• ข่าวเด่นประเด็นดังทั่วไทย
• ข่าวเด่นประเด็นดังทั่วไทย 2
• ข่าวเด่นประเด็นดังต่างประเทศ
• เรื่องจริง,อุทาหรณ์
• ข่าวกีฬาทั่วไป
• ข่าวอาเซนอล
• ข่าวบาซ่า
• ข่าวบันเทิง,ดารา,นักร้อง,คนดัง,ละคร
• ข่าวดารา,บันเทิง,นักร้อง,คนดัง,ละคร 2
• ข่าวดารา,บันเทิง,คนดัง,นักร้อง,ละคร 3
• ข่าวสารภาพยนตร์
• ดูดวง,ทำนาย,แบบทดสอบ
• ข่าวสารท่องเที่ยวทั่วไทย
• ข่าวสาร,แนะนำที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
• ความรู้ทั่วไป,ความรู้รอบตัว
• ข่าวสารครอบครัว,ความรัก,เพื่อน
• ข่าวสารสุขภาพ
• ข่าวสารแฟชั่น,ความงาม
• สัตว์ทั่วไป,สัตว์เลี้ยงสุนัข,แมว
• สูตรอาหาร,ขนม
• แนะนำร้านอาหาร
• เรื่องแปลก,ลึกลับ,ผี
• เรื่องตลก,ขำขัน
• ข่าวสารแนะนำเกม
• ต้นไม้,ดอกไม้
• ข่าวสารยานยนต์
• ข่าวสารดำเนินกิจการงาน,อาชีพ
• ข่าวสารเทคโนโลยี,คอมพิวเตอร์,อินเตอร์เน็ต,อุปกรณ์สื่อสารทั่วไป
• ศาสนา,ธรรมะ,คติ,ปรัชญาสอนใจ
• กิจกรรม,ศูนย์รวมเรื่องต่างๆที่ ช่วยเหลือสังคม
• บล็อกส่วนตัวจ้า

รถสองแถวนักเรียนชนท้าย 10 ล้อ จอดเสียข้างทาง มีเด็กเสียชีวิต เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  ข่าวสด รถสองแถวนักเรียนโรงเรียนนาคประสิทธิ์ จ.นครปฐม ชนท้ายรถ 10 ล้อที่จอดเสียข้างทาง เบื้องต้น มีเด็กเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีกนับสิบราย           วันนี้ (4 สิงหาคม 2557) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามพราน จ.นครปฐม ได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลาประมาณ 07.40 น. ว่า เกิดอุบัติเหตุรถสองแถวรับนักเรียนโรงเรียนนาคประสิทธิ์เฉี่ยวชนกับรถบรรทุกสิบล้อที่จอดเสียอยู่ริมไหล่ถนน ก่อนถึงห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาสามพราน ม.2 ต.ท่าตลาด อ.สามพราน จ.นครปฐม เป็นเหตุให้มีเด็กนักเรียนเสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกนับสิบราย ภายหลังจากรับเรื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุทันที เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุพบว่า มีรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 60-1948  กทม. จอดอยู่ริมไหล่ทาง และบริเวณท้ายรถบรรทุกสิบล้อก็มีซากหลังคารถสองแถวติดอยู่ ขณะที่บริเวณด้านหน้ารถบรรทุกสิบล้อพบรถสองแถว ยี่ห้อนิสสัน รุ่นบิ๊กเอ็ม สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 10-2332 นครปฐม ด้านข้างรถติดหมายเลข 28 วิ่งรับจ้าง ระหว่างวัดไร่ขิง-บิ๊กซีอ้อมใหญ่ จอดอยู่ ส่วนบนพื้นถนนด้านหลังรถสองแถว พบร่างของนักเรียนที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ ซึ่งทราบชื่อในเวลาต่อมา คือ ด.ช.วรพจน์ นันทสุนทร อายุ 9 ปี นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนนาคประสิทธิ์           สำหรับนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ได้นำตัวส่งยังโรงพยาบาลสามพรานก่อนที่จะมีการนำผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 ราย ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลนครปฐม และโรงพยาบาลมหาชัย    จากการสอบสวน นายพินญา วิญญาคาม อายุ 23 ปี คนขับรถบรรทุกที่จอดเสีย ทราบว่า รถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าวได้จอดเสียอยู่ตรงบริเวณไหล่ทางตั้งแต่ช่วงดึกที่ผ่านมา จนกระทั่งเวลาประมาณ 07.30 น. รถสองแถวรับ-ส่งนักเรียนที่ขับมาในเส้นทางดังกล่าวพุ่งชนกระแทกเข้ากับรถบรรทุกสิบล้อที่จอดอยู่ ทำให้นักเรียนที่นั่งอยู่ในรถสองแถวบางส่วนกระเด็นออกมานอกรถ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก           ขณะที่ นายธงชัย บุญปรีชา อายุ 47 ปี เล่าว่า ตนมีอาชีพรับจ้างขับรถตู้รับ-ส่งนักเรียนโรงเรียนนาคประสิทธิ์ แต่ในวันเกิดเหตุปรากฏว่ารถตู้ที่ใช้รับ-ส่งนักเรียนเสีย ทำให้เจ้าของรถตู้ตัดสินใจว่าจ้างรถสองแถวมารับ-ส่งนักเรียนเป็นการชั่วคราว โดยตนต้องทำหน้าที่คอยบอกจุดรับนักเรียนแก่คนขับรถสองแถว เพื่อรับนักเรียนจำนวน 23 คน แต่ระหว่างที่เดินทางไปยังโรงเรียนนาคประสิทธิ์ ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นเสียก่อน ซึ่งหลังเกิดเหตุตนก็ไม่เห็นคนขับรถสองแถวแล้ว และเมื่อเวลา 11.00 น. นายสุเทพ นุชิต อายุ 30 ปี คนขับรถสองแถวคันเกิดเหตุ ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามพราน โดยนายสุเทพ ให้การว่า ตอนที่ตนขับรถสองแถวมาถึงจุดเกิดเหตุนั้น จู่ ๆ ล้อหน้าก็เกิดเอียงจนหลังคารถสองแถวไปเกี่ยวด้านท้ายของรถบรรทุกสิบล้อ จนทำให้รถสองแถวของตนเสียหลักก่อนที่จะกระแทกเข้ากับรถบรรทุกที่จอดอยู่ริมถนนอย่างแรง อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาคนรถขับรถสองแถวต่อไป อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก //hilight.kapook.com/view/106156   Create Date : 04 สิงหาคม 2557     Last Update : 4 สิงหาคม 2557 20:41:07 น. Counter : 1653 Pageviews.   1 comment Share Tweet

แบงก์พันปลอมระบาดหนัก เจอนับแสนบาท ที่ตลาดนัดชลบุรี เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด แบงก์พันปลอมระบาดหนัก เตือนระวัง หลังพ่อค้าโดนคนร้ายนำแบงก์ปลอมซื้อของในตลาดนัดหลายพันบาท เป็นแบงก์ใหม่เอี่ยม เลขเดียวกันทุกใบ ขณะที่พ่อค้าอีกคนเจอแบงก์ปลอมตกนับแสน คาดโยนทิ้งหนีตำรวจ            วานนี้ (3 สิงหาคม 2557) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี รับแจ้งจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้าบริเวณตลาดนัดศรีพะโลทัย ตรงข้ามมหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี ว่า มีคนร้ายนำธนบัตรปลอมมาซื้อของในตลาดนัด จึงรุดไปตรวจสอบ             ทั้งนี้ เมื่อไปถึงยังที่เกิดเหตุพบบรรดาพ่อค้าแม่ค้านับ 10 คน นำแบงก์ 1,000 ปลอม มาส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานในการติดตามหาตัวคนร้าย ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า แบงก์ปลอมเป็นแบงก์ 1,000 บาท ทั้งหมด ลักษณะใหม่เอี่ยม มีหมายเลขที่แบงก์คือ 2 D 7874400 