ข่าววันนี้
 

3 ชายจีนทะเลาะเดือดบนเครื่องการบินไทย


เมื่อวันที่ 17เมษายน เว็บไซต์ไชน่า นิวส์ ได้รายงานข่าวว่า มี 3 ชายจีนทะเลาะเดือดบนเครื่องการบินไทย สายการบินที่มุ่งหน้าจากไทยไปปักกิ่ง จนมีผู้บาดเจ็บถึงขั้นเลือดตกยางออก

สาเหตุที่ 3 ชายจีนทะเลาะเดือดบนเครื่องการบินไทยครั้งนี้ เป็นเพราะชายคนหนึ่งรับประทานอาหารเสียงดัง รบกวรการนอนของชายอีก 2 คน จึงเกิดการทะเลาะวิวาทกระทั่งหยิบมีดและส้อมมาเป็นอาวุธทำร้ายกัน

เมื่อเครื่องลงจอด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ส่งตัวผู้ก่อเหตุ 3 ชายจีนทะเลาะเดือดบนเครื่องการบินไทย ไปที่สถานีตำรวจ ทั้งนี้ ทางการบินไทยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่ 3 ชายจีนทะเลาะเดือดบนเครื่องการบินไทย

3 ชายจีนทะเลาะเดือดบนเครื่องการบินไทย




 

Create Date : 19 เมษายน 2557    
Last Update : 19 เมษายน 2557 12:47:39 น.
Counter : 887 Pageviews.  

เรือไททานิค รำลึกครบรอบ 102 ปี โศกนาฏกรรมแห่งท้องทะเล

เรือไททานิค

          อาร์เอ็มเอส ไททานิก (อังกฤษ: RMS Titanic) เป็นเรือโดยสารซึ่งจมลงสู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1912 หลังชนภูเขาน้ำแข็งระหว่างการเดินทางเที่ยวแรกจากเซาท์แทมป์ตัน สหราชอาณาจักร ไปนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา การจมของไททานิก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1,514 ศพ นับเป็นภัยพิบัติทางทะเลในยามสงบครั้งที่มีผู้เสียชีวิตมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ไททานิก เคยเป็นสิ่งของเคลื่อนได้ที่ใหญ่ที่สุดที่ทำด้วยฝีมือมนุษย์ในขณะการเดินทางเที่ยวแรก เป็นหนึ่งในสามเรือโดยสารชั้นโอลิมปิกซึ่งดำเนินการโดยไวต์สตาร์ไลน์ สร้างขึ้นระหว่าง ค.ศ. 1909-1911 โดยอู่ต่อเรือฮาร์แลนด์แอนดวูล์ฟฟ์ในเบลฟาสต์ บรรทุกผู้โดยสาร 2,223 คน

          ผู้โดยสารบนเรือมีบรรดาบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เช่นเดียวกับผู้อพยพกว่าพันคนจากบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์ สแกนดิเนเวีย เป็นต้น ซึ่งกำลังแสวงหาชีวิตใหม่ในทวีปอเมริกาเหนือ เรือได้รับการออกแบบให้มีความสะดวกสบายและความหรูหราที่สุด โดยบนเรือมียิมเนเซียม สระว่ายน้ำ ห้องสมุด ภัตตาคารชั้นสูงและห้องจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีโทรเลขไร้สายทรงพลังซึ่งจัดเตรียมไว้เพื่อความสะดวกของผู้โดยสาร เช่นเดียวกับการใช้เชิงปฏิบัติการ แต่แม้ ไททานิก จะมีคุณลักษณะความปลอดภัยที่ก้าวหน้า เช่น ห้องกันน้ำและประตูกันน้ำที่ทำงานด้วยรีโมต ก็ยังขาดเรือชูชีพที่เพียงพอสำหรับบรรทุกผู้โดยสารทุกคนบนเรือ เนื่องจากระเบียบความปลอดภัยในทะเลที่ล้าสมัย จึงมีเรือชูชีพเพียงพอสำหรับผู้โดยสาร 1,178 คนเท่านั้น เกินครึ่งของผู้ที่เดินทางไปกับเรือในเที่ยวแรกเล็กน้อย และหนึ่งในสามของความจุผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดเท่านั้น

