เด็กผู้ชายที่ไม่เตะบอลตอนกลางวัน............................
 
ผมไม่ดูหนังผี



จริงๆแล้วแม้ผมเป็นคนชอบดูหนัง แต่ว่ามีหนังอยู่หนึ่งประเภทที่ผมพยายามอย่างมากที่จะหลีกเลี่ยง นั่นคือ
“ หนังผี “ ผมคิดว่าเวลาที่เราที่ดูหนังประเภทนี้จบ นอกจากเงิน เวลา ที่เราต้องเสียไป หลังจากหนังจบลง มันจะแถมความหลอนมาด้วย หลังดู

เช่น


“จูอง” ผมต้องเปิดผ้าห่มดูทุกครั้ง และเหลือบมองหัวเตียงเสมอ


“ six-sense “ ตอนกลางคืนผมไม่กล้าเข้าห้องน้ำคนเดียว และไม่กล้าไปห้องครัว


“ the ring “ อันนี้ไม่กล้าเปิดทีวี
ฯลฯ


แม้ว่าหนังผีบางเรื่องจะมีการสอดแทรกมุมมอง และแง่คิดที่น่าสนใจอยู่บ้าง แต่เพื่อค่ำคืนการนอนที่มีความสุขของผม ผมขอเลี่ยงดีกว่า

"ความกลัว"เป็นสิ่งที่ฝังตัวในความทรงจำของคนเราได้อย่างน่าสนใจ

แต่วันนี้ผมมีสิ่งที่อยากจะเรียกร้องขอบอกกับเพื่อนๆทุกคนครับ
ช่วงที่ผ่านมาผมต้องทำหน้าที่ตรวจผู้ป่วยนอกมากมาย คนไข้ก็มีมากมายหลายคน หลายกลุ่มครับ แต่จะมีคนไข้กลุ่มหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นศัตรูของผมมากที่สุด
นั่นคือ “เด็ก “ ครับ
โดยเฉพาะอายุ 3-10 ปีครับ เป็นช่วงที่เปรี้ยวตีนมากครับ ( ส่วนเด็กหญิงอายุ 18 ปีขึ้นไปผมไม่ค่อยถือสา ) เด็กกลุ่มนี้จะเข้าห้องตรวจมาด้วยสายตารังเกียจและอาฆาต พยายามไม่เข้าใกล้ บ้างถีบ บ้างถุยน้ำลายใส่ ( เรื่องจริงครับ ) พอผมจะขยับๆไปตรวจนิดๆหน่อย ก็ร้องไห้แหกปาก แล้วก็ถีบต่อไป จังหวะนั้นในใจอยากโดดไปตีหัวจังๆซัก ป้าบนึง แต่ต่อหน้าคุณพ่อคุณแม่ที่น่ารักผมบอกได้เพียง

“ เด็กร่าเริงดีน่ะครับ “

ผมพยายามหาสาเหตุให้ได้ว่าทำไมพวกเด็กเหล่านั้นจึงจงเกลียด จงชัง ผมขนาดนั้น ทั้งๆที่เราก็ไม่รู้จักกันมาก่อน

สองวันถัดมาผมได้เงื่อนงำบางอย่าง
วันนั้นผมตื่นแต่เช้าแต่งตัวใส่เสื้อกาวน์ออกจากบ้านพัก ซึ่งข้างๆบ้านผมเป็นศูนย์รับเลี้ยงเด็กเล็ก
ผมเปิดประตูออกไป ยิ้มให้กับพี่เลี้ยงเด็ก และเด็กๆที่นั่งอยู่ มีเด็กบางคนร้องไห้งอแงอยากกลับบ้าน
ทันใดนั้นเหตุการณ์บางอย่างก็เกิด .............พี่เลี้ยงเด็กชี้นิ้วมาทางผมแล้วบอกว่า

“ ถ้าไม่หยุดร้องไห้ เดี๋ยวหมอจับฉีดยา “

ผมจึงได้เงื่อนงำบางอย่าง ผมว่ามันเป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมด ผมถึงบางอ้อในตอนนั้น
อารมณ์ประมาณกับคินดะอิจืในฉากที่ี่พูดว่า

" ปริศนาทั้งหมดไขกระจ่างแล้ว "และ " ขอเอาชื่อปู่เป็นเดิมพัน "

