จับแล้วคนฆ่าน้องเพลง ที่แท้เพื่อนบ้าน เป็นฆาตรกรข่มขืนสุดโหด เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 13 พฤษภาคม 2557 นายสุวัฒน์ และ นางพนมวรรณ รำนา พ่อและแม่ของ ด.ญ.เกตุมาตุ รำนา หรือ น้องเพลง เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จ.สงขลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ส่งศพไปตรวจ DNA เพื่อหาร่องรอยการถูกทำร้าย ตรวจพบว่าถูกข่มขืนแบบซาดิสต์วิตถารจนอวัยวะฉีกขาดไปหมด กลับมายังบ้านเลขที่ 20/7 ถ.นางน้อย ชุมชนควนขัน ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง และในขณะเดียวกัน นายอภิชิต วิโนทัย นายกเทศมนตรีนครตรัง และบุคลสำคัญ ผู้ใหญ่ที่นับถือของพ่อแม่น้องเพลง ได้เดินทางมาคำนับศพน้องเพลงจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าสลดของเพื่อนบ้านจำนวนมากที่มาคอยรอรับ บ้างร่ำให้ด้วยความเสียใจ และมีกระแสข่าวว่ามีการทำแผนรับสารภาพทำให้ชาวบ้านจำนวนมากได้ไปเฝ้ายังที่เกิดเหตุกว่า 500 คน แต่ต้องรอเก้อ ไม่ได้มีการทำแผนแต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่รับผล DNA จากแพทย์ ขณะที่ตำรวจระดมตำรวจกว่า 200 นาย เตรียมนำคนร้ายทำแผนประกอบคำสารภาพ สำหรับความคืบหน้ากรณีพบศพน้องเพลง ที่ครอบครัวแจ้งหายเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2557 ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ที่เป็นพ่อของเพื่อนน้องเพลง ให้ปากคำว่า ก่อนช่วงเวลาที่น้องเพลงหายไป น้องเพลงได้ไปหาลูกสาวที่บ้าน เพื่อเอาแผ่น ซีดี จะไปวาดภาพ เมื่อพบศพของน้องเพลง ตำรวจเลยนำตัวไปสอบปากคำและตรวจร่างกายและตรวจ DNA พบว่าที่แผ่นหลังมีรอยถูกข่วน(เหมือนเล็บ)และรอยขีดที่หลัง(เหมือนรอยครูดกับปูน) เมื่อ ตรวจปัสสาวะ มีสีม่วง มีฝังวัตถุ(มุก)ที่อวัยวะเพศด้วย แต่ผู้ต้องหายังไม่ยอมรับสารภาพ ล่าสุดนำตัวไปตรวจ DNA ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมผู้ต้องสงสัยเคยมีคดีทำอนาจาร ในพื้นที่จังหวัดตรังมาแล้ว ผู้ต้องหาอายุ 34 ปี มีลูก 4 คน ยังไม่สอบปากคำลูกสาวที่ทางผู้ต้องหาอ้างว่าน้องเพลงไปหาที่บ้าน ซึ่งทางตำรวจคาดว่า เป็นผู้ต้องหาน่าจะทำร้ายและทำอนาจารน้องเพลงที่บ้านก่อนนำศพขึ้นรถปิคอัพ อีซูซุ ของคนร้าย ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจยึดรถเพื่อตรวจสอบหาหลักฐาน นำน้องเพลงไปซุกซ่อนศพไว้ในท่อระบายน้ำอำพรางคดี และมีชาวบ้านไปพบศพดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นางสุพัตรา ศรีขำ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/1 ถ.พระงาม อ.เมือง จ.ตรัง ว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกคับแค้นใจเป็นอย่างมาก เพราะคนที่ทำร้ายน้องเพลงเป็นคนใกล้บ้านและเป็นเพื่อนบ้าน ในวันเกิดเหตุที่น้องเพลงหายตัวไป คนร้ายได้ไปร่วมค้นหาตัวน้องเพลงทุกที่โดยไม่มีพิรุธใดใดให้สงสัย หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตนเองไม่เชื่อใจใคร และไม่กล้าปล่อยลูกให้อยู่คนเดียวเพราะลูกสาวของตนก็อยู่ในวัยเดียวกับน้องเพลง ตอนนี้ชาวชุมชนควนขันต้องพึ่งตำรวจเพื่อมาดูแลความปลอดภัย อย่างไรก็ตามในช่วงค่ำของวันนี้ นายสุวัฒน์ รำนา พ่อของน้องเพลงได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวเป็นครั้งแรก หลังจากจากเพลงได้หายตัวไปจากบ้านและพบเป็นศพ หลังจากนำไปพิสูจน์ศพ โดยทราบว่าเป็นการกระทำของเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด ได้กล่าวว่าตนเองไม่เชื่อว่าจะเป็นเพื่อนบ้านที่บ้านติดกันเป็นคนก่อเหตุฆ่าลูกสาวของตน และตนเองก็ไม่ทราบว่าเพื่อนบ้านคนนี้ติดยาเสพติด หากไม่มีหลักฐานที่เป็นแผลจากรอยข่วน และการสารภาพของคนร้ายตนแทบไม่เชื่อเลย ว่าคนร้ายซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ลูกสาวไปเล่นอยู่ตลอด ตนและครอบครัวก็ให้การเคารพนับถือ ทำให้นึกไม่ถึงว่าเพื่อนบ้านคนนี้จะทำกับลูกของตนได้ลงคออย่างไร