• ข่าวเด่นประเด็นดังทั่วไทย
• ข่าวเด่นประเด็นดังทั่วไทย 2
• ข่าวเด่นประเด็นดังต่างประเทศ
• เรื่องจริง,อุทาหรณ์
• ข่าวกีฬาทั่วไป
• ข่าวอาเซนอล
• ข่าวบาซ่า
• ข่าวบันเทิง,ดารา,นักร้อง,คนดัง,ละคร
• ข่าวดารา,บันเทิง,นักร้อง,คนดัง,ละคร 2
• ข่าวดารา,บันเทิง,คนดัง,นักร้อง,ละคร 3
• ข่าวสารภาพยนตร์
• ดูดวง,ทำนาย,แบบทดสอบ
• ข่าวสารท่องเที่ยวทั่วไทย
• ข่าวสาร,แนะนำที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
• ความรู้ทั่วไป,ความรู้รอบตัว
• ข่าวสารครอบครัว,ความรัก,เพื่อน
• ข่าวสารสุขภาพ
• ข่าวสารแฟชั่น,ความงาม
• สัตว์ทั่วไป,สัตว์เลี้ยงสุนัข,แมว
• สูตรอาหาร,ขนม
• แนะนำร้านอาหาร
• เรื่องแปลก,ลึกลับ,ผี
• เรื่องตลก,ขำขัน
• ข่าวสารแนะนำเกม
• ต้นไม้,ดอกไม้
• ข่าวสารยานยนต์
• ข่าวสารดำเนินกิจการงาน,อาชีพ
• ข่าวสารเทคโนโลยี,คอมพิวเตอร์,อินเตอร์เน็ต,อุปกรณ์สื่อสารทั่วไป
• ศาสนา,ธรรมะ,คติ,ปรัชญาสอนใจ
• กิจกรรม,ศูนย์รวมเรื่องต่างๆที่ ช่วยเหลือสังคม
• บล็อกส่วนตัวจ้า

รวบตาหื่น ข่มขืนหลานสาววัย 13 นาน 3 ปี อ้างสั่งสอนกลับดึก เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล    ตำรวจบางชัน รวบตาหื่นกาม ข่มขืนหลานสาววัย 13 ติดต่อกันนาน 3 ปี โดยอ้างว่า ตอนแรกแค่ต้องการสั่งสอนที่กลับบ้านดึก เมื่อเวลา 16.00 น. ของวานนี้ (9 ตุลาคม 2556) พ.ต.อ.วีรชัย โพธิปัตชา ผกก.สน.บางชัน พร้อมด้วย พ.ต.ท.อิทธิเดช สุนทร รอง ผกก.สส. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายบุญเหลือ (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปี โดยจับกุมได้บริเวณสถานที่ก่อสร้าง ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างซอยอ่อนนุช 86-88 แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม.           การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจาก นางเอ (นามสมมติ) อายุ 50 ปี ได้แจ้งความว่า นายบุญเหลือ ที่เป็นสามี และเป็นตาของผู้เสียหาย ได้ใช้กำลังบังคับข่มขืน ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ที่เป็นหลานสาว มาตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2553 พร้อมข่มขู่ว่า จะฆ่าให้ตาย หากนำเรื่องไปบอกกับผู้อื่น โดยตอนนั้น ด.ญ.บี มีอายุเพียง 10 ปี        ต่อมา นางเอ เริ่มผิดสังเกต เมื่อเห็นว่า ด.ญ.บี จะไม่ยอมเข้าบ้าน และไม่ยอมอยู่กับนายบุญเหลือเพียงลำพังหากนางเอยังไม่กลับจากที่ทำงาน เมื่อได้คาดคั้นความจริงว่า ด.ญ.บี ถูกนายบุญเหลือลงมือข่มขืนมานานกว่า 3 ปี นางเอจึงรีบพาหลานไปแจ้งความทันที           ทั้งนี้ นายบุญเหลือให้การรับสารภาพว่า ได้ลงมือข่มขืนหลานสาวของตนจริง เนื่องจากตอนแรกต้องการสั่งสอนที่หลานสาวกลับบ้านดึก แต่หลังจากนั้นก็ฉวยโอกาสลงมือข่มขืนเรื่อยมา เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายบุญเหลือไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมประสานกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำตัวเด็กไปฟื้นฟูสภาพจิตใจที่บ้านพักฉุกเฉินต่อไป อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก //hilight.kapook.com/view/92107   Create Date : 10 ตุลาคม 2556     Last Update : 10 ตุลาคม 2556 19:17:32 น. Counter : 1035 Pageviews.   0 comment Share Tweet

แม่ใจยักษ์ขังลูกออทิสติกในบ้าน 16 ปี กินฉี่-อึประทังชีวิต เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการครอบครัวข่าวเช้า โพสต์โดย คุณ DuangAestheticII สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม เพื่อนบ้านสุดทน แม่ขังลูกออทิสติกในบ้านเพียงลำพัง กินฉี่-อึประทังชีวิตถึง 16 ปี ส่วนตัวเองแต่งงานไปอยู่อีกหมู่บ้าน มาดูลูกเพียงอาทิตย์ละครั้ง เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ จ.ลำปาง ได้เดินทางเข้าตรวจสอบหลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เด็กชายวัย 16 ปี ป่วยเป็นออทิสติก ไม่สามารถพูดได้ ถูกแม่ขังไว้ในบ้านเพียงลำพังตั้งแต่เกิดเป็นเวลานานถึง 16 ปีแล้ว ในหมู่บ้านบ้านฟ่อน ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง ส่วนแม่กลับไปแต่งงานใหม่ไปอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง และจะเข้ามาดูแลลูกเพียงอาทิตย์ละครั้งเท่านั้น โดยที่เกิดเหตุพบเด็กชายคนดังกล่าวถูกขังไว้ภายในบ้านชั้นเดียวเพียงลำพัง มีผ้าห่มบาง ๆ 2 ผืน และลูกฟุตบอล 1 ลูก โดยชาวบ้านเล่าว่า เมื่อเด็กหิวก็จะส่งเสียงโหยหวน และปีนป่ายหน้าต่างเพื่อเรียกร้องให้คนมาช่วยเหลือ สร้างความเวทนาให้กับคนที่พบภาพเหตุการณ์เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งชาวบ้านบางรายได้นำของกินมาให้ประทังชีวิตด้วยความสงสาร เพราะบางทีเด็กไม่รู้เผลอกินฉี่และอุจจาระตัวเองเข้าไปประทังความหิว             อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์พัฒนาเด็กพิการ จ.ลำปาง จะพาเด็กชายไปดูแลต่อไป โดยก่อนหน้านี้เด็กคนนี้เคยถูกพาตัวมาที่ศูนย์แล้วครั้งหนึ่ง แต่เเม่ของเด็กมารับตัวเด็กกลับไป คลิป อนาถ! เด็กออทิสติกถูกแม่ขังอยู่ลำพัง กินดื่มอึฉี่ตัวเอง : เครดิต รายการครอบครัวข่าวเช้า โพสต์โดย คุณ DuangAestheticII //hilight.kapook.com/view/92109   Create Date : 10 ตุลาคม 2556     Last Update : 10 ตุลาคม 2556 19:13:15 น. Counter : 1570 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ลิต้า ชาลิตา โชว์ชุดประจำชาติ นาฏยมาลี เตรียมขึ้นเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2013 รอบตัดสิน เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Miss Universe Thailand ลิต้า ชาลิตา แย้มวัณณังค์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2013 อวดชุดประจำชาติ นาฏยมาลี เตรียมพร้อมขึ้นเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2013 รอบตัดสิน ที่ประเทศรัสเซีย ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2556 วันที่ 9 ตุลาคม 2556 บริษัท จันทร์ 25 จำกัด ผู้ดำเนินการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2013 ได้มีการเปิดตัวชุดประจำชาติ ในชื่อชุด “นาฏยมาลี” ซึ่งจะถูกสวมใส่โดย นางสาวชาลิตา แย้มวัณณังค์ หรือ ลิต้า มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2013 บนเวทีการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2013 ในรอบตัดสิน วันที่ 9 พฤศจิกายน 2556 ที่ประเทศรัสเซีย           โดย นางสุรางค์ เปรมปรีดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทจันทร์ 25 จำกัด และประธานอำนวยการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เปิดเผยว่า ทางกองประกวดได้เปิดโอกาสให้นักออกแบบรุ่นใหม่ร่วมส่งผลงานออกแบบชุดประจำชาติเข้าประกวด โดยมีผลงานที่ส่งเข้าประกวด 815 ชุด และทางคณะกรรมการได้ตัดสินให้ ชุดนาฏยมาลี ออกแบบโดย นายธนาคม สิทธิอัฐกร นักศึกษาจากภาควิชาการออกแบบเครื่องแต่งกาย คณะมัณฑณศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ พร้อมทั้งรับเงินรางวัล 20,000 บาท ก่อนจะนำมาตัดเย็บเป็นชุดประจำชาติสำหรับสวมใส่บนเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2013      ทั้งนี้ นอกจาก ลิต้า ชาลิตา จะแสดงชุดประจำชาตินาฏยมาลีในวันประกวดรอบตัดสินแล้ว ยังมีชุดราตรีอีก 2 ชุด ที่เตรียมไว้ขึ้นแสดง แบ่งออกเป็น ชุดราตรีสำหรับถ่ายภาพในกองประกวด (Portrait) และชุดราตรีหลักที่จะสวมใส่ในรอบตัดสิน           สำหรับ ลิต้า ชาลิตา มีอายุ 24 ปี สูง 176 เซนติเมตร น้ำหนัก 53 กิโลกรัม สัดส่วน 33-24-37 เป็นชาวจังหวัดนครราชสีมา และจบการศึกษาในระดับปริญญาโท คณะการจัดการท่องเที่ยวและการตลาด มหาวิทยาลัยบอร์นมัธ ประเทศอังกฤษ ก่อนที่จะได้รับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2013 และเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์ส ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2556 ณ กรุงมอสโค ประเทศรัสเซีย อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก //women.kapook.com/view73347.html   Create Date : 09 ตุลาคม 2556     Last Update : 9 ตุลาคม 2556 19:12:38 น. Counter : 2391 Pageviews.   0 comment Share Tweet

แจ้งความร่างทรงให้เด็กแฝดดื่มน้ำมนต์ไล่วิญญาณ น้ำท่วมปอดดับ 1 เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการคลุกวงข่าว โพสต์โดย คุณ DuangAestheticII สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม ร่างทรงสั่งเด็กชายฝาแฝด ดื่มน้ำมนต์ 18 ลิตร เพื่อขับไล่วิญญาณ สุดท้ายดับ 1 สาหัส 1 โดยผลชันสูตรพบว่า เสียชีวิตจากอาการน้ำท่วมปวด หัวใจล้มเหลว และสมองบวม ขณะที่พ่อของเด็กแจ้งความเอาผิดถึงที่สุด สืบเนื่องจากกรณีที่มีข่าวว่า เด็กชาย 2 คน ซึ่งเป็นพี่น้องฝาแฝดได้เดินทางพร้อมกับครอบครัว เพื่อร่วมพิธีถือศีลกินเจที่ญาติ ๆ จัดขึ้น แต่กลับถูกร่างทรงบังคับให้ดื่มน้ำมนต์ 18 ลิตร จนเสียชีวิต 1 คน อีก 1 คน อาการสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และยังอยู่ในอาการโคม่านั้น             ล่าสุด เมื่อวานนี้ (8 ตุลาคม 2556) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังมูลนิธิสงเคราะห์คนชราอนาถา ถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ น้องเอ้ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ซึ่งพ่อเด็กร้องเรียนว่า เสียชีวิตจากการดื่มน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ส่วน น้องแอ้ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี พี่ชายฝาแฝด ที่ถูกนำตัวส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ อาการยังน่าเป็นห่วง และต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ผู้เป็นพ่อ วัย 51 ปี ได้เล่าย้อนเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 28 กันยายน ตนพาลูกชายทั้งสองไปร่วมปฏิบัติธรรมกับญาติ ประมาณ 10 คน ในช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ ซึ่งมีการใช้บ้านพักของคนงานกรีดยางภายในสวนของญาติ อยู่ในพื้นที่เขาเล่ เขตเทศบาลเมืองสะเดา จ.สงขลา เป็นสถานที่ประกอบพิธีชั่วคราว โดยมีร่างทรง คือ นางกาญจนา (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี เป็นผู้นำประกอบพิธี             โดยในช่วงเช้าจะมีการเดินจงกรม เที่ยงทานอาหารเจ บ่ายให้นั่งสมาธิ และช่วงเย็นตั้งแต่ประมาณ 4 โมงเย็นจนถึงเที่ยงคืนจะมีพิธีสำคัญ คือ ให้ทุกคนดื่มน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ขนาดถังบรรจุน้ำ 18 ลิตร เพื่อขับไล่ภูตผีปีศาจและสิ่งชั่วร้ายออกจากร่างกาย คนละ 1 ถัง ให้หมดภายในเวลาเที่ยงคืนของทุกวัน หรือจนกว่าร่างกายจะรับไม่ไหวและอาเจียนออกมา โดยกำหนดให้ทำเช่นนี้ตั้งแต่วันแรกที่เข้าประกอบพิธีจนกระทั่งสิ้นสุดเทศกาลถือศีลกินเจ             ซึ่งในวันแรก น้องเอ้ ก็เริ่มมีอาการชักเกร็ง แต่ร่างทรงและทุกคนต่างเชื่อว่า เป็นอาการของภูตผีที่กำลังออกจากร่าง และได้ช่วยกันบีบนวดจนฟื้นขึ้นมา โดยมีนางกาญจนาคอยทำพิธีและพูดจาหว่านล้อม ทำให้ทุกคนหลงเชื่อ จนกระทั่งคืนวันที่ 5 ตุลาคม เวลาประมาณ 3 ทุ่ม น้องเอ้ ที่เป็นแฝดน้อง ได้ดื่มน้ำเข้าไปอีก และเกิดอาการชักเกร็งมือหงิก ซึ่งนางกาญจนาบอกว่า เป็นอาการของปีศาจเสือที่กำลังจะออกจากร่าง กระทั่งน้องเอ้แน่นิ่งไป จากนั้นญาติได้ช่วยกันปฐมพยาบาลจนฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง แต่นางกาญจนาก็ยังให้น้องเอ้ดื่มน้ำเข้าไปอีก โดยบอกว่า ยังมีภูตผีอีก 10 ตัวที่อยู่ในร่าง ต้องให้อาเจียนออกมาให้หมด ซึ่งแฝดน้องได้ชักเกร็งและหมดสติไปถึง 3 ครั้ง ก่อนที่จะแน่นิ่งไปในเวลาเที่ยงคืน เมื่อญาติเห็นว่าไม่ฟื้นขึ้นมา จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสะเดาในเวลาประมาณตี 3 แต่คาดว่าน่าจะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ             ส่วนพี่ชาย ซึ่งดื่มน้ำเข้าไปจำนวนมากและมีอาการใกล้เคียงกันถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสะเดา ก่อนถูกส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ซึ่งในเวลาต่อมา นางกาญจนา ที่เป็นร่างทรงได้มาเยี่ยมที่โรงพยาบาล พร้อมทั้งบอกกับแฝดพี่ว่า นิมิตเห็นแฝดน้องไปอยู่บนสรวงสวรรค์แล้ว และอยู่ในชุดที่สวยงามด้วย             ด้านแพทย์แผนกนิติเวช โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ได้ผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตของเด็กแล้ว ผลปรากฏว่า มีสาเหตุมาจากน้ำท่วมปวด หัวใจล้มเหลว และสมองบวม ซึ่งเชื่อว่าต้องมาจากการถูกบังคับให้ดื่มน้ำเกินขนาด จนร่างกายรับไม่ไหว โดยอยากให้กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์ว่า อย่าเชื่อเรื่องที่งมงายเกินจริงจนนำไปสู่การเสียชีวิต ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เผยว่า หลังเกิดเหตุพ่อของเด็กได้มาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน โดยมีการเชิญทุกฝ่ายมาให้ปากคำ แต่ทั้งนางกาญจนาและญาติ ต่างบอกว่า ในระหว่างการประกอบพิธีทุกคนดื่มน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ ไม่ได้มีการบังคับ และญาติยังบอกว่า เด็กมีโรคประจำตัวเป็นโรคลมบ้าหมูด้วย             ส่วนในทางคดีนั้น หากสอบสวนแล้วพบว่า เข้าข่ายความผิดทางอาญาก็จะแจ้งข้อหาตามมูลความผิด และออกหมายจับ นางกาญจนา ทันที ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างลงพื้นที่ไปตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุ คลิป ร้องร่างทรงทำพิธีเด็กแฝดดื่มน้ำมนต์ดับ 1 สาหัส1 : เครดิต รายการคลุกวงข่าว โพสต์โดย คุณ DuangAestheticII อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก //hilight.kapook.com/view/92057   Create Date : 09 ตุลาคม 2556     Last Update : 9 ตุลาคม 2556 18:47:39 น. Counter : 1274 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ภาพชายหื่นพยายามถ่ายหน้าอกสาว บนรถไฟใต้ดิน ประจานว่อนเน็ต เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ eve_Noop         เป็นภาพที่ถูกส่งต่อและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมายเลยทีเดียว เมื่อพลเมืองดีคนหนึ่งได้ถ่ายภาพขณะที่ชายหื่นกาม พยายามจะใช้กล้องซูมหน้าอกหญิงสาว บนรถไฟฟ้าใต้ดิน   โดยพลเมืองดีที่ว่านี้คือ คุณ @eve_Noopi ได้โพสต์รูปดังกล่าว พร้อมข้อความระบุว่า... "ผช. กำลังถ่ายรูปอัดคลิปซูมหน้าอก ผญ. ที่ยืนเยื้อง ๆ กัน พี่เรายืนจ้องมันรู้สึกตัวแต่ไม่แคร์ #มารสังคมในรถใต้ดิน #ตัวเหี้_"           อย่างไรก็ดี บรรดาชาวเน็ตได้รีทวีตและแชร์ภาพสู่โลกออนไลน์ พร้อมด่าทอต่อว่า และโพสต์ประจานชายคนดังกล่าวอย่างกว้างขวางเลยทีเดียว อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก //hilight.kapook.com/view/92051   Create Date : 08 ตุลาคม 2556     Last Update : 8 ตุลาคม 2556 19:10:55 น. Counter : 888 Pageviews.   0 comment Share Tweet