ผมคิดว่าเป็นการปลูกฝังเช่นนี้ อาจไม่ใข่การปลูกผังที่่ดีนัก
ข้อเท็จจริงก็คือ หมอบ้านเราไม่ค่อยได้ฉีดยาหรอกครับ ( ผมเองก็ไม่เกิน 10 ครั้ง )

อีกหนึ่งอาชีพน่าสงสารไม่แพ้กันคงเป็นตำรวจ “ เดี๋ยวให้ตำรวจมาจับ “ อย่างไรก็ตามในชีวิตจริงๆพี่ๆตำรวจก็ไม่ได้มีโอกาสต้องทำงานร่วมกับเด็กๆบ่อยนัก
( นอกจากงานวันเด็ก )




ผมจึงขอรณรงค์ทุกท่านที่กำลังจะมีบุตรหลานในอนาคตว่า
อย่าไปขู่เด็กอย่างนั้นเลยครับ การที่เราไปปลูกฝังความกลัวอะไรต่างๆให้แก่เด็ก มันค่อนข้างจะลบได้ยากครับ

.....................

แต่ถ้าจำเป็นต้องขู่จริงๆผมวิงวอนขอให้ลองกระจายกลุ่มอาชีพ เช่น

“ร้องไห้อย่างนี้ เดี๋ยว วิศวกร จับไปสร้างสะพาน “
“ร้องไห้อย่างนี้ เดี๋ยวท่านนายกจับซุก ( หุ้น ) ”
“ร้องไห้อย่างนี้ เดี่ยว ผู้กำกับจับไปถ่ายหนังโป๊ “
“ร้องไห้อย่างนี้ เดี๋ยว ครีเอทีฟจับไปถ่ายโฆษณารักแร้ขาว “

ฯลฯ



เพราะ........ว่าเราเองก็เคยเป็นเ้ด็กกันมาก่อน
และเมื่อเราโตขึ้นเรื่อยๆเราก็ได้เรียนรู้ว่า......มันมีอีกหลายอย่างที่น่ากลัว ยิ่งกว่าผี หมอ ตำรวจ และ ตุ้กแก ( ซึ่งจริงๆไม่กินตับ )


ด้วยรักและเคารพ

:->m’26




ป.ล หนังผีที่ผมกลัวที่สุดคือ "จูอง" ครับ ผมรู้สึกว่ามันโผล่ในสถานที่ในชีวิตประจำวันของเราๆมากเกินไป
( ผมกลัว )


Create Date : 08 กรกฎาคม 2550
Last Update : 8 กรกฎาคม 2550 2:14:25 น. 53 comments
Counter : 2546 Pageviews.  
 
 
 
 
โถ...กรรมของหมอ
 
 

โดย: Duke-ดุ๊ก วันที่: 8 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:24:38 น.  

 
 
 
อ้อมก็ไม่ชอบดูหนังผีค่ะ
(กลัวเหมือนกัน)

แหมๆๆ เด็กร่าเริงจริงเหรอคะ

เป็นหมอก็ลำบากเหมือนกันนะคะนี่
อ้อมไม่กลัวหมอเท่าไหร่
ยกเว้น......
หมอฟัน

กลัวมากๆๆ กลัมาตั้งแต่เด็ก
ทุกวันนี้ก็ยังกลัวอยู่เลยค่ะ
 
 

โดย: verdancy วันที่: 8 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:30:58 น.  

 
 
 
ไม่ชอบดูหนังผีเหมือนกันครับ
 
 

โดย: ต่อตระกูล วันที่: 8 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:36:52 น.  

 
 
 
เเต่ผมยังอยากโดนหมอฉีดยาอยู่นะคับ
 
 

โดย: CM_Guy IP: 61.7.146.73 วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:54:14 น.  

 
 
 
ไม่ชอบดูเหมือนกันค่ะ
หลอนมากๆเลย
แต่ไปอยู่ทางใต้
เจ้าค่ะว่าคุณหมอน่าจะหลอนกว่านะคะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
 
 

โดย: แฟนEOD วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:54:30 น.  