และจากกรณีที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของตนอย่างนี้ จากกนี้ไปตนไม่ทราบว่าจะไว้ใจใครได้อย่างไร แต่ตนต้องขอชมเชยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สามารถจับตัวคนร้ายมาดเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าคนร้ายจะสารภาพเพราะจนด้วยหลักฐาน แต่ก็เห็นว่าที่ผ่านมา ตั้งแต่ลูกสาวของตนเองได้หายตัวไป ก็ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้ติดตามสืบหาตัวลูกสาวมาตลอด และหลังจากพบศพลูกสาวแล้ว ก็ได้สืบหาตัวคนร้าย เพื่อนำคนร้ายมาดำเนินคดี พร้อมกับหาหลักฐาน สอบปากคำ ในที่สุดสามารถรวบรวมหลักฐาน ในที่สุดคนร้ายที่ก่อเหตุรับสารภาพ อย่างไรก็ตามนายสุวัฒน์ พ่อของน้องเพลงได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเองอยากจะให้ตำรวจดำเนินคดีกับคนร้ายที่ก่อเหตุทำให้น้องเพลงจนเสียชีวิตให้ถึงที่สุด เพราะทราบว่าคนร้ายได้กระทำกับน้องเพลงเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม เยี่ยงสัตว์นรกแย่งมาเกิด แม้แต่เด็กหญิงร่างเล็กๆ ที่ไม่เคยให้ร้ายใคร เป็นเพื่อนใกล้ชิดกัน ยังทำได้ลงคอ และขอให้กรณีที่โหดเหี้ยมอย่างนี้ ซึ่งตนเป็นสูญเสียที่ใหญ่หลวง ขอให้เป็นเหตุการณ์ครั้งสุดท้าย เพราะเชื่อว่าใครที่ต้องประสบวิบากกรรมอย่างนี้ คงจะรับไม่ได้ กับการที่คนร้ายซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดมาก่อเหตุกับน้องเพลง   Create Date : 13 พฤษภาคม 2557     Last Update : 13 พฤษภาคม 2557 23:39:23 น. Counter : 1109 Pageviews.   0 comment Share Tweet

เอ หน้าผี พ่อค้ายาบ้า ถูกฆ่าคารถ เอ หน้าผี พ่อค้ายาบ้า ถูกฆ่าคารถ เอ หน้าผี พ่อค้ายาบ้ารายใหญ่ ถูกฆาตกรรมโดยการยิงขมับบนรถกระบะ เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา  จากการสอบสวนภรรยาและญาติ เอ หน้าผี ให้การว่า ก่อนหน้านี้ มีคนร้าย 5 คน มานำตัวนาย เอ หน้าผี ไปกดเงินสดประมาณแสนบาทจากตู้เอทีเอ็ม ก่อนที่จะมาพบว่าเสียชีวิตตามข่าว เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อสงสัยว่า เอ หน้าผี ถูกฆ่าเพราะปมขัดแย้งเรื่องธุรกิจมืด   Create Date : 13 พฤษภาคม 2557     Last Update : 13 พฤษภาคม 2557 10:48:38 น. Counter : 1506 Pageviews.   1 comment Share Tweet

ข่าวน้องเพลง ล่าสุดเจอศพน้องแล้ว หาตัวคนฆ่า ข่าวน้องเพลงล่าสุด ได้มีการยืนยันจากพ่อน้องเพลง จากศพเด็กที่พบในท่อระบายน้ำเป็นน้องเพลงจริง สำหรับความคืบหน้าข่าวน้องเพลง กรณีพบศพเด็กเสียชีวิตภายในท่อระบายน้ำ ใกล้กับวัดพระงาม ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของน้องเพลงประมาณ 2 กิโลเมตร มีรายงานล่าสุด จากมูลนิธิกระจกเงาได้รับการยืนยันจากคุณพ่อนัองเพลงแล้วว่า เป็นศพของน้องเพลงเด็กหญิงที่หายตัวไปครับ ตอนนี้ศพกำลังถูกส่งไปชันสูตรตามกระบวนการของกฏหมายต่อไปครับ  ทีมงานมูลนิธิกระจกเงา ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องเพลงด้วยครับ และขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยแชร์ภาพน้องเพลงครับ สำหรับท่านที่กดแชร์ภาพจากเพจนี้ ภาพจะถูกลบออกไปโดยอัตโนมัติครับ อย่างไรก็ตามมีการฆาตกรรมเด็กหายถึง 2 ราย ภายในระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาครับ โดยเมื่อเดือนมีนาคม น้องจันลา ยง ลูกแรงงานก่อสร้างชาวกัมพูชา ถูกฆาตกรรมเสียชีวิตในพื้นที่ สน.บางเขน ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังตัวคนร้ายไม่ได้ครับ.  ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา 12 พฤษภาคม 2557(13.20น.)   Create Date : 12 พฤษภาคม 2557     Last Update : 12 พฤษภาคม 2557 14:51:12 น. Counter : 12578 Pageviews.   1 comment Share Tweet