          หลังเดินทางออกจากเซาท์แทมป์ตันเมื่อวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1912 ไททานิก ถูกเรียกที่เชอร์บูร์ก (Cherbourg) ในฝรั่งเศส และควีนส์ทาวน์ (ปัจจุบันคือ โคฟ, Cobh) ในไอร์แลนด์ ก่อนมุ่งหน้าไปทางตะวันตกมุ่งสู่นิวยอร์ก วันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1912 ห่างจากเซาท์แทมป์ตันไปทางใต้ราว 600 กิโลเมตร ไททานิก ชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งเมื่อเวลา 11.40 น. (ตามเวลาเรือ GMT-3) การชนแฉลบทำให้แผ่นลำเรือไททานิก งอเข้าในตัวเรือหลายจุดบนฝั่งกราบขวา และเปิดห้องกันน้ำห้าจากสิบหกห้องสู่ทะเล อีกสองชั่วโมง สามสิบนาทีต่อมา น้ำค่อยๆ ไหลเข้ามาในเรือและจมลง ผู้โดยสารและสมาชิกลูกเรือบางส่วนถูกอพยพในเรือชูชีพ โดยมีเรือชูชีพจำนวนมากถูกปล่อยลงน้ำไปทั้งที่ยังบรรทุกไม่เต็ม ชายจำนวนมาก กว่า 90% ของชายในที่นั่งชั้นสอง ถูกทิ้งอยู่บนเรือเพราะระเบียบ "ผู้หญิงและเด็กก่อน" ตามด้วยเจ้าหน้าที่ซึ่งบรรทุกเรือชูชีพนั้น ก่อน 2.20 น. เล็กน้อย ไททานิก แตกและจมลงโดยยังมีอีกกว่าพันคนอยู่บนเรือ คนที่อยู่ในน้ำเสียชีวิตภายในไม่กี่นาทีจากภาวะตัวเย็นเกิน (hypothermia) อันเกิดจากการจุ่มในมหาสมุทรที่เย็นจนเป็นน้ำแข็ง ผู้รอดชีวิต 710 คนถูกนำขึ้นเรืออาร์เอ็มเอส คาร์พาเธีย (RMS Carpathia) อีกไม่กี่ชั่วโมงให้หลัง

          ภัยพิบัติดังกล่าวทำให้ทั่วโลกตกตะลึงและโกรธจากการสูญเสียชีวิตอย่างใหญ่หลวง และความล้มเหลวของกฎระเบียบและปฏิบัติการซึ่งนำไปสู่ภัยพิบัตินั้น การไต่สวนสาธารณะในอังกฤษและสหรัฐอเมริกานำมาซึ่งพัฒนาการหลักในความปลอดภัยในทะเล หนึ่งในมรดกสำคัญที่สุด คือ การจัดตั้งอนุสัญญาความปลอดภัยของชีวิตในทะเลระหว่างประเทศ (SOLAS) ใน ค.ศ. 1914 ซึ่งยังควบคุมความปลอดภัยในทะเลตราบจนทุกวันนี้ ผู้รอดชีวิตหลายคนสูญเสียเงินและทรัพย์สินทั้งหมดและถูกทิ้งให้อดอยากแร้นแค้น หลายครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งของสมาชิกลูกเรือจากเซาท์แทมป์ตัน สูญเสียเสาหลักของครอบครัวไป พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากความเห็นใจสาธารณะและการบริจาคของมูลนิธิที่หลั่งไหลเข้ามา

          ขณะที่อุบัติภัยที่เกิดขึ้นกับเรือเซวอล ในช่วงสายวันที่ 16 เมษายน 2557 นั้น จนถึงขณะนี้ (18 เมษายน 2557) พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 28 ราย แต่ยังมีผู้สูญหายไปกับเรือที่จมดิ่งลงในทะเลมากเกือบ 300 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษาที่มาทัศนศึกษา ส่วนสาเหตุของการอับปาง ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด แต่มี 3 ข้อสันนิษฐานที่สื่อต่างประเทศวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ นั่นก็คือ อาจเกิดจากกระแสลมแรง หรือเรืออาจหักเลี้ยวกะทันหัน ทำให้ตู้สินค้าและยานพาหนะที่บรรทุกไปใต้ท้องเรือเลื่อนออกจากตำแหน่งเดิม จนทำให้เรือเสียการทรงตัว และข้อสันนิษฐานที่ 3 ก็คือ เรืออาจชนกับหินใต้น้ำ เพราะจุดที่เกิดอุบัติเหตุเป็นเขตน้ำตื้นที่มีหินใต้น้ำเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางข้อสงสัยที่ว่า เรือเซวอลมีการแล่นออกนอกเส้นทางจริงหรือไม่