 
 
 

อ่านแล้วขำดีค่ะ
ชอบตรงที่บอกว่าให้หลอกเด็กด้วยอาชีพอื่นๆดู 555
แต่นึกๆดูแล้ว ก็จริงนะคะ
ที่บอกว่าพ่อแม่ชอบเอาข้อมูลใส่สมองลูกว่า
ถ้าร้องไห้ จะให้หมอจับฉีดยา
มันเป็นแบบนี้จริงๆค่ะ

เรื่องดูหนังผี
มาริอาก็ดูได้นะคะ
และก็ดูตอนกลางคืนก่อนนอนหลายครั้งเหมือนกัน
เพราะรายการต่างๆในทีวีไม่มีอะไรให้ดูแล้ว อิอิ

แต่ดีตรงทีพอมาริอาดูจบ ถ้าเปิดทีวีดูรายการอื่นๆ
พวกรายการเพลง ข่าว กีฬา หรืออะไรก็ได้
เป็นการคั่นความรู้สึกหลังจากที่ดูหนังผีเมื่อกี้
มันก็ทำให้ลดความกลัวในการดูหนึงผีไปได้ค่ะ
และก็ผิดไฟนอนหลับได้ตามปกติ ถึงจะนึกถึงเรื่องผีที่ดูเมื่อกี้
แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดหลอนจนนอนไม่หลับ



 
 

โดย: มาริอา วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:18:52 น.  

 
 
 
ต้องดูเรื่อง ผีช่องแอร์สิคะ เครียด น่ากลัวสุดๆๆๆ
เห็นด้วยกะการขู่เด็กเนอะ
ทั้งที่หมอออกจะใจดี แล้วก็สวยจะแย่
หรืออาจจะต้องเปลี่ยนคำขู่ว่า
" อย่าร้องนะลูก เดี๋ยวหมอหอมแก้มเอา" เอิ้ก เอิ้ก
 
 

โดย: นู๋เป็นเอ๊กซ์เทิน ค้า (มิกิโกะ ) วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:24:54 น.  

 
 
 

สวสดีครับคุณหมอ แวะมาทักทายครับ อย่าไปถือสาเด็กๆเลยครับ ยิ่งเด็ก 18 อัพนี่ น่ารักครับเห็นด้วยอิอิอิคุณหมอเองก็ต้องรักษาสุขภาพนะครับ
 
 

โดย: PANAJA วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:17:09 น.  

 
 
 
วันก่อนเพิ่งคุยกับเพื่อนหมอเรื่องนี้เหมือนกันครับ เหมือนเป็นการปลูกฝังเด็กผิดๆ

แต่ตอนเด็กๆผมไม่กลัวหมอฉีดยานะ ชอบด้วย(ซาดิสต์แล้ว)
 
 

โดย: tpipe วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:32:05 น.  

 
 
 
ดีใจจังเลยที่ตัวเองไม่กลัวผี ^^

ปล.บล๊อคสวยจังเลยครับ
 
 

โดย: แพ้รอยยิ้ม IP: 124.120.204.26 วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:34:10 น.  

 
 
 
แวะมาตอบข้อสงสัยค่ะ
EOD ย่อมาจาก EXPLOSIVE ORDNDNCE DISPOSAL หรือ นักทำลายวัตถุระเบิด ค่ะ
 
 

โดย: แฟนEOD วันที่: 10 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:29:28 น.  

 
 
 
อยากเปลี่ยนชื่อล็อกอินครับ
พักนี้รู้สึกไม่ค่อยชอบทหาร
 
 

โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 10 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:59:28 น.  

 
 
 
อ้าว... คุณหมอ... โยนภาระมาให้วิศวกรอย่างผมซะแล้ว อีกหน่อยเด็กๆ มันก็ไม่อยากจะมาเรียนวิศวะกันพอดี



ผมดู "จูออน" แล้วกลับไม่ค่อยรู้สึกกลัวแฮะ ผมว่ามันหลอกแบบไม่ค่อยมีเหตุมีผลเท่าไร เรียกว่าใครหลงเข้ามาบ้านหลังนั้นเป็นต้องถูกหลอกถูกฆ่าไปหมด ก็เลยรู้สึกว่ามันไร้เหตุผลไปหน่อยก็เลยไม่ค่อยกลัว

แต่ผมก็คล้ายๆ กับหมอแหละครับ ไม่ค่อยชอบดูหนังผีเท่าไร ดูแล้วเหนื่อยหัวใจ ต้องคอยระวังว่าหนังมันจะแกล้งให้เราตกใจตอนไหน เหนื่อยหัวใจแบบนี้ ไปลุ้นหนังแอ็คชั่นมันกว่า

แต่ถ้าหนังผีสวยๆ แบบ "สวยลากไส้" ก็พอทนครับ
 
 

โดย: คนทับแก้ว วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:56:11 น.  

