Group Blog
 
All blogs
 

สิ่งดี ๆ เมื่อเป็นแม่

แม่และเด็ก

สิ่งดี ๆ เมื่อเป็นแม่(modernmom)
โดย พญ.พรรณพิมล วิปุลากร

ตั้งแต่รับรู้ว่าตนเองเป็นแม่ หรือเริ่มตั้งใจรอคอยวันที่เป็นแม่ และแม่ทุกคนค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงตนเองไปทีละน้อย บางครั้งไม่รู้ตัวจนมีโอกาสกลับมาทบทวน จึงได้พบว่าเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วในการดูแลลูกในแต่ละวัน ความรู้สึกแม่ได้เปลี่ยนตนเองไป และต้องขอบคุณที่ความเหนื่อยยากในการเลี้ยงลูกก็ได้ให้ความภูมิใจและสิ่งดีที่มีคุณค่า…เมื่อเราเป็นแม่

ดูแลตนเองมากขึ้น

โดยเฉพาะในเรื่องของสุขภาพ แม่ทุกคนใส่ใจสุขภาพตนเองมากขึ้นตั้งแต่เริ่มรู้ว่ามีลูกอีกคนที่ต้องพึ่งสุขภาพของแม่ตั้งแต่ตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารที่รับประทาน ความพิถีพิถัน การยอมรับประทานอาหารที่เคยไม่ชอบแต่รู้ว่าเป็นประโยชน์กับลูก แม่บางคนยอมดื่มนมเพื่อลูก เลิกรับประทานอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์แม้รสชาติจะเคยถูกปาก เอาใจใส่เรื่องสุขภาพ การออกกำลังกาย การอบอุ่นร่างกาย จนกลายเป็นลักษณะนิสัยติดตัวที่ได้เห็นประโยชน์จากเรื่องการดูแลสุขภาพ

อีกเรื่องที่แม่ส่วนมากทำได้ดี คือนอนทันทีที่มีโอกาส โดยเฉพาะแม่ลูกอ่อน จะมีความสามารถในการนอนหลับได้เกือบทุกเวลา ทุกโอกาส ปรับตัวเองเข้ากับตารางเวลาของลูกได้เป็นอย่างดี ช่วงที่ตั้งครรภ์ใกล้คลอด แม่หลายคนหลับได้ไม่ดี หรือแม่บางคนเป็นคนนอนยากมาก่อนตั้งครรภ์ แต่หลังจากมีลูกแม่เกือบทุกคนมีความสามารถในการพักผ่อนด้วยการนอนหลับดีขึ้น

อดทนและอดทน

อีกหนึ่งคุณสมบัติของแม่ที่ได้จากการ ดูแลลูกด้วยความอดทน ทั้งอดนอน ทั้งเหนื่อยจากงานประจำวัน เหนื่อยขนาดไหนถ้าลูกต้องการแม่ แม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างทันที แม่หลายคนบอกว่าไม่เคยคิดว่าตนเองจะมีความอดทนทำอะไรเพื่อใครได้มากเท่ากับ การเอาใจใส่ดูแลลูก นอกจากความอึดทางกายในการดูแลลูก ยังเป็นความอึดทางใจที่ไม่ว่าเหนื่อยขนาดไหน ยังสามารถเห็นรอยยิ้มของแม่ตอบรับรอยยิ้มของลูกที่โผเข้ามาออดอ้อนเสมอ หลายคนยอมรับว่ายารักษาโรคใจร้อนที่ชะงัดที่สุดคงเป็นลูก ความอดทนที่จะต้องรอคอยเขาค่อย ๆ เรียนรู้ พัฒนาตนเองไปตามการสอนของแม่ แม้จะเผลอหลุดปล่อยอารมณ์ไปบ้าง แต่เมื่อยอมรับได้ว่าลูกต้องการเวลาในการเรียนรู้ให้ได้อย่างที่แม่อยากให้ เขาเป็น ไม่ใช้การเรียนรู้ตามใจที่ร้อนรนของแม่ แม่ก็ยอมรับและปรับอารมณ์ตนเองให้นิ่งลงได้

