Group Blog
 
All blogs
 

คลิปน่ารัก หนูน้อยสุดฉลาด

วันจันทร์ที่ 17 กันยายน 2555 เวลา 10:00 น.

หาได้ยากในวัยหนูน้อยเพิ่งหัดเดิน จะจำชื่อรัฐ ของประเทศขนาดใหญ่อันดับต้นๆของโลกอย่างอเมริกาได้ และสามารถชี้จุดของรัฐในแผนที่ได้ถูกต้องแม่นยำ เหมือนกับเด็กน้อยในคลิปนี้ ที่คุณพ่อของหนูน้อย ถามหาชื่อรัฐและให้ลูกชี้ พอเมื่อเด็กน้อยตอบถูกจะมีท่าเต้นดีใจน่ารักๆให้ชมอีกด้วย

อย่างนี้โตขึ้นคงเก่งทั้งศาสตร์และศิลป์แน่นอน.

//www.dailynews.co.th/world/155628




 

Create Date : 17 กันยายน 2555    
Last Update : 17 กันยายน 2555 11:54:06 น.
Counter : 716 Pageviews.  
Share

ฟื้นชีวิต‘ซิตารัม’ - เรื่องเล่าจาก‘เอเชีย’

วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน 2555 เวลา 00:00 น.

ภาพนาข้าวเขียวขจี เด็ก ๆ กำลังสนุกสนานอยู่กับว่าวที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า อาจทำให้ผู้คนที่พบเห็นเข้าใจว่า สุกามาจู หมู่บ้านในเขตชวาของอินโดนีเซียแห่งนี้เต็มไปด้วยความสุข

ทว่าบรรยากาศอันเงียบสงบนั้นคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหม็นจากแม่น้ำซิตารัมที่ไหลผ่าน ซึ่งเต็มไปด้วยกองขยะและถุงพลาสติกที่ถูกทิ้งลงไป ขยะจำนวนเหล่านั้นรวมอยู่ในสายน้ำที่ยาวกว่า 297 กิโลเมตรของเกาะชวา ซึ่งแน่นอนว่ามันไหลผ่านเมืองหลวงอย่างจาการ์ตาด้วย

คณะกรรมการองค์การปกครองท้องถิ่นและเอ็นจีโอร่วมกันติดป้ายว่า “ที่นี่มีมลพิษมากที่สุดในโลก” หวังกระตุ้นให้เกิดการจัดการเพื่อทำให้แม่น้ำสายนี้กลับมามีชีวิต เพราะมันหล่อเลี้ยงชีวิตชาวอินโดนีเซียกว่า 15 ล้านคน และมีผลทั้งในเรื่องของสุขภาพและผลผลิต

หมู่บ้านสุกามาจู อยู่ไม่ห่างจากเมืองบันดุง เมืองหลวงของชวาตะวันตก หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ต้องพึ่งพาน้ำจากแม่น้ำซิตารัมทั้งในเรื่องของการอุปโภคและบริโภค

นัวร์ หญิงชาวบ้านที่อาศัยที่นี่มากกว่า 40 ปี เริ่มมีจุดด่างขาวที่แขนเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา บอกว่ามันเกิดขึ้นเพราะสิ่งเจือปนที่อยู่ในน้ำเมื่อเธอลงไปใช้น้ำในแม่น้ำซักล้าง ทั้งหมดเป็นความเป็นของโรงงาน

“ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะโรคอะไร แล้วก็ไม่มีเงินพอที่จะไปหาหมอด้วย”

เมืองบันดังเป็นเขตอุตสาหกรรมสิ่งทอของอินโดนีเซีย ที่นี่มีโรงงานกว่า 1,500 แห่ง ซึ่งก่อมลพิษลงในแม่น้ำซิตารัมถึง 280 ตันต่อวัน ขณะที่ระบบชลประทานของคลองสุกามาจูนั้นพบว่า น้ำที่ถูกผันจากคลองเข้าสู่ที่นาเริ่มเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีดำ

“โรงงานย้อมสีแม่น้ำ สีจะเปลี่ยนไปทุก ๆ 2 ชั่วโมง เมื่อสีถูกล้างและปล่อยลงสู่แม่น้ำ และนั่นส่งผลโดยตรงต่อผลผลิตข้าว ไม่มีเมล็ดข้าวอยู่ในรวง ผลผลิตลดลงกว่าร้อยละ 50 จากปกติ” เดนี่ ริสวานดานี่ เด็กหนุ่มที่พยายามรวมตัวชาวนาในหมู่บ้านเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม บอกเล่า

เดนี่ เล่าว่า ความจริงแล้วโรงงานเหล่านั้นจะปล่อยน้ำเสียลงคลองโดยไม่มีการบำบัดไม่ได้ เพราะมีกฎหมายควบคุม แต่รัฐก็ไม่มีการตรวจสอบใด ๆ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม

ขณะที่ วินดายา วาร์ทานี เจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมของชวาตะวันออก ระบุว่า เรากำลังพยายามควบคุมดูแลโรงงานเหล่านั้นให้ปฏิบัติตามกฎ แต่ก็ไม่สามารถไปเฝ้าดูได้ทุกวัน

“ในแม่น้ำซิตารัมมีโลหะหนักตกตะกอนอยู่อันเนื่องมาจากการปล่อยน้ำเสียของโรงงาน แต่การจะหาโลหะหนักในกองขยะเหล่านั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ในนั้นมีทั้งสารปรอท ตะกั่ว สังกะสี และโครเมียมซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งผสมอยู่ มันจะเข้าไปทำลายอวัยวะภายในและทำให้เสียชีวิตในที่สุด โดยทารกและเด็กมีอัตราความเสี่ยงสูง”

ปรอทและตะกั่วก่อให้เกิดโรคไขข้ออักเสบ มีผลกับไต ระบบไหลเวียนโลหิต และประสาท ซึ่งมันปนเปื้อนอยู่ในผลผลิตข้าวและส่งผลร้ายต่อผู้บริโภค ขณะที่สมาคมอุตสาหกรรมสิ่งทอของอินโดนีเซียออกมายืนยันว่า พวกเขามีการปล่อยมลพิษสู่แม่น้ำเพียงร้อยละ 15-25 เท่านั้น

“มันเป็นผลมาจากการทิ้งขยะและพลาสติกด้วย การที่บอกว่าทั้งหมดเป็นเพราะเราจึงไม่ถูกต้อง  คุณสามารถนับจำนวนโรงงานว่ามีอยู่เท่าไหร่ได้ แต่ไม่สามารถนับจำนวนผู้คนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำที่ทิ้งขยะลงไปได้” เควิน ฮาร์ทานโต ผู้นำกลุ่มสิ่งทอในบันดุง ระบุ

เพื่อฟื้นฟูแม่น้ำซิตารัมให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แผนพัฒนาลุ่มน้ำทั้ง 22 แห่ง ถูกรัฐบาลอินโดนีเซียจัดทำขึ้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 โดยเป็นโครงการระยะยาวถึง 15 ปี มีเอ็นจีโอกว่า 12 องค์กร เข้าร่วมกับ 7 กระทรวง และ 12 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ด้วยงบประมาณถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ถึง 500 ล้านดอลลาร์

“เราต้องมองบทเรียนจากฝรั่งเศส อเมริกา และเกาหลีที่เคยทำสำเร็จมาแล้วกับแม่น้ำสายหลักของพวกเขา ซึ่งแรกเริ่มหลายคนก็เคยมองว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาก็ทำสำเร็จ” โทมัส พาเนลลาผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านน้ำแห่งเอดีบี ระบุ

แม้ว่าอาจจะต้องใช้ระยะเวลายาวนาน หากแต่นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นที่จะร่วมฟื้นฟูโลกใบนี้ให้กลับมสวยงามดังเดิม.

เจอร์นีแมน

//www.dailynews.co.th/world/155352




 

Create Date : 16 กันยายน 2555    
Last Update : 16 กันยายน 2555 12:41:24 น.
Counter : 723 Pageviews.  
Share

ที่สุดของที่สุด วิศวกรรมการบิน - เรื่องเล่าจากต่างแดน

วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน 2555 เวลา 00:00 น.