 
 
 
แต่เราชอบดูน่ะ

แต่ไม่ชอบที่ทำให้ตกใจน่ากลัว
 
 

โดย: aymaze วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:38:48 น.  

 
 
 
ฮุฮุ เป็นแนวคิดที่ดีครับ อย่าเลี้ยงลูกโดยปลูกฝังให้เค้ากลัว สังคมเราก็จะเป็นสังคมที่อยู่ด้วยความกลัวจากสิ่งที่เราคิดไปเอง
 
 

โดย: Johann sebastian Bach วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:21:58 น.  

 
 
 
ถ้าหนังผีดูแล้วหลอนๆต้อง Shutter เลย

ขอบคุณนะครับที่แวะไปที่บลอค
 
 

โดย: เพลงนี้เกี่ยวกับความรัก วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:53:28 น.  

 
 
 
EOD นี่ดูเท่ห์มากครับ เป็นอาชีพที่ผมว่าสาวๆกรี๊ดน่าดู

ดีใจที่เห็นหลายๆคนไม่ชอบดูหนังผีเช่นเดียวกัน

ผมชอบคำแน่ะนำของน้องมิกิโกะมากครับ ที่ว่าจะให้หมอมาหอมแก้ม
ถ้าเป็นอย่างนี้จริง ผมคงแกล้งเด็กทุกคนเลย


เมื่อกี้เห็นเพื่อนมาบอกว่ามีหมอถูกจับเพราะไปถ่ายคลิปจุ๋เด็ก
ฟังแล้วเศร้าแทนอย่างแรงครับ

ส่วนคุณ cm_guy ครับที่ว่าชอบให้หมอฉีดยา นี่ตีความได้อย่างไรครับ
ผมฟังแล้วใจไม่ค่อยดี

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนมาครับ


 
 

โดย: เด็กผู้ชายที่ไม่แตะบอลตอนกลางวัน (kanapo ) วันที่: 12 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:46:40 น.  

 
 
 
เป็นคำขู่เด็กๆ ที่น่านำมาใช้มากเลยค่ะ อิอิ
 
 

โดย: ยัยหมามุ่ย (bon_bonkatz ) วันที่: 12 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:26:52 น.  

 
 
 
กลัวผี ไม่กล้าดูหนังผีอะคะ
 
 

โดย: เป็นกำลังใจให้คุณ วันที่: 12 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:48:49 น.  

 
 
 
ผี...ผีจับหัว
 
 

โดย: merveillesxx วันที่: 12 กรกฎาคม 2550 เวลา:23:01:12 น.  

 
 
 
หนังผีได้ก่อผลกระทบกะแป้งหอมระยะหนึ่งเหมือนกันคือ กลัวว่ามันจะมาลากขาเราตอนนอนหลับอ่าค่ะ ทำให้นอนพับขาซะเป็นเดือนโดยไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีคือ เจ็บหัวเข่ามาก และพยายามเลิกกลัว ตอนนี้เลิกกลัวแล้ว

เนื่องจากเป็นแม่ค้า สิ่งที่น่าเบื่ออย่างหนึ่งเกี่ยวกับเด็กเล็กและผู้ปกครองก็คือ เวลาที่เด็กจะซื้อขนมหรือลุกอม อมยิ้ม ที่พ่อแม่ไม่อยากให้กินแล้วก็จะ

"อย่าซื้อลูกอมนะ แม่ค้าเขาไม่ขายหรอก" -- โกหกให้เราเฉยเลย

"แม่ค้าเขาไม่ขาย บอกว่าไม่ขายก็ไม่ขายสิ" -- ใส่อารมณ์กะลูกจัง แม่ค้าเป็นงงเพราะยังไม่ได้พูดสักคำ

แม่ค้าเป็นคนผิดเองที่ไม่ขายลูกอมและขนมกับเด็ก เด็กบางคนมองหาเรื่องด้วยนะ 555+

สงสัยว่า ทำไมถึงไม่บอกลูกว่า แม่ไม่อนุญาตให้ลูกกินเองแหล่ะ เพราะฟันลูกจะผุ

เราปลูกฝังอะไรผิดๆในตัวเด็กมากมายเหลือเกินนะคะ
 
 

โดย: floral_flory วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:32:07 น.  