ยิ่งลักษณ์ ชดใช้งบเลือกตั้งกว่า3.8พันล. ขอบคุณภาพประกอบจาก ยิ่งลักษณ์ ชดใช้งบเลือกตั้งกว่า3.8พันล. สตง. จี้ ปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้งบเลือกตั้งกว่า 3.8 พันล้านบาท หลังอนุมัติเงินจัดการเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 2 ก.พ. 57 สูญเปล่า ระบุเป็นการใช้ดุลยพินิจโดยไม่ชอบด้วยเหตุผลและก่อให้เกิดความเสียหาย           น.ส.ประพีร์ อังกินันทน์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในฐานะรักษาการแทนผู้ว่าการ สตง. ได้ลงนามออกหนังสือด่วนที่สุด ฉบับที่ ตผ 0012/1686 ถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินในการดำเนินการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 25 เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 สตง.ได้เคยแสดงความกังวลและห่วงใยต่อการใช้งบประมาณแผ่นดินในการจัดเลือกตั้งทั่วไป วงเงิน 3,885 ล้านบาท ว่ามีความเสี่ยงสูงภายใต้สถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยในการจัดการเลือกตั้ง ส่งผลให้เกิดความสูญเปล่า ซึ่ง สตง.ได้มีการพิจารณาแล้วว่า การดำเนินงานในกรณีดังกล่าวเป็นการใช้ดุลยพินิจโดยไม่ชอบด้วยเหตุผลและก่อให้เกิดความเสียหาย ย่อมเข้าข่ายเป็นการกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจะต้องหาผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น           นอกจากนี้ การใช้งบประมาณแผ่นดินในการจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา มีการจัดตั้งศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในระหว่างการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งภายหลังเป็นศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจนถึงปัจจุบัน ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดการเลือกตั้งของคณะกรรมการจัดการเลือกตั้ง (กกต.) และค่าใช้จ่ายของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจที่สนับสนุนงานของ กกต. จำนวน 18 หน่วย เกิดความสูญเปล่า           “การใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินวงเงิน 3,885 ล้านบาท มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดความสูญเปล่า ไม่ประหยัด ไม่เกิดประโยชน์ที่คุ้มค่า เนื่องจากการใช้งบประมาณไม่ได้ผลตามเป้าหมายของการเลือกตั้ง เพราะศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยว่าการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ไม่สามารถจัดให้มีการเลือกตั้งได้ สำหรับ 28 เขตเลือกตั้ง ซึ่งยังไม่เคยมีการรับสมัครหรือการเลือกตั้งมาก่อน ถือว่าในวันดังกล่าว ไม่ได้เป็นวันที่มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไปวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร จึงเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ”           ทั้งนี้ หากจะใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดินเพื่อดำเนินการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งต่อไป รัฐบาลและหน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องกำหนดมาตรการ หรือวิธีการปฏิบัติในแต่ละขั้นตอนให้เกิดความเชื่อมั่นได้ว่า การเลือกตั้งจะบรรลุวัตถุประสงค์ หากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมหรือกำหนดให้มีการเลือกตั้งภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวเหมือนเช่นที่ผ่านมาจนส่งผลให้การเลือกตั้งไม่สำเร็จตามวัตถุประสงค์ รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหากผลเป็นประการใดโปรดแจ้งให้ สตง. ทราบ เพื่อประกอบการตรวจสอบตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 ขอขอบคุณข้อมูลจาก   Create Date : 10 พฤษภาคม 2557     Last Update : 10 พฤษภาคม 2557 12:00:45 น. Counter : 1348 Pageviews.   0 comment Share Tweet