ความอ่อนโยนในจิตใจ

ภาพแม่ลูกคลอเคลียกัน คุยกันกระหนุงกระหนิง ด้วยภาษาที่ไพเราะ เป็นภาพที่ชินตาที่จะได้เห็นแม่ลูกอยู่ด้วยกัน สัมผัสที่แม่รู้สึกได้ถึงสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่อยู่ในร่างกายตนเองตลอด 9 เดือน ความผูกพันที่เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ยังไม่ได้สัมผัส ไม่ได้เห็นหน้าตา จนถึงวินาทีที่ลูกเกิด แม่ได้โอบกอด เลี้ยงดู เห็นเขาเติบโต เวลาเขาหัวเราะแม่มีความสุข เวลาเขาร้องไห้ แม่อยากจะเจ็บแทนลูก จิตใจของแม่อ่อนโยนต่อลูกเสมอ ทุกครั้งที่คิดถึงลูก แม่สัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนในจิตใจ ความอิ่มอกอิ่มใจกับการทำหน้าที่แม่ที่ได้เห็นลูกที่รักและผูกพันเติบโตขึ้น

เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ

ทุกวันของลูกที่เติบโตขึ้นเป็นการเรียน รู้สำหรับคนเป็นแม่ แม่ทุกคนหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก พาลูกไปในที่ที่คิดว่าเขาจะได้เรียนรู้ดีที่สุด แม้เวลาที่อยู่ด้วยกันแม่ก็ยังหากิจกรรมให้ลูกได้เล่นอย่างเพลิดเพลิน ในขณะที่แม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้นไปพร้อมกับลูก แม่หลายคนอ่านหนังสือไปกับลูกและมีความสุขไปกับการอ่านพร้อมกับลูก พาลูกไปเล่นพร้อมกับการลองสิ่งใหม่แม่ไปด้วย หรือจะไปเข้าครัวพร้อมกันทั้งแม่และลูก และได้เมนูใหม่จากความคิดสร้างสรรค์ของเล็ก ๆ รวมทั้งงานอดิเรกของครอบครัวที่ลูก ๆ ช่วยกันสร้างขึ้นในครอบครัว การเรียนรู้สิ่งใหม่ที่ทำให้แต่ละวันของแม่สนุก และผ่อนคลายจากงานประจำในชีวิตไปด้วย

นักจัดการเวลา

ตั้งแต่มีลูก มีเรื่องเพิ่มขึ้นมากมายที่แม่จะต้องทำด้วยเวลาในชีวิตที่เท่าเดิม แม่ทุกคนจึงเป็นนักบริหารเวลาชั้นยอด ทำให้เรื่องที่สำคัญและจำเป็นถูกจัดการได้อย่างทันเวลา และยังต้องเก็บตกเรื่องที่ต้องทำอีกหลายเรื่อง นอกจากบริหารเวลาครอบครัว บริหารเวลาของตัวเอง แม่ยังเป็นพี่เลี้ยงฝึกการจัดการเวลาให้กับลูกที่เติบโตขึ้นและต้องรู้จักการจัดการเวลาให้กับตนเองให้ได้ด้วย

นักแก้ปัญหาและให้คำปรึกษา

แต่ละวันมีเรื่องที่แม่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับลูก แม่จึงเป็นนักแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ให้เหตุการณ์และสถานการณ์ผ่านไปในทางที่ดีที่สุด คุณสมบัติที่มาพร้อมกับการแก้ปัญหาเป็นความสามารถในการใช้เหตุผล และการพูดเจรจา แม่ส่วนมากพบว่าตัวเองพูดมากขึ้น รวมทั้งอาจจะบ่นมากขึ้นด้วย แต่การจัดการบรรยากาศในบ้านเป็นความสามารถที่สุดยอดของแม่ พร้อมกับการแก้ปัญหา แม่เป็นนักให้คำปรึกษากับลูก พร้อมรับสถานการณ์และเตรียมการหาคำตอบที่คิดว่าจะช่วยลูกได้