 
 
 
เห็นด้วยครับ สอนเด็กไม่ค่อยดีเลย พวกผู้ใหญ่นี่
 
 

โดย: mr.cozy วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:37:10 น.  

 
 
 
อ่านแล้วเริ่มกลัวผีตะหงิดๆ เลยนะเนี่ย

แต่ได้แง่มุมดีๆ ครับ ที่ขอให้ลองกระจายกลุ่มอาชีพ เช่น

“ร้องไห้อย่างนี้ เดี๋ยว วิศวกร จับไปสร้างสะพาน “
“ร้องไห้อย่างนี้ เดี๋ยวท่านนายกจับซุก ( หุ้น ) ”
“ร้องไห้อย่างนี้ เดี่ยว ผู้กำกับจับไปถ่ายหนังโป๊ “
“ร้องไห้อย่างนี้ เดี๋ยว ครีเอทีฟจับไปถ่ายโฆษณารักแร้ขาว “

ขอบคุณที่แวะไปอ่านงานของผมนะครับ ยินดีที่รู้จักครับ
 
 

โดย: pu_chiangdao วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:35:21 น.  

 
 
 
น่าดูมากเลยค่ะ นางเอกสวยสุดๆ อยากดูๆๆ

ขอบคุณนะค่ะที่แวะไปเป็นเพื่อนน้องๆ
กาแฟเพิ่งกดออกมาจากเครื่องใหม่ๆค่ะเลยเป็นฟองสีขาวข้างบนมองไม่เห็นสีกาแฟข้างล่างนะค่ะ
แล้วจะแวะมาหาอีกนะค่ะ
 
 

โดย: แม่น้องKevin and Jasmin วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:50:17 น.  

 
 
 
มาอีกครั้งและได้อ่าน Little Miss Sunshine ทำให้อยากดูมากๆเลยค่ะ

และนอกจากปมด้อยแล้ว เราต่างมีความเป็นเด็กอยู่ในตัวด้วยเช่นกัน
 
 

โดย: floral_flory วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:01:44 น.  

 
 
 
สวัสดีค่ะ แวะมาทักทาย เห็นไปแจ้งว่าขอแอดบล็อกไว้ เลยกลับมาขอแอดบล็อกนี้ด้วยเช่นกันนะคะ
 
 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:30:03 น.  

 
 
 
เป็นคนที่ชอบดูหนังผีค่ะ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
มันตื่นเต้นดีมั้งคะ และที่ดีอย่างก็คือ หนังจบแล้วก็จบไป
ไม่ได้เก็บมาหลอนต่อ
สำหรับเรื่องเด็ก เข้าใจเลยนะคะเพราะผู้ใหญ่มักจะหลอกเด็กอย่างนั้นจริงๆ
ตอนเด็กๆก็เคยโดนหลอกแบบนี้แหละค่ะ แต่ก็โชคดีอีกหละ
ที่ไม่ได้กลัวหมอ ไม่กลัวเข็มฉีดยา ไม่กลัวการกินยา
อันนี้คงต้องยกความดีให้แม่ค่ะ เพราะแม่มักจะเป็นคนพาไปหาหมอเอง
แล้วระหว่างเดินทางแม่ก็จะเล่าให้ฟังว่าวันนี้เราจะไปไหน
ไปทำอะไร และท่านก็จะให้เหตุผลว่ามันไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
....................
รักาสุขภาพและหลับฝันดีนะคะ คุณหมอ
 
 

โดย: เราสองคน (ฝากเธอ ) วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:36:48 น.  

 
 
 
“ร้องไห้อย่างนี้ เดี๋ยว หมอ จับไปช่วยทำแผลนะ “ พอไหวไหมคะ
 
 

โดย: เป็นกำลังใจให้คุณ วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:42:21 น.  

 
 
 
มาส่งการ์ดเชิญ
"ประสบการณ์ฮา ๆ ของว่าที่ครูตัวน้อย"

ตอน...เรื่องเล่าจากริมรั้ว (2) ค่ะ
 
 

โดย: verdancy วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:10:00 น.  

 
 
 
แวะมาเยี่ยม น้องหมอ ยินดีต้อนรับสู่นราธิวาสครับ


ระแงะ เคส ER เยอะหน่อยนะครับ


สู้นะครับ น้อง
 
 

โดย: บางนรา (บางนรา ) วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:35:21 น.  