กปปส.จัดทัพเคลื่อน6สายยึดทีวี-ทำเนียบ-รัฐสภา  ภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @Pat_ThaiPBS กปปส.จัดทัพเคลื่อน6สายยึดทีวี-ทำเนียบ-รัฐสภา "สุเทพ" เรียกร้อง ปธ.ศาลฎีกา ปธ.วุฒิ ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองร่วมถกทางออก ขจัดระบอบทักษิณ ลั่น 3 วันยังไม่ได้คำตอบก็จะปฏิบัติการเอง พร้อมเชิญ "นิวัฒน์" พบที่ทำเนียบ           เมื่อเวลา 9.09 น.ที่เวทีกปปส.สวนลุมพินี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. นำมวลชนเคลื่อนไปยังจุดต่างๆเพื่อปฏิบัติการเผด็จศึกรัฐบาลเป็นครั้งสุดท้าย โดยมีการแยกมวลชนออกเป็น 6 ขบวน ประกอบด้วย 1.นำโดยนายสุเทพ ขบวนที่ 2 นำโดยนายอิสระ สมชัย นายพุทธิพงศ์ ปุณณกันต์ นายสกลธี ภัททิยกุล ขบวนที่ 3 นำโดยนายถาวร เสนเนียม ขบวนที่ 4 นำโดยนายณัฐพล ทีปสุวรรณ ขบวนที่ 5 นำโดยนายชุมพล จุลใส และน.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ณ อยุธยา และขบวนที่ 6 นำโดยนายวิทยา แก้วภราดัย และกลุ่มนั่งแคร่แลกำนัน           โดยนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวก่อนออกเดินขบวนว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปอย่างสันติและไปเป็นความลับ เราจะแบ่งขบวนออกไปตามสถานทีโทรทัศน์ช่องต่างๆ โดยนายณัฐพลจะนำมวลชนไปสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 3 กลุ่มกองทัพธรรม นำโดย ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ จะนำมวลชนเดินทางไปที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ช่อง 5) นายอิสระ จะนำมวลชนไปที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง7 นายชุมพล ไปสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 นายถาวร นำมวลชนไปสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง11 กรมประชาสัมพันธ์ ถนนวิภาวดี นายวิทยา นำมวลชนไปที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 ถนนเพชรบุรี ส่วนขบวนของตนจะไปทำเนียบรัฐบาล ขณะที่ขบวนกปปส.แจ้งวัฒนะนำโดยหลวงปู่พุทธอิสระจำนำมวลชนไปล้อมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.)           "ขอกราบเรียนไปยังสถานีโทรทัศน์ ว่าเราไปดี เราต้องการไปเพื่อขอความร่วมมือเลิกเสนอข่าวพวกทรราชย์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอฝากไปยังพี่น้องมวลมหาประชาชนห้ามพกอาวุธไปร่วมการต่อสู้เป็นอันขาด ยืนยันว่าเราไม่ได้ยึดอำนาจ และยังไม่ได้เข้าไปบุกยึดสถานที่แต่อย่างใด วันนี้ถ้าเราต้องนอนกลางดินกินบนถนนตนก็จะนอนด้วย เป้าหมายของเราวันนี้เราต้องการบำเพ็ญเพียรเพื่อเรียกร้องผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเช่นประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา หรือใครที่ต้องการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองขอให้มาคุยได้ในวันนี้ ถ้าท่านร่วมมือร่วมใจเราก็จะสามารถนำระบอบทักษิณออกไปจากประเทศไปได้โดยราบรื่น ถ้า 3 วันยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นเราจะปฏิบัติการเอง ฝากไปยังพี่น้องประชาชนว่าให้ช่วยกันเขัาไปล้อมรถเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละพื้นที่ที่เราเดินทางไป เพื่อไม่ให้มาทำร้ายประชาชนแต่อย่าไปทำร้ายเจ้าหน้าที่เหล่านั้น ในส่วนเจ้าหน้าที่ทหารนั้น ขอให้มวลชนปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ฝากไปยังนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการนายกรัฐมนตรีว่า ท่านไม่ใช่รองนายกฯโดยชอบตามกฎหมาย จึงไม่สามารถรักษาการนายกฯได้ ผมขอเชิญให้มาร่วมหารือ ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนหากพบเห็นนายนิวัฒน์ธำรงที่ไหน ให้เชิญตัวมาพบผมทันทีและห้ามทำร้ายนายนิวัฒน์ธำรง วันนี้ผมพร้อมแล้วจะไปนั่งรอข้างทำเนียบ" นายสุเทพ กล่าว   Create Date : 10 พฤษภาคม 2557     Last Update : 10 พฤษภาคม 2557 11:38:39 น. Counter : 1109 Pageviews.   0 comment Share Tweet