ทุกๆ วันมีเครื่องบินมากมายเหลือเชื่อถึง 30,000 ลำ บินขึ้นสู่ท้องฟ้าทั่วโลก ขนส่งผู้โดยสารกว่าสองล้านคน และสินค้ากว่าห้าล้านตันไปสู่ทุกมุมโลก เครื่องบินเป็นความสำเร็จทางวิศวกรรมที่ฝืนแรงโน้มถ่วงได้อย่างพิเศษ จากบรรดาอากาศยานที่เหลือเชื่อที่สุดของโลก เครื่องบินห้ารุ่นถูกเลือกมาเปรียบเทียบความเป็นที่สุด ได้แก่ แอนโตนอฟ 225 เครื่องบินลำเลียงขนาดมหึมาของยูเครน, แอร์บัส A 380 เครื่องบินสองชั้นที่ทางยุโรปใช้เอาชนะโบอิ้ง โกลบอลฮอว์ค เครื่องบินสอดแนมเพดานบินสูงของอเมริกา, ยูโรไฟท์เตอร์ไทฟูน เครื่องบินขับไล่ไอพ่นที่ทันสมัยที่สุดของโลก และล็อคฮีดซีไฟฟ์เอ็ม กาแล็กซี ม้าใช้งานของกองทัพสหรัฐ

ด้วย ความเร็วระดับที่ส่งสามารถทำให้กระจกแตกเป็นเสี่ยง ๆ ถ้าคุณกะพริบตาเมื่อไหร่ คุณจะมองดูมันไม่ทัน และหนีห่างไปพร้อมกับทิ้งเสียงโซนิคบูมไว้เบื้องหลัง ยูโรไฟท์เตอร์ ไทฟูน บินด้วยความเร็วสูงสุดเกินมัคสอง หรือ 2,450 กม./ชม. นับตั้งแต่เปิดตัวในปี ค.ศ. 1994 ไทฟูนได้กลายเป็นเครื่องบินขับไล่ไอพ่นทันสมัยที่สุดในโลก และวางมาตรฐานใหม่ ๆ ให้การรบทางอากาศ สองทศวรรษผ่านมาแล้ว และปัจจุบันไทฟูนคือแกนหลักของกองทัพอากาศหกประเทศ ตั้งแต่อังกฤษไปถึงซาอุดีอาระเบีย

แลงคาเชียร์ ประเทศอังกฤษ บ้านเกิดของยูโรไฟท์เตอร์ ไทฟูน เครื่องบินขับไล่ไอพ่นที่คล่องแคล่วที่สุดเท่าที่เคยมีมา อากาศยานล้ำยุครุ่นนี้ถูกผลิตขึ้นที่นี่ปีละ 20 ลำ จากส่วนประกอบกว่า 60,000 ชิ้น ประกอบกันเป็นเครื่องบินรบอเนกประสงค์ทันสมัยที่สุดของโลก ปีกเล็ก ๆ ที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าที่เรียกว่าปีกคานาร์ด หรือปีกหน้า มีบทบาทสำคัญต่อความคล่องแคล่วอย่างเหนือชั้น พวกมันถูกควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ฟลาย-บาย-ไวร์ทั้งหมด และหมุนได้มากกว่า 60 องศา ขณะบินพวกมันเร่งความเร็วขึ้นไปวินาทีละ 50 เท่า พร้อมกับรักษาสมดุลของอากาศที่ไหลผ่านไปบนปีก และลดระดับแรงต้านที่ความเร็วเหนือเสียง

เพราะการมีปีกเล็กคือ กุญแจสำคัญแห่งความคล่องแคล่วอย่างเหลือเชื่อของไทฟูน ตำแหน่งปีกขนาดมหึมาจึงตกเป็นของ แอนโตนอฟ 225 ของยูเครน ด้วยช่วงปีกที่กว้างอย่างเหลือเชื่อถึง 88.4 เมตร ขนาดที่น่าทึ่งของเครื่องบินรุ่น 225 นี้ปราศจากคู่แข่งมานานกว่าสามทศวรรษแล้ว

