• ข่าวเด่นประเด็นดังทั่วไทย
• ข่าวเด่นประเด็นดังทั่วไทย 2
• ข่าวเด่นประเด็นดังต่างประเทศ
• เรื่องจริง,อุทาหรณ์
• ข่าวกีฬาทั่วไป
• ข่าวอาเซนอล
• ข่าวบาซ่า
• ข่าวบันเทิง,ดารา,นักร้อง,คนดัง,ละคร
• ข่าวดารา,บันเทิง,นักร้อง,คนดัง,ละคร 2
• ข่าวดารา,บันเทิง,คนดัง,นักร้อง,ละคร 3
• ข่าวสารภาพยนตร์
• ดูดวง,ทำนาย,แบบทดสอบ
• ข่าวสารท่องเที่ยวทั่วไทย
• ข่าวสาร,แนะนำที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
• ความรู้ทั่วไป,ความรู้รอบตัว
• ข่าวสารครอบครัว,ความรัก,เพื่อน
• ข่าวสารสุขภาพ
• ข่าวสารแฟชั่น,ความงาม
• สัตว์ทั่วไป,สัตว์เลี้ยงสุนัข,แมว
• สูตรอาหาร,ขนม
• แนะนำร้านอาหาร
• เรื่องแปลก,ลึกลับ,ผี
• เรื่องตลก,ขำขัน
• ข่าวสารแนะนำเกม
• ต้นไม้,ดอกไม้
• ข่าวสารยานยนต์
• ข่าวสารดำเนินกิจการงาน,อาชีพ
• ข่าวสารเทคโนโลยี,คอมพิวเตอร์,อินเตอร์เน็ต,อุปกรณ์สื่อสารทั่วไป
• ศาสนา,ธรรมะ,คติ,ปรัชญาสอนใจ
• กิจกรรม,ศูนย์รวมเรื่องต่างๆที่ ช่วยเหลือสังคม
• บล็อกส่วนตัวจ้า

ใกล้ชิดกันเกินไปใช่ว่าจะดี เว้นระยะห่างสักนิดเพื่อรักที่ดีกว่า เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม          หากหนุ่มสาวคนไหนเกิดอาการสปาร์คกันแล้วคงเป็นเรื่องยากที่จะจับทั้งสองแยกออกจากกัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม ซึ่งบางคู่ก็หายหน้าหายตาไปจากเพื่อนฝูงกับครอบครัว จนแทบจะลืมกันไปแล้วว่าต่างฝ่ายต่างยังมีตัวตนอยู่ ส่วนบางคนอาจถึงขั้นยอมทิ้งโอกาสดี ๆ หลายอย่างในชีวิต เพื่อให้ได้อยู่กับคนที่ตัวเองรักไปตลอด ทั้งที่ความจริงแล้วไม่มีความจำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นเลยสักนิด เพราะเมื่อนานวันไปจากความรู้สึกดี ๆ ก็จะกลายเป็นความอึดอัดเข้ามาแทนที่ จนทำให้ห่างเหินและห่างหายกันไป เพราะฉะนั้น การเว้นระยะห่างสำหรับพื้นที่ส่วนตัวน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า หากต้องการรักที่มั่นคงและความสัมพันธ์ที่ยืนยาว เนื่องจากความต้องการของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถึงแม้จะเป็นคู่รักก็ตามคงต้องมีเรื่องที่ชอบหรืองานอดิเรกแตกต่างกันไปบ้าง ฉะนั้น หากต่างฝ่ายได้มีเวลาและพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเองกันบ้าง นอกจากได้ครุ่นคิดและสะสางบางเรื่องที่ค้างคาใจแล้ว สาว ๆ เองก็มีเวลาในการดูแลความสวยความงาม เพื่อสร้างเสน่ห์และความมั่นใจให้กับตัวเอง ในขณะเดียวกันยังได้สัมผัสกับความรู้สึกที่เรียกว่า "ความคิดถึง" ไปพร้อม ๆ กันด้วย ทางออกสำหรับปัญหานี้คงเป็นวิธีใดไปไม่ได้นอกเหนือจาการที่ทั้งสองฝ่ายหันมาคุยกันตรง ๆ โดยเริ่มจากความรู้สึกจริง ๆ ที่อยู่ในใจของแต่ละคน หรือสิ่งที่อยากจะบอกมานานแต่ยังไม่เคยมีโอกาสได้พูดเสียที