กล้าขอโทษ

อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงของแม่หลายคนที่ ยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของตนเอง กล้าที่จะยอมรับและขอโทษสิ่งที่แม่พลาดไป และเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกต้องยอมรับในความรักของแม่ที่พร้อมจะแก้ไขตนเองเมื่อ ได้ผิดพลาดไป สิ่งที่แม่ได้ค้นพบตัวเอง เมื่อยอมรับความเป็นตัวตนของตนเองที่ลูกเหมือนกระจกเงาช่วยสะท้อนให้เห็นภาพ ตัวเอง ที่ก่อนหน้านี้อาจเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับ แต่สำหรับลูกทำให้แม่มีความกล้าที่จะยอมรับว่าตนเองจริง ๆ เป็นอย่างไร

ความเชื่อมั่นและความภูมิใจ

สุดท้ายความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของ แม่ที่เชื่อมั่นในความเป็นแม่ ความปรารถนาดีต่อลูก ความรักและยอมรับในตัวลูกอย่างไม่มีเงื่อนไข ที่ทำให้แม่สามารถทำหน้าที่ของแม่จนลูกรับรู้ความรู้สึกและอบอุ่นในความรัก ที่มีต่อกัน เป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถบอกได้ว่ามีความหมายมากขนาดไหนสำหรับคนที่เป็น แม่ ความภูมิใจที่ให้ความอิ่มเอมใจทุกครั้งที่ได้เห็นความสำเร็จและความสุขของ ลูก

ความเป็นแม่นั้นมหัศจรรย์จริง ๆ เพราะสามารถให้เราเป็นและทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะทำได้ แต่ก็ทำเพราะคำว่า "ลูก" คำเดียว




 

Create Date : 06 ตุลาคม 2556    
Last Update : 6 ตุลาคม 2556 18:08:38 น.
Counter : 828 Pageviews.  

เจ้าบ่าวจีนวิวาห์สาวโคม่า ก่อนแพทย์ปิดเครื่องยื้อชีวิต

เศร้า ! เจ้าบ่าวจีนวิวาห์สาวโคม่า ก่อนแพทย์ปิดเครื่องยื้อชีวิต

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ycwb, news.dayoo

          งานแต่งงานน่าจะเป็นงานที่น่ายินดีที่สุดสำหรับคนสองคน แต่สำหรับงานแต่งของคู่บ่าวสาวชาวจีน ลู่ หลาย และ เข่อ จิงจิง จากมณฑลกวางตุ้ง กลับกลายเป็นงานที่สุดแสนโศกเศร้า เพราะหลังจบพิธีแต่งงานแล้ว ลู่ หลาย ก็ต้องบอกลาเจ้าสาวที่นอนนิ่งเป็นเจ้าหญิงนิทรากว่า 2 ปีทันที เมื่อครอบครัวได้ให้แพทย์ปิดการทำงานของเครื่องช่วยชีวิตทุกชิ้น ปล่อยให้หญิงสาวผู้เป็นที่รักได้นอนหลับไหลสู่สุขคติอย่างไม่มีวันกลับ

    ตามรายงานจากเว็บไซต์เดลี่เมล วันที่ 19 กันยายน ระบุว่า เข่อ จิงจิง เจ้าสาวนิทราผู้นี้ อยู่ในอาการโคม่านอนนิ่งไม่ไหวติงเช่นนี้มาตั้งแต่สองปีที่แล้ว (2011) โดยก่อนหน้านั้นเธอกับแฟนหนุ่ม ลู่ หลาย รักกันอย่างลึกซึ้งและวางแผนจะใช้ชีวิตร่วมกัน ทั้งซื้อบ้านเตรียมไว้ และกำลังวางแผนจะแต่งงานกันอยู่แล้ว แต่แล้ววันหนึ่ง ลู่ ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนร่วมที่ทำงานของแฟนสาวว่า เข่อเป็นลมหน้าคอมพิวเตอร์ในที่ทำงาน และกำลังถูกพาตัวส่งโรงพยาบาล

          เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ลู่ ก็ได้ทราบจากแพทย์ว่า แฟนของเขาอาการอยู่ในขั้นโคม่า เธอหยุดหายใจไปนานขณะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ทำให้สมองได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ตอนนี้ทำได้เพียงใส่เครื่องช่วยชีวิตให้เธอไว้เท่านั้น และจากวันนั้น เข่อ จิงจิง ก็ไม่เคยตื่นขึ้นมาอีกเลย

จากวันนั้นล่วงมาสู่ปัจจุบันนี้ ในวันคล้ายวันเกิดอายุ 28 ของเธอ ลู่ หลาย ตัดสินใจสานความฝันที่เขาและเธอเคยมีร่วมกันให้เป็นจริง ด้วยการจัดพิธีแต่งงานขึ้น ให้เขาได้เป็นเจ้าบ่าวและมีเธอเป็นเจ้าสาวสมดังตั้งใจ พร้อมกันนี้ก็ได้หารือร่วมกับครอบครัวของเข่อ และได้ข้อตกลงว่าจะปิดการทำงานของอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่ยื้อลมหายใจเธอมาแล้ว 2 ปีลง ปล่อยให้เจ้าสาวนิทราและลูกสาวที่รักหลับไปนิรันดร์

          ทั้งนี้ ทางด้านครอบครัวของเข่อตัดสินใจมอบร่างกายของลูกสาวเพื่อการบริจาคอวัยวะ ให้ร่างกายของเธอได้ต่อชีวิตให้กับผู้ป่วยคนอื่น ๆ สมตามความตั้งใจของลูกสาวที่เคยบอกกับครอบครัวไว้ก่อนหน้า

"ผมดีใจที่เธอจะได้ช่วยเหลือคนอื่น ๆ ต่อไป แม้อวัยวะของเธออาจอยู่ในร่างกายคนอื่น แต่สำหรับผมแล้วผมไม่คิดว่าเธอจากไปไหน เธอจะยังอยู่ในหัวใจของผม ผมจะคิดถึงเธอตลอดไป" นายลู่กล่าว

เศร้า ! เจ้าบ่าวจีนวิวาห์สาวโคม่า ก่อนแพทย์ปิดเครื่องยื้อชีวิต



เศร้า ! เจ้าบ่าวจีนวิวาห์สาวโคม่า ก่อนแพทย์ปิดเครื่องยื้อชีวิต




 

Create Date : 20 กันยายน 2556    
Last Update : 20 กันยายน 2556 18:35:24 น.
Counter : 1742 Pageviews.  

วัยรุ่นหญิงอยู่หอนอก เสี่ยงท้องและโรคติดต่อทางเพศ!

วัยรุ่นหญิงอยู่หอนอก เสี่ยงท้องและโรคติดต่อทางเพศ!

ปัจจุบันปัญหาเด็กและเยาวชนได้ทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีขนาดใหญ่และมีสถาบันการศึกษาตั้งอยู่ จังหวัดพิษณุโลกเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจและการศึกษา เป็นศูนย์กลางการพัฒนาและเชื่อมต่อไปยังภูมิภาคอินโดจีน อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตบัณฑิตรองรับตลาดแรงงานที่ขยายตัว เพราะว่ามีสถาบันการศึกษาจำนวนมาก จึงพบว่ามีหอพักเอกชนในจังหวัดพิษณุโลกที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และที่ยังไม่ได้จดทะเบียนหรือเรียกว่า “หอพักเถื่อน” มีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรอบๆสถานศึกษา จากข้อมูลการศึกษาพบว่าการที่เยาวชนรวมตัวกันอยู่ในหอพักนอกสถานศึกษา พบการใช้เวลาว่างที่ไม่เป็นประโยชน์ และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ ยาเสพติด การดื่มเหล้า และสูบบุหรี่ มากกว่าเยาวชนที่พักหอในสถานศึกษา มากถึงประมาณ 6 เท่า