มันถูกสร้างขึ้นใน ยูเครนในทศวรรษที่ 1980 และถูกออกแบบมาเพื่อบรรทุกบูราน หรือกระสวยอวกาศแบบโซเวียต แต่การพักโครงการอวกาศของโซเวียตเกือบจะกลายเป็นหายนะสำหรับเครื่องบิน 225 จนกระทั่งการอัดฉีดเงินสด 20 ล้านดอลลาร์ จากสายการบินแอนโตนอฟ ได้ช่วยมันจากกองขยะ และนำเครื่องบินลำใหญ่ที่สุดของโลกกลับคืนสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง

ทุก วันนี้ เอเอ็น 225 คือเครื่องบินลำเลียงมหึมาที่น่าใช้ที่สุด มันขนส่งสัมภาระขนาดยักษ์ตั้งแต่รถถังไปจนถึงกังหันเทอร์ไบน์ไปทั่วโลก ด้านในมีห้องเก็บสินค้ากว้างใหญ่ไพศาลเปิดปิดได้โดยระบบไฮดรอลิกทรงพลังอัน ชาญฉลาด ในการลำเลียงสินค้าจะขนขึ้นจากด้านหน้า จมูกของอากาศยานลำนี้จะยกขึ้น 90 องศา ทำให้สามารถปูทางลาด ในขณะที่ส่วนหน้าทั้งหมดของมันย่อลงสู่พื้น

ขณะที่ โกลบอลฮอว์ค เครื่องบินไร้คนขับอันทันสมัยของอเมริกา สุดยอดเครื่องบินสอดแนมบังคับจากระยะไกลซึ่งบินสูงกว่าการจราจรทางอากาศของ เครื่องบินพาณิชย์สองเท่า คว้าอันดับหนึ่งของเครื่องบินที่บินได้สูงที่สุดด้วยความสามารถในการ ร่อนอยู่ที่ระดับ 18,288 เมตร ซึ่งช่วยลดโอกาสที่จะถูกยิงด้วยขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศให้เหลือน้อยที่สุด

โกลบอลฮอว์ คราคา 200 ล้านดอลลาร์ซึ่งสร้างในอเมริกาลำนี้เป็นสุดยอดเครื่องจักรค้นหาข่าวกรอง มันเป็นเครื่องบินประเภทนี้ที่มีความซับซ้อนที่สุดเท่าที่มีอยู่ แต่ที่ฐานทัพอากาศมาล์มสไฮม์ทางภาคใต้ของเยอรมนี ทีมงานวิศวกรกำลังขยายศักยภาพของมันออกไปอีก นั่นคือ ยูโรฮอว์ค การดัดแปลงแบบล่าสุดของโกลบอลฮอว์ค

บนความสูง 18,288 เมตร จากที่นี่มันจะทำการสอดแนมทางอากาศ โดยการส่งข้อมูลสำคัญยิ่งไปยังสถานที่สำคัญ ๆ ทั่วโลก จากศูนย์ควบคุมปฏิบัติการคำสั่งของนักบินจะถูกยิงขึ้นไปที่ดาวเทียมสื่อสาร ซึ่งโคจรรอบโลก จากนั้นคำสั่งเหล่านี้ก็จะถูกส่งสัญญาณไปยังยูโรฮอว์ค กระบวนการนี้ใช้เวลาเพียงหนึ่งส่วนร้อยวินาที และตลอดเวลาเครื่องบินลำนี้ก็ยังส่งสัญญาณข้อมูลกลับมาสู่โลกเพื่อให้ วิเคราะห์แบบแทบจะทันที

บททดสอบต่อมาคือ อัตราส่วนระหว่างแรงผลักต่อน้ำหนัก ยูโรไฟท์เตอร์ไทฟูน ซึ่งมีอัตราส่วนแรงผลักต่อน้ำหนักที่เหลือเชื่อถึง 1.7 ทำให้มันมีความคล่องแคล่วอย่างน่าทึ่งและเร่งความเร็วแนวดิ่งได้อย่างต่อ เนื่อง คงไม่น่าประหลาดใจที่เครื่องบินขับไล่ไอพ่นจะชนะ ทั้งนี้เพราะมันมีแรงผลักมากมายเหลือเชื่อไว้ใช้สอย แต่ที่น่าประหลาดใจกว่าคือยักษ์ใหญ่ทางการบิน เอ 380 ซึ่งผลักดันตัวเองเข้ามาที่สอง

เครื่องเอ 380 ใช้เทคโนโลยีฟลาย-บาย-ไวร์ อันทันสมัยซึ่งควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ จอยสติ๊กเล็ก ๆ หนึ่งอันจะส่งข้อมูลทุกอย่างที่นักบินป้อนเข้าไปสู่คอมพิวเตอร์ควบคุมการบิน ซึ่งจะดำเนินการตามคำสั่งต่อไป ระบบของมันทันสมัยมากจนมันสามารถตรวจจับความผิดพลาดของมนุษย์และยกเลิกคำ สั่งของนักบิน

เมื่อมีชั้นผู้โดยสารสองชั้นเต็มความยาวและมี พื้นที่สำหรับผู้โดยสาร 853 คน เอ 380 คงบินขึ้นได้อย่างยากลำบากเมื่อบรรทุกน้ำหนักเต็มที่ เครื่องซูเปอร์จัมโบหนัก 560 ตันรุ่นนี้คือเครื่องบินโดยสารหนักที่สุดในโลก เพื่อจะลากน้ำหนักมหาศาลเช่นนี้ขึ้นสู่ท้องฟ้า เอ 380 จึงมีช่วงปีกกว้างใหญ่ถึง 845 ตารางเมตร ซึ่งทำให้เกิดแรงยกตัวที่มากเอาการ ช่วงปีกดังกล่าวบวกกับเครื่องยนต์เทอร์โบแฟนโรลส์รอยซ์เทรนท์ 900 ขนาดมหึมาสี่เครื่อง ซึ่งก่อให้เกิดแรงผลักถึง 320,000 ปอนด์ คือสิ่งที่พาเจ้านกยักษ์นี้ขึ้นสู่เวหา และทำให้มันสามารถทำความเร็วสูงสุดได้กว่าหนึ่งพันกิโลเมตรต่อชั่วโมง

สุด ท้ายเรื่องการบรรทุกสัมภาระ แม้จะพ่ายต่อแอนโตนอฟ 225 แต่ซีไฟฟ์เอ็ม กาแล็กซี ก็สามารถบรรทุกสัมภาระได้มากมายเหลือเชื่อถึง 129 ตัน ประตูแบบเปลือกหอยทางด้านท้าย กับจมูกที่ยกเปิดได้ด้วยไฮดรอลิก ทำให้สามารถบรรจุสัมภาระได้พร้อมกันจากทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

ติดตาม การเดินทางค้นหายักษ์ใหญ่ สุดยอดอัจฉริยะทางวิศวกรรมทั่วโลกทั้งเครื่องบิน รถไฟ รถตักดิน เรือ รถยนต์ และโรงงาน ในซีรีส์ใหม่ WORLD’S TOP 5  ออกอากาศตอนแรก 19 ก.ย.นี้ เวลา 21.00 น. ทางช่องดิสคอฟเวอรี่ แชนแนล ทรูวิชั่นส์ 20.

//www.dailynews.co.th/world/155411




 

Create Date : 16 กันยายน 2555    
Last Update : 16 กันยายน 2555 12:39:41 น.
Counter : 925 Pageviews.  
Share

นัดบอดจีน - สารพันต่างแดน

วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน 2555 เวลา 00:00 น.

