*** พื้นที่ส่วนตัวของ พันตำรวจเอก ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ รองผู้บังคับการกองคดีอาญา สำนักงานกฎหมายและคดี นี้ จัดทำขึ้นเพื่อยืนหยัดในหลักการที่ว่า คนเรานั้นจะมีความเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ได้ ก็ต่อเมื่อมีเสรีภาพในการแสดงความคิดโดยบริบูรณ์ และความเชื่อที่ว่าคนเราเกิดมาเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ไม่มีอำนาจใดจะพรากความเป็นมนุษย์ไปจากเราได้ ไม่ว่่าด้วยวิธีการใด ๆ และอำนาจผู้ใด ***
*** We hold these truths to be self-evident, that all men are created equal, that they are endowed by their Creator with certain unalienable rights, that among these are life, liberty and the pursuit of happiness. That to secure these rights, governments are instituted among men, deriving their just powers from the consent of the governed. That whenever any form of government becomes destructive to these ends, it is the right of the people to alter or to abolish it, and to institute new government, laying its foundation on such principles and organizing its powers in such form, as to them shall seem most likely to effect their safety and happiness. [Adopted in Congress 4 July 1776] ***
Group Blog
 
All Blogs
 
เหตุการณ์วันที่ ๗ ต.ค.๕๑ ตำรวจเข่นฆ่าประชาชน ... ทำไม๊ ทำไม ไม่ใช้น้ำฉีด .....สลายม๊อบ

ผมเป็นทีมงานตอบปัญหาทางกฎหมายให้แก่ประชาชน ของ พล.ต.อ.วันชัย ศรีนวลนัด ที่ปรึกษากฎหมาย ตร. ซึ่งมีประชาชนตั้งคำถาม? มาในเว๊ปไซต์ของท่าน ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์วันที่ ๗ ต.ค. ๒๕๕๑ ประกอบกับ ผมได้รับคำถามบ่อย ๆ ๆ ๆ ว่า ทำไม๊ ทำไม ตำรวจไทย ไม่ใช้น้ำฉีดสลายม๊อบละครับ ผมจึงเห็นว่า เป็นเรื่องที่น่าสนใจ ผมเลยนำมาตอบไว้ที่นี้ด้วย




คำถาม : "แก๊สน้ำตาคุณภาพต่ำ ผลทดสอบออกมาเห็นกันชัดๆ จนต้องเรียกเก็บหมด อยากรู้ว่าตำรวจจะรับผิดชอบกับเรื่องนี้อย่างไร ยิ่งคำกล่าวของผู้บังคับบัญชาคุณก่อนสอบสวนเหตุการณ์ก็ออกสื่อโทรทัศน์ผู้เสียชีวิต และสญเสียอวัยวะว่าเกิดจากการทำระเบิดหล่นใส่ตัวเอง น้องโบว์หนีบระเบิดมา(คิดไปได้) รถจี๊บระเบิดยังไม่ทันสอบสวนก็บอกว่าทำคาร์บอมระเบิดใส่ตัวเอง(อีก) ออกสื่อโจมตีว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีอาวุธร้ายแรง มีน้ำมันเตรียมจะเผาบ้านเผาเมือง แล้วมีอย่างที่กล่าวมั้ยครับ ระเบิดซักลูกมีสือถ่ายให้เห็นผู้ชุมนุมปาใส่ระเบิดมั้ยครับ อย่ามาพูดจาปลุกระดมใส่ร้ายป้ายสีกันแบบนี้เลย 6ตุลา14ตุลา นักศึกษาประชาชนต้องตายก็เพราะการใส่ร้ายของพวกนักการเมือง ทหารตำรวจ ออกสื่อโทรทัศน์แบบนี้ การกระทำเช่นนี้มันมีแต่ยิ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับหมู่ประชาชนขึ้นไปอีก ผมก็เข้าใจว่าต้นทุนตำรวจปกติก็"ต่ำ"ในสายตาประชาชนอยู่แล้ว ยิ่งทำตัวออกความเห็นไม่เป็นกลางอีก ผู้ชุมนุมมีอาวุธคนหนึ่งก็ไม่ใช่ว่าผู้ชุมนุมทุกคนจะพกอาวุธมา คุณมีหน้าที่ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนมันคือ"งาน"ของคุณ ไม่ใช่มาฆ่าประชาชน เพื่อนักการเมืองคดโกงกลุ่มหนึ่ง เพื่อเหลี่ยมคนเดียวนี่ถึงกับจะยอมลบล้างสถาบันกันเลยหรือ จาก ผ่านมา 14/10/2551"




ผมได้ตอบคำถามไปดังนี้ :

เรียน คุณผ่านมา เพื่อโปรดทราบ

ผมขออนุญาตกราบเรียนว่า ผมไม่ทราบข้อเท็จจริงว่า ผู้ที่เสียชีวิตนั้น เสียชีวิตด้วยเหตุใด เพราะผมเองก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และ ที่สำคัญ แพทย์นิติเวชที่ทำการตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตาย ก็ยังไม่ได้แถลงการณ์ออกมาว่า ผู้สูญเสียชีวิตนั้น เสียชีวิตด้วยเหตุใด

แม้จะมีการพิสูจน์ออกมาแล้วว่า แก๊สน้ำตาคุณภาพต่ำ และอาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ที่ถูกแก๊สน้ำตาได้ หากถูกตัวหรือร่างกายผู้นั้นโดยตรง แต่ก็ยังไม่ปรากฎข้อเท็จจริงที่เป็นที่ยุติว่า ผู้ตาย ได้ถูกแก๊สตา จนตาย ที่ผมกล่าวไปเช่นนี้ ไม่ใช่ว่า จะไม่มีคนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนะครับ แต่ผมขอกราบเรียนข้อเท็จจริงในเบื้องต้นเสียก่อน

ผมขอเรียนให้ท่านลองไตร่ตรองสิ่งที่ท่านเรียกร้องนะครับ กรณีรถจี๊บระเบิด ท่านบอกว่า ตำรวจก็สรุป โดยไม่ทำการสอบสวน หากใช้มาตรฐานเดียวกับท่านต้องการ ก็จะมีลักษณะเดียวกัน คือ คดีผู้เสียชีวิตนี้ ก็ยังไม่ได้ทำการสอบสวน จนได้ข้อยุติให้เห็นแน่ชัดเช่นกันครับ จึงขอกราบเรียนให้ท่านใจเย็น ๆ

สำหรับการปราบปรามการก่อการจลาจลนั้น โดยปกติ จะมี Rule of Engagement ที่แน่ชัด ตามหลักสากล โดยสรุป ก็คือ

๑) การปราบปรามจลาจล ต้องใช้วิธีการที่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ คือ การรักษาความสงบเรียบร้อยได้อย่างจริงจัง

๒) การเลือกใช้วิธีการในการปราบปรามจลาจล จะต้องไม่ร้ายแรงเกินควรแก่กรณี

๓) เป็นวิธีการที่ได้สัดส่วน ตามหลักการได้สัดส่วนระหว่าง ความร้ายแรงการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุม เปรียบเทียบกับ วิธีการปราบปราม

ในการปราบปรามการจลาจล ก็จะต้องใช้วิธีการแจ้งเตือนให้กลุ่มผู้ชุมนุมสลายตัว หากไม่สลายตัว จึงจะใช้วิธีการและมาตรการตามหลักการที่กล่าวไปแล้วได้ต่อไป

มีคนถามผมมากมายว่า ทำไม ไม่ใช้น้ำฉีด .... แบบที่เมืองนอกเขาใช้กัน ผมก็ขอเรียนว่า เหตุที่เมืองนอกใช้น้ำฉีด ก็เพราะ เมืองนอกอากาศหนาว เมื่อฉีดน้ำเข้าฝูงชน เขาก็หนาวเหน็บทรมาน แล้วจึงพากันกลับบ้านไป แต่กรณีของไทย อากาศร้อน ฉีดน้ำ ก็ทำให้ผู้ชุมนุมสดชื่น เย็นสบาย มันคนละเรื่องกันเลย ถ้าใช้น้ำฉีดในเมืองไทย ก็คงเหมือนสงกรานต์ละครับพี่น้องครับ ... ดังนั้น ผมจึงอยากเรียนให้ทราบถึงเหตุผล ความเป็นมา ณ ที่นี้เสียเลย ถึงสาเหตุที่ไม่ควรจะใช้น้ำฉีดใส่ผู้ชุมนุม

ประเด็นสุดท้าย ที่ผมอยากจะกราบเรียน ผมอยากขอให้ท่านพิจารณา ไม่ใช่ฆ่าตัดตอน เฉพาะว่า มีคนตายแล้ว สรุปว่า ตำรวจทำผิดทั้งหมด ผมขอเรียนอย่างนี้ว่า ควรจะต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ตั้งแต่ว่า ก่อนเกิดการปราบปรามการจลาจลนั้น เกิดเรื่องอะไรขึ้น

๑) ก่อนเกิดเหตุ มีเหตุการณ์ชุมนุม โดยผิดกฎหมายเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการชุมนุมที่ไม่สงบและไม่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๖๓ ทำให้ตำรวจมีอำนาจสลายการชุมนุมในครั้งนี้ และ อาจมีการสลายการชุมนุมอีกในอนาคต (โปรดอ่านรายละเอียดใน คำพิพากษาศาลปกครอง หมายเลขดำที่ ๑๖๐๕/๒๕๕๑ ลงวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๑ หน้า ๙ )

๒) ตำรวจมีอำนาจสลายการชุมนุมที่ไม่สงบ และไม่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญนั้นได้ แต่จะต้องปฏิบัติตามหลักสากล ในเรื่องการใช้กำลังสลายการชุมนุม

๓) การใช้อำนาจของตำรวจ หากรุนแรงเกินสมควร รัฐก็อาจจะต้องเข้ามารับผิดชอบ ตามกฎหมายว่าด้วย ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ ซึ่งเป็นหลักการทั่วไป ไม่ใช่ว่า เมื่อใช้อำนาจตามกฎหมายแล้ว จะไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ

๔) หลักความรับผิดชอบนั้นจะต้องพิจารณาองค์ประกอบหลายประการ ตามหลักกฎหมายมหาชน ซึ่งอาจจะต้องพิจารณาว่า รัฐจะต้องรับผิดชอบในความเสียหาย แม้รัฐไม่มีความผิดด้วยก็ได้

ผมขอเรียนว่า หากเราคิดและพิจารณาตามขั้นตอน ด้วยสติสัมปชัญญะ แล้ว เราก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ถูกต้อง ใครผิดก็ว่าตามผิด ใครถูกก็ว่าตามถูก หากทุกคนมีส่วนผิด ก็ต้องจะต้องพิจารณาเป็นส่วน ๆ กันไป ผมว่า ตำรวจไม่ได้ทำเพื่อใคร แต่ตำรวจต้องทำตามหน้าที่ ซึ่งประชาสังคมส่วนใหญ่ของประเทศมอบหมายให้ ก็คือ การรักษาความสงบเรียบร้อย การชุมนุมเป็นสิทธิและเสรีภาพที่ยอมรับในระดับสากลก็จริง แต่หาใช่ว่า จะใช้สิทธิไปกระทบสิทธิของบุคคลอื่นที่เห็นไม่ตรงกันได้ไม่ ตำรวจก็ต้องเข้ามาเป็นตัวกลางในการจัดการปัญหา

ไม่มีตำรวจคนใด อยากโดนฟ้อง โดนร้อง โดนด่า โดนประณามหรอกนะครับ ถ้าเป็นไปได้ เขาลาออกกันหมดแล้ว หรือไม่งั้น ก็ลาไปพักผ่อนชายทะเล เย็นสบาย สุขใจ ไม่ต้องโดนด่า โดนคนขับรถพุ่งชน โดนคนเอาธงที่มีปลายแหลมแทงใส่จนบาดเจ็บสาหัสปางตายหรอกนะครับ

ผมว่าถ้าเราใจเย็น ๆ แล้วหันหน้ามาคุยกัน ใครผิด ใครถูก ก็ยอมรับ แล้วหาทางเยียวยา กันไป ก็น่าจะดี เพราะท้ายที่สุด เราก็ต้องอยู่กันไปในพื้นแผ่นดินนี้ แยกหนีจากกันไม่ได้ การเอาใจเขาใส่ใจเรา การหันหน้ามาพูดคุย ไม่ยอมเป็นเครื่องมือของใคร ต่างคนต่างทำหน้าที่ ที่มีหลักเกณฑ์ และกฎหมายกำหนดแล้ว บ้านเมืองก็จะเดินหน้าไปได้ อย่างประเทศญี่ปุ่น เราจะเห็น คนเคารพกฎเกณฑ์ มีวินัย เคร่งครัดหน้าที่ของแต่ละคน ประเทศเขาก็เจริญก้าวหน้าไปได้เหนือกว่าประเทศใดในโลก

การเคารพกฎหมาย คือ การเคารพศักดิ์ศรีและเกียรติยศในความเป็นคนของตนเองครับ .... จาก พ.ต.ท.ดร.ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ 15/10/2551"




ผมเรียนก่อนนะครับ ว่าไม่เข้าข้างฝ่ายใด ผมจะพิจารณาตามหลักกฎหมาย และ ข้อเท็จจริง โดยมาตรฐานของวิญญูชน ในขณะที่เกิดเหตุนั้น ๆ เป็นสำคัญ ผมจะไม่ทำตัวเองแบบว่า วิจารณ์หวย หลังกองสลากประกาศผลแล้ว ว่าทำไม ไม่เล่นอย่างนั้น ทำไม ไม่เล่นอย่างนี้ ฯลฯ แต่เราจะต้องทำเหมือนกับที่เราอยู่ในเหตุการณ์นั้น ถูกกดดันแบบนั้น เราจะทำอย่างไร มาประกอบกับหลักกฎหมายที่สากลเขาเรียนรู้กัน



Create Date : 16 ตุลาคม 2551
Last Update : 18 มิถุนายน 2553 13:27:40 น. 17 comments
Counter : 701 Pageviews.

 
คำพิพากษาศาลปกครอง ที่อ้างถึง โปรดดาวน์โหลดได้ที่

//www.admincourt.go.th/attach/news_attach/2008/10/case-data-10102551.pdf




โดย: POL_US วันที่: 16 ตุลาคม 2551 เวลา:13:20:15 น.  

 
เห็นด้วยกับการนำเสนอแบบนี้ ในบล็อกนี้ วันนี้ ครับ
..
...
....

แต่ถึงยังไง ก็ยังคงมีคำถามค้างคาใจอีกมากมาย
เป็นการมองในแง่ของประชาชนผู้เสียหาย และเหตุการณ์ที่เกิดซ้ำ ๆ ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
เช่น
....ผู้ปฏิบัติการไม่มีการประเมินผลลัพธิ์เพื่อดำเนินการในครั้งต่อไป
เพราะเสียงระเบิดปัง ปัง ปัง หลายระลอกในวันเดียวกันนั้น พร้อมกับมีผู้บาดเจ็บทุกคราว ที่ผมดูและฟังผ่านทีวี ไม่น่าเป็นเรื่องสนุกหรอกครับ มันเหมือนปล่อยให้คนคลุ้มคลั่งมาทำหน้าที่

หรือการยิงรถพยาบาล การทำร้ายผู้ปฏิบัติงานฐานะกาชาดที่มีเครื่องหมายชัดเจน... เหล่านี้ ถือว่าเป็นมาตรฐานสากลด้วยหรือเปล่า


โดย: NickyNick วันที่: 16 ตุลาคม 2551 เวลา:14:34:06 น.  

 
ขอบคุณนะคะ

.
รอดูต่อไปค่ะ
.


โดย: blueschizont วันที่: 16 ตุลาคม 2551 เวลา:14:50:01 น.  

 
ผมได้แต่หวังว่า ประชาชน ซึ่งรวมถึงท่าน NickyNick ด้วยว่า จะไม่มองด้านเดียว คือ มองแต่ว่า มีคนตาย ... แล้วก็สรุป .... มองแต่ว่า มีแก๊สน้ำตา วิ่งชน รถพยายาล ... แล้วก็สรุป ...

ผมพยายามจะชี้ว่า มาตรฐานสากล ในการพิจารณาเรื่องพวกนี้ คือ การที่เอาตัวเราเอง เข้าไปคลุกคลี เหมือนเราอยู่เหตุการณ์นั้น แล้วก็ต้องพิจารณาว่า จะยิงระเบิด ๑ นัด กลับมาที่ตั้ง แล้วประเมินผล อีก ๑ ชั่วโมง แล้ว ยิ่งอีก ๑ นัด แล้วประเมินผล จะได้หรือไม่ ..... คนพิจารณานั้น จะต้องพิจารณาเสมือนว่า ถ้าเราเอง มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ตามที่ศาลปกครองวินิจฉัยมาว่า การชุมนุม ไม่สงบเรียบร้อย ข่มขู่ จะก่อให้เกิดอันตรายต่อสาธารณชนแล้ว ตำรวจซึ่งศาลวินิจฉัยว่ามีอำนาจสลายการชุมนุมได้นั้น จะใช้มาตรการใด ในการสลายชุมนุมได้บ้าง

๑) ใช้น้ำไม่ได้แน่ เพราะจะกลายเป็นเล่นสงกรานต์ ไม่ประสบความสำเร็จ

๒) ใช้แก๊สน้ำตา ใช้อย่างไรบ้าง กี่นัด จึงจะเปิดทางและสลายการชุมนุมได้ จะยิง ๑ นัด แล้ววิ่งเข้าที่ตั้ง ประเมินผล อีกครึ่ง ชม. มายิงอีก ๑ นัด แล้ววิ่งเข้าที่ตั้ง ประเมินผลได้หรือไม่

ฯลฯ

เหล่านี้ ล้วนแต่เป็นข้อเท็จจริง ที่ผมก็ไม่ทราบ และไม่สรุปในที่นี้เด็ดขาด เพราะไม่ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด ภาพข่าวที่ออกมา ก็มีหลายกระแส แล้วผมก็ดูทั้งหมด พร้อมกับ ความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นที่คนมองข้าม

เช่น ตำรวจสายตรวจมาคนเดียว ตรวจรักษาความปลอดภัยรอบวังในหลวง ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมเลย ถูกลากไปรุมตี ตอนนี้ เสียชีวิตแล้ว บำเพ็ญกุศลที่วัดตรีทศเทพ ... เขาควรจะถูกพาลทะมิด ทำเช่นนั้นหรือไม่ ... แล้วใครให้ความเป็นธรรมกับเขาบ้าง

ร.ต.ท.ท่านหนึ่ง ที่ถูกสมุนพาลทะมิด ถูกขับรถกะบะทับ และจะทับซ้ำ จนขาแหลกละเอียด โดยเขาไม่มีอาวุธใด ๆ

ร.ต.อ. ที่หนึ่ง ถูกพาลทะมิดตีหัวจนสลบ เอาตัวไปขังไว้ในบริเวณสะพานมัฆวาน อย่างหมูอย่างหมานั้น ทำได้อย่างไร

พล.ต.ต.ท่านหนึ่ง ไปช่วยเหลือพาลทะมิดที่บาดเจ็บ ถูกเหล็กตีหัว ล้มทั้งยืน ...

ตำรวจมือเปล่า ถูกยอดธงปลายแหลม แทงทะลุอวัยวะภายใน ปางตาย

ฯลฯ

เหล่านี้ คือ สิ่งที่สังคมไม่มอง แล้วเอาแต่ประณามตำรวจ พร้อมกับบอกว่า พันธมิตร "มือเปล่า" "ไร้อาวุธ"

ทำไม ไม่เอาข้อเท็จจริงทั้งหมด มาตีแผ่ มาพูดกัน แล้วสรุปหาทางออกที่ดีละครับ ทำไมมองด้านเดียว ตอบคำถามคนที่เขามองด้วยใจอันเป็นธรรมด้วยนะครับ


โดย: POL_US IP: 58.8.184.57 วันที่: 16 ตุลาคม 2551 เวลา:15:04:00 น.  

 
ลองดูอีกด้านหนึ่ง ... ที่สอดคล้องกับ เพื่อนนักข่าว ที่อยู่ในกลุ่มพันธมิตร ... แต่หัวใจรักหลักการและกฎหมายที่แท้จริงนะครับ เขาว่า อาวุธในพันธมิตร เพียบ... ไงท่าน NickyNick ลองเปิดใจ รับข่าวอีกด้านหนึ่งนะครับ ก่อนสรุปอะไรลงไป...