สาเหตุส่วนมากของการท้องในกลุ่มเยาวชน คือ

1) มาจากครอบครัวที่มีระดับเศรษฐกิจและการศึกษาในระดับต่ำ รายได้น้อย

2) อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม

3) ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องเพศศึกษา การวางแผนครอบครัว การคุม  

    กำเนิดที่ถูกต้อง

4) มีเจตคติและค่านิยมต่อการตั้งครรภ์หรือการยอมรับการมีบุตร

5) ขาดวุฒิภาวะที่เหมาะสมด้านอารมณ์และประสบการณ์

แนวทางการแก้ไขปัญหานี้ควรมียุทธศาสตร์การป้องกันการตั้งครรภ์และโรคเอดส์ในวัยรุ่นโดยเฉพาะ เน้นในเรื่องการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้ที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของหญิงที่อายุต่ำกว่า 20 ให้มากขึ้น รณรงค์ให้ความรู้เรื่องเพศศึกษา อนามัยเจริญพันธ์ เพื่อการป้องกัน การคุมกำเนิด การวางแผนครอบครัว ส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยป้องกันโรคและตั้งครรภ์ ปลูกฝังทัศนคติที่ถูกต้องในเรื่องความเป็นตัวตนชาย และ หญิง ผลักดันเป็นวาระแห่งชาติ อยู่ในแผนแม่บท นโยบายระดับประเทศ ระดับจังหวัด รวมทั้งแผนระดับอำเภอ ตำบล มีการบูรณาการการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ โดยผ่านการใช้แผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ มีการติดตาม กำกับประเมินผล ศึกษาวิจัยหารูปแบบการดำเนินงานให้เหมาะสมแต่ละพื้นที่ต่อไป

“ ไม่ใช้เข็มร่วมกัน สวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง หยุดยั้งโรคเอดส์ ”

“ สวมเสื้อผ้าปกป้องร่างกาย สวมถุงยางอนามัยป้องกันโรค ”


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554

//icare.kapook.com/abort.php?ac=detail&s_id=45&id=3201





 

Create Date : 09 กันยายน 2556    
Last Update : 9 กันยายน 2556 17:07:41 น.
Counter : 973 Pageviews.  

คู่แท้ ! ภรรยาจดทะเบียนสมรสกับสามี เพื่อมอบไตรักษาอาการป่วย

บริจาคไต

บริจาคไต

บริจาคไต


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย LAKORNHD ThaiTV สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

   คู่รักที่คบกันมากว่า 29 ปี ตัดสินใจจดทะเบียนสมรส เมื่อฝ่ายภรรยาต้องการทำเรื่องเพื่อบริจาคไตให้กับสามีที่ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง เพื่อรักษาชีวิตให้อีกฝ่ายได้อยู่เคียงข้างกันต่อไป

          วันนี้ (6 กันยายน 2556) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า พบคู่รักแท้คู่หนึ่งที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยนายชาติชาย ชำนาญชาติ อายุ 45 ปี กับ น.ส.จิตนิภา สุภนาค อายุ 42 ปี เป็นคู่รักที่ใช้ชีวิตร่วมกันมานาน 29 ปี แม้จะไม่เคยจดทะเบียนทะเบียนสมรส

       แต่ในที่สุด เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2556 ทั้งคู่ได้ทำการจดทะเบียนสมรสกัน เนื่องจาก น.ส.จิตนิภา ต้องการนำใบทะเบียนสมรส รวมทั้งหนังสือรับรองการบริจาคไตไปมอบให้กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อต้องการบริจาคไตของตนเองให้กับสามีที่ป่วยหนัก 