            อย่างไรก็ตาม กับเหตุการณ์เรือเซวอลที่เกิดขึ้น ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในตัวกัปตันผู้ควบคุมเรือ ที่ประกาศบอกให้ผู้โดยสารอยู่ภายในเรือเพื่อหวังจะรักษาสมดุลของเรือ แต่ตัวเขากลับเป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่อพยพหนีออกมาจากเรือจนรอดชีวิต ซึ่งก็มีคนนำไปเปรียบเทียบกับเหตุการณ์เรือไททานิค ที่ครั้งนั้น กัปตัน เอ็ดเวิร์ด จอห์น สมิธ เป็นผู้สั่งการให้ผู้โดยสารรีบอพยพ และเขาก็ยืนหยัดที่จะอยู่กับลูกเรือและผู้โดยสารกว่า 1,500 คน ก่อนที่เรือจะจมดิ่งลงสู่มหาสมุทร ปิดฉากวาระสุดท้ายของกัปตันวัย 62 ปี ไว้กับเรือไททานิคอันเป็นตำนานที่น่ากล่าวขานต่อไป





 

Create Date : 19 เมษายน 2557    
Last Update : 19 เมษายน 2557 12:35:43 น.
Counter : 1956 Pageviews.  

ข่าวเรือล่ม รองผอ. โรงเรียน 1 ในผู้รอดชีวิตจากเรือล่ม ผูกคอตายแล้ว

ข่าวเรือล่มที่เกาหลีใต้ นับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่ติดอยู่ในใจชาวเกาหลีไปอีกนาน และวันนี้ข่าวเรือล่ม ก็มีเรื่องน่าสะเทือนใจเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อ ผอ.โรงเรียนฆ่าตัวตาย


โดยข่าว ผอ.โรงเรียนฆ่าตัวตาย นี้ เป็นข่าวที่แชร์กันในทวิตเตอร์เยอะมากๆ



ผอ.โรงเรียนฆ่าตัวตาย โดยการผูกคอตัวเองกับต้นไม้ ไม่ไกลจากจุดที่เรืออับปางมากนัก ซึ่งก็เป็นปริศนาว่าเหตุใดผอ.โรงเรียนฆ่าตัวตาย ทั้งที่เป็นผู้รอดชีวิตจากข่าวเรือล่ม แต่อาจเป็นไปได้ว่าต้องการแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์เรือล่ม เกาหลี




 

Create Date : 18 เมษายน 2557    
Last Update : 18 เมษายน 2557 16:49:17 น.
Counter : 954 Pageviews.  

เรือล่ม เกาหลี ทั้งที่มีชูชีพที่ช่วยคนได้นับพัน แต่กลับไม่ใช้

เรือล่ม เกาหลี โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่คนทั่วโลกจับตาดูและคอยเอาใจช่วยนั้น ยังไม่พบข่าวดีว่ามีผู้รอดชีวิตจากเหตุเรือล่ม เกาหลี เพิ่ม แต่การค้นหาผู้สูญหายจากเรือล่ม เกาหลี ก็ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องท่ามกลางกำลังใจที่ท่วมท้น




และในเหตุการณ์เรือล่ม เกาหลี นี้ ก็มีการค้นพบความจริงอันน่าสลดใจอีกประการ เพราะว่าเรือล่ม เกาหลี เซวอลนี้ มีแพชูชีพถึง 44 ชุด ชุดหนึ่งบรรจุคนได้ 25 คน โดยรวมแล้วแพทั้งหมดจะจุคนได้ถึง 1100 คน ซึ่งเพียงพอที่จะช่วยเหลือคนทั้งหมด แต่กลับไม่มีการนำแพชูชีพออกมาใช้เลยสักชุด...



ซึ่งเมื่อชาวเน็ตทราบเรื่องดังกล่าวก็ถึงกับออกปากประณามกัปตันเรือล่ม เกาหลี ที่ออกคำสั่งผิดๆ ให้ลูกเรือและผู้โดยสาร แถมตัวเองยังหนีเอาตัวรอดอีก




 

Create Date : 18 เมษายน 2557    
Last Update : 18 เมษายน 2557 14:14:11 น.
Counter : 1284 Pageviews.  

โรส หมิ่นสถาบัน พ่อแม่สุดทน แจ้งความจับลูกสาว

โรส หมิ่นสถาบัน
โรส หมิ่นสถาบัน โรส ฉัตรวดี อมรพัฒน์ หมิ่นสถาบัน พ่อแม่สุดทน แจ้งความจับ หลัง โรส หมิ่นเบื้องสูง ทำพ่อแม่เดือดร้อน เนื่องจากมีคนโทรมาข่มขู่และคุกคาม ลั่นเตือนลูกสาวแล้วแต่ไม่ฟัง วอนลูกทำผิดไม่ใช่ว่าพ่อแม่จะรู้เห็นเป็นใจด้วย

              วานนี้ (17 เมษายน 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรพงศ์ อมรพัฒน์ อายุ 67 ปี และนางสมจินตนา อมรพัฒน์ อายุ 59 ปี ได้เดินทางเข้าพบ  พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. ที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ "นางสาวฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ โรส"  อายุ 34 ปี ลูกสาวคนเล็กของตนเอง ในข้อหาหมิ่นเบื้องสูง โดยทั้งคู่ได้นำแผ่นดีวีดีบันทึกภาพและเสียงของ โรส ฉัตรวดี  ที่มีการกล่าวพาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูงรวม 7 คลิป มอบให้แก่พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน 

               ทั้งนี้ พ่อแม่ของ โรส ฉัตรวดี อมรพัฒน์ เปิดเผยถึงสาเหตุที่ต้องแจ้งความจับลูกสาวว่า ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2557 เป็นต้นมา พวกตนได้รับผลกระทบในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ทั้งถูกต่อว่า ถูกโทรศัพท์มาคุกคามต่าง ๆ นานา เนื่องจากลูกสาวตน ซึงไปทำงานเป็นช่างทำผมที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ถ่ายคลิปหมิ่นเบื้องสูง และนำไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์  

              และที่ต้องแจ้งความเพราะตนเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรแล้วเหมือนกัน ขณะนี้ก็ยังติดต่อลูกสาวได้บ้างไม่ได้บ้าง อีกทั้งก่อนหน้านี้ก็เคยบอกให้ลูกหยุดกระทำการแบบนี้ แต่ลูกสาวก็ไม่ฟัง ตอนนี้เขาก็ไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษ แล้วก็ได้สัญชาติอังกฤษ ลงหลักปักฐานอยู่ที่นั่นมานานแล้ว ส่วนตนก็อยากจะวอนขอความเห็นใจจากคนในสังคมว่า ลูกกระทำผิดก็ไม่ใช่ว่าพ่อแม่จะต้องผิดหรือรู้เห็นเป็นใจไปด้วย 

              ทางด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ตนได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงหมดแล้ว และหากพบว่ามีความผิดจริง ถึงแม้จะเกิดขึ้นนอกประเทศ แต่ก็เข้าข่ายผิดกฎหมายไทย เนื่องจากมีการเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (18 เมษายน 2557) จะนำคดีของ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำเสื้อแดงหมิ่นเบื้องสูง และ โรส หมิ่นเบื้องสูง  มาพิจารณาเพื่อรวมเป็นคดีเดียวกัน เสนอให้ที่ประชุม ก่อนนำเรื่องเสนอต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นต่อไป

ข้อมูลข่าวจาก เดลินิวส์




 

Create Date : 18 เมษายน 2557    
Last Update : 18 เมษายน 2557 11:34:16 น.
Counter : 3727 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  
 
 

สมาชิกหมายเลข 1220209
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




[Add สมาชิกหมายเลข 1220209's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com