรู้สึกด้านดีชั้นแรก ต่อเมื่อมีความผูกพันผ่านเหตุการณ์ดีร้าย หรือที่เรียกง่ายๆว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน ตรงนั้นค่อยเป็นคะแนนสะสมในชั้นต่อๆมา กระทั่งปักใจเชื่อได้ว่าเป็นคู่บุญกันจริงๆ

//dungtrin.com/prepare/archieve/prepare064.htm
เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว ฉบับวันที่ ๑ ธ.ค. ๒๕๔๘




ความรู้สึกด้านดีชั้นแรกในระยะแรกพบสบตานั้น เป็นผลบุญจากการอยู่ร่วมกันมาก่อนในอดีตชาติ ส่วนการร่วมทุกข์ร่วมสุขผ่านเหตุการณ์ดีร้ายต่างๆมาด้วยกัน เป็นบุญใหม่ที่เกิดจากการเกื้อกูลในปัจจุบันชาติ พระพุทธเจ้าตรัสว่าความรักจะเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจากเหตุปัจจัยทั้งอดีตและปัจจุบันประกอบกัน

ไม่ว่าจะเป็นของเก่าหรือของใหม่ บุญที่สร้าง ‘คู่บุญ’ ขึ้นมาจะเหมือนๆกัน พระพุทธเจ้าตรัสแสดงไว้ได้แก่

๑) มี ศรัทธา ไปในแนวทางเดียวกัน เช่นถือศาสดาองค์เดียวกัน เชื่อหรือไม่เชื่อเรื่องกรรมวิบากด้วยกัน เชื่อว่าโลกกลมหรือโลกแบนเหมือนๆกัน เชื่อแนวทางในการดำรงชีวิตรูปแบบเดียวกัน เป็นต้น เมื่อศรัทธาไม่ตรงกันก็คุยเรื่องไม่ตรงกัน เมื่อคุยเรื่องไม่ตรงกันก็คุยกันได้ไม่นาน เมื่อคุยกันได้ไม่นานก็เบื่อกันเร็ว อันนี้คือความจริงที่เกิดขึ้นกับทุกรูปนาม ไม่จำเพาะเฉพาะคู่รักเท่านั้น ขนาดเพื่อนกันแต่เชื่อไม่เหมือนกันยังยากที่จะเป็นเพื่อนสนิทเลยครับ ศรัทธาที่ร่วมกันปลูกฝังให้มั่นคงย่อมทำหน้าที่สร้างสายตาที่มองไปในทิศเดียวกัน ไม่ก่อความรู้สึกเป็นอื่นจากกัน

๒) มี ศีล อันเป็นเครื่องหอมทางใจเสมอกัน คือมีความคิดงดเว้นข้อประพฤติผิดแบบเดียวกัน เป็นเหตุให้ไม่รังเกียจหรือหมั่นไส้กัน พรานหนุ่มกับพรานสาวทนกลิ่นอายฆ่าฟันของกันและกันได้ แต่ให้หมอศัลย์ที่มีรังสีช่วยชีวิตมาเป็นคู่ผัวตัวเมียกับมือปืนร้อยศพที่ทะมึนด้วยรังสีเอาชีวิต อย่างไรก็คงทนกลิ่นอายที่เป็นตรงข้ามของกันและกันไม่ไหว และนั่นก็เช่นเดียวกัน ถ้าฝ่ายหนึ่งเจ้าชู้ ร้อยลิ้นกะลาวน สำส่อนไปเรื่อยโดยไม่สนใจความสกปรกหมกมุ่น ย่อมน่ารังเกียจยิ่งสำหรับคนใจซื่อถือความสะอาดผัวเดียวเมียเดียว ศีลที่ร่วมรักษาให้บริสุทธิ์ดีแล้วย่อมทำหน้าที่สร้างความอบอุ่นเชื่อมั่นในกันและกัน สนิทใจ ไว้วางใจกันเป็นมั่นเหมาะ