          โดยภายหลังการจดทะเบียน น.ส.จิตนิภา ที่เปลี่ยนคำหน้าเป็น นางจิตนิภา ได้เล่าว่า นายชาติชาย สามีของตน ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง จนไตไม่ทำงานไปหนึ่งข้างแล้ว ตอนนี้สามีมีสภาพซูบผอม ตัวเหลือง ที่คอมีรอยเจาะเพื่อฟอกไต ซึ่งการมาจดทะเบียนสมรส และเซ็นยินยอมมอบไตให้สามีในครั้งนี้ เป็นเพราะความรักที่มีให้กับสามี ซึ่งคบหากันมาตั้งแต่สมัยศึกษาอยู่ในระดับ ปวช. จนกระทั่งจบปริญญาตรี

          ปัจจุบันสามีทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายสารสนเทศ ส่วนตนเองหลังจบการศึกษาก็มาทำการในบริษัทที่ให้บริการเกี่ยวกับประกันชีวิต พวกตนต่างช่วยกันทำมาหากินจนมีฐานะมั่นคง จากนั้นจึงได้จัดพิธีแต่งงานกันเมื่อ พ.ศ. 2543 โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน

          แต่ต่อมา จู่ ๆ สามีก็ล้มป่วยลง แพทย์บอกว่า ความดันสูงโดยไม่ทราบสาเหตุ จนเมื่อราว ๆ  พ.ศ. 2553 จึงได้ทราบว่า สามีป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง จนไตไม่ทำงานไปหนึ่งข้างแล้ว จากนั้นสามีก็ต้องเข้ารับการฟอกไตอย่างต่อเนื่อง แต่อาการยังไม่ดีขึ้น ส่วนไตอีกข้างที่เหลือ เมื่อมันทำงานหนักก็ยิ่งมีอาการผิดปกติ จนตอนนี้ถึงขั้นวิกฤติ แถมตนยังต้องทำงานหนักมากขึ้น เพราะสามีทำงานไม่ได้ และต้องไปฟอกไตอาทิตย์ละ 2 ครั้ง 

          นางจิตนิภา เล่าอีกว่า สุดท้ายเมื่ออาการของสามีทรุดหนักลงอีก จึงมีการปรึกษาแพทย์หลายท่าน ซึ่งได้รับคำตอบว่า น่าจะรักษาด้วยการเปลี่ยนไต แต่ถ้ารอคิวผู้บริจาค อาจจะต้องใช้เวลานาน ดังนั้นตนจึงตัดสินใจทำเรื่องเพื่อบริจาคไตให้สามีทันที เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้บริจาคร่างกายให้สภากาชาดไทยไปแล้ว ซึ่งการบริจาคไตให้กับสามีในครั้งนี้ อย่างน้อยสามีก็ยังมีชีวิตอยู่ และได้อยู่ด้วยกันต่อไป แต่สิ่งที่กังวลอยู่คือ ไต ของตนจะเข้ากับร่างกายของสามีได้หรือไม่ ซึ่งต้องรอผลตรวจจากทีมแพทย์ก่อน  

          นอกจากนี้ นางจิตนิภา ยังฝากไปถึงคู่รักคู่อื่น ๆ ว่า หากคู่รักคู่ใดมีปัญหากัน ก็ขอให้นึกถึงตอนที่ยังรักกันอยู่ เพราะสิ่งที่สำคัญเหมือนเป็นกำไรในชีวิตก็คือ การที่เราได้รักกันนั่นเอง 







 

Create Date : 06 กันยายน 2556    
Last Update : 6 กันยายน 2556 19:37:53 น.
Counter : 782 Pageviews.  

