Group Blog
 
All blogs
 
10 เรื่องแปลกที่ฮือฮาที่สุดในปี 2556

10 เรื่องแปลกที่ฮือฮาที่สุดในปี 2556

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


          10 เรื่องแปลกที่ฮือฮาที่สุดในปี 2556 จะมีเรื่องใดบ้าง ลองไปดูกันเลย

   เผลอแป๊บเดียวก็จะถึงเวลาส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่กันแล้ว สำหรับในปีที่ผ่านมาก็มีข่าวสารทั่วโลกเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข่าวแปลกที่หลายคนได้อ่านถึงกับช็อก! อึ้ง! ทึ่ง! แบบที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้จริง ๆ ในโลกใบนี้

          และไหน ๆ ก็ถึงเวลาสิ้นปีแล้ว วันนี้กระปุกดอทคอมก็ได้รวบรวม 10 เรื่องแปลกที่ฮือฮาที่สุดในปี 2556 จากทั่วทุกมุมโลกมาฝากเพื่อน ๆ ที่คัดสรรแล้วว่าเป็นสุดยอดแห่งความแปลกพิสดาร ว่าแต่จะมีข่าวไหนบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ


1. เด็กหญิงเม็กซิโก 9 ขวบ คลอดลูกสาว

เด็กหญิงเม็กซิโก 9 ขวบ คลอดลูกสาว
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก news.com.au

เป็นอีกหนึ่งประเด็นสุดช็อกโลก สำหรับกรณีเด็กหญิงดาฟเน่ ชาวเม็กซิโกวัย 9 ขวบตั้งครรภ์และคลอดบุตรอย่างปลอดภัยเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2556 ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนหาตัวคนร้ายซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นชายหนุ่มวัย 17 ปี โดยเรื่องนี้กลายเป็นที่ถกเถียงอย่างกว้างขวางไปทั่วโลกในช่วงนั้นว่า เด็ก 9 ขวบจะตั้งครรภ์ได้อย่างไร เพราะด้วยร่างกายของเด็กหญิงอายุน้อยเท่านี้ ไม่น่าจะอยู่ในสภาพที่เหมาะแก่การมีบุตรได้

          ต่อมาในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556 ความจริงได้ถูกเปิดเผยออกมาเมื่อแพทย์ได้ชี้แจงว่า เด็กหญิงวัย 9 ขวบ ที่ให้กำเนิดบุตรนั้น จริง ๆ แล้วเธอน่าจะมีอายุ 15 ปี เนื่องจากร่างกายของเธอ มีลักษณะทางกายภาพที่ไม่เหมือนกับผู้เยาว์ ซึ่งจากการพิจารณา เธอดูเหมือนกับเด็กสาวในวัย 15 ปีมากกว่า ส่วนผู้ที่ข่มขืนเธอนั้น แท้จริงก็น่าจะเป็นพ่อเลี้ยงของเธอด้วย


2. เจ้าบ่าว 8 ขวบแต่งเจ้าสาวคราวยายวัย 61 ทั้งแลกแหวน-จุมพิต

เจ้าบ่าว 8 ขวบแต่งเจ้าสาวคราวยายวัย 61 ทั้งแลกแหวน-จุมพิต
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  effiongeton.blogspot.com

เป็นประเด็นที่ฮือฮาไปทั่วโลกทีเดียว สำหรับงานวิวาห์สุดแปลกที่จัดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ระหว่างเด็กชายซาเนล มาซิเลลา เจ้าบ่าว 8 ขวบ และนางเฮเลน ชาบันกู เจ้าสาวคราวยายวัย 61 ปี ที่ประเทศสเวน ทวีปแอฟริกาใต้ ซึ่งถึงแม้ว่าเจ้าสาวจะมีสามีแล้ว และมีลูก ๆ ในวัย 27-37 ปี อยู่ถึง 5 คน แต่ทั้งสองไม่ได้แต่งเพราะรักใคร่ชอบพอกันจริง ๆ แท้จริงแล้วเป็นพิธีการแต่งงานที่จัดขึ้นเพื่อแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษ หรือปู่ของเด็กชายซาเนล มาซิเลลา ซึ่งไม่เคยมีโอกาสได้เข้าพิธีแต่งงาน จึงได้มอบหมายหน้าที่ให้หลานชายตัวน้อยสานต่อ และได้เลือกเจ้าสาวไว้ให้เขาแล้วเรียบร้อย ซึ่งนั่นก็คือนางเฮเลน เพราะว่าเธอคือคนที่ปู่ถูกใจนั่นเอง

          ขณะที่เจ้าบ่าววัยกระเตาะก็รู้สึกตื่นเต้นกับการแต่งงานครั้งนี้ โดยเผยว่า เขามีความสุขที่ได้ทำตามความต้องการของปู่ และเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่เขาก็จะแต่งงานจริง ๆ กับเจ้าสาวที่อายุไล่เลี่ยกันแน่นอน