๓) มี จาคะ อันเป็นวิธีคิดแบ่งปันเสมอกัน อย่างน้อยต้องเป็นผู้ให้ซึ่งกันและกันในทางใดทางหนึ่ง ไม่ใช่มีแต่ฝ่ายหนึ่งคิดอยู่ข้างเดียว อีกฝ่ายเอาเปรียบตลอด เช่นอีกฝ่ายสละเงินให้ใช้ อีกฝ่ายสละแรงปรนนิบัติ เป็นต้น การเอารัดเอาเปรียบเกิดจากจาคะที่ไม่เสมอกันเป็นมูล ยิ่งหากต่างฝ่ายต่างคิดเจือจานคนอื่น เห็นข้าวของอะไรไม่ใช้แล้วก็คิดตรงกันว่าน่าบริจาคแก่คนที่เขาไม่มี อย่างนี้ยิ่งไปกันได้ มีโอกาสร่วมบุญกันบ่อยๆ ยิ่งให้คนอื่นมากก็ยิ่งได้ความสุขในการสละมาเสริมใยแก้วร้อยสัมพันธ์ให้กันแน่นแฟ้นขึ้น จาคะที่ร่วมกันยินดีโดยพร้อมเพรียงย่อมก่อความรู้สึกซึ้งใจอย่างใหญ่ เหมือนอยู่ด้วยกันจะเป็นที่พึ่งให้กัน ปลอดภัยร่วมกัน ประคับประคองกัน ไม่มีวันล้มพร้อมกัน

๔) มี ปัญญา เสมอกัน กล่าวทางโลกคือคุยกันรู้เรื่อง กล่าวทางธรรมคือมีระดับการเห็นตามจริงใกล้เคียงกัน หรืออย่างน้อยเป็นไปไปในทางเดียวกัน ไม่ใช่พูดคนละภาษา ฝ่ายหนึ่งทำก่อนคิด อีกฝ่ายคิดก่อนทำ หรือฝ่ายหนึ่งเอาอารมณ์พูด อีกฝ่ายพูดด้วยสติปัญญา หรือฝ่ายหนึ่งเห็นชัดว่าอะไรๆไม่เที่ยง ความยึดมั่นถือมั่นเหลือน้อย แต่อีกฝ่ายหนึ่งแค่เรื่องน้อยก็ยึดมั่นถือมั่นเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ก็คงนึกระอาหรือหมั่นไส้ในกันเป็นอย่างยิ่ง ปัญญาที่ร่วมเสริมส่งกันและกันย่อมทำหน้าที่สร้างความร่าเริงในการสนทนา และความไม่พรั่นที่จะต้องฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกัน

หากอดีตกาลคุณเคยครองเรือนกับผู้มีบุญเสมอกันทั้ง ๔ ข้อ (อาจหย่อนนิดหย่อนหน่อยได้) ขอเพียงได้มาพบกันในชาตินี้ ก็จะเกิดแรงดึงดูดที่ก่อความรู้สึกแสนดีอย่างประหลาด เหมือนเข้ากันได้ทุกอย่าง เหมือนเห็นกันได้ทุกแง่มุมด้วยความเข้าใจกระจ่าง

และขอเพียงเกื้อกูลกันนิดๆหน่อยๆ เช่นฝ่ายหนึ่งมาถามทาง อีกฝ่ายบอกทางให้ เท่านี้ก็จะเกิดแรงปฏิพัทธ์ขึ้นอย่างรุนแรง ชนิดที่ฝ่ายชาย (ซึ่งมีธรรมชาติเป็นรุก) อาจยื่นข้อเสนอเดินพาไปส่ง และฝ่ายหญิงก็ตกลงรับข้อเสนออย่างยินดีเต็มใจทันที แล้วการตกลงร่วมทางกันไปจนกว่าจะตายก็ติดตามมาอย่างรวดเร็ว ไม่มีอะไรซับซ้อน ไม่มีเหตุการณ์น่าปวดหัว ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับคู่บุญประเภทนี้