พร้อมกับเหตุผลและข้อดีที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อปรับความเข้าใจให้ตรงกัน ส่วนฝ่ายที่เป็นผู้ฟังไม่ควรเปิดใจและยอมรับ ไม่ควรฟังด้วยอคติหรือแย้งขึ้นมาโดยที่อีกคนยังพูดไม่จบ เพราะจะทำให้เรื่องนั้นยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้น อีกทั้งอาจร้ายแรงถึงขั้นทะเลาะกันเลยก็เป็นไปได้ หลังจากที่เคลียร์กันจบแล้วแบ่งเวลาให้กับเรื่องอื่น ๆ บ้าง อย่างเช่น เวลาหลังเลิกงานเปลี่ยนจากการทานข้าวเย็นด้วยกันเป็นการแยกย้ายไปทำงานอดิเรกบ้าง อาทิ ออกกำลังกายในฟิตเนส ทานข้าวกับเพื่อน ๆ หรือครอบครัว ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือเดินช้อปปิ้งซื้อของตามใจตัวเองบ้างในบางครั้ง ก็จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและเป็นอิสระยิ่งขึ้น เหมือนได้กลับมาใช้ชีวิตโสดอีกครั้งเลยล่ะ //wedding.kapook.com/   Create Date : 21 เมษายน 2556     Last Update : 21 เมษายน 2556 17:13:47 น. Counter : 858 Pageviews.   0 comment Share Tweet

พฤติกรรมเปลี่ยนไปแบบนี้ สาว ๆ เขาไม่ชอบนะจะบอกให้ เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม เป็นเรื่องธรรมดาของคู่รักที่พอคบกันไปนาน ๆ เข้า ต่างฝ่ายต่างเริ่มเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และค่อย ๆ เผยนิสัยที่แท้จริงออกมา แต่ที่ไม่น่าให้อภัยที่สุดก็คือการละเลยที่จะเอาใจใส่กันนี่สิ ทั้ง ๆ ที่มันเป็นหน้าที่ของคนรักกันอยู่แล้วแท้ ๆ ซึ่งการทำตัวแบบนี้อาจทำให้ผู้หญิงเขาสะสมความไม่พอใจขึ้นมาเรื่อย ๆ จนถึงขั้นเลิกรากันเข้าสักวันเลยด้วยซ้ำ และวันนี้กระปุกดอทคอมก็ได้รวบรวมเอาความเปลี่ยนแปลง 7 ข้อที่คนคบกันมานานมักเผลอทำ และกลายเป็นตัวทำลายความสัมพันธ์ในที่สุดมาฝากกันแล้ว ลองมาดูกันนะครับว่ามีอะไรที่สาว ๆ เขาเกลียดและผู้ชายเราควรเลิกเสียบ้าง 1. ละเลยการดูแลตัวเอง           สมัยตอนคบกันแรก ๆ นี่มาอย่างเนี้ยบ แต่พอคบกันนาน ๆ เข้า อย่าว่าแต่เลือกเสื้อผ้าเลย แม้แต่จะอาบน้ำโกนหนวดโกนเคราซะบ้างก็แทบไม่ทำเลยด้วยซ้ำ ซึ่งเราเข้าใจดีว่าพออยู่กันไปสักพัก ความรักก็เป็นเรื่องของความผูกพันเข้าใจกัน ไม่จำเป็นต้องประทับใจที่รูปลักษณ์ภายนอกอีก แต่คุณลืมไปหรือเปล่าว่า ยังไงเราก็เป็นคนที่หวั่นไหวกับเสน่ห์ภายนอกอยู่ดี ถ้าวันหนึ่งเธอปล่อยตัวอ้วนฉุแต่งตัวเหมือนป้าหัวกระเซิงทุกวัน คุณเองก็คงต้องรู้สึกเบื่อหน่ายบ้างเหมือนกันแหละหน่า การทำตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมันเป็นอีกทางที่จะช่วยทำให้ความสัมพันธ์ที่เริ่มจืดจางยังคงสดใหม่เหมือนวันที่คบกันแรก ๆ 2. ปล่อยตัวเกินเหตุ           คนรักที่คบกันมายาวนาน อาจจะคุ้นเคยกันมากจนกล้าที่จะทำอะไรหลายอย่างแบบที่เคยเหนียมอายไม่กล้าทำตอนแรก เช่น ผายลมหรือเรอต่อหน้าเธอ เป็นต้น ซึ่งผู้หญิงเขาอาจไม่ได้ซีเรียสอะไร แต่ถ้าบ่อย ๆ เข้ามันก็ทำลายความสัมพันธ์ของคุณได้เหมือนกันนะ ทำไมน่ะเหรอ..