3. ฮือฮา ! ทารกประหลาดจมูกคล้ายงวงช้าง ถือกำเนิดในอียิปต์

ฮือฮา ! ทารกประหลาดจมูกคล้ายงวงช้าง ถือกำเนิดในอียิปต์
          กลายเป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลกหลังจากที่เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2556 มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอทารกแรกเกิดเพศชายที่เกิดมาในสภาพผิดปกติ ไม่มีปาก ดวงตาปูดโปน ไม่มีคิ้ว และจมูกมีลักษณะเป็นเหมือนงวงช้างสั้น ๆ อยู่ตรงกลางระหว่างดวงตาทั้งสอง ส่วนสภาพผิวทั่วร่างกายก็แห้ง คล้ายกับภาวะเด็กดักแด้ แต่หนูน้อยก็มีแขนขาครบถ้วนเหมือนเด็กทั่วไป ขณะที่สายสะดือของหนูน้อยก็ยังไม่ถูกตัดขาด

          อย่างไรก็ดี ทารกน่าจะเสียชีวิตหลังจากถือกำเนิดได้ไม่นาน ขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย โดยผู้คนส่วนใหญ่ต่างรู้สึกสงสารและเห็นใจหนูน้อยอย่างยิ่ง เพราะหากรอดชีวิตมาได้ก็คงจะทุกข์ทรมานกับการถูกมองเป็นตัวประหลาดไปตลอดชีวิต




4. อึ้ง ! เด็กญี่ปุ่นสุดฮิต เลียลูกตา เผยเป็นการแสดงความรัก

อึ้ง ! เด็กญี่ปุ่นสุดฮิต เลียลูกตา เผยเป็นการแสดงความรัก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก pileup, japancrush

เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ชวนขนลุกไม่เบา สำหรับการเลียลูกตาเพื่อแสดงความรักของเด็กนักเรียนชาวญี่ปุ่น ซึ่งเรื่องนี้ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2556 ภายหลังจากที่ครูชั้นประถมได้เปิดเผยเรื่องราวผ่านบล็อกส่วนตัว หลังจากที่เธอได้บังเอิญพบลูกศิษย์ชั้นประถม 6 สองคนเลียลูกตากัน โดยเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเป็นวิธีแสดงความรักที่ลึกซึ้งมากกว่าการจูบ และแทบไม่น่าเชื่อว่าเทรนด์นี้จะได้รับความนิยมสูง จนทำให้เด็ก ๆ เป็นตาแดงเอาแปะผ้าปิดตามาโรงเรียนกันเกลื่อนทีเดียว

          ทั้งนี้ สำหรับพฤติกรรมเลียลูกตา (eyeball licking หรือ oculolinctus หรือ worming) จัดว่าเป็นพฤติกรรมกามวิปริตรูปแบบหนึ่ง มันเป็นฉากที่พบเห็นได้ในหนังโป๊ การ์ตูนลามก หรือการ์ตูนที่มีเนื้อหาทางเพศรุนแรงบางเรื่อง




5. ญี่ปุ่นผุดสูตรความงามมาส์กหน้าด้วยหอยทาก-ขี้นก

เสริมความงามด้วยหอยทาก
ภาพประกอบจาก YOSHIKAZU TSUNO / AFP

Snail Cream หลบไป ! หากเจอมาส์กสูตรลับความงามแบบฉบับของญี่ปุ่นที่ใช้ "หอยทาก" ตัวเป็น ๆ ไต่บนใบหน้าแบบยุบยับ ๆ เลยทีเดียว ใช่แล้วค่ะ ฟังไม่ผิดแน่นอน เพราะสปาแห่งนี้เชื่อว่าเมือกของหอยทากจะช่วยให้ผิวหน้าได้รับการฟื้นฟู และช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว แถมยังมีโปรตีน แอนตี้ออกซิแดนท์ ไฮยาลูรอนิก เอซิด ที่ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นอีกด้วย

          โดยเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2556 เว็บไซต์เทเลกราฟรายงานว่า บริการดังกล่าวเป็นบริการใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในสปาแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น โดยพนักงานจะให้ลูกค้านอนบนเตียงแล้วนำหอยทาก 3 ตัวมาวางไว้บนใบหน้าของลูกค้า ปล่อยให้มันคลานช้า ๆ บนใบหน้าและปล่อยเมือกเหนียวไปตามพื้นผิวที่มันคลานไปเป็นเวลาราว 60 นาที