//thaienews.blogspot.com/2008/10/blog-post_9282.html


โดย: POL_US IP: 58.8.184.57 วันที่: 16 ตุลาคม 2551 เวลา:15:11:19 น.  

 
เหตุผลเรื่องการหลีกเลี่ยงการฉีดน้ำนั้นก็เป็นน่าพอใจ
เเต่ถ้าวิธีฉีดเเบบต่างประเทศทำกัน คือฉีดเเบบพุ่งเเรงสูง ผู้ต่อต้านก็ไม่สามารถเคลื่อนตัวได้ หรือรถฉีดน้ำเมืองไทยไม่มีคุณภาพพอ?

เรื่องเเก๊สน้ำตานั้น ไม่ว่าประเทศไหนก็ต้องใช้เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ จะเป็นเเก๊สที่มีคุณภาพต่ำหรือขึ้นอยู่กับความบกพร่องของพลตำรวจ อย่างไรยังไม่ทราบเเน่ชัด

อย่างไรก็ดี ก็ยังเข้าใจหน้าที่ของตำรวจเเละทหารที่ปฎิบัติหน้าที่ราชการ ปกป้องคุ้มครองประเทศ ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหนก็ตาม ก็พวกเราคนไทยทั้งนั้น
ขอบคุณทั้งทหารเเละตำรวจที่ปกป้องคุ้มครองประชาขนตามคำสั่งที่รับมาจากผูับังคัญบัญชา

ขอให้มีการเเก้ปัญหาที่ยุติความไม่สงบสุขครั้งนี้


โดย: YUCCA วันที่: 16 ตุลาคม 2551 เวลา:16:52:57 น.  

 
คุณนิคกะคุณพลโทรศัพท์คุยกันเลยดีมั้ย ไม่อยากให้บานปายน่ะ


โดย: ,,, IP: 125.27.144.196 วันที่: 16 ตุลาคม 2551 เวลา:17:42:14 น.  

 
งานนี้ อยู่ข้างตำรวจค่ะ เพราะพี่ชายบ้านอยู่แถวนั้น ถ่ายวีดิโอมาให้เห็นกันจะจะ

ammy ว่า พวกเราส่วนใหญ่ อาจจะเลือกรับข่าวกันด้านเดียวนะคะ รับแต่เฉพาะส่วนที่เราอยากฟัง เรื่องที่ควรจะจบ มันเลยไม่จบ เพราะต่างฝ่ายต่างก็เอาเหตุผลในด้านตัวเองเป็นที่ตั้ง โดยไม่สนใจจะหาจุดร่วมที่อาจจะพอประนีประนอมกันได้บ้าง

สงสารแต่ประเทศไทยค่ะ
บอบช้ำไปทุกส่วน ---
ใครจะช่วยดูแลคะ

ฝากไว้ให้คิด เช่นกัน
ด้วยความรักในประเทศไทย เต็มหัวใจเหมือนทุกคน


โดย: ammy IP: 124.121.144.122 วันที่: 16 ตุลาคม 2551 เวลา:21:49:08 น.  

 
เปิดไปอ่านแล้วครับ
ท่าน ดร.ก็น่าจะไปเปิดอ่านรับข่าวอีกด้านด้วยนะครับ จะได้แฟร์กันทั้งสองคน
แต่ลิ้งค์ที่ท่านแนะนำนี้ เนื้อหาแต่ละเรื่องที่เชิญชวนให้อ่าน เหมือนกับในห้องราชดำเนินยังไงยังงั้น

เหตุการณ์วันที่ ๗ ตุลาคงไม่เป็นเหตุการณ์เดียวที่คนตั้งคำถามเกี่ยวกับตำรวจ
เรื่องอื่นที่นำตำรวจไปเกี่ยวข้องด้วยทั้งทางตรงหรืออ้อม
เช่น เหตุการณ์อุดร มหาสารคาม บุรีรัมย์
เรื่องที่แต่ละฝ่ายอ้างถึงเกี่ยวกับเบื้องสูงและนำไปสู่การออกหมายเรียกหรือหมายจับ
การออกหมายจับผู้หลักผู้ใหญ๋โดยนำไปขอหมายศาลที่อยุธยา

ซึ่งมีการพลิกแพลงเล่นแง่เล่นมุมจนคนธรรมดาทั่วไปตามกันไม่ทัน
แม้จะเปิดใจฟังสองฝ่าย ก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายถูกต้อง

ตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้เราได้พิจารณาว่าใครน่าจะเป็นฝ่ายผิดฝ่ายถูก
คือการเร่งออกหมายเรียกหมายจับ หรือการเชื่องช้าของหมายจับ รวมถึงการพิจารณาคดีต่อเนื่องกันไป

ซึ่งแม้ว่าตำรวจเริ่มต้นคดีของแต่ละคดีจะเป็นคนละคน แต่มาตรฐานความเร่งรีบจะแตกต่างกันไปราวฟ้ากะดิน
ทำให้รู้สึกว่า หากตำรวจอยากเร่งคดีไวๆ ก็ให้คนนั้นทำ
หากอยากให้เป็นไปตามหลักการ ก็มาให้คนนี้ทำ

อีกอย่างหนึ่งก็เป็นเรื่องการชี้แจงประชาสัมพันธ์
หากใครตอบแบบแข็ง ๆ มีจิกมีกัดกลับตลอด
หรือมีช่องทางให้คนอื่นแย้งได้บ่อย ๆ
ก็จะลดความน่าเชื่อถือลง

จึงเรียนมาด้วยความเคารพ






โดย: NickyNick วันที่: 17 ตุลาคม 2551 เวลา:9:24:27 น.  

 
คนดีชอบทำ คนระ_ชอบติ


โดย: กิมยอง IP: 125.27.150.93 วันที่: 17 ตุลาคม 2551 เวลา:12:53:42 น.  

 
ผมนะเปิดรับข้อมูลทุกฝ่ายแหละครับ โดยเฉพาะ ฝ่ายพันธมิตร นี่ไม่ต้อง เราถูกบังคับให้รับอยู่แล้ว เพราะ ทั้งโดนบังคับ ทั้งอยากรู้เอง โดนบังคับ ก็เพราะ ทั้ง ป.ป.ช. กรรมสิทธิมนุษยชน ฯลฯ สื่อทุกชนิด ฯลฯ ก็นำเสนอภาพข่าวด้านเดียว คือ ด้านพันธมิตร ไม่เคยเสนอข่าวด้านที่เป็นกลางออกมา ทั้งสองฝ่ายกันอยู่แล้ว

ผมก็ทำหน้าที่ของผม คือ ชี้แจงหลักการแห่งกฎหมายว่าอะไรควรจะเป็นอะไร นำข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่ผมยกมาแล้วว่าคนละเลย ไม่สนใจใยดี หาว่าเขาไม่จงรักภักดี มาทิ่มแทงกันจนไม่มีเหลือความเป็นคน ก็เอามาให้ดูกันอีกฝ่าย เพราะข่าวฝ่ายพันธมิตรนั้น ได้รับการเสนอจนบิดเบือนกันไปหมดแล้ว

ส่วนที่ว่าชี้แจงแล้วถูกโต้แย้ง ผมก็ขอเรียนว่า โต้แย้งนะ ถ้าใครมันจะโต้แย้ง มันก็โต้ได้หมด เช่น บอกว่า สิ่งนี้ดี สิ่งนี้ควร ฯลฯ ล้วนแต่ เป็นเรื่อง รู้เฉพาะตน คิดเฉพาะตน ใครบอกอะไรก็ไม่เชื่ออยู่แล้ว ก็โต้แย้งได้หมด หลักการว่าอย่างนี้ ถ้าคนใดจะโต้ ก็โต้ได้หมด เช่น ใช้กับสังคมไทยไม่ได้ เช่นว่า ไม่เข้าบริบทของสังคมไทย ไม่เข้ากับวัฒนธรรมไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่จะโต้กันไป ใครจะว่าอะไรได้ ... หรือท่านคิดว่า ใครเสนออะไรออกมาแล้ว โต้แย้งไม่ได้เลย ขนาดนักวิทยาศาสตร์ พิสูจน์อะไรออกมาอย่างชัดแจ้ง ก็ยังมีการโต้แย้งได้

ผมจึงมองเรื่อง การชี้แจงแล้วถูกโต้แย้ง ว่าเป็นเรื่องธรรมดาของโลกมาก ๆ ถ้าชี้แจงแล้วโต้แย้งไม่ได้นี้ เรื่องแปลกมาก ๆ ๆ ถ้าใครทำได้ มาบอกผมนะครับ ผมจะไปกราบเท้าครับ


โดย: POL_US IP: 58.8.194.84 วันที่: 17 ตุลาคม 2551 เวลา:13:32:23 น.  

 
There are many factor to consider when laying out your vision .To begin with, there is the connection between you and your idea that was take side. . .

To lay out your vision , you first need to know the dynamics of the truth you wanted!!!


Lastly, You know who are you moreover ,you know what you want.


โดย: either......or....... IP: 124.120.12.84 วันที่: 17 ตุลาคม 2551 เวลา:21:20:03 น.  

 
แฟนคลับบล็อกนี้ดุเอาการแฮะ
บาย บาย ก่อนจะเห็นคนกราบเกาหลี


โดย: NickyNick วันที่: 18 ตุลาคม 2551 เวลา:12:42:37 น.  

 
คุณนิคกี้(ชื่อเดียวกับพระเอกวีซีดีทีดิฉันชอบ)
ลองคลิ๊กไปบล๊อกคุณ ไม่เห็นคุณเขียนอะไรเลย ลองเขียนเรื่องนี้ให้เป็นขวัญตาบ้างซิ อยากเห็นว่าการเขียนแบบไม่จิกไม่กระด้างเป็นงัย _ไม่อยากเห็นใครทำตัวเป็นตาบอดคลำช้างง่ะ


โดย: กิมยอง IP: 125.27.146.194 วันที่: 19 ตุลาคม 2551 เวลา:14:51:11 น.  

 
I agree with Khun กิมยอง. He made a lot of comments but when I visited his blog...there was nothing.
I also would like to read his writing. How excellent of him????


โดย: UC IP: 98.212.7.80 วันที่: 21 ตุลาคม 2551 เวลา:13:30:43 น.  

 
ด่าพ่อด่าแม่ยังพอคบ
ด่าท่านพลที่เคารพ คบไม่ได้


โดย: กิมยอง IP: 125.27.145.124 วันที่: 21 ตุลาคม 2551 เวลา:15:52:25 น.  

 
นึกถึงเรื่องวันนั้นที่ไร ก็เห็นใจ ตร. ชั้นผู้น้อย ที่มีหน้าที่ปฏิบัติการด่านหน้า มากๆ

เฮ้อ...........

ทำงัยได้หละคะ อาชีพนี้เหมือนต้องคำสาป จริงนั่นหละค่ะ

ทำดี เสมอตัว
ทำไม่ดีหน่อย โดยด่า แช่ง ทั้งโครต
ไม่ทันได้ทำอะไรเลย โดยด่าฟรีๆ ไปก่อนเลย ทุกทีสิน่า


โดย: paninee วันที่: 9 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:13:20 น.  

POL_US
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 82 คน [?]




คลิ๊ก เพื่อ Update blog พ.ต.อ.ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ ได้ที่นี่
https://www.jurisprudence.bloggang.com






รู้จักผู้เขียน : About Me.

"เสรีภาพดุจดังอากาศ แม้มองไม่เห็น แต่ก็ขาดไม่ได้ "










University of Illinois

22 Nobel Prize & 19 Pulitzer Prize & More than 80 National Academy of Sciences (NAS) members







***คำขวัญ : พ่อแม่หวังพึ่งพาเจ้า

ครูเล่าหวังเจ้าสร้างชื่อ

ชาติหวังกำลังฝีมือ

เจ้าคือความหวังทั้งมวล



*** ความสุข จะเป็นจริงได้ เมื่อมีการแบ่งปัน :

Happiness is only real when shared!














ANTI-COUP FOREVER: THE END CANNOT JUSTIFY THE MEANS!






Online Users


Locations of visitors to this page
New Comments
Friends' blogs
[Add POL_US's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.