 
 
 
่้เ่ี้เราจะดูผีครับ

 
 

โดย: เอ้ระครับ IP: 124.120.238.109 วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:56:37 น.  

 
 
 

แวะมาทักทายครับ หมอน่าจะเลิกกลัวผีนะครับ ถ้าผีสาวเซ็กซี่มาหลอกล่ะหมอคงยอมใช่ป่าวครับ
 
 

โดย: PANAJA วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:07:13 น.  

 
 
 
 
 

โดย: เด็กผู้ชายที่ไม่แตะบอลตอนกลางวัน (kanapo ) วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:05:59 น.  

 
 
 
ไม่ดูหนังใดๆเลยค่ะ
ไม่ชอบบรยากาศในโรงหนังน่ะค่ะ

ส่วนหนังผีก็ดูได้ค่ะ ไม่กลัวเท่าไหร่
เพราะบางเรื่องมันไม่สมจริงเอาซะเลย
ส่วนจูออน ดูจากทีวีแล้ว ก็น่ากลัวเหมือนกันเนอะ
เหตุผลเหมือนกับคุณเจ้าบ้านเลยค่ะ
 
 

โดย: กระต่ายลงพุง วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:15:03 น.  

 
 
 
"จูอง" กลัวเหมือนกันค่ะ เพิ่งคิดได้ว่าไม่น่าเข้ามาอ่านเลย เพราะทำให้คิดถึงหนังเรื่องนี้อีกครั้ง แล้วมันก็จะตามหลอกหลอนเราไปอีกหลายวัน

คุณเขียนได้สนุกดีนะคะ อ่านแล้วไม่เบื่อเลย
โดยส่วนตัว เราไม่กลัวหมอ เพราะต้องเข้าออกโรงบาลบ่อยๆ ตั้งแต่เด็ก แล้วเราก็ไม่เคยงอแงต่อหน้าคุณหมอ เพราะฉะนั้น เราคงไม่ใช่เด็กที่จะทำให้คุณรู้สึกว่าเจอแล้วจะเกิดอาการ "เปรี้ยวตีน" ได้

ปล. พอดีสาขาที่เราเรียน ทำให้เรามีความจำเป็นต้องไปเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมต่างๆ นานา เมื่อมีความจำเป็นต้องไปทำข่าว แล้วเราก็เป็นคนกลัวผี ไม่ทราบว่าจะมีวิธีแก้ไขยังไงค่ะ คุณหมอ

เราเองก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราภาพจากคดีที่แล้วยังตามหลอกหลอนอยู่เลย
 
 

โดย: What A Girl Wants... (picnic244 ) วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:08:32 น.  

 
 
 
ของอย่างนี้ต้องใช้วิธีที่เรียกว่า Desensitization
พูดง่ายๆคือให้เจอบ่อยๆครับ จน "ชิน"

คิดว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดครับ

ดูแล้วน่าจะเป็นงานที่ดูสนุกไม่เบาน่ะครับ

 
 

โดย: เด็กผู้ชายที่ไม่แตะบอลตอนกลางวัน (kanapo ) วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:24:18 น.  

 
 
 
ไม่ชอบดูหนังผีเหมือนกัน แต่คนรอบตัวชอบจัง
เคยดูเรื่องอะไรนะ ที่ทรายเล่นหลายปีก่อน ไม่กล้าหลับตาในห้องน้ำตั้งหลายวันน่ะ
 
 

โดย: อั๊งอังอา วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:28:31 น.  

 
 
 
ไม่ชอบดู (หรือฟัง) หนังผีเหมือนกันค่ะ เพราะว่าเป็นคนที่จินตนาการดีมาก เวลาเห็นหรือฟังจะสามารถคิดถึงภาพที่เรากลัวมากที่สุดได้ทันทีและจำติดตานานมาก
 
 

โดย: เดอะ กั้ง วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:20:41 น.  

 
 
 
the Ring นี่เป็นหนังผีที่รู้สึกหลอนที่สุด
ดูจากวีดีโอยิ่ง in ไปกันใหญ่ 5555
ครั้งแรกที่ดู ต้องใช้เวลาทำใจอยู่นานมาก
เปิด-ปิด แล้วอีกวันค่อยมาดูใหม่อยู่หลายรอบ

เลี่ยงได้ก็เลี่ยง หนังผี หนังแหวะ หนังเลือดสาดเนี่ย
ปกติชีวิตจริงไม่กลัวผี
แต่หนังพวกนี้มันบิ๊วต์อารมณ์จนไม่กลัวไม่ได้แย้วววว >__<
 
 

โดย: jimkong วันที่: 21 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:04:44 น.  

 
 
 
จริง ๆ ด้วยครับ ไม่ชอบเลย
 
 

โดย: เจ้าชายน้อย IP: 203.155.120.56 วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:01:30 น.  

 
 
 
มีประสบการณ์ตรงเรื่องนี้เลยค่ะ

เนื่องจากคุณแม่มีน้องชายคนสุดท้องตอนเราอายุ 15
ดังนั้นเราก้อเลยคล้ายๆได้ฝึกเป็น "คุณแม่มือใหม่" ซะงั้น

มีอยู่ครั้งนึงน้อง(ตอนนั้น 3-4 ขวบได้)ร้องไห้ไม่ยอมหยุด
ก้อเลยกะจะขู่ว่า " เดี๋ยวให้ผีมาหลอกนะ"

แล้วชั่วแว่บนั้นก้อฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า
อ๋อ...อย่างนี้นี่เองที่น้องชายคนกลางซึ่งตอนนี้ก้อ 25 เข้าไปแล้วยังกลัวผีอยู่เลย...

ก้อเลยเปลี่ยนไปใช้คำขู่อื่นแทน...

"เดี๋ยวพี่ไม่รักนะ" เข้าท่ากว่ามั้ยคะ
 
 

โดย: หญิงสาวจากดาวอังคาร (annie_martian ) วันที่: 22 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:38:47 น.  

 
 
 
ดีครับ
 
 

โดย: เบสครับ IP: 203.113.17.173 วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:32:44 น.  

 
 
 
+ อืม ... เริ่มต้นจากหนังผี คุณหมอเขียนแตกประเด็นย่อยได้ซะหนุกหนานเช่นเคยนะครับ ไล่เรียงกันไปทีละประเด็นแล้วกัน ...

+ หนังผี ... ผมชอบหนังผีแบบมีปม มีแง่มุมทางจิตวิทยา หลอกโดยไม่ใช้ภาพที่ผีหน้าขาว ผมยาวโผล่ออกมาแบ่รๆๆ แต่เป็นการหลอกแบบ 'หลอน' ให้คนดูจินตนาการเอาเองอ่ะครับ ... หนังผีที่ดูแล้วชอบนี่ก็ The sixth sense กับ The others ... ส่วนของไทย ชัตเตอร์ นี่เป็นหนังผี 'มีปม' ที่ทำได้ดี และถ้าหลอนด้วยบรรยากาศก็ต้อง เปนชู้กับผี อ่ะครับ ... ส่วน Ringu กับ อู๋อ่อน เอ๊ย! จูออน ไว้จะหามาดูอ่ะครับ เหอๆๆ

+ ผมมีความรู้สึกว่า ผู้ชายหลายคนจะไม่ชอบดูหนังผี (ในขณะที่ผู้หญิงหลายคนกลับชอบ) แล้วเวลาเป็นแฟนกัน ถ้าผู้หญิงลากผู้ชายไปดูด้วย ... แล้วผมขำอ่ะครับ อย่างเพื่อนผม เห็นบอกว่าต้องเอามือปิดตา แล้วดูลอดหว่างนิ้วเอา ทำไปได้! เหอะๆ

+ ตอนเดะๆ ผมก็คิดว่าตัวเองเป็นคนขี้กลัวผีมั่กๆ นะครับ แต่พอโตขึ้น มาเทียบกับเพื่อนๆ แล้ว ผมยังกล้ากว่าพวกมันเยอะเลย หุๆ ... ไว้เร็วๆ นี้ผมว่าจะอัพบล็อกเป็นหน้าเกี่ยวกับผีๆ วิญญาณๆ เนี่ยแหละครับ เขียนเสร็จแว้วเด๋วจะมาส่งเทียบเชิญไปอ่านน้า

+ ปกติผมเป็นคนรักเด็ก (ยกเว้นเด็กที่กิริยาไม่น่ารัก) ... เวลาเจอเด็ก ผมชอบยิ้ม ยักคิ้วหลิ่วตาให้ประจำ ... เอ! ผมเป็นพวก Pedophile รึป่าวเนี่ย? .............. อ่ะ ล้อเล่ง

+ คำขู่มักใช้ได้ผลสำหรับเด็กดื้ออ่ะครับ ผู้ปกครองทั้งหลายเลยนิยม ... หาคิดไม่ว่ามันจะเป็นการสร้างความกลัว (แบบผิดๆ) แก่เด็กเมื่อโตขึ้น ... ว่าแต่คุณหมอทำอาชีพผมเสียหายนะครับ จะให้จับเด็กไปสร้างสะพานเนี่ยนะ? คงต้องเป็น The bridge on the river Kwaei (เขียนไงหว่า?) แล้วมั้งคับนั่น เหอๆๆ

+ ข่าวเรื่องหมอถ่ายคลิปเด็กนั่น ... ฟังแล้วก็ประหลาดๆ ดี ... เจ้าเด็กคนนั้น (เห็นว่าไปรักษาสิว) รู้สึกจะอายุ 14-15 แล้ว ก็ไม่น่ายอมจนหมอถ่ายได้เสร็จ ... คือแค่หมอล้วงเข้าไป แล้วควักออกมา (เอ่อ ... ติดเรทไปมั้ยเนี่ย - -') ถ้ารับไม่ได้ ก็น่าจะสกายคิกหมอไปเลย ... แต่หมอคนนั้นก็เหลือเกินจริงๆ อดใจไม่ไหว ถึงขั้นถ่ายคลิปเลยเนี่ยนะ ... ทำแบบนี้ทำร้ายเด็กผู้เป็นเหยื่อโดยตรงเลยอ่ะครับ คือต่อไป เค้าก็จะกลายเป็นได้ 2 อย่าง ถ้าไม่ติดใจจนเบี่ยงเบนไปเลย ก็จะกลายเป็นพวก Homophobia ไปซะฉิบ
 
 

โดย: บลูยอชท์ วันที่: 1 สิงหาคม 2550 เวลา:11:19:44 น.  

 
 
 
 
 

โดย: โดม IP: 202.143.135.252 วันที่: 12 สิงหาคม 2550 เวลา:10:16:00 น.  

 
 
 
 
 

โดย: ควายโดมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ IP: 202.143.135.252 วันที่: 12 สิงหาคม 2550 เวลา:10:17:54 น.  

 
 
 
 
 

โดย: จากหนุ่มลูกแมว IP: 203.172.207.254 วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:12:31:52 น.  

 
 
 
น่า
กลัวมาก
 
 

โดย: print IP: 58.137.99.133 วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:11:52:02 น.  

 
 
 
ฮ่า ฮ่าๆๆ เราก็กลัวนะผีง่ะ แต่ก็ชอบดู ทำไมก็ไม่รุ้ ทั้งที่

กลัวแต่อยากดู ฟังแล้ว งงๆ เนอะแต่ดูที่โรงหนังเราก็ไม่

เอา เพราะมันจาน่ากลัวแล้วก็ตัวโตกว่า ทีวีที่บ้านด้วย

เห้นด้วยม่ะค่ะ
 
 

โดย: แก้มหอม IP: 58.9.164.94 วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:16:49:42 น.  

 
 
 
เห็นด้วยคร้าบบบบบบบ
 
 

โดย: เด็กผู้ชายที่ไม่เตะบอลตอนกลางวัน (kanapo ) วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:0:45:38 น.  

 
 
 
กลัวเหมือนกันค่ะ
แต่ก็ชอบดูเหมือนกันค่ะ
 
 

โดย: VeeJie วันที่: 12 สิงหาคม 2551 เวลา:4:45:01 น.  

 
 
 
รู้สึกเหงายังไงไม่รู้ อยากมีเพื่อนที่รู้ใจ
 
 

โดย: เค้ก IP: 203.172.199.254 วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:10:32:36 น.  

 
 
 
555+
 
 

โดย: 00 IP: 125.25.223.44 วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:13:56:10 น.  

 
 
 
น่ากลัวคร่า
 
 

โดย: นิชาจัง IP: 124.121.124.226 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:06:34 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

kanapo
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เด็กผู้ชายที่ไม่เตะบอลตอนกลางวัน

@boydontkick
[Add kanapo's blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com