แน่นอนว่าสายตาทั่วไปมองแล้วย่อมนึกอิจฉา โดยไม่มีใครเข้าใจต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงว่าเหตุใดจึงมีคู่ที่น่าอิจฉาได้ปานนั้น รู้แต่ว่ามีจริง แต่ไม่รู้ว่ามีขึ้นมาได้อย่างไร ต้องต่อว่าใครที่แกล้งลำเอียง ความจริงคือคู่บุญได้รับความยุติธรรมจากธรรมชาติกรรมวิบากต่างหาก แต่อาจเป็นความยุติธรรมที่ลึกลับ เพราะนำอดีตชาติมาแสดงให้เห็นเป็นภาพยนตร์ตามโรงไม่ได้

//dungtrin.com/prepare/archieve/prepare064.htm
เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว ฉบับวันที่ ๑ ธ.ค. ๒๕๔๘



จากที่พระพุทธเจ้าท่านเคยตรัส ว่าหญิงชายจะพบกันทั้งชาตินี้และชาติหน้า ก็เพราะมีเหตุ คือต่างฝ่ายต่างมีศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญาเสมอกัน คำว่า "เสมอกัน" นั้น อย่างน้อยที่สุดคือร่วมยินดีไปในแนวความเชื่อเดียวกัน มีใจปรารถนาจะรักษาศีล มีใจอยากสละให้ และอย่างน้อยพูดภาษาเดียวกันรู้เรื่อง ไม่ใช่ว่าฝ่ายหนึ่งเสนอ อีกฝ่ายนอกจากไม่สนองแล้วยังเอาแต่ขัดๆๆ

ยิ่งไปกว่านั้น พระพุทธเจ้ายังเคยตรัสว่า ความรักจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยเหตุสองประการ ประการแรกคือเคยอยู่ร่วมกันมาในอดีตชาติ ประการที่สองคือชาตินี้ได้เกื้อกูลกัน นั่นแหละความรักอย่างลึกซึ้งถึงจะเกิดได้

มองด้วยข้อสรุปนี้ คู่บุญตัวจริงก็คือคนที่เคยคิดดี พูดดี ทำดีต่อกันมาก่อน รวมทั้งมีศรัทธาไปในทางเดียว แข็งแรงในศีลข้อเดียวกัน มีใจคิดสละประมาณเดียวกัน และอย่างน้อยต้องพูดกันรู้เรื่องประมาณเพลินคุยได้ไม่รู้เบื่อ ประเภทใส่บาตรครั้งสองครั้ง อาจมีผลให้เกิดความรู้สึกปิ๊งๆบ้าง แต่จะไม่มีเหตุปัจจัยส่งเสริมสนับสนุนให้ได้พบกันบ่อยๆ ได้เกื้อกูลกันโดยปราศจากอุปสรรคขัดขวางอย่างสิ้นเชิง พูดง่ายๆ ว่าต้องสร้างปัจจัยใหม่กันเหนื่อยพอดูครับ


//dungtrin.net/newsletter/viewtopic.php?t=70&start=77
ดังตฤณวิสัชนา ฉบับวันที่ ๑ ก.ย. ๒๕๔๘

อ่านต่อ//www.dungtrin.com/watha_love/index2.html




 

Create Date : 01 มิถุนายน 2550    
Last Update : 1 มิถุนายน 2550 19:17:08 น.
Counter : 261 Pageviews.  

Animator VS Animation

//www.albinoblacksheep.com/flash/animator




 

Create Date : 23 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 23 พฤษภาคม 2550 9:39:22 น.
Counter : 311 Pageviews.  

 
 

kanga
Location :
Sydney Australia

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อยากมีพื้นที่เล็ก ๆ ที่เราสามารถทำอะไรมากมายที่อยากทำ ไม่สนใจว่าใครจะแวะผ่านเข้ามา แต่ที่แห่งนี้จะเป็นที่ที่ไว้พักเหนื่อย พักใจ และสร้างยิ้มให้กับตัวเอง l

ค้นหาใน GOOGLE.CO.TH
[Add kanga's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com