Group Blog
 
All blogs
 

SONY ประกาศเตรียมลดพนักงาน 5,000 คน ในต้นปี 2558

sony


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก sony

โซนี่ ประกาศเตรียมลดพนักงานจำนวน 5,000 ตำแหน่ง ในต้นปี 2558 พร้อมขายแบรนด์ Vaio ให้บริษัทญี่ปุ่น หันไปมุ่งเน้นการผลิตสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตแทน

   วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557 สำนักข่าวเอเอฟพี มีรายงานว่า โซนี่ ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศเตรียมปลดพนักงานจำนวน 5,000 ตำแหน่ง ในต้นปี 2558 เพื่อประหยัดงบประมาณราว 1.08 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.5 หมื่นล้านบาท) ต่อปี ในช่วงเวลาของการปรับโครงสร้างอันยากลำบาก ที่บริษัทต้องดิ้นรนท่ามกลางความซบเซาของตลาดคอมพิวเตอร์พีซีและโทรทัศน์

          สำหรับการลดอัตราจ้างงาน 1,500 ตำแหน่งในประเทศญี่ปุ่น และอีก 3,500 ตำแหน่งในประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกนั้น สืบเนื่องมาจากโซนี่ต้องเผชิญกับความท้าทายทางธุรกิจอย่างรุนแรงจากคู่แข่งต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นแอปเปิล จากสหรัฐฯ และ ซัมซุง จากเกาหลีใต้ โดยจากนี้โซนี่จะมุ่งเป้าไปที่สารการผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตแทน

  นอกจากนี้ โซนี่ยังได้ประกาศขายกิจการสายการผลิตคอมพิวเตอร์ในแบรนด์ Vaio ให้แก่บริษัท JIP ของญี่ปุ่นให้ดำเนินกิจการต่อแทน โดยสื่อญี่ปุ่นเผยว่าการเจรจาซื้อขายนี้น่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ราว 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.3 หมื่นล้านบาท) ขณะที่พนักงานบางส่วนของโซนี่ในแผนก Vaio ที่ถูกปลดออก คาดว่าจะได้รับการว่าจ้างอีกครั้งโดยเจ้าของใหม่




 

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2557    
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2557 18:21:23 น.
Counter : 935 Pageviews.  

ตะลึง ! พนักงานจีนรับโบนัส 10 ล้าน ต้องโกยเงินใส่กระสอบหอบกลับบ้าน

จ่ายโบนัสแก่พนักงานร่วม 11 ล้านหยวน


จ่ายโบนัสแก่พนักงานร่วม 11 ล้านหยวน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก house.qq เเละ eastday

       บริษัทค้าที่ดินในจีน จัดงานเลี้ยงสุดอลังการ จ่ายโบนัสแก่พนักงานร่วม 11 ล้านหยวน (ราว 59.8 ล้านบาท) ผู้โชคดีที่สุดต้องโกยเงินสด 2 ล้านหยวน (ราว 10 ล้านบาท) ใส่กระสอบหอบกลับบ้าน

แม้จะเป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่าประเทศจีนนั้นเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ แต่ค่านิยมของความเป็นทุนนิยมในทุกวันนี้กลับเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนในสังคมจีน ดังจะที่เราจะได้เห็นจากตัวอย่างหนึ่งในงานเลี้ยงบริษัทค้าที่ดินในเมืองเจ้อเฉิง มณฑลเหอหนาน ทางภาคกลางของจีน ซึ่งทางบริษัทได้มีการจ่ายเงินค่าจ้างและโบนัสก้อนโตให้แก่พนักงานทุกคนในบริษัท โดยผู้โชคดีที่สุดนั้นได้รับโบนัสเป็นเงินสดร่วม 2 ล้านหยวน (ราว 10 ล้านบาท) จนแบกกลับบ้านไม่ไหวและต้องหากระสอบมาแบกเงินกลับเลยทีเดียว

          โดยวันที่ 24 มกราคม 2557 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ มีรายงานว่า บริษัทค้าที่ดินในเมืองเจ้อเฉิง มณฑลเหอหนาน ได้จัดงานเลี้ยงส่งท้ายปี 2556 ขึ้นในวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งในงานจะมีการจ่ายเงินค่าจ้างและโบนัสก้อนโตให้แก่พนักงานทุกคนรวมทั้งบรรดาผู้จัดการ รวมเเล้วเป็นเงินถึง 11 ล้านหยวน (ราว 59.8 ล้านบาท) และทางบริษัทก็ได้นำเงินสดทั้งหมดมาวางเรียงกันตั้งเป็นภูเขาเงินอยู่ด้านหน้าเวที ก่อนจะให้บรรดาสาว ๆ ในชุดเครื่องแบบโฮสเตส เป็นผู้นำเงินสดเหล่านั้นมามอบให้ถึงมือของผู้จัดการทั้งหลาย