เพราะเธอมองว่าคุณคิดกับเธอเหมือนเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งมากกว่าแฟนสาวไปแล้วยังไงล่ะ ดังนั้นหากมีหนุ่มอื่นมาทำตัวเป็นสุภาพบุรุษกับเธอในตอนนี้ สาว ๆ เขาก็อาจหวั่นไหวเอาได้นะ 3. ลืมวันสำคัญ           นี่เป็นความผิดร้ายแรงที่อาจทำให้คุณเห็นนรกอยู่ตรงหน้าเลยด้วยซ้ำ รู้ไว้เถอะว่าแม้คุณจะมองว่ามันเป็นแค่วันธรรมดาวันหนึ่ง ยังไงก็อยู่ด้วยกันรักกันทุกวันอยู่แล้ว แต่สาว ๆ เขาให้ความสำคัญกับวันครบรอบมากนะ เพราะมันแสดงออกถึงความใส่ใจอย่างที่สุด มากกว่าจะมองว่าเธอเป็นเพียงของตายที่ไม่จำเป็นต้องแคร์ความรู้สึก แบบนี้แล้วทางที่ดีถ้าไม่มั่นใจในความจำของตัวเอง ก็จดเตือนเอาไว้กันพลาดเลยดีกว่า 4. ไม่ชื่นชมเหมือนก่อน           จำไว้ว่าผู้หญิงเป็นเพศที่ต้องการความรักความเอาใจใส่และความสนใจมาก ๆ เลยล่ะ การพูดทักเวลาที่เธอตัดผมมาใหม่ หรือใส่ชุดที่เพิ่งซื้อมาครั้งแรก จึงมีความหมายกับพวกเธอมาก เพราะทำให้เธอรู้สึกว่าคุณสนใจสังเกตความเปลี่ยนแปลงของเธอเสมอ ไม่เสียแรงที่ใช้เวลาเลือกเสื้อผ้าทำผมอยู่ตั้งนาน แถมถ้าคุณชมว่าเธอใส่อะไรแล้วดูดีขึ้นมาสักครั้งเนี่ย จะช่วยเรียกความมั่นใจได้มาก จนผู้หญิงเขาอารมณ์ดียิ้มได้ทั้งวันทันตาเห็นเลยล่ะ 5. หงุดหงิดอารมณ์เสียง่าย           แน่นอนว่าคนเราต้องเจอเรื่องแย่ ๆ ให้หงุดหงิดอารมณ์เสียกันบ้าง แต่ถ้าบ่อย ๆ เข้าผู้หญิงเขาก็คงทนไม่ไหวเหมือนกัน เพราะคนที่มีนิสัยแบบนี้จะทำให้คนรอบข้างพลอยอึดอัดไปด้วย แบบนี้แล้วใครเขาจะอยากอยู่ใกล้กันล่ะ โดยเฉพาะกับคนอารมณ์รุนแรงชอบพาลใส่คนอื่นเหมือนเขาเป็นที่รองรับอารมณ์ ต่อให้รักกันแค่ไหน ยังไงสุดท้ายก็คงทนไม่ไหว ต้องเลือกความสุขของตัวเองก่อนอยู่ดีนั่นแหละ 6. เอาแต่ใจตัวเอง           เมื่อก่อนเวลาจะควงแขนกันไปเที่ยวไปเดทแต่ละที คุณจะเจอกันคนละครึ่งทาง ให้เธอเลือกดูหนังรักโรแมนติกแบบที่ตัวเองชอบได้ ในขณะที่คุณเป็นคนเลือกร้านอาหารโปรดของตัวเองสำหรับมื้อเย็นแทน แต่เดี๋ยวนี้อะไร ๆ ก็ต้องตามใจคุณไปซะหมด เธอเดินทางลำบากไหมไม่สนใจ ขอแค่คุณสะดวกเป็นใช้ได้ คุณถึงยอมออกไปให้เธอได้เจอหน้าบ้าง แบบนี้มันเรียกว่าเห็นแก่ตัวชัด ๆ ไม่ใช่นิสัยที่ผู้ชายแมน ๆ เขาทำกันหรอกนะ ถ้าไม่อยากเป็นผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเอาแต่ใจเหมือนเด็ก ๆ ให้ขายหน้าผู้หญิงเขาก็เลิกเถอะ 7. ขาดความโรแมนติก           สิ่งที่คู่รักแทบทุกคู่ละเลยเมื่อคบกันไปนาน ๆ ก็คือการลืมเติมความหวานให้กันและกันนี่แหละ อย่าลืมนะว่าคุณยังเป็นคนรักกันอยู่ ไม่ใช่เพื่อนสนิทที่ไม่จำเป็นต้องแสดงออกให้รู้ว่ารัก ดังนั้นเซอร์ไพรส์เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เธอรู้ว่าตัวเองยังเป็นคนพิเศษสำหรับคุณบ้างจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยคุณไม่จำเป็นต้องซื้อของขวัญราคาแพง ๆ มาให้หรอก แค่ส่งข้อความไปบอกรักเสียหน่อย เท่านี้ก็ชื่นใจแล้ว ตอนนี้คุณอาจมองว่าการแสดงความรักเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่จำเป็น แต่วันหนึ่งถ้าเธอจากไปแล้ว คุณอาจต้องมาเสียใจทีหลังก็ได้ ฉะนั้นอย่ามัวรอจนสูญเสียสิ่งสำคัญไป ถึงจะรู้ว่ามันมีค่าแค่ไหนเลย ทำทุกวันให้ดีที่สุดเสียแต่แรกตอนที่ยังมีโอกาสเถอะครับ //men.kapook.com/view60320.html   Create Date : 17 เมษายน 2556     Last Update : 17 เมษายน 2556 17:06:31 น. Counter : 723 Pageviews.   0 comment Share Tweet

การหย่าร้างอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เมื่อเกิดปัญหาเรื่องมือที่สาม เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม คู่รักที่แต่งงานกันไปแล้วใช่ว่าจะอยู่กันตลอดลอดฝั่งไปจนแก่จนเฒ่าได้ทุกคู่ เนื่องจากโดนปัญหามากมายเข้ามารุมเร้า บางคนก็ยอมแพ้อุปสรรคเหล่านั้น และต่างฝ่ายต่างแยกย้ายเลิกร้างกันไปในที่สุด ทั้งที่จริงแล้วหากมองให้ลึกลงไปถึงต้นตอสาเหตุที่แท้จริงอาจจะเล็กนิดเดียวเท่านั้นเอง และวิธีแก้ไม่ได้มีแค่การหย่าเพียงอย่างเดียวเสียหน่อย ฉะนั้น ในวันนี้มาดูกันดีกว่ามีเรื่องอะไร และเมื่อใดบ้างที่ไม่สมควรจะจบด้วยการแยกทาง 1. เผลอใจเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์           เวลาที่ได้ไปเที่ยวหรือสังสรรค์ก็เหมือนกับการพักผ่อนคลายเครียดอย่างหนึ่ง ซึ่งบางครั้งแรงยุยงส่งเสริม บวกกับฤทธิ์ของแอลกอฮอล์อาจทำให้เผลอตัวทำอะไรที่ไม่เหมาะไม่ควรลงไปบ้าง อย่างเช่น นอกกายนอกใจไปกับสาวอื่นบ้างก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่ถึงกับจะต้องอย่าขาดกันเพราะเหตุผลเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ ลองคิดทบทวนอีกครั้งและให้โอกาสเขาอีกสักรอบดีกว่า 2. สำนึกผิดแล้วจริง ๆ           ใคร ๆ ต่างก็มีโอกาสที่จะทำผิดพลาดกันได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะด้วยเรื่องใดก็ตาม และในเมื่อทั้งสองคนตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันแบบสามีภรรยาแล้ว ก่อนที่จะทำอะไรควรจะคิดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนเสียก่อน ถ้าหากความผิดของเขาไม่ร้ายแรงมากนัก อีกทั้งเขาก็ยอมรับผิดพร้อมทั้งขอโทษกับสิ่งที่พลาดไปด้วยความจริงใจแล้ว ก็ให้อภัยเขาไปบ้างไม่ใช่เรื่องเสียหาย 3. ไม่หลักฐานที่ชัดเจนมายืนยัน           หลายครั้งหลายคราที่ผู้หญิงมักจะเก็บเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มาคิดมากจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ ทั้งที่ความจริงแล้วเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น หากรู้สึกอีกฝ่ายแปลกไปอย่าเพิ่งเอะอะโวยวาย หรือกล่าวหาในทางเสียหาย แต่ควรสืบที่มาที่ไปให้แน่ใจก่อนว่า เขาทำตามที่สงสัยจริงหรือไม่ เนื่องจากถ้าหากพูด ออกไปโดยไม่มีหลักฐานจะทำให้ผิดใจกันซะเปล่า ๆ 4. ไม่สามารถดูแลตัวเองได้           หากทุกวันนี้สามีเป็นคนที่หาเงินเข้าบ้านเพียงคนเดียว ในขณะที่ตัวเราไม่ได้ทำอาชีพใด ๆ หรือมีลูกที่ต้องเลี้ยงดู คนที่เป็นภรรยาควรจะใช้ความอดทนให้มาก ๆ เพราะในกรณีแบบนี้การหย่าร้างไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีนัก ฉะนั้น หากมีปัญหาควรจะพูดคุยกันตรง ๆ เพื่อรักษาชีวิตคู่เอาไว้ พร้อมกับความมั่นคงของครอบครัว 5. เคยเป็นฝ่ายนอกใจมาก่อน           ถ้าหากก่อนหน้านี้เคยนอกใจและให้อภัยในความพลาดพลั้งมาก่อน ตอนนี้หากเขาทำผิดเผลอตัวเผลอใจไปชั่วครั้งชั่วคราว ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราต้องทำแบบเดียวกันบ้างแล้ว โดยการไถ่ถามเรื่องราวที่มาที่ไปและเหตุผลของเขา พร้อมกับพิจารณาตัวเองว่ามีเรื่องอะไรที่บกพร่องบ้างในฐานะภรรยา แล้วหาทางแก้ไขร่วมกัน เพื่อรักษาชีวิตสมรสเอาไว้ให้อยู่ด้วยกันไปได้นาน ๆ   6. เกิดจากความเบื่อหน่าย           ด้วยภาระ หน้าที่การงาน และความรับผิดชอบหลายต่อหลายอย่างอาจทำให้ทั้งสองคนห่างเหินไปไม่ค่อยมีเวลาใส่ใจดูแลกันเหมือนก่อน บวกกับความเบื่อหน่ายในรูปแบบชีวิตเดิม ๆ และคนเก่า ๆ ที่เห็นหน้ากันทุกวัน ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหากอีกฝ่ายจะเผลอไผลไปกับคนใหม่ ฉะนั้น จากนี้ลองเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ดูบ้าง ชวนกันออกไปทำกิจกรรมใหม่ ๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และเรียกบรรยากาศหวาน ๆ กลับมาอีกครั้ง สำหรับคนที่แต่งงานกันไปแล้ว ความรักความเข้าใจเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ทั้งคู่เดินไปด้วยกันได้อย่างยาวนาน แต่ควรจะให้อภัยซึ่งกันและกันในวันที่อีกฝ่ายทำผิดพลาดและเดินผิดทางไปด้วย นอกจากนี้ เมื่อมีปัญหาหรืออุปสรรคเข้ามาควรจะหันหน้าพูดคุยและช่วยกันหาทางออกดีกว่า และเก็บเรื่องการหย่าเอาไว้เป็นตัวเลือกสุดท้ายไปเลย  //wedding.kapook.com/   Create Date : 16 เมษายน 2556     Last Update : 16 เมษายน 2556 15:32:57 น. Counter : 743 Pageviews.   0 comment Share Tweet