เคลียร์ ! 3 ปัญหากวนใจ แฟนเก่า VS แฟนใหม่

ความรัก

เคลียร์ ! 3 ปัญหากวนใจ แฟนเก่า VS แฟนใหม่ แบบไม่ถูกหาว่าโรคจิต ! (Lisa)

ม่ว่าจะเป็นแฟนเก่าที่ยังไม่ยอมออกไปจากชีวิต หรือของแทนใจจากอดีตของเขาที่คอยตามหลอกหลอน นี่คือวิธีรับมือแต่ละสถานการณ์อย่างสง่างาม ไม่ว่าคุณจะอยู่ในฐานะแฟนเก่าหรือแฟนใหม่ก็ตาม

1. จากแฟนมาเป็นเพื่อน

          หลายคู่เลือกที่จะจบแล้วก็ไม่ต้องพบกันอีก แต่ถ้าทั้งสองคนเคยเป็นเพื่อนในแวดวงเดียวกันมาก่อน ก็อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะพบปะพูดคุยกันอีก แต่คนเคยเป็นแฟนกันมาจะลดฐานะเหลือแค่เพื่อนได้สนิทใจแค่ไหน แล้วคนที่มาใหม่ล่ะ...จะทนได้หรือที่เห็นเขายังเป็น "เพื่อน" กันอยู่ ?!

ถ้าคุณเป็นแฟนเก่า : หลายคนฟันธงว่าคงเป็นไปได้ยากที่คนเคยเสน่หากันอย่างลึกซึ้งจะกลับมาคบกันฉันเพื่อนได้อย่างสนิทใจ แต่ถ้าทั้งสองฝ่ายทำใจได้จริง ๆ ก็เป็นไปได้ที่จะคบหากันได้ในระดับหนึ่ง แต่คงไม่ใช่ความสนิทสนมชนิดที่ยังไปมาหาสู่กันตลอดเวลา ถ้าแฟนเก่าคนไหนยังทำอย่างนี้อยู่ เช็กหัวใจตัวเองให้ดีเถอะว่า ที่ยังเกาะติดอยู่กับเขานี่แอบหวังอยู่ลึก ๆ จริงเปล่าว่าอาจได้สถานะแฟนกลับมาอีก

ถ้าคุณเป็นแฟนใหม่ : ก่อนจะกรี๊ดให้ลั่นโลกหรือสะบัดหน้าลุกจากโต๊ะที่เขานั่งกินข้าวอยู่กับเพื่อน ๆ และแฟนเก่า กุมสติไว้ให้มั่น เพราะถ้าคุณทำให้เขาหรือหล่อนเห็นถึงความหวั่นไหวของคุณ เขาอาจไม่พอใจที่คุณไม่ไว้ใจเขา และหล่อนก็อาจจะนึกสนุกอยากยั่วคุณมากไปกว่านั้น จนถ่านไฟเก่าอาจคุขึ้นมาก็ได้ใครจะรู้ ฉะนั้น นั่งฉอเลาะแฟนต่อไปให้หล่อนเห็นว่าใครกันแน่คือตัวจริง แถมยังได้เช็กท่าทีเขาด้วยว่ายังอาลัยอาวรณ์แม่คนนั้นหรือเปล่า ถ้าเขายังทำท่าเขิน ๆ หรืออึดอัดที่จะหวานกับคุณต่อหน้าหล่อน คุณก็ต้องพิจารณาแล้วว่า เขา "ขาด" กับหล่อนจริงหรือเปล่า และควรพยายามพาตัวเองไปในแวดวงของเขากับหล่อนให้บ่อยที่สุด เพื่อประกาศสถานะของคุณ แล้วก็ค่อย ๆ พยายามดึงเขาออกห่าง ซึ่งเขาจะซึ้งในความใจกว้างของคุณที่ผ่านมา และยอมทำตามความต้องการของคุณโดยไม่โต้แย้ง

2. ของเคยแทนใจ

          ยามรักหวานซึ้งก็ต้องมีอะไร ๆ ให้ไว้แทนใจกันบ้าง แต่ยามรักขมจะเก็บไว้ทำไมให้บาดตาบาดใจ คืนมันไปซะดีไหม แล้วใครจะรับได้มั่งล่ะ ถ้าแฟนหนุ่มเอาของที่เคยให้กิ๊กเก่ามาวางไว้ให้บาดตา