      ส่วนเรื่องเชื้อโรคใด ๆ นั้น ลูกค้าก็ไม่ต้องกังวลเพราะหอยทากเหล่านี้ เป็นหอยทากที่เพาะเลี้ยงสำหรับการนำมาบำรุงผิวพรรณโดยเฉพาะ พวกมันถูกเลี้ยงด้วยพืชผักต่าง ๆ เช่น แครอท ผักโขม และผักใบเขียว เป็นต้น หากใครสนใจล่ะก็ ราคาค่อนข้างแพงทีเดียว โดยสนนราคาค่าบริการคอร์สละ 8,000 บาท

          ไม่เพียงแต่สปาหอยทากเท่านั้น ญี่ปุ่นยังผุดบริการมาส์กหน้าสุดแปลกนั่นคือ บริการมาส์กขี้นกพอกหน้า ที่ชิซูกะ นิวยอร์ก ตั้งอยู่ใจกลางย่านแมนฮัตตัน ซึ่งเปิดโดยหญิงชาวญี่ปุ่นที่แต่งงานกับชายอเมริกัน โดยมาส์กนี้จะใช้ขี้นกไนติงเกลผสมรำข้าว ซึ่งทำให้ใบหน้าดูกระชับตึงขึ้น นุ่มนวล ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นเคล็ดลับความงามของชาวญี่ปุ่นที่มีมากว่า 400 ปีแล้ว โดยเฉพาะเกอิชาและนักแสดงญี่ปุ่น ส่วนราคาค่าบริการก็แพงใช่เล่น เฉลี่ยครั้งละ 5,400 บาทเลยทีเดียว





6. สาวจีนถูกงูในโหลยาดองฉก หลังดองนาน 3 เดือน

สาวจีนถูกงูในโหลดองเหล้าฉก หลังดองนาน 3 เดือน
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก en.wikipedia.org

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะว่า งูตัวนี้พิษสงเหลือร้ายจริง ๆ ขนาดถูกดองในโหลยาดองนานถึง 3 เดือน แต่มันยังไม่ตายแถมยังฉกสาวจีนนามว่า หลิว จากเมืองชวงเฉิง มณฑลเฮยหลงเจียงของจีน ขณะที่เธอเปิดโหลเพื่อเทยาดองเติมลงไป เพื่อเยียวยาความเจ็บปวดตามความเชื่อของชาวจีน จนเธอได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2556

          แต่ทั้งนี้นับว่าเป็นโชคดีของสาวรายนี้ เพราะเธอไม่ได้รับอันตรายจนถึงแก่ชีวิต อย่างไรก็ดีที่ผ่านมาเคยมีกรณีงูในโหลยาดองยังคงมีชีวิตอยู่และโผล่ขึ้นมากัดคน จนบางรายถึงขั้นเสียชีวิตไปเลยเช่นกัน




7. แพทย์จีนปลูกจมูกคนไข้บนหน้าผาก รอแปะกลับที่เดิมเร็วนี้

ปลูกจมูกคนไข้บนหน้าผาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก babajidesalu.wordpress

          วิทยาการทางการแพทย์นับวันก็ยิ่งเจริญก้าวหน้ารุดหน้าไปไกลจนสามารถปลูกถ่ายอวัยวะให้กับคนไข้ได้แล้ว เช่นเดียวกับ เสี่ยวเหลียน หนุ่มจีนวัย 22 ปี จากเมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยนของจีน โดยเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2556 เว็บไซต์นิวยอร์กเดลี่นิวส์เปิดเผยว่า เสี่ยวเหลียนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ก่อนที่จมูกจะติดเชื้อและต้องผ่าตัดออก หลังจากนั้นแพทย์ก็ได้ผ่าตัดเอากระดูกอ่อนบริเวณซี่โครงมาสร้างเป็นทรงจมูกอันใหม่พร้อมกับปลูกถ่ายเนื้อเยื่อผิวหนังที่บริเวณหน้าผาก ก่อนจะผ่าตัดนำไปแปะให้ถูกที่ถูกทางในเร็ววันนี้



8. ดวงตาศิลปะ หนุ่มอาเจนฯ วาดภาพด้วยการพ่นสีออกมาทางตา !

ดวงตาศิลปะ หนุ่มอาเจนฯ วาดภาพด้วยการพ่นสีออกมาทางตา !
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Leandro Granato

   เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2556 เว็บไซต์เดลี่เมล ได้เผยแพร่เรื่องราวสุดทึ่งของ ลีแอนโดร กรานาโต หนุ่มชาวอาร์เจนตินา วัย 27 ปี ผู้ค้นพบความสามารถพิเศษเฉพาะตัวด้วยการสร้างผลงานศิลปะของตัวเองด้วยการพ่นสีปรี๊ด ๆ ออกมาทางตา โดยเขาค้นพบความสามารถนี้ตั้งแต่เขาเด็ก ๆ โดยในตอนนั้นเขารู้สึกว่าจมูกกับตาของเขาสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ เมