การเสวนาขยายต่อกรอบเรื่องชนชั้น จาก "มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล" จากเฟซบุ๊กถึง "ชนชั้นกลาง"

"ประเทศไทยกำลังถูกเปลี่ยนถ่าย เสียงของชนชั้นรากหญ้าเงียบมาตลอด
ประวัติศาสตร์ประเทศไทย กำลังเสียงดังขึ่้นเรื่อยๆ จนพวกอุปโลกกำลังสั่น
สะเทือนด้วยโอกาสทีั่กักเก็บกำลังถูกกระจายมากขึ้น ไม่ใช่ไปกระจุกความมั่งคั่งอยู่กลุ่มเดียวอีกต่อไป"

จุดเริ่นต้นของผมที่ปรากฏในกระทู้เสวนาประวัติศาสตร์ของห้องเฉลิมไทย ใน พันทิป ของกระทู้บทสัมภาษณ์มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล" จากเฟซบุ๊กถึง "ชนชั้นกลาง" ด้วย "รักแห่งสยาม" ที่แท้



















ลองเข้าถึงส่วนถามตอบที่ผมได้เข้าไปถามตอบในกระทู้พันทิปนั้น


คอมมิวนิทส์ ไม่ใช่สังคมที่เท่าเทียมแบบไร้ทุนนิยม แต่แค่เปลี่ยนวิถีการผลิตโดยรัฐเป็นตัวกำหนดทิศทางเดียว

- คอมมิวนิทส์ ก็ยังไปวิถีการผลิตทุนนิยมแบบตอบสนองตลาดโลกเด้อ แค่รัฐเป็นคนกำหนดวิถีการผลิต จึงผลิตตามระบบตลาดทุนนิยมโลก จัดระเบียบเป็นทิศทางเดียวเท่านั้น มันไม่ใช่คำตอบเลย อย่างแบบจีน ถามหน่อย คอมมิวนิสท์แบบจีนไม่ทุนนิยมตรงไหน แลกสะสมความมั่งคัง ด้วยทรัพยากรประเทศ จนมลพิษ มลภาวะเน่าเละหลายส่วนของประเทศ สังคมที่พอจะเท่าเทียมมากสุด ประชาธิปไตยรัฐสวัสดิการแบบสแกนดิเนียเวีย ซึ่งหลายประเทศกำลังเดินไปทางแนวนี้ เช่นออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เต็มๆ จาก social weflfare สูง


ในอุตสาหกรรมส่งออก ชนชั้นกลางมีส่วนในขูดรีดนอกจากชนชั้นล่างเหนือจากนายทุนชั้นสูงยังไง

- จะใช้แนวทฤษฎีมูลค่าส่วนเพิ่ม value added ระหว่างการผลิตมาอธิบายนะ จะเห็นว่ามันไปกระจายส่วนต่างไม่เท่ากัน

เริ่มจาก คิดย้อนกลับนะ สินค้าส่งออก ขายออกไปกำไร 10 บาท ตกอยู่ในกระเป๋านายทุนชนชั้นสูง ประมาณ 5.5 บาท ไปตกกับชนชันกลางที่เป็นพ่อค้าและภาคบริการ 3.5 บาท แล้วเหลือถึงเกษตรกร ชนชั้นล่าง 1 บาท ทั้งที่ผู้ผลิตขั้นแรก ในเรื่องจริงสัดส่วนฐานล่างสุด อาจได้ไม่ถึง 1 ด้วยซ้ำ จะเห็นว่าสุดท้ายรายได้กระจายสัดส่วนไม่เท่ากัน ถ้าแบ่งเท่าต้อง 3.3 บาททุกส่วนการผลิต แบบระบบผลิตในประเทศพัฒนาแล้ว ที่ผลผลิตพื้นฐานทางกสิกรรมถูกดันให้ราคาสูงเพื่อให้เกิดกระจายรายได้ที่เป็นธรรม จากที่แสดงออกมา ชนชั้นล่างถูกขูดรีดไป 2.3 แบ่งเป็นนายทุนขูดรีด 2.1 แล้วชนชั้นกลางขดรีด 0.2 เข้าใจปล่าว แม้แค่ 0.2 ในระบบมหาภาค ก็คงใหญ่พอควรแล้วล่ะ แล้วพวกคุณบอกแค่ว่านายทุนขูดรีดฝ่ายเดียวจึงไม่ถูก พวกเราก็ขูดรีด แต่สัดส่วนไม่มากเท่านายทุนเท่านั้น เมื่อพิจารณาต่อหน่วยคน ยิ่งฐานล่างเป็นส่วนใหญ่ประเทศ ไอ้ 1 ที่ได้เลยหารกระจายเลยเหลือนิดเดียวต่อคน ขนาดชนชั้นกลางน้อยกว่าพอสมควร เมื่อหารต่อหัว ก็เลยยิ่งไปถ่างกว้างใหญ่เลย




















กระบวนเคลื่อนไหวทางสังคมจากมวลชนฐานล่าง

- ด้วบความคาดหวังผม แล้วก็บอกเสมอ ผมหวังกระบวนการเคลื่อนไหวสังคมของมวลชนเสื้อแดงผู้ยากไร้สามมารถก้าวพ้นทักษิณและแกนนำ โดยสามารถสร้างตัวแทนของพวกเขาขึ้นมา มันเป็นแนวคิดเชิงอุดมคตินะ แต่ตอนนี้แนวโน้ม บทบาททักษิณ และ แกนนำ เริ่มหดตัวลงกระบวนการเคลื่อนไหวเสื้อแดง มันจึงมีความเป็นไปได้ ในกระบวนการเคลื่อนไหวสังคม กว่าจะก่อตัวเป็นรูปร่างฝืนกลุ่มอำนาจเดิม อย่างน้อยต้อง 20 ปี มันจึงเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายที่หลุดพ้นกลุ่มอำนาจเดิม และ ขั้วอุปถัมในตอนนี้ ซึ่งขอย้ำมันเป็นเพียวความคาดหวังของผม ไม่ได้ไปทำนายรับรองว่ามันจะเกิดได้จริง แต่มันมีความเป็นไป ในประเทศเขาทำกันมาแล้ว อย่างพวกพรรคแรงงานของอังกฤษก็มาจากกระบวนการเคลื่อนไหวสังคมแบบนี้ แต่ในสายวิชาการ โดยเฉพาะเศรษฐศาสตร์การเมือง นักวิชาการต่างพยากรณ์และเชื่อว่ามันมีแน่ในวันนั้น เพราะพวกเขาคือฐานส่วนใหญ่ประเทศ ด้วยมวลชนบวกการเรียนรู้ที่ขับเคลื่อนไปด้วยกัน จะทำให้เกิด ดังประเทศต่างที่พัฒนาแล้ว ที่พวกสายกสิกรรมสามารถถูกแปรเปลี่ยนเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการได้ ในกงล้อประวัติศาสตร์ ระลอกคลื่นจะเปลี่ยนถ่ายจากชนชั้นสูงเป็นแกน สู่ชนชั้นกลาง และ ชนชั้นแรงงาน

ในประเทศไทย 2475 คือระลอกแรกของชนชั้นสูง 6 ตุลา จนถึง พฤษภาทมิฬ เป็นระลอกคลื่นชนชั้นกลาง แล้วณ ปัจจุบันกำลังเป็นระลอกคลื่นสุดท้าย คือ ชนชั้นแรงงานหรือชนชั้นล่างที่เป็นแกนของประเทศ แล้วโครงสร้างพีระมิดเศรษฐกิจจะเปลี่ยนแปลง จากฐานล่างกว้าง ไปสู่ฐานกลางกว้างสุดแทน แล้วแบนราบ ผมเลยบอกว่าปรากฏการณ์ที่เกิดเป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะเกิดในประเทศพัฒนาแล้วมาหมด ทั้งสหรัฐ อังกฤษ แต่เขาปรับตัวระหว่างส่วนบน กลาง ล่าง ยังไงให้เกิดการยอมรับการเปลี่ยนปฏิสัมพันธ์เชิงอำนาจที่เกิดขึ้นยังไง อย่างที่อังกฤษ ค่อนข้างเปลี่ยนถ่ายแบบรุนแรงน้อยหน่อยเป็นต้น

ปัญหา contract farming เรื่องเศร้าของกสิกรรมไทย

- จริงด้านกสิกรรมของไทย ถูกครอบงำด้วยทุกยักษ์ใหญ่ที่คุณคงรู้ว่าใคร ในระบบ contract farming ที่ถูกล่อถด้วยการครอบงำตลาด ให้ทำสัญญาตั้งแต่ซื้อลูกอ่อน ต้นกล้า ปู๋ย อาหารสัตว์ ค่าวัคซีน พอสามารถเติบโตถึงระดับขายได้ ก็ขายคืนบริษัททุนนั้น โดยชาวนาและกสิกรรม ต้องแบกรับความเสี่ยง และค่าเช่าที่ดินทำกิน เกษตรกรรมส่วนใหญ่ไม่มีที่ดินทำกิน สมมติว่าเจ๊ง ทุนยักษ์ก็ไม่ได้เจ๊งเกี่ยวข้องอะไรเลย

พวกทุนใหญ่จะบีบบังคับให้ผลิตตามกลไกตลาด เลยเจอการทำกสิกรรมเชิงเดียวที่ไม่เหมาะภูมิศาสตร์เข้าไป ทำลายระบบนิเวศ กสิกรรมแบบนั้นอยู่ได้ไม่นานก็เจ๊ง พอกลไกตลาดเปลี่ยนไป ก็ราคาตก แบบรับขาดทุน อย่างที่ตราด เจอ ทุนยักษ์ล่อให้เปลี่ยนจากนาข้าวไปทำนากุ้งกุลาดำ พร้อมอัดเคมีภัณฑ์ให้เจริญเติบโต พอกุ้งราคาตก จะหันไปปลูกข้าวอย่างเดิม สภาพดินที่ทำหากินก็สูญเสียสภาพเพาะปลูก เป็นหนี้นอกระบบเป็นล้านบาท ถึง สิบล้านเลย เรื่องเศร้ากสิกรรมเมืองไทย















สิทธิการเรียกร้องของมวลชนที่สูญเสียจากระบบประชาธิปไตย

- ความเชื่อในระบอบประชาธิปไตย ความเชื่อพวกนี้ ต้องยอมรับผลการเลือกตั้งของปวงชน เพราะ กลุ่มคนบางส่วนมักจะไปงัดคำว่าทักษิณ และ พวกรากหญ้าไม่ฉลาด ทำลายทุกความชอบธรรมที่เกิดขึ้น ทั้งที่ยังไม่ได้เกิดอะไรชี้ขัดขนาดนั้นเลย แล้วถ้าเกิดจริงๆ ยังไม่รู้ว่าจะมีมวลชนยอมรับไหม ผลปวงชนส่วนใหญ่ชี้อย่างนี้ กลุ่มคนบางส่วนชอบไปสร้างเกมนอกระบบเพื่อทำลายมัน ประเทศเราเลยไม่มาตรฐานอย่างที่เห็นทุกวันนี้

มวลชนแดงเน้นย้ำ ยุบสภาคือป้ายไมล์แรกของการต่อสู้ เพราะฉะนั้น มวลชนเหล่านั้นเขารู้ว่ายุบเสร็จ มันคงไปเท่าเทียมทันทีไม่ได้ มีแต่กลุ่มคนบางส่วนคิดแทน ยัดสมการให้เขาบอก ยุบแล้วไม่ได้อะไรดีขึ้น ยุบไปทำไม พวกเขาโดนหลอกให้ต่อสู้ แต่ยุบแล้ว เขาได้อะไรล่ะ ผมจะขยายความให้ฟัง สิทธิกับเสียงของเขาคืนมาไง ตอนเขาไปเลือกตั้ง เพื่อไทย ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา พรรคพวกนี้ พวกเขาไม่ได้ไปเลือกสักพรรคเลย หลายส่วนเลือกพลังประชาชนที่แปรรูปไปอยู่ภูมิใจไทย ไปหนุนประชาธิปปัตย์ รัฐบาลซะงั้น

เขาชอบนโยบายพลังประชาชนนะ สิทธิกับเสียงเขาหายไปเฉยเลย อันนี้รอบสองนะ ไม่ใช่เพิ่งเกิด ตอนทักษิณ เจอรัฐประหาร นั่นรอบแรก สิทธิเสียงถูกริดรอน พอรอบสองอีกครั้ง เขาก็ยังกากลุ่มเดิมกลับมา

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น 2 รอบ มันไปเครพสิทธิและเสียงเขาไหม ถ้ายุบสภาหมายถึงอะไร สิทธิและเสียงของเขาที่ถูกละเลยมาตลอดในระบบ โดยผ่านการยืนยันผ่านทฤษฏี สองนครา ของอาจารย์อเนก เหล่าธรรมทัศน์ ที่เลื่องชื่อมาก คือ คนชนบทเลือกรัฐบาล คนเมืองล้มรัฐบาล ซึ่งทฤษฎีนีพิสูนจ์ว่าเป็นจริงมาตลอด 15 ปี ปัจจุบันก็ยังจริงอยู่ จากการยังค้ำยันรัฐบาลอภิสิทธิ แปลว่าสิทธิและเสียงพวกเขาถูกเบียดบังมาตลอดใช่ไหม แปลว่าเสียงเขาถูกละเลยตลอดใช่ไหม

ยิ่งตอนหลังการเลือกตั้งรอบนอกอิงนโยบายพรรคและสถาบันพรรคมากกว่า ฐานเสียงท้องถิ่นตัวบุคคล จึงมีความเสถียรภาพมากกว่าคนกรุง ที่ยังมีการเมืองตามกระแส แต่ตอนหลังถูกบีบให้อยู้่กับ ปชป ส่วนใหญ่โดยเฉพาะกลางกรุงเทพ เพราะรู้สึกว่าเป็นตัวแทน บริบทตนได้ดีสุด

เพราะฉะนั้นการทำให้รัฐบาลยุบสภา จึงเป็นการทำลายทฤษฏีสองนคราที่เกิดขึ้น พิสูนจ์ว่าไม่เป็นจริง แน่นอน ทุกคนเลือกตั้ง ก็ใช้สิทธิกับกลุ่มผลประโยชน์ที่เอื้อสนองความต้องการคุณ นัยยะหนึ่งคือนโยบาย หลังจากการหักล้างทฤษฏี สองนคราเกิดขึ้น รับรองต่อไปทุกพรรคการเมือง ต้องมุ่งออกนโยบายสาธารณะแก่รากหญ้าเป็นหลัก พร้อมทำความเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง แทนที่จะไปละเลย เนื่องจากสเถียรภาพรัฐบาล เสาค้ำถูกเปลี่ยนขั้วจากคนกรุงสู้ชนบท ซึ่งจะการกระจายการพัฒนาที่เจริญขึ้นสู่รอบนอก ซึ่งเป็นแนวทางที่ถูก พวกคุณจะไปพัฒนาอะไรกรุงเทพ แค่นี้ก็เออล้น อึดอัดแทบตายแล้ว












หลักกิโลเมตรแรกสู่การได้สิทธิโดยพื้นฐานของประชาธิปไตย

ดังนั้นหลักกิโลเมตรแรก คือ การยุบสภาครั้งนี้ จึงมีความหมายแก่พวกเขา ทฤษฏีสองนคราต้องถูกทำลาย จากมวลขนผู้ยากไร้อยากลืมตาอ้าปาก ส่วนคำว่าอำมาตย์นี่คงไม่ได้หมายถึงในเชิงข้าราชการชั้นสูง ทักษิณก็อำมาตย์ตนหนึ่งเหมือนกัน แต่เป็นอำมาตย์พลัดถิ่นถูกริดรอนสิทธิความเป็นธรรมเช่นกัน ในมุมมองพวกเขา จึงอยู่ในสถานะไพร่เช่นเดียวกัน เรื่องทักษิณขอยกไว้ต่างห่าง แค่ผมบอกว่าตนเป็นไพร่ ยังมีคนเอาไปเหน็บกระทู้ดาราเลย แปลว่าความหมายเหล่านี้ ถ้าไปตีความ ขยายความ เดียวจะไปขยายประเด็นกระทู้เดือด เพราะกรอบความเชขื่อ ถูกฝังไม่เหมือนกัน บางคนไปอิงละครน้ำเน่าไทย ซะงั้น เอาคำว่าไพร่ไปแทนพวกคนใช้ คนชั้นล่างที่ถูกดูถูกโดยชนชั้นสูงในละคร แต่ไพร่ในบริบทที่มวลชนเสื้อแดง คือไพร่ฟ้าประชาชน ทุกคนล้วนเป็นไพร่ ยกเว้นสถาบันเบื้องสูง

อีกอย่าง เป้าหมายตอนนี้เขาไม่ได้ไปตั้งเป้าถึงขนาดต้องเท่าเทียมกับพวกชนชั้นกลาง พวกเขาตั้งเป้าแค่เพิ่มสิทธิและโอกาสความเป็นธรรมแก่พวกเขามากขึ้น กระบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมที่เกิดแค่นั้น ยังต้องว่าถึง 10 ปีเป็นอย่างน้อย เพราะฉะนั้นไม่จบแค่ยุบสภา ไม่ยุบสภา หวังว่าคุณคงเข้าใจมาก ขึ้น ทำไมการยุบสภาในรัฐบาลนี้จึงสำคัญกับพวกเขา มันหมายถึงจุดเปลี่ยนประเทศไทย ที่ผู้ถืออำนาจเดิม และ ชนชั้นกลางอิงชนชั้นสูง ต้องออกมาค้ำไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะหมายสิทธิและประโยชน์ พวกตนก็จะหายไปด้วย

กระบวนการพัฒนาการเคลื่อนไหวทางสังคมของมวลชนฐานล่าง

- อยากให้เข้าใจพัฒนาการความเข้าใจกระบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม มันไม่ใช่ จาก A ไป B ในข้ามคืนเดียว มันใช้เวลานาน แล้วไม่จำเป็นต้องเป็น B 100 % ในบั้นปลายดุลยภาพสังคม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว จะ B 25% 50% 75% ได้ทั้งนั้น ในความเป็นจริง แต่เมื่อเกิดแล้ว จะไม่ให้เกิด B สักเปอร์เซนต์ก็เป็นไปไม่ได้

การกล่าวอ้างกรณีพรรคแรงงาน มีการตั้งคำถามว่ามวลชนเสื้อแดงไม่เห็นตั้งพรรคเขามาเองเลย

- คำถามนี้ ตอบไม่ยากเลย เพราะว่าตอนนี้ ไม่ว่าไทยรักไทยเดิม พลังประชาชน เพื่อไทย ถือว่าเป็นตัวแทนเขาอยู่ เขาจะไปตั้งทำไม ในเมื่อเขามาเรียกร้องให้ตัวแทนเขาที่เสียสิทธิด้วยอำนาจนอกระบบ แต่ถ้าเลือกตั้งใหม่ เพื่อไทยในฐานะตัวแทนเขาในปัจจุบัน ไม่สามารถตอบสนองความต้องการเขาได้ เขาต้องตั้งพรรคใหม่มาเป็นตัวแทน ซึ่งเหมือนคุณไปพิจารณา เพื่อไทย กับ มวลชนแดง ใช่ว่าจะทิศทางเดียวกันตลอด มันไม่ต่างจาก พันธมิตร กับ ปชป ที่ร่วมกันตี พอชนะแล้วสามารถแยกกันเดินได้ ปรากฏการณ์แดง มีต้นแบบที่ผิดๆ จากพันธมิตรส่วนหนึ่ง ถามหน่อยแนวโน้ม จะไม่มีเลยหรือ ถ้ามวลชนและแกนนำอยากจะตั้งพรรค ซึ่งแนวอุดมการณ์เขาก็ประกาศ ณ วันนี้ เพื่อไทย ในฐานะตัวแทนที่เขาเลือก ยังสามารถไปได้ แต่ไม่หมายความต้องผูกติดตลอดไป ถ้าวันนี้ เพื่อไทย กับ มวลชนแดง ไม่สอดคล้อง ก็สามารถแยกทางเดินกัน












สิทธิชุมชนคือกุญแจนำชนชั้นฐานล่างทางกสิกรรม สู่ความเป็นผู้ประกอบการ

-สิทธิชุุมชน จะนำมาสู่ภูมิปัญญญาชาวบ้าน ต่อยอดสู้เศรษฐิกจแบบสร้างสรร พลิกฟื้นกรรมสิทธิชุมชน แทนกรรมสิทธิเอกชน หนึ่งในช่องทางต่อยอดฐานเศรษฐกิจชุมชน แต่น่าเสียดาย รัฐบาลชุดนี้ ให้ความสำคัญ เศรษฐกิจสร้างสรร แต่ดันอยากไปเดินรอยเท้า เกาหลีใต้ จัดสู้พวกหนัง แต่ค่างชาติเขารักความเป็นไทย ในวิถีชาวบ้านมากกว่า ผมเคยอยู่เชียงใหม่ ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องการท่องเที่ยว คุณเชื่อปล่าว ฝรัง ยอมจ้างคนท้องถิ่น เป็นหลายหมื่น เพื่อไปเรียนรู้ ใช้ชีวิตแบบภูมิปัญญาท้องถิ่นในดอย ของแปลกๆแบบนี้ ความคลาสิคแบบไทยต้นตำรับ ที่นุ่มนวล อ่อนช้อยปราณี แบบนี้แหละ อยู่กลางใจต่างชาติเลย เสียดายรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ ไม่ขับจุดเด่น ไปเน้นจุดด้อย แบบว่าหนังไทย เริ่มเอาจริงตอนนี้ ก็ตามหลังพี่หลี พี่กัน หลายก้าวแล้ว พอเปลี่ยนรัฐบาล โครงการก็เปลี่ยน แต่วิถีชาวบ้าน วิถีชุมชนอยู่กับเราตลอดไป


ทุน และ ทรัพยากรที่จำกัด น้อยลงจากการแข่งขันที่สูงขึ้น โอกาสเสื่อผืนหมอนใบ แบบชาวจีนโพ้นทะเลที่ตั้งตัวแบบเมื่อ 50 - 70 ปีก่อน เป็นเรื่องเป็นไปยากส์

- ถ้าพวกคุณคิดว่าชาวจีนโพ้นทะเลพวกนี้ไม่มีสัญชาติอยู่ในปัจจุบัน สามารถตั้งตัวอย่างในอดีตได้นะ อย่างที่พวกคุณพยายามกล่าวอ้างมาตลอดในกระทู้นี้ ผมจะเทียบเคียงให้สถานการณ์ในปัจจุบันให้ฟัง ชาวจีนโพ้นทะเลในอดีต ไม่มีสัญชาติ ที่คุณยกตัวอย่างมานี้ สามารถเปรียบดัง แรงงานต่างด้าวในปัจจุบัน พวกพม่าประมาณนี้ ในปัจจุบัน 10 กว่าปีย้อนหลัง ในยุคแรงงานต่างด้าวชาวพม่าเข้ามา มีพม่า หม่องคะยอ คะยอ คนไหนเสือผืนหมอนใบ มาอยู่ไทยแล้วตั้งตัวแบบจีนโพ้นทะเลสมัยก่อน อย่าบอกนะเขาขี้เกียจนะ เขาทำงานหนักกว่าพวกเราหลายเท่า แต่โดนขูดรีดส่วนเกินไปจากค่าแรงขั้นต่ำมากๆ อย่าว่าแต่จะตั้งตัว แค่ได้สัญชาติไทย เพื่อสามารถมีโอกาสก่อตัวเป็นผู้ประกอบการ ปัจจุบันประเทศเรายังไม่ให้เลย ไปกีดกันด้วยซ้ำ เพื่อปกป้อง สงวนอาชีพ และ สิทธิของคนไทยทั้งหลาย เพราะฉะนั้นจะบอกไม่เกี่ยวกับทรัพยากรและโอกาสที่น้อยลงก็ไม่ได้ อย่างที่เขานำเสนอ ผมถือว่าเป็นการตีแสกกลางคำกล่าวอ้างนี้เลย
























พลวัตรที่เปลี่ยนไป สู่โครงสร้างสังคมไทยที่เปลี่ยนไป

- คำว่าต่างกรรม ต่างวาระใช้ได้กับการอธิบายกรณีนี้ จากพลวัตรการเปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่งไม่ สถานการณ์ในอดีตไม่จำเป็นต้องเป็นต้นแบบทั้งหมดของปัจจุบันและอนาคต เอามาอ้างอิงได้ แต่ต้องดูภาวะปัจจัยที่ประกอบด้วย เอาง่ายๆ ปัจจุบัน พวกคุณตั้งตัวมีฐานะ สร้างองค์ประกอบเศรษฐกิจ ได้เร็วกว่ายุคพ่อแม่คุณไหม ด้วยคุณค่าเงินที่ต่ำลง ด้วยทรัพยากรที่ต้องแก่งแยก ไม่ต้องดูอื่นไกล เมื่อก่อนมีเงิน 5 แสนบาท คุณสร้างบ้านใหญ่โต ปัจจุบัน 2 ล้านบาทยังไม่พอซื้อคอนโดกลางกรุงเทพเลย หรืออย่างดีแค่ทาวน์เฮาส์ ตึกแถว ปริมณฑลรอบนอก แต่ต้องกู้เพิ่มนะ เพราทุน โอกาส ทรัพยากร มันน้อยลงต้องแก่งแยกเหมือนที่เขาอ้างจริงๆ

บริบทโลกาภิวัฒน์ไหม ทุนต่างชาติถือครองตลาดส่วนต่างๆ บริบทธุรกิจผูกขาดด้วยทุนยักษ์ครอบงำ เอาแค่ปัจจุบัน คุณจะตั้งตัวเริ่มจากร้านขายปลีก หรือ ผู้ประกอบการขนาดเล็ก แล้วขยายตัวเป็นผู้ประกอบขนาดกลาง ค้าปลีก ยังแทบยากส์เลย เอาแค่ค้าปลีก เจอกำแพง ฌซเว่น อีเลฟเว่นของซีพีเข้าไป แทบกระอักแล้ว ยิ่งเจอผูกขาดครอบงำด้วยระบบโลจิกติกส์ ที่ช่วยให้การครอบงำ ผูกขาดตลาดง่ายขึ้น อย่างสวนส้มภาคเหนือ เจอธุรกิจประหยัดต่อขนาด ของสวนส้มธนาธรเขาไป เจ๊งระนาว เพราะไปสู้ต้นทุนต่อหน่วยการผลิตไม่ได้



นักการเมืองท้องถิ่นแทนช่วยแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียม ทุน และ โอกาส ระหว่างสังคมเมือง และ ชนบท กับเป็นตัวซ้ำเติมให้เกิดปัญหา

- ทุนอุตสาหกรรมที่เกิดแล้วไปทำลายทรัพยากรท้องถิ่น จริงๆ จุดเริ่มต้น ส่วนมากเกิดจากการเล่นซ่อนหาของนักการเมืองท้องถิ่นและข้าราชการท้องถิ่นผนวกนายทุนทั้งหลายแล ที่ไปอนุมัติโครงการที่โดยละเลยสิทธิชุมชนอันนี้ ไปทำลายวิถีการผลิตชุมชน ตัวอย่างชัดเจนก็ปัญหามตาบพุด

ข้อห้ามในบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาตรา 67 วรรค 2 "ข้อห้ามการดำเนินโครงการอุตสาหกรรม ที่อาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน เว้นไว้แต่จะได้ดำเนินการสี่ประการแล้ว คือ การศึกษาถึงผลกระทบในสิ่งแวดล้อมผลกระทบทางด้านสุขภาพ การทำประชาพิจารณ์ และการให้ความเห็นขององค์กรรัฐที่เป็นอิสระ

เพราะฉะนั้นอุตสาหกรรมที่ไปทำลายระบบนิเวศวิทยาท้องถิ่น นักการเมืองท้องถิ่นและข้าราชการท้องถิ่นเป็นตัวสำคัญที่ไปตกลงกับนายทุนก่อนผ่านการศึกษาร่วมกับชุมชน ตามสิทธิรัฐธรรมนูญตรงนี้

การตระหนักการปกป้องสิทธิของชุมชนมันก้องกังวาลในประเทศไทยแน่ ปัจจุบันก็กังวาลนะ พวกโรงไฟฟ้าโดยงัดไม่ให้สร้างไม่ต่ำกว่าสามสิบ สี่สิบโรงไฟฟ้าแล้วในชุมชน
















การเปลี่ยนขั้วอุปถัมส์เดิมจากมวลชนฐานล่าง จะทำให้เขามีสิทธิได้น้อยกว่าเดิมไหม

แบบจำลองดุลยภาพเศรษฐกิจที่แท้จริงให้ความสมดุลอย่างที่รู้กัน คือเป็นรูปห้าเหลี่ยม ฐานกลางกว้างแบบแบนราบ ไม่ใช่สามเหลี่ยมปิรามิด อย่างในปัจจุบัน การเปลี่ยนถ่ายระลอกคลื่นสุดท้ายที่ผมนำเสนอหมายถึงแบบนั้น ถ้ายังไม่ได้แบบนั้น ระลอกคลื่นก็จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ จนมันบิดๆ เบี้ยวๆ ได้เอง ในรูปร่างที่ยอมรับกันได้ทั้งส่วนบน กลาง ล่าง เพราะฉะนั้นไม่มีใครบอกได้ว่าดุลยภาพแบบนี้จากระลอกคลื่นลูกสุดท้ายใช้เวลาเท่าไหร่ กระบวนการการขับเคลื่อนจึงเป็นพลวัตร

แนวทฤษฎีมูลค่าส่วนเพิ่ม value added ระหว่างการผลิตมาอธิบายเบื้องต้นก่อนหน้านี้

การอาศัยพึ่งพิงขั้วอำนาจใหม่ในการขับเคลื่อนเปลี่ยนถ่ายจากขั้วอำนาจเดิมที่ไปกดขี่ี่ให้เขาได้ แค่ 1 แต่ถ้าขั้วอำนาจใหม่ที่อุปถัมภ์ค้ำจุ้นกันมา ยังทำให้เขาได้แค่ 1 พวกเขาก็จะขับเคลื่อนให้ได้ 2 ให้ได้ อาจเปลี่ยนขั้วอำนาจที่ทำให้เขาหนุนได้เพิ่มขึ้น หรือสร้างขั้วอำนาจมาเองเป็นทางตรงก็ได้ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกลัว ยังไงสถานการณ์ตอนนี้ พวกเขาไม่ยอมได้แค่ 1เท่าเดิมหรอก เพราะพวกเขาลงทุนเลือดเนื้อและชีวิตไปเลย ผมเลยบอกการต่อสู้ครั้งนี้ มันเริ่มพ้นทักษิณกับแกนนำไปแล้วไง ตอนหลังประเด็นปลุกเร้ามันถูกสร้างเจตคติอีกอย่าง แทนที่จะเน้นปกป้องผลประโยชน์เกิ้อหนุนทักษิณแบบแต่ก่อน สุดท้ายทุกคนต้องเลือกกลุ่มผลประโยชน์ที่เกื้อหนุนตนเองเป็นหลักล่ะ แล้วคุณคิดดูถ้าเพื่อไทยชนะ ไม่สามารถตอบโจทย์ที่ไปสร้างฝันให้เขาจะเป็นไง อย่าให้พูดเลย รับรองเละกว่าประชาธิปปัตย์ ไอ้ที่บอกจะสร้างฝัน หลอกมวลชนไปเรื่อยๆ

ถ้ามันเป็นฝันเฟื่อง จากคนที่พวกเราไปสู้ให้ จะยิ่งขับเคลื่อนสังคมแรงขึ้น แล้วถ้าเพื่อไทยชนะ เขาได้จาก 1 ไป 1 กว่า เชื่อเหอะความโลภจากเจตคติที่ถูกสร้างขึ้นจะทำให้พอใจในช่วงระดับหนึ่ง แล้วไปขอเพิ่มขึ้นเป็น 2 แน่ เพราะต้องคิดทำไมต้องไปยอมให้กลุ่มอื่นได้ 3 - 4 ด้วยล่ะ อันนี้ผมมองบนพื้นฐานกลุ่มผลประโยชน์ ความเห็นแก่ตัวกลุ่มนะ

แต่ในความเป็นจริง ตอนสมัยสมัคร ด้วยวิกฤติอาหาร (ปัจจุบันก็มีจากวิกฤติโลกร้อน แล้วคงมีไปเรื่อยๆ เพราะปัญหาโลกร้อนคงสร้างปรากฏการณ์ไปเรื่อยๆ) บวกมือชั้นเซียนในการกระตุ้นกลไกตลาดอย่างมิ่งขวัญ ไอ้ที่เขาได้ 1 ในทฤษฎีที่ผมว่าจากฐานพีระมิคเศรษฐกิจ ผมว่าตอนนั้นราคาพืชผลทางการเกษตรของตลาดโลกมันพุ่งมันดีดทำให้เขาได้ 2 กว่าด้วย ซื้อรถกระบะ ซื้อทองกันใหญ่ ปัจจุบัน เจอ ภูมิใจไทย งัด ปชป ผ่านกระทรวงพาณิชย์ อย่างว่าแต่ 1 เลย ตามพีระมิด ผมว่า 0.5 ยังไม่ถึงเลย ลองไปเช็คราคาพืชผลเกษตรกรรม โดยเฉพาะราคาข้าว ตกแบบกู่ไม่กลับแล้ว









Create Date : 02 พฤษภาคม 2553
Last Update : 6 พฤษภาคม 2553 12:03:12 น. 10 comments
Counter : 1104 Pageviews.  
 