ถ้าคุณเป็นแฟนเก่า : ถ้าไม่อยากเห็นของที่เคยแทนใจก็โยนทิ้งไปซะเลยจะดีกว่า การคืนของให้แฟนเก่าเป็นเหมือนการตอแยอย่างไม่ยอมเลิกรา เว้นแต่ว่าเขา (เผลอ) ให้แหวนเก่าแก่ของแม่มา หรือฝากสมุดบัญชีเอาไว้ที่คุณ ของสำคัญอย่างนั้นคุณควรต้องคืนเขา อย่าได้แก้แค้นด้วยการเอาไปโยนทิ้งเชียว ถ้าไม่อยากดูเป็นแฟนเก่าโรคจิต

ถ้าคุณเป็นแฟนใหม่ : ถ้าพ่อหนุ่มของคุณซื่อบื้อที่จะรับของคืนจากแฟนเก่าแล้วเอามาวางไว้ให้บาดหูบาดตาคุณ (ซึ่งผู้ชายบางคนก็อาจซื่อและบื้อเช่นนี้ได้ แบบไม่ตั้งใจซะด้วย) อย่าได้แต่ทำท่ากระเง้ากระงอดบอกเขาไปเลยตรง ๆ ว่า ถ้าแม่กิ๊กเก่าคนนั้นไม่อยากเห็นของพวกนี้ให้เจ็บใจ คุณเองก็ไม่อยากเห็นเช่นกัน และเขาควรจะโยนทิ้งมันไปซะ

3. อดีตอัศวินม้าขาว

          ตอนเป็นแฟนกันก็ต้องช่วยเหลือกันยามมีเรื่องเดือดร้อน ถ้าหล่อนยังโทรมาหาเขาทุกครั้งที่รถเสียหรือไม่มีคนไปจ่ายค่าไฟ ทั้ง ๆ ที่กลายเป็นอดีตไปแล้ว แถมเขายังมีแฟนใหม่อยู่ตำตา มันก็อีกเรื่องนึงนะ

ถ้าคุณเป็นแฟนเก่า : ถามตัวเองว่าคุณต้องการอะไรที่โทรหาเขา จริงอยู่มันอาจเป็นความเคยชินดั้งเดิม แต่คุณก็รู้อยู่แก่ใจนี่ว่าทุกอย่างจบสิ้นลงแล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าคุณไม่คิดอะไรกับเขาจริง ๆ แต่เป็นแค่ความเคยชินก็ควรรู้ไว้ว่าคุณกำลังทำให้ชีวิตรักครั้งใหม่ของเขาแตกแยก และควรเลิกโทรหาเขาได้แล้ว การผูกติดอยู่กับเขายังทำให้คุณไม่อาจก้าวไปข้างหน้าได้ด้วย

ถ้าคุณเป็นแฟนใหม่ : มันคงไม่สำคัญที่หล่อนจะโทรขอความช่วยเหลือจากเขา แต่ที่สำคัญกว่าคือเขายังวิ่งแจ้นไปช่วยเหลือหล่อนอีก แต่การออกคำสั่งไม่ให้เขาไปก็อาจทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกบังคับและไม่พอใจ ทางที่ดีคุณควรทำไม่รู้ไม่ชี้ และขอไปกับเขาทุกครั้งที่เขาจะไปช่วยเหลือแม่แฟนเก่า หรืออาจจะเสนอตัวเป็นฝ่ายไปช่วยเหลือหล่อนแทน ซึ่งถ้าหล่อนเห็นคุณโผล่หน้าไปแทนเขา หล่อนก็อาจอยากเลิกตื้อเขาก็ได้ และเขาก็อาจเกรงใจคุณจนไม่กล้าไปหาหล่อนอีก สงบนิ่งเอาไว้ แล้วคุณจะได้เปรียบเอง




 

Create Date : 31 สิงหาคม 2556    
Last Update : 31 สิงหาคม 2556 19:19:35 น.
Counter : 651 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

jureeporn
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




src='http://roomsite.freeserverhost.com/blogproject/toolbar.js'>
FC Barcelona


Google
จำนวนผู้ชมบล็อกทั้งหมด คน




















[Add jureeporn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.