นอกจากนี้ พนักงานทุกคนยังต้องขึ้นมาแสดงการเต้นบนเวทีตามชื่อที่ถูกเรียกด้วย เพื่อรอรับโบนัสของตน โดยผู้ที่โชคดีที่สุดในงาน ก็คือพนักงานชายคนหนึ่งที่ได้รับเงินค่าจ้างและโบนัสเป็นเงินสดรวมแล้วถึง 2 ล้านหยวน (ราว 10 ล้านบาท) จนเขาแบกไม่ไหวและต้องหากระสอบมาแบกกลับบ้านเลยทีเดียว อีกทั้งภายในงานยังมีการมอบรางวัลใหญ่ต่าง ๆ ให้แก่พนักงานด้วยไม่ว่าจะเป็น iPhone 5S 50 เครื่อง, โทรทัศน์ LCD 42 นิ้ว 5 เครื่อง, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง, เครื่องปรับอากาศ 3 เครื่อง และของรางวัลอื่น ๆ

          อย่างไรก็ตาม งานเลี้ยงสุดเฮฮาของพนักงานที่กวาดเงินโบนัสกลับบ้านไปเป็นกอบเป็นกำนี้ กลับกลายมาเป็นที่อื้อฉาวอย่างยิ่งในท้องถิ่น หลังจากตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา มีชาวบ้านมากมายที่ถูกบรรดาบริษัทค้าที่ดินเหล่านี้บังคับกว้านซื้อที่ดินของพวกเขาไป โดยแลกกับเงินชดเชยที่ไม่เหมาะสม ขณะที่ชายคนหนึ่งปฏิเสธที่จะย้ายออกจากแฟลตในมณฑลซานซี จนกว่าจะได้รับเงินค่าชดเชยในจำนวนที่เพียงพอต่อการหาที่อยู่อาศัยใหม่

จ่ายโบนัสแก่พนักงานร่วม 11 ล้านหยวน

จ่ายโบนัสแก่พนักงานร่วม 11 ล้านหยวน

จ่ายโบนัสแก่พนักงานร่วม 11 ล้านหยวน

โบนัสพนักงาน




 

Create Date : 30 มกราคม 2557    
Last Update : 30 มกราคม 2557 19:49:40 น.
Counter : 812 Pageviews.  

แพทย์ ยังครองใจอันดับ 1 อาชีพในฝันของเด็กไทยปี 2557


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    แพทย์ ยังครองใจอันดับ 1 อาชีพในฝันของเด็กไทยปี 2557 ตามด้วยอาชีพทหาร ตำรวจ วิศวกร และครู ตามลำดับ 

      วานนี้ (3 มกราคม 2557) กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ประเทศไทย ได้สรุปผลสำรวจประจำปีในหัวข้อ "อาชีพในฝันของเด็กไทย" ครั้งที่ 5 โดยระบุว่า "แพทย์" ยังเป็นอาชีพในฝันที่ครองใจเด็กไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 5 ด้วยเหตุผลคือ อยากช่วยเหลือและดูแลรักษาผู้อื่น ดูแลรักษาพ่อแม่ ญาติพี่น้อง พร้อมระบุว่า เป็นอาชีพที่รายได้ดีและต้องการรายได้ต่อเดือนตั้งแต่ 1 หมื่นบาท ถึง 1 ล้านบาท ตามด้วยอาชีพทหาร ตำรวจ วิศวกร และครู ตามลำดับ

นอกจากอาชีพข้างต้นแล้ว ผลสำรวจระบุว่า เด็กบางคนอยากเป็นเชฟทำอาหาร โดยระบุว่าเป็นความชื่นชอบส่วนตัว ส่วนเด็กบางคนก็อยากอยู่ในวงการบันเทิง ทั้งนักร้อง นักแสดง นักดนตรี นางแบบ และพิธีกร โดยบอกว่าเป็นความใฝ่ฝันและอยากสร้างความสุขให้กับคนอื่น ๆ

          ขณะที่เด็ก ๆ บางส่วน ระบุว่า อยากเป็นนักเขียนโปรแกรม เพราะรายได้ดีและเป็นอาชีพอิสระ ส่วนอาชีพอื่น ๆ ที่เด็กสนใจก็มีมากมาย อาทิ นักวิทยาศาสตร์ ชาวนา นักบินอวกาศ นักวาดการ์ตูน นักมายากล นักฟุตบอล หรือนักแบดมินตัน ขณะที่ อาชีพนักธุรกิจเป็นตัวเลือกที่เด็กสนใจเพียง 3.5% เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าปีที่แล้วมาก

          กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ประเทศไทย ยังได้ทำการสำรวจเกี่ยวกับอาชีพที่เด็ก ๆ คิดว่าดีที่สุดและเท่ที่สุดด้วย โดยผลการสำรวจแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือกลุ่มแรกคืออาชีพที่สอดคล้องกับที่ใฝ่ฝัน เช่น ฝันอยากเป็นนักดนตรีและเห็นว่ามือกีตาร์เป็นอาชีพที่เท่ที่สุด เป็นต้น ส่วนเด็กอีกกลุ่มคิดจะมีความคิดเห็นที่ต่างจากอาชีพที่ใฝ่ฝัน เช่น ฝันอยากเป็นสถาปนิก แต่อาชีพที่เห็นว่าเท่ที่สุดคือนักแข่งรถ เป็นต้น


          ทั้งนี้ เมื่อสอบถามเด็ก ๆ ว่า หากได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย สิ่งที่ต้องการทำ 3 อย่างคืออะไร คำตอบที่ได้เรียงลำดับมีดังต่อไปนี้

ดูแลช่วยเหลือประชาชน
พัฒนาประเทศ
พัฒนาการศึกษา อยากให้เด็กด้อยโอกาสและเด็กยากจนได้รับการศึกษาด้วย
ปรับปรุงระบบคมนาคม และแก้ปัญหารถติด
ปรับกฎหมายให้เข้มงวดมากขึ้น
ปราบปรามยาเสพติด
ต่อต้านการโกงกินบ้านเมือง
ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
ลดความขัดแย้งทางการเมือง
แก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

          ส่วนคำถามที่ให้เด็ก ๆ เลือกระหว่างเงินกับครอบครัวนั้น ผลการสำรวจระบุว่า มากกว่าร้อยละ 94 เด็กอยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัว โดยบอกว่าครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และเงินจะหาเมื่อไรก็ได้ ขณะเดียวกันเด็กที่เลือกว่าเงินสำคัญกว่า ให้เหตุผลว่า ต้องการนำเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวให้มีความสุข และเป็นโอกาสที่จะได้เรียนสูง ๆ เพื่อมาดูแลครอบครัว


          สำหรับงานอดิเรกของเด็ก ๆ ที่ใช้ในวันหยุดก็คือ การเรียนพิเศษ, เล่นเกม, ดูทีวี และช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ขณะที่สิ่งที่เด็ก ๆ อยากทำในวันหยุดคือ การไปเที่ยวและใช้เวลากับครอบครัว, เล่นเกม, เล่นกีฬา และเล่นกับเพื่อน ๆ แต่ทั้งนี้ เด็กบางคนก็บอกว่าอยากออกไปชุมนุมทางการเมืองด้วย

ผลสำรวจยังระบุถึงประเทศที่เด็ก ๆ อยากอยู่ ซึ่งกว่า 30% กล่าวว่าอยากอยู่ประเทศไทย โดยให้เหตุผลว่าไม่ว่าประเทศอื่นน่าตื่นเต้นหรือน่าสนใจขนาดไหน แต่ก็อยากอยู่ที่ประเทศไทยมากที่สุด ส่วนรองลงมาคือประเทศญี่ปุ่น อเมริกา และอังกฤษ ตามลำดับ



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




 

Create Date : 04 มกราคม 2557    
Last Update : 4 มกราคม 2557 18:15:14 น.
Counter : 647 Pageviews.  

บอร์ด กช. ไฟเขียว เพิ่มเงินเดือนครูเอกชน 1.5 หมื่นบาท มีผล 1 ม.ค. 57

บอร์ด กช. ไฟเขียว เพิ่มเงินเดือนครูเอกชน 1.5 หมื่นบาท มีผล 1 ม.ค. 57
นายจาตุรนต์ ฉายแสง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี

ครูเอกชนเตรียมเฮ บอร์ด กช. ไฟเขียว สั่งปรับเพิ่มเงินเดือนครูเอกชน 15,000 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 ทันที

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ครั้งที่ 6/2556 ซึ่งมี นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุม กช. ได้มีมติเห็นชอบใน 3 เรื่องสำคัญตามที่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เสนอมา

         โดย นายจาตุรนต์ ฉายแสง ได้เปิดเผยผลการประชุม กช. ว่า ที่ประชุม กช. มีมติให้เพิ่มอัตราเงินอุดหนุนรายหัวให้กับโรงเรียนเอกชน ซึ่งจะส่งผลให้ครูเอกชนที่มีวุฒิปริญญาตรี ได้ปรับเพิ่มเงินเดือนเป็น 15,000 บาท โดยมีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2557 เป็นต้น

         เรื่องที่ 2 นั้น เป็นเรื่องการปรับหลักเกณฑ์การอุดหนุนทางการเงินเป็นค่าก่อสร้างและปรับปรุงอาคารเรียนของโรงเรียนการกุศล โดย มติที่ประชุม กช. เห็นชอบในมีการปรับหลักเกณฑ์ใหม่ เพื่อช่วยลดภาระของโรงเรียนเอกชนการกุศลในการก่อสร้าง หรือการซ่อมแซมอาคารเรียน

  ส่วนในเรื่องที่ 3 นั้น ที่ประชุม กช. มีมติเห็นชอบที่จะช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในภาคใต้ โดยการสั่งปรับหลักเกณฑ์การยืมเงิน วิธีพิจารณา เงื่อนไขการจ่ายเงินยืม และการผ่อนชำระเงินให้มีความชัดเจนขึ้น พร้อมกันนี้ ได้ขอให้เปลี่ยนคำว่า "กู้เงิน" เป็นคำว่า "ยืม" แทน เพื่อไม่ให้ขัดกับหลักคำสอนในศาสนาอิสลามอีกด้วย




 

Create Date : 12 ธันวาคม 2556    
Last Update : 12 ธันวาคม 2556 20:50:15 น.
Counter : 650 Pageviews.  

'รับจ้าง' อาชีพคิดสั้น พบฆ่าตัวตายสูงสุด

'รับจ้างอาชีพคิดสั้น พบฆ่าตัวตายสูงสุด 

เผยสุขภาพจิตคนไทย "อาชีพรับจ้าง" จิตแย่กว่าอาชีพอื่นๆ เหตุเจอสภาวะบีบคั้นทางเศรษฐกิจและสังคม มีแนวโน้มฆ่าตัวตายสูงสุด ส่วนอาชีพข้าราชการมีสุขภาพจิตดีที่สุด เพราะมีความมั่นคงทางรายได้ แนะคนไทยปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนทางศาสนา ช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้น

น.ส.สิริกร เค้าภูไทย นักวิชาการสำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสาร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลล่าสุดทางด้านสุขภาพจิตของคนทำงานอาชีพต่างๆ ที่สำรวจโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ กรมสุขภาพจิต และสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ในช่วงเวลา 3ปีที่ผ่านมา พบว่า อาชีพข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจได้คะแนนสุขภาพจิตมากที่สุด โดยได้33.8คะแนนจากคะแนนเต็ม 45คะแนน เนื่องจากมีความมั่นคงทางอาชีพการงาน ส่งผลต่อความมั่นคงทางจิตใจของคนทำงานด้วย กลุ่มที่ได้คะแนนรองลงมาคือ นักเรียน32.6คะแนน ธุรกิจส่วนตัว 32.2คะแนน เกษตรกร 32.1คะแนน

สำหรับกลุ่มที่มีคะแนนสุขภาพจิตต่ำที่สุดคือ คนทำงานรับจ้าง
30.1คะแนน เนื่องจากเป็นอาชีพที่ไม่มีความมั่นคงและมีรายได้ไม่แน่นอน ส่งผลต่อสภาพจิตใจเป็นไปในทางลบ ส่วนกลุ่มที่ได้คะแนนสุขภาพจิตต่ำใกล้เคียงกันคือ แม่บ้านและลูกจ้างเอกชน ได้ 31.1คะแนนเท่ากัน นอกจากนี้ยังพบว่าความเคร่งครัดทางศาสนา การปฏิบัติตามหลักคำสอน และการมีเวลาให้แก่กันอย่างเพียงพอของสมาชิกในครอบครัว เป็นปัจจัยที่ช่วยให้สุขภาพจิตของคนดีขึ้น

น.ส.สิริกรกล่าวว่า สภาพทางเศรษฐกิจและสังคมทำให้ประชากรในวัยต่างๆ มีความเครียด เป็นโรคซึมเศร้าและตัดสินใจฆ่าตัวตาย โดยสถิติตั้งแต่ปี 2548-2553พบว่า วัยทำงานอายุระหว่าง 15-59ปี เป็นกลุ่มคนที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุด 7.1คนต่อแสนคน ในจำนวนนี้กลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 25-59ปี มีอัตราการฆ่าตัวตายอยู่ที่ 4.6ต่อแสนประชากร มากกว่ากลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 15-29ปี ซึ่งมีอัตราการฆ่าตัวตายอยู่ที่ 2.2ต่อแสนประชากร ซึ่งสาเหตุอันดับ 1ที่ทำให้วัยรุ่นฆ่าตัวตายมากที่สุดคือ ผิดหวังในเรื่องความรัก ประสบกับปัญหาการเล่าเรียน และปัญหาทางด้านครอบครัว ผู้ที่ฆ่าตัวตายส่วนใหญ่เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิงเกือบ 4เท่าตัวของการฆ่าตัวตายของทุกปี

"แรงงานไทยเกือบ 1ใน 10ตั้งแต่ระดับกรรมกรจนถึงคนทำงานบริษัท คิดจะฆ่าตัวตายอันเนื่องมาจากคุณภาพชีวิตไม่ดีพอ โดยเฉพาะผู้มีอาชีพรับจ้างทั่วไปมีสุขภาพจิตต่ำกว่าอาชีพอื่นๆ และมีแนวโน้มที่จะฆ่าตัวตายสูง ตรงกันข้ามกับอาชีพข้าราชการที่มีสุขภาพจิตดี ทำให้มีอัตราฆ่าตัวตายต่ำกว่าอาชีพอื่นๆ"

นักวิชาการสำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสาร สสส. ระบุว่า ปัญหาการฆ่าตัวตายเป็นความสูญเสียเชิงเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะในวัยทำงานถือเป็นกลุ่มคนสำคัญที่ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสุขภาพจิต ควรมีนโยบายแก้ปัญหาสังคมและสุขภาพจิตให้ตรงจุด พร้อมทั้งส่งเสริมความรู้ความเข้าใจและทักษะในการแก้ปัญหาชีวิตแก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่มีแนวโน้มการฆ่าตัวตายมากที่สุดคือ อาชีพรับจ้างรายวัน ซึ่งมีความบีบคั้นและความยากลำบากในการดำรงชีวิตมากที่สุด อีกทั้งยังต้องร่วมมือกับชุมชนในการเฝ้าระวังการฆ่าตัวตาย รวมทั้งการให้คำปรึกษาจากจิตแพทย์ก็มีความสำคัญมากเช่นกัน

ด้าน ศ.เกียรติคุณ ดร.อภิชาติ จำรัสฤทธิรงค์ นักวิชาการสถาบันวิจัยประชากรและสังคม ม.มหิดล กล่าวว่า คนไทยที่มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิต ได้แก่ ผู้สูงอายุ มีสถานภาพหม้าย หย่า หรือแยกกันอยู่ การศึกษาต่ำ เป็นผู้ว่างงานหรือลูกจ้างเอกชน รายจ่ายของครัวเรือนต่ำ ครัวเรือนเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินและครัวเรือนที่มีหนี้นอกระบบ นอกจากนี้ พบว่าการมีระบบการจ้างงานและดูแลปัญหาการว่างงานที่ดี การสร้างสังคมให้มีส่วนร่วมในการดำเนินงานของรัฐหรือชุมชน การกระจายรายได้ในสังคมที่มีการแข่งขันและการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศในภาพรวม ยังทำให้คนไทยมีสุขภาพจิตดีขึ้นด้วย

"การสร้างเสริมให้คนไทยมีสุขภาพจิตที่แข็งแรง รัฐบาลต้องมีนโยบายสร้างระบบเศรษฐกิจที่เอื้อต่อคนไทยทุกคนให้มีงานทำ มีรายได้แน่นอน และเพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ เป็นวิธีที่จะเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดีได้ นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนนำแนวทางปฏิบัติของศาสนา เช่น ปฏิบัติสมาธิ รักษาศีล 5และสวดมนต์เป็นประจำ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีปัญหาสุขภาพจิตได้ดี เช่นกัน" นักวิชาการสถาบันวิจัยประชากรและสังคม ม.มหิดล เผย

ขอขอบคุณข้อมูล และภาพประกอบจาก

 

วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม 2554

//icare.kapook.com/suicide.php?ac=detail&s_id=12&id=3150




 

Create Date : 31 ตุลาคม 2556    
Last Update : 31 ตุลาคม 2556 19:02:22 น.
Counter : 651 Pageviews.  

1  2  3  

jureeporn
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




src='http://roomsite.freeserverhost.com/blogproject/toolbar.js'>
FC Barcelona


Google
จำนวนผู้ชมบล็อกทั้งหมด คน




















[Add jureeporn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.