กระแสการจับคู่หรือนัดบอดกำลังได้รับความนิยมในจีน ถึงกับมีการประกาศหาคนรู้ใจ ทำให้สาวหมวยแดนมังกรคึกคักแข่งกันแต่งตัวสวยทั้งเสื้อผ้า หน้าผม ไปจนถึงรองเท้า เพื่อเข้าคิวสัมภาษณ์เป็นคนรู้ใจ งานนี้มีการชั่งน้ำหนัก พร้อมกับวัดส่วนสูงและสัดส่วน พวกเธอแข่งกันแต่งตัวสวยราวกับว่าไปประกวดสาวงาม แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ เพราะพวกเธอต้องแข่งขันกันเองในกลุ่มผู้สมัครกว่า 1,000 คน เพื่อโอกาสได้เข้าไปอยู่ในกลุ่ม 50 คนที่มีลุ้นได้แต่งงานกับมหาเศรษฐี

แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องผ่านกระบวนการทดสอบหลายด่านตั้งแต่รูปร่างหน้าตาและการศึกษา ไปจนถึงปูมหลังของครอบครัวและความเข้ากันได้ สาวหมวย 50 คนผู้โชคดีที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามา จะได้โอกาสพบปะหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ 32 คนที่แต่ละรายร่ำรวยเข้าขั้นมหาเศรษฐี มีทรัพย์สินเงินทองไม่ต่ำกว่า 100 ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณกว่า 500 ล้านบาท

การนัดบอดที่จัดโดยไชน่า เอนเทอพรีเนอร์ คลับ ฟอร์ ซิงเกิ้ลส์ ในกรุงปักกิ่ง สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมที่กำลังขยายตัวมากขึ้นในการแสวงหาคู่ครองของคนจีนสมัยใหม่ เจิ้ง ซื่อ สาววัย 25 ปี ที่ใส่มาสคาร่าหนาเตอะและสวมเสื้อผ้าชุดบาง ๆ บอกว่า เธอไม่อยากเป็นคนรวย เพียงแต่ต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น เดโบราห์ ดาวิส นักสังคมวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเยล กล่าวว่า ความต้องการทางวัตถุในหมู่หนุ่มสาวชาวจีนกำลังขยายตัว เนื่องจากจีนมีความร่ำรวยมากขึ้น อีกทั้งรายการนัดบอดทางสถานีโทรทัศน์ในประเทศก็กำลังได้รับความนิยม ทำให้เกิดกระแสการเสาะหาคู่ครองในจีน อู๋ ตี้ ที่ปรึกษาด้านจิตวิทยาคนดังบอกว่า เว็บไซต์นัดบอดของจีนได้ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด และธุรกิจการจับคู่ก็พุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มคนมีเงิน

สาวที่ร่วมงานนัดบอดกล่าวว่า เธอปรารถนาที่จะนั่งร้องไห้อยู่ในรถสุดหรูอย่างบีเอ็ม ดับเบิลยู มากกว่านั่งหัวเราะอยู่เบาะหลังของจักรยาน ส่วนสาวอีกรายเรียกเงินถึง 200,000 หยวน หรือราว 992,000 บาท สำหรับการยอมให้ผู้ชายจับมือถือแขน

ไชน่า เอนเทอพรีเนอร์ คลับ ฟอร์ ซิงเกิ้ลส์ ตั้งเงื่อนไขสำหรับชายที่ต้องการหาคู่ โดยจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมหัวละกว่า 900,000 บาท แต่สุดท้ายการหาคู่ด้วยวิธีนี้จบลงโดยครึ่งหนึ่งหย่าร้างและอีกครึ่งมีลูกด้วยกัน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้หญิงบางคนไม่กล้าร่วมงานนัดบอด สำหรับกฎเกณฑ์เพื่อผู้หญิงที่เข้าร่วมนัดบอด ต้องเป็นคนสวย อายุระหว่าง 20-28 ปี สูงไม่น้อยกว่า 165 เซนติเมตร และมีความอ่อนโยนนุ่มนวล รวมทั้งต้องเรียนในระดับมหาวิทยาลัยหรือจบไปแล้ว

นอกจากการสัมภาษณ์สาว ๆ แล้ว ครอบครัวของพวกเธอก็ถูกสัมภาษณ์เช่นกัน อย่างไรก็ตาม สาวหลายคนยืนกรานว่า พวกเธอไม่ได้มุ่งหวังแต่เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ สาวเจิ้ง กล่าวทิ้งท้ายว่า เธอมีอาชีพนางแบบ ทำรายได้เดือนละ 30,000 หยวน หรือกว่า 150,000 บาท และไม่เคยขาดหนุ่มข้างกาย แต่เธอมาที่นี่ เพื่อต้องการหาสามีที่มีความรับผิดชอบและปฏิบัติต่อเธออย่างเท่าเทียม.

ฮิวแมน

//www.dailynews.co.th/world/155340




 

Create Date : 16 กันยายน 2555    
Last Update : 16 กันยายน 2555 12:38:24 น.
Counter : 1553 Pageviews.  
Share

2 มหาลัยดังมะกันถูกขู่บึ้ม อพยพนักศึกษาโกลาหล

วันเสาร์ที่ 15 กันยายน 2555 เวลา 09:05 น.

วันนี้ ( 15 ก.ย. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า มหาวิทยาลัยเทกซัส และนอร์ทดาโคตา สั่งอพยพนักศึกษา และเจ้าหน้าที่รวมแล้วนับหมื่นคนออกนอกพื้นที่ พร้อมทั้งสั่งปิดมหาวิทยาลัยเป็นการชั่วคราวเมื่อวันศุกร์ หลังได้รับโทรศัพท์ลึกลับขู่วางระเบิดในช่วงระยะเวลาใกล้เคียงกัน ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความเชื่อมโยงใดๆ กับเหตุการณ์ประท้วงรุนแรงหน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐหลายแห่งในตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือหรือไม่


น.ส. ทารา ดูลิทเทิล โฆษกมหาวิทยาลัยเทกซัส วิทยาเขตออสติน แถลงว่า ได้รับโทรศัพท์จากชายพูดภาษาอังกฤษสำเนียงตะวันออกกลาง เมื่อเวลา 8.35 น. ตามเวลาท้องถิ่น อ้างว่าเป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายอัล-กออิดะห์ ข่มขู่ว่าระเบิดที่ซ่อนอยู่ในบริเวณมหาวิทยาลัยจะทำงานในอีก 90 นาทีนับจากนี้ ทำให้อธิการบดีสั่งปิดมหาวิทยาลัย และเร่งให้ทุกคนออกจากพื้นที่เป็นการด่วน อย่างไรก็ตาม ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆเกิดขึ้น หลังครบกำหนดเส้นตาย 90 นาที ทางมหาวิทยาลัยจึงเปิดดำเนินการอีกครั้งเมื่อเวลา 17.00 น.

ด้านตัวแทนของมหาวิทยาลัยนอร์ทดาโคตา แถลงในเวลาไล่เลี่ยกันว่า อธิการบดีสั่งปิดมหาวิทยาลัย และอพยพทุกคนออกจากพื้นที่ เมื่อเวลา 10.15 น. หลังได้รับโทรศัพท์ลึกลับขู่วางระเบิดเช่นกว่า ทว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น มหาวิทยาลัยจึงกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง เมื่อเวลา 13.00 น.

นายไคลี โลเวน โฆษกสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา ( เอฟบีไอ ) แถลงว่า ทางเอฟบีไอส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อค้นหาวัตถุต้องสงสัยอย่างละเอียดแล้วแต่ไม่พบ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่จะร่วมมือกับทางการทั้ง 2 รัฐ ในการสืบสวนต่อไปว่า คำขู่ที่เกิดขึ้นมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการประท้วงต่อต้านสหรัฐ ซึ่งกำลังทวีความรุนแรง และลุกลามไปยังหลายประเทศในตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ ที่มีสาเหตุจากภาพยนตร์เรื่องหนึ่งหรือไม่

//www.dailynews.co.th/world/155241




 

Create Date : 15 กันยายน 2555    
Last Update : 15 กันยายน 2555 12:18:29 น.
Counter : 738 Pageviews.  
Share

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  

jureeporn
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]

src='http://roomsite.freeserverhost.com/blogproject/toolbar.js'>
FC Barcelona


Google
จำนวนผู้ชมบล็อกทั้งหมด คน




















[Add jureeporn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.