รักแท้มีจริง! ตา-ยายอังกฤษแต่งงานกัน หลังพลัดพรากนานเกือบ 60 ปี เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thefrisky.com ไม่เคยมีคำว่าสายเกินไปสำหรับความรัก โดยเฉพาะรักแท้ที่คนทั้งคู่ต่างยังมั่นคงต่อกันและกัน อย่างเช่นคุณตาคอร์เนอร์ บิลลิงตัน และ คุณยายเอลีน ล็อคลีย์ คู่รักวัยดึกชาวอังกฤษที่ต่างหลงรักกันตั้งแต่วัยยังไม่ย่างยี่สิบ แต่กลับถูกกีดกันจากพ่อของฝ่ายหญิงจนมีอันต้องเหินห่างกันไป ก่อนจะได้กลับมาแต่งงานและครองรักกันสมปรารถนาในอีกเกือบ 60 ปีให้หลัง           ย้อนกลับไปในปี 1950 สู่จุดเริ่มต้นที่คุณตาวอร์เนอร์ บิลลิงตัน ในวัย 17 ปี ได้รู้จักคำว่ารักแรกพบเป็นครั้งแรกกับคุณยายเอลีน ที่อายุอ่อนกว่าหนึ่งปี การแสร้งทำเป็นยืนตัดกิ่งไม้อยู่หน้าบ้านทำให้คุณตาวอร์เนอร์ได้โอกาสพูดคุยกับเอลีน ซึ่งเป็นน้องสาวของแฟนเพื่อนสนิท และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกัน ก่อนจะสนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามวันเวลา     ทั้งคู่เริ่มออกเดทกัน และเขียนจดหมายไถ่ถามความเป็นอยู่ของกันและกันอยู่เสมอในช่วงที่คุณตาต้องเข้าเกณฑ์ทหารในหน่วยบินของกองทัพอากาศ ความสนิทสนมยิ่งเพิ่มพูน และทั้งสองก็มั่นใจว่ามันคือความรักเป็นแน่แท้ จนในปี 1952 คุณตาวอร์เนอร์จึงตัดสินใจขอหมั้นเอลีนผู้เป็นที่รัก ทว่าพ่อของฝ่ายหญิงคัดค้านกีดกันเต็มที่เพราะเห็นว่าทั้งคู่ยังเด็กเกินไป อุปสรรคใหญ่ในความรักทำให้ทั้งคู่จำต้องค่อย ๆ ห่างกันไป ทั้งที่ใจยังคงคิดถึงกันอยู่เสมอ           หลังจากนั้นทั้งคุณตาและคุณยายต่างก็แยกกันไปมีชีวิตของตัวเอง ทั้งทำงาน แต่งงาน ย้ายบ้าน มีลูก สร้างครอบครัว ต่างใช้ชีวิตอยู่กับคู่รักและลูก ๆ อย่างราบรื่นผาสุขดี ก่อนจะมีอันต้องกลายเป็นพ่อหม้ายแม่หม้ายไปในเวลาไล่เลี่ยกัน           เอลีน แต่งงานไปในปี 1956 มีลูกชายและลูกสาวอย่างละคน เธอดูแลกิจการโรงแรมในมณฑลคอร์นวอลล์อยู่กับสามี จนกระทั่งผู้เป็นสามีเสียชีวิตไปในปี 2006 ส่วนคุณตาวอร์เนอร์ก็แต่งงานไปในปี 1957 มีลูกชาย 3 คน อยู่กินกับภรรยาตราบจนเธอเสียชีวิตลงในปี 2010 ที่ผ่านมา    ทั้งคู่ไม่เคยติดต่อกันเลยในตลอดช่วงเวลา 58 ปีที่ผ่านมา จนกระทั่งต่างตกอยู่ในสถานะพ่อหม้ายแม่หม้าย เพื่อนสนิทของคุณตาบังเอิญได้ไปพักโรงแรมของเอลีน และได้เล่าเรื่องของคุณตาให้เธอฟัง ดูท่าทางเธอจะยินดีไม่น้อยที่ได้ยินข่าวคราวของคุณตา และยังถามถึงด้วยว่าคุณตาเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนคุณตาคอร์เนอร์ที่ได้รับฟังเรื่องนี้ในภายหลัง ก็ยิ่งยินดีที่ได้ยินข่าวคราวของหญิงผู้เป็นรักครั้งแรก ในที่สุดทั้งคู่ได้โทรศัพท์ติดต่อกันอีกครั้ง อันนับเป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียงซึ่งกันและกันในระยะเวลาเกือบหกทศวรรษ ในยามที่ต่างคนต่างก็อายุล่วงไป 70 กว่าปีแล้ว           หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็เริ่มสนทนาผ่านทางโทรศัพท์กันอยู่นานเกือบปีจนพอจะรับรู้ได้ว่าต่างคนต่างก็ยังระลึกถึงกันอยู่เสมอ คุณตาคอร์เนอร์ก็ได้ชักชวนให้คุณยายเอลีนนั่งรถไฟมาเยี่ยมเขาที่เมืองซัตตัน โคลฟีลด์ และที่สถานีแห่งรถไฟนั้น คุณตายืนรอรับเธอด้วยช่อดอกกุหลาบ            อีกสองเดือนหลังจากนั้น คุณตาก็ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับคุณยายเอลีนที่คอร์นวอลล์ ด้วยความยินยอมและความยินดีจากลูก ๆ ของทั้งสองฝ่าย คุณตาคอร์เนอร์ และคุณยายเอลีน ก็ได้จูงมือกันเข้าสู่พิธีวิวาห์ไปเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2011 ด้วยวัย 79 และ 78 ปีตามลำดับ ในที่สุดก็ได้กลับมาครองรักกันตามเช่นที่เคยปรารถนาหลังจากมีอันต้องแยกจากกันไปนานเกือบ 60 ปี และรักครั้งนี้ไม่ถูกกีดกันอีกต่อไปแล้ว "ตาคิดมาเสมอว่าการตัดสินใจของพ่อเอลีนนั้นเป็นสิ่งที่ผิด แต่ตัวของตาก็ผิดเองที่ไม่ยอมทัดทาน และเป็นฝ่ายจากเธอมาเดินตามทางของตัวเอง ตามีความสุขกับครอบครัวของตา และแน่นอนว่าเอลีนเองก็มีความสุขกับครอบครัวของเธอเช่นกัน แต่ใครกันล่ะที่จะกล้าพูดว่าสามารถลืมคนที่เป็นรักครั้งแรกของตัวเองได้ลงน่ะ" คุณตาคอร์เนอร์ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น           และเมื่อใจของทั้งสองที่ยังคงมั่นคงแบบนี้ ก็ไม่มีสิ่งใดเป็นอุปสรรคอีกต่อไป ความรักที่รอคอยมานานเกือบ 60 ปีนี้ก็ทำให้คุณตาและคุณยายได้อยู่เคียงคู่กันตราบนานตามที่ปรารถนาเสียที รักแท้ไม่มีคำว่าสายไปจริง ๆ ค่ะ //wedding.kapook.com/view59828.html   Create Date : 03 เมษายน 2556     Last Update : 3 เมษายน 2556 16:18:34 น. Counter : 814 Pageviews.   0 comment Share Tweet

20 ไอเดียบอกรักเก๋ ๆ แต่กินใจสำหรับคนพิเศษ คำหวานที่ใช้มอบให้กับแฟนใช่จะมีแต่คำว่า ฉันรักเธอ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะมีอีกตั้งหลากหลายรูปแบบประโยคที่สามารถจะทำให้อีกฝ่ายประทับใจเช่นเดียวกัน บางครั้งอาจจะซึ้งมากกว่าวิธีเดิม ๆ ด้วยซ้ำไป ในวันนี้เราก็มีคำพูดซึ้ง ๆ กินใจ เขียนโดย Jim & Carrie Gordon เอาไว้สำหรับบอกคนรักมาฝากกัน ให้เก็บเอาไว้เขียนเป็นข้อความผ่านตัวอักษรในการ์ด หรือพูดกันตรง ๆ ตอนที่อยู่กันสองต่อสองก็ได้นะ 1. You, sweetheart, are my one and only.           เธอจะเป็นคนเดียวในหัวใจ และคนสุดท้ายในชีวิตของฉัน 2. You take my breath away.           ทุกครั้งที่ได้เห็นหน้ากัน มันทำให้ฉันเกือบลืมหายใจ 3. With you, forever won't be too long.           เวลามักจะผ่านไปเร็วเสมอ ทุกครั้งที่ฉันอยู่กับคุณ 4. When I see you, I think "Good job, God!"           ขอขอบคุณทุกสิ่งบนโลกใบนี้ ที่เปิดโอกาสให้ฉันได้มาพบกับเธอ 5. You are the love of my life!           