เหมือนกันทุกใบ และเหมือนของจริงทุกประการ แต่กระดาษจะมีลักษณะมันและเงากว่าของจริง หากไม่สังเกตก็ไม่ทราบเลยว่าเป็นแบงก์ปลอม            ทางด้าน นายสมศักดิ์ อังคะนาวิน อายุ 62 ปี  พ่อค้าขายหมู เผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ที่ผ่านมา ขณะที่ตนขายหมูตามปกติ แต่วันนี้รู้สึกผิดสังเกตเล็กน้อย เนื่องจากมีคนมาซื้อหมูตนมากจนผิดปกติ มากันประมาณ 5-6 คน เดินเข้ามาขอซื้อหมูคนละ 2-3 กิโลกรัม แต่ละคนก็ถือแบงก์ 1,000 กันมาหมด ซึ่งช่วงนั้นตนก็ไม่กล้าถามว่าแบงก์ปลอมหรือไม่ เพราะกลัวเป็นการดูถูกลูกค้า ส่วนตนก็ตัดหมูขายให้ไป หลังจากนั้นไม่นานก็มีอีก 2 คน นำแบงก์ 1,000 มาซื้อหมูเช่นกัน ทั้งนี้ ตนจำลักษณะคนร้ายที่ใช้แบงก์ 1,000 ซื้อหมูคนแรกได้ เป็นหญิงหน้าตาดี แต่งตัวดี เดินจูงลูกมาซื้อ ซึ่งตอนนั้นตนไม่ได้ติดใจอะไร ขณะที่ นายพิลาวัฒน์ ศรีไทย อายุ 22 ปี พ่อค้าขายไก่ต้มน้ำปลา ก็เล่าว่า ตนได้เดินไปปัสสาวะบริเวณแถวต้นโพธิ์ ข้าง ๆ รั้วตลาดนัด แล้วพบแบงก์ตกอยู่ปึกหนึ่ง จงหยิบขึ้นมาดู พบว่าเป็นแบงก์ใหม่ทั้งหมดและมีสายคาดของธนาคารแห่งหนึ่งด้วย แต่ทั้งนี้ หมายเลขแบงก์คือเลข 2 D 7874400  เหมือนกันหมดทุกใบ นับดูแล้วเป็นเงิน 1 แสนบาท จึงนำมาให้เพื่อน ๆ ในตลาดนัดดู และเมื่อเห็นว่าเป็นแบงก์ปลอมจึงเผาทิ้งไป 7 หมื่นบาท พอดีเจ้าหน้าที่ตำรวจมา จึงมอบส่วนที่เหลือให้ตำรวจตรวจสอบ โดยคาดว่าแก๊งคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเกิดความกลัวเลยโยนแบงก์ทิ้งเป็นปึกแล้วหนีไป           อย่างไรก็ดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า แบงก์ปลอมทั้งหมดมีคนนำไปถ่ายเอกสาร เนื่องจากเลขหน้าแบงก์เหมือนกันหมดทุกใบ และนำไปขายให้กับผู้ที่ต้องการนำไปใช้ โดยทราบมาว่า แบงก์ 1,000 ปลอม จะถูกขายในราคา 200 บาท ส่วนแบงก์ 500 ปลอม จะขาย 100 บาท ซึ่งอยากฝากเตือนบรรดาพ่อค้าแม่ค้าให้ระมัดระวังและตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนรับเงิน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก //money.kapook.com/view94915.html   Create Date : 04 สิงหาคม 2557     Last Update : 4 สิงหาคม 2557 20:36:04 น. Counter : 703 Pageviews.   0 comment Share Tweet

พบอุบายใหม่โยนทรายร้อนให้ผักเป็นรู ตบตาเป็นผักปลอดสาร เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ เตือนผู้บริโภคล้างผักปลอดสารพิษให้สะอาดด้วยน้ำเกลือ หรือน้ำส้มสายชู ก่อนนำไปประกอบอาหาร หลังตรวจพบมีเกษตรกรใช้อุบายทำใบผักเป็นรู ตบตาเป็นผักปลอดสารพิษ วันนี้ (7 กรกฎาคม 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 นำเสนอข่าวเตือนภัยผู้บริโภค ระบุว่า ล่าสุด คุณหมอจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ บ้านศรีหมวดเกล้า ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมด้วยนักวิชาการสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ผู้บริโภคที่นิยมรับประทานผักปลอดสารพิษนั้น ไม่สามารถเลือกบริโภคผักที่มีรู เพราะเชื่อว่าเป็นผักปลอดสารพิษได้แล้ว เนื่องจากมีการตรวจพบว่า มีเกษตรกรบางกลุ่มได้ใช้อุบายทำใบผักให้เป็นรู เพื่อตบตาผู้บริโภคว่าผักดังกล่าวเป็นผักปลอดสารพิษ ด้วยการใช้ทรายร้อนโปรยใส่ใบผักเพื่อให้เกิดรู ดังนั้น จึงขอแนะนำให้ผู้บริโภคนำผักที่ซื้อจากตลาด มาล้างด้วยน้ำเกลือหรือน้ำส้มสายชูก่อน เพราะการล้างผักด้วยน้ำเกลือหรือน้ำส้มสายชู  จะช่วยสามารถลดสารพิษตกค้างได้ 60-80% คลิป เรื่องเล่าเช้านี้ พบเกษตรกรใช้อุบายทำใบผักเป็นรู ตบตาเป็นผักปลอดสารพิษ ( 7 ก.ค.57 ) เครดิตรายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดยคุณ เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร //hilight.kapook.com/view/104747   Create Date : 07 กรกฎาคม 2557     Last Update : 7 กรกฎาคม 2557 21:26:37 น. Counter : 987 Pageviews.   2 comment Share Tweet

น้องแก้มหายตัวบนรถไฟ ตำรวจตั้ง 2 ปม เชื่อยังมีชีวิตอยู่ ภาพประกอบจาก Twitter‏@js100radio เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม น้องแก้ม วัย 13 ปี หายปริศนาบนรถไฟตู้นอน คุม 4 เจ้าหน้าที่บนรถไฟสอบ ด้าน รฟท. ตั้งรางวัล 50,000 บาท ให้ผู้ชี้เบาะแสน้องแก้ม ขณะที่ตำรวจเชื่อยังมีชีวิตอยู่ ตั้ง 2 ปม อาจลงจากรถไฟไปเอง หรือมีคนพาลงไป เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทรงกลด พัฒนวราภรณ์ พงส.ผนพ. (หัวหน้างานสอบสวน) สน.นพวงศ์ รับแจ้งว่า ด.ญ.กชกร (ขอสงวนนามสกุล) หรือ น้องแก้ม วัย 13 ปี นักเรียน ชั้น ม.2 โรงเรียนสตรีนนทบุรี ได้หายตัวไปอย่างปริศนา ระหว่างโดยสารรถไฟมากับพี่สาวและเพื่อนชายของพี่สาว โดยทั้งหมดขึ้นรถไฟมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีเพื่อเดินทางไปยังกรุงเทพฯ เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. ของวันที่ 5 กรกฎาคม 2557 แต่ช่วงเช้ามืด น้องแก้มได้หายตัวไปและไม่สามารถโทรศัพท์ติดต่อได้ ทั้งนี้ หลังจากที่ขบวนรถไฟได้เข้าเทียบชานชาลาที่สถานีกรุงเทพฯ หรือหัวลำโพง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ค้นหาทุกตู้ทุกโบกี้ ก็ไม่พบน้องแก้มแต่อย่างใด  ด้าน นางสาวกนลา (ขอสงวนนามสกุล) พี่สาวของน้องแก้ม เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนและเพื่อนชายได้พาน้องสาว 2 คน คือน้องแก้ม อายุ 13 ปี และน้องเชียร์ อายุ 10 ปี ขึ้นรถไฟนอนชั้น 2 ขบวนที่ 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพมหานคร จากสถานีพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี กลับมายังกรุงเทพฯ โดยน้องแก้มนอนเตียงล่าง กระทั่งเวลา 02.00 น. ตนหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีตอน 04.30 น. ถึงสถานีนครปฐม ตนจึงลุกไปปลุกน้องแก้ม แต่กลับหาน้องไม่เจอ มาพบว่าที่นอนถูกรื้อค้นและผ้าปูที่นอนพร้อมเป้หายไป จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่รถไฟช่วยตามหา จนถึงสถานีบางซื่อก็ยังไม่พบ จึงได้เข้าแจ้งความที่ สน.นพวงษ์ ทั้งนี้ พี่สาวของน้องแก้ม ระบุด้วยว่า ระหว่างที่โดยสารรถไฟมีพนักงานรถไฟชอบมองหน้าน้องแก้มตลอด และทำทีลืมหมวกไว้บนที่นอนของน้อง ซึ่งได้กลิ่นสุราจากพนักงานคนดังกล่าวด้วย ในวันเดียวกัน นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ประชุมพร้อมด้วยตำรวจรถไฟ เพื่อติดตามหาตัวน้องแก้ม โดยนายประภัสร์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ตำรวจรถไฟตั้งคณะสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว เบื้องต้นได้ควบคุมตัวพนักงานรถไฟคันที่เกิดเหตุจำนวน 4 คน ไปสอบสวนรวม พร้อมส่งไปตรวจร่างกาย เพราะพบว่าบางคนมีบาดแผลรอยขีดข่วน ส่วนผู้ต้องสงสัยนั้นเป็นลูกจ้างของบริษัทที่รับทำความสะอาดรถไฟ ไม่ใช่พนักงานของการรถไฟ ส่วนที่มีการพูดกันว่าผ้าปูที่นอนหายไปนั้น นายประภัสร์ ยืนยันว่าจากการตรวจสอบไม่พบผ้าอะไรหายไป แต่ทางรถไฟฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะนี้กำลังลงพื้นที่ที่คาดว่าน้องแก้มจะหายตัวไป พร้อมตั้งเงินรางวัลสำหรับผู้ที่พบเห็นเบาะแสการหายตัวไปของน้องแก้ม จำนวน 50,000 บาท ด้าน พ.ต.อ.วิเศษ เกตุพันธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจรถไฟ กล่าวว่า ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว ขณะนี้กำลังรอผล ส่วนการตรวจสอบกล้องวงจรปิดนั้นยังไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่ก็มีกล้องบางตัวชำรุด จึงไม่สามารถตรวจสอบได้ ทั้งนี้ ตำรวจตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ เด็กอาจยังมีชีวิตอยู่และลงจากรถไฟไปเอง หรือสองอาจมีคนพาลงจากรถไฟไป แต่ไม่ได้เกิดเหตุร้ายขึ้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าน้องแก้มยังมีชีวิตอยู่ และเจ้าหน้าที่เตรียมขอรายชื่อผู้โดยสารทั้งขบวนมาตรวจสอบอีกครั้ง อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก //hilight.kapook.com/view/104729   Create Date : 07 กรกฎาคม 2557     Last Update : 7 กรกฎาคม 2557 21:24:01 น. Counter : 4180 Pageviews.   2 comment Share Tweet

รถตู้ตีนผี พลิกคว่ำ แม่เป็นเกราะกำบังให้ลูกจนตัวตาย เรียบเรียงโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม สลด รถตู้ตีนผีสายนครนายก-สระบุรี  ขับชนรถพ่วงพลิกคว่ำบนถนพหลโยธินฝั่งเข้าตัวเมืองสระบุรี  พบแม่เป็นเกราะกำบังให้ลูกจนตัวตาย            วานนี้ (29 มิถุนายน 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสาร โตโยต้า สีขาว ทะเบียน 10-0840 นครนายก หมายเลขรถ 332 วิ่งระหว่างนครนายก-สระบุรี พลิกคว่ำบนถนพหลโยธินฝั่งเข้าตัวเมืองสระบุรี ระหว่างหลัก กม.ที่ 95-96 หมู่ 1 ต.ห้วยทราย อ.หนองแค มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำส่ง โรงพยาบาลสระบุรี ใกล้กันนั้นพบรถพ่วง ส่วนหัวทะเบียน 70-1497 ส่วนพ่วงทะเบียน 70-1466 จ.ร้อยเอ็ด บรรทุกอิฐบล็อกมาเต็มคันจอดอยู่ใกล้เคียง สภาพด้านท้ายถูกชนจนได้รับความเสียหาย            ทั้งนี้ นายกาจ อินทแพทย์ อายุ 46 ปี ชาวร้อยเอ็ด โชเฟอร์รถพ่วงให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนขับรถพ่วงมาตามถนนพหลโยธินเข้าตัวเมืองสระบุรี เพื่อเดินทางกลับ จ.ร้อยเอ็ด ขณะขับอยู่ตนมองไปที่กระจกหลังเห็นรถตู้คันดังกล่าวขับส่ายไป-มาด้วยความเร็วในระยะกระชั้นชิด ก่อนจะเสียหลักพุ่งเข้าชนท้ายเสียงดังสนั่นพลิกคว่ำในที่สุด ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจว่าสาเหตุเกิดจากอะไร สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 20 ราย ที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสระบุรี ประกอบด้วย            - นายปวิน บุญส่ง อายุ 17 ปี            - นางศิริวรรณ ขวัญสุขอายุ 30 ปี            - น.ส.บุษราภา แสงสีทอง อายุ 20 ปี            - นางศุรชา ฉิมพาลี อายุ 65 ปี            - นายสุวัฒน์ หาญกาย อายุ 16 ปี            - จ.ส.อ.จักรี กองสุจิตร์ อายุ 42 ปี            - น.ส.นฤมล ตั้งไพบูลย์สุข อายุ 17 ปี            - นายวัศย์รุจ อินทร์น้อย อายุ 19 ปี            - นางจำเนียร แฉล้มวงษ์ อายุ 38 ปี            - น.ส.สุกัญญา ศรีวาปา อายุ 17 ปี            - น.ส.สุวรรณา สมสนิท อายุ 26 ปี            - นางอารีย์ มีสันเที๊ยะ อายุ 47 ปี            - น.ส.รัชฏาภรณ์ พันปั้น อายุ 25 ปี            - น.ส.หนูแดง หลวงทอง อายุ 50 ปี            - นายฉัตรชัย ใกล้สุข อายุ 17 ปี            - ด.ช.ไม่ทราบชื่อ อายุ 2 ขวบ            - นายทวีศักดิ์ เอี่ยมเจริญ อายุ 40 ปี คนขับรถตู้ นอกจากนี้มีผู้เสียชีวิต 1 รายคือ น.ส.นิภาภรณ์ สายคำ อายุ 23 ปี เป็นมารดาของหนูน้อยวัย 2 ขวบ ดังกล่าว            จากการสอบสวน จ.ส.อ.จักรี และ นางจำเนียร แฉล้มวงษ์ ผู้โดยสารรถตู้คันดังกล่าว ให้การตรงกันว่า ก่อนเกิดเหตุขึ้นรถมาจาก อ.บ้านนา แต่ปรากฏว่าตลอดทางโชเฟอร์ได้แวะรับลูกค้าไม่หยุด ส่งผลทำให้บนรถเบียดเสียดยัดเยียดไปด้วยผู้โดยสาร รวม 20 ราย ทั้งที่ปกติรับได้เต็มที่แค่ 15 ราย แถมยังขับส่ายไปมาดูอันตรายตลอดเวลา กระทั่งมาเกิดเหตุเข้าจริง ๆ ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นได้อุ้มลูกชายไว้ที่ตัก พอช่วงที่รถพุ่งชนจนพลิกคว่ำ คนในรถต่างหวีดร้อง ตะเกียกตะกายเอาตัวรอด แต่สาวผู้ตายเป็นห่วงลูกมากกว่าตัวเอง ดึงลูกมากอดแนบอกแล้วเอาร่างห่อตัวไว้เป็นเกราะกำบัง เป็นเหตุให้เจ้าตัวโดนแรงกระแทกอย่างแรงจนเสียชีวิต โดยปกป้องลูกชายเอาไว้ได้            เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหา นายทวีศักดิ์ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกกระจกบาดที่ใบหน้าซีกขวาฉีกขาดไว้รอดำเนินคดีในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และถึงแก่ความตาย คลิป สะเทือนใจ! แม่ใช้ตัวบังลูกจนตัวตาย หลังรถตู้บรรทุกคนเกินขนาดเสยท้ายพ่วง : เครดิต รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก //hilight.kapook.com/view/104452   Create Date : 30 มิถุนายน 2557     Last Update : 30 มิถุนายน 2557 20:29:21 น. Counter : 1112 Pageviews.   0 comment Share Tweet