 
 
 
 
 

โดย: thanitsita วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:47:21 น.  

 
 
 
จะมีใครรู้สึกแบบตัวเองบ้างว่าลายตามากค่ะ ตัวหนังสือตัวเล็กสีก็คล้ายกับ บีจี เลยอ่านไปกระพริบตาถี่ๆ ไปค่ะ กลัวจะหลุดเฟรมที่อ่านไปค่ะ...555555....ฝันดีนะคะ
 
 

โดย: deeplove วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:0:41:29 น.  

 
 
 
ผมขยายตัหวนังสือไม่เป็น ขอไปฝึกหน่อย
 
 

โดย: still solo one วันที่: 3 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:02:13 น.  

 
 
 
กลับมาอ่านใหม่ค่ะ...อ่านได้สบายตาและค่ะ ไม่ต้องขยายอะไรมาก แค่เปลี่ยนสีบีจีก็ทำให้อ่านสบายตาแล้วค่ะ หายไปหลายวันเลยจำไม่ได้ว่าคอมเมนท์เชิงต่อว่า เพราะอยากอ่านมากไว้ค่ะ.....555555...แต่คิดให้ดีก็ติเพื่อก่อ คำว่า "ก่อ" เพื่อให้ตัวเองอ่านได้ แบบนี้เห็นแก่ตัวป่ะคะ...

ขอบคุณที่ทำให้รู้อะไรอีกเยอะมากมายค่ะ เป็นบล๊อกที่ให้ความรู้เชิงวิชาการมากค่ะ..และเป็นสิ่งที่เห็นด้วยและประเทศเราน่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่ซ้ำซากจำเจมานมนานจนชนชั้นบางชนชั้นคิดว่าประเทศนี้เป็นของตนเองเพียงชนชั้นเดียว ลืมคิดถึงคนรากหญ้าที่เค้าทำให้ตัวเองได้อยู่ในชนชั้นนี้ได้อย่างดี...ถือว่าชนชั้นนี้เนรคุณคนที่ทำให้ตัวเองอยู่รอดได้...เราต้องปลูกจิตสำนึกคนชนชั้นนี้ให้มีจิตสำนึกกตัญญูรู้คุณคนชั้นรากหญ้า แล้วตอบสนองทดแทนบุญคุณด้วยการไม่ดูถูกดูหมิ่นและทำดีกับคนชนชั้นนี้บ้าง...พูดไปก็ยาวเปล่าๆ คิดแบบนี้ล่ะค่ะ...มีความสุขมากๆ นะคะ
 
 

โดย: deeplove วันที่: 13 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:51:27 น.  

 
 
 
แวะมาทักทายค่ะมีความสุขมากๆ นะคะ
 
 

โดย: deeplove วันที่: 16 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:00:59 น.  

 
 
 
แวะมาทักทายและให้นอนหลับฝันดีด้วยค่ะ
 
 

โดย: deeplove วันที่: 18 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:17:27 น.  

 
 
 
ยังไม่มีเวลาอัพบล๊อกเหรอคะ ไม่เป็นไร..งั้นคืนนี้ส่งเข้านอนให้นอนหลับฝันดีค่ะ
 
 

โดย: deeplove วันที่: 30 พฤษภาคม 2553 เวลา:0:16:33 น.  

 
 
 
มาเพื่อบอกว่า..นอนหลับฝันดีค่ะ....
 
 

โดย: deeplove วันที่: 1 มิถุนายน 2553 เวลา:2:24:01 น.  

 
 
 
แวะมาส่งเข้านอนเหมือนวันอื่นๆ ค่ะจนกว่า จขบ. จะมีเวลามาอัพบล๊อกใหม่ค่ะ...ฝันดีนะคะ
 
 

โดย: deeplove วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:22:06:41 น.  

 
 
 
ตามคนข้างบน( คุณ ภัทร) นี้ มา...เด๋วไว้มาเที่ยวใหม่...วันนี้ ง่วงมากๆอ่านไม่ไหว อิอิ บ๊ายยยย
 
 

โดย: Opey วันที่: 6 มิถุนายน 2553 เวลา:14:07:35 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

still solo one
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add still solo one's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com