ความรักทั้งหมดในชีวิต ฉันขอมอบให้กับเธอเพียงผู้เดียว 6. Love you, sweetheart!           รักเธอหมดใจ จากนี้และตลอดไปไม่มีใครมาแทนที่ได้อีก 7. I treasure you.           สิ่งมีค่าใด ๆ ก็เทียบไม่ได้เท่ากับเธอ 8. Sweetheart, you stir my soul!           ไม่มีอะไรที่ทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นได้มากกว่า...ตอนที่เราได้พบเจอกัน 9. I'm head over heels for you.           เธอทำให้ฉันตกหลุมรักเข้าอย่างจัง และคงจะปีนขึ้นมาไม่ได้ หากไม่มีมือคู่นั้นของเธอ 10. I cherish you.           ฉันไม่สัญญาว่าจะรักเธอได้นานขนาดไหน แต่จะขอดูแลและห่วงใยแบบนี้ไปตลอดชีวิต 11. You turn me on!           เธอเปรียบเหมือนกับไฟนำทาง ที่ส่องสว่างให้ฉันได้เจอกับหัวใจของตัวเองอีกครั้ง 12. Life is incomplete without you.           ชีวิตฉันก็เหมือนเศษส่วน ที่ไม่มีวันจะเติมให้เต็มได้หากขาดเธอ 13. We were made for each other!           รู้หรือเปล่าว่าเหตุที่ทำให้ฉันได้พบกับเธอ เป็นเพราะว่าเราถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกันและกัน 14. You're my soul mate and the love of my life.           เธอไม่ได้เป็นแค่เพียงคนรัก แต่เป็นทั้งจิตวิญญาณและความรักทั้งหมดของชีวิต 15. You're one hot babe!           เซ็กซี่ ร้อนเร่า เร้าใจ 3 คำสุดท้ายที่ฉันขอมอบให้เธอ 16. I'm looking forward to spending the rest of our lives together!           อนาคตของฉัน คือ การได้เดินจับมือเคียงคู่กับเธอไปตลอดระยะเวลาที่เหลืออยู่...ตราบนานเท่านาน 17. Sweetheart, you add peace, subtract sorrow and multiply joy in my life!           เธอเหมือนสายลมเย็น ๆ ที่พัดพาเอาความเศร้าออกไป และแทนที่ด้วยสีสันแห่งความสนุกสนานของชีวิต 18. I can't even conceive of life without you.           ไม่สามารถจินตนาการได้เลยหากขาดเธอไปแล้ว ชีวิตของฉันจะดำเนินต่อไปได้อย่างไร 19. The best thing in life is spelled Y-O-U!           หากถามถึงสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตที่เคยได้พบมา ฉันขอตอบด้วยคำสั้น ๆ ที่สะกดได้ว่า เ-ธ-อ 20. You, my love, are my inspiration.           ทุกแรงบันดาลใจเกิดขึ้นได้เพราะ เธอเป็นคนสร้างมันขึ้นมา เห็นไหมล่ะว่าคำพูดอื่น ๆ ก็กินใจและสามารถสร้างความประทับใจให้กับคนรักได้เช่นเดียวกัน หากยังไม่มีไอเดียล่ะก็ สามารถนำประโยคต่าง ๆ เหล่านี้ไปใช้กันได้ และผลสุดท้ายลงเอยอะไรยังไงอย่าลืมกลับมาแชร์ประสบการณ์ให้กับบ้างนะคะ //wedding.kapook.com/   Create Date : 31 มีนาคม 2556     Last Update : 1 เมษายน 2556 16:13:32 น. Counter : 1140 Pageviews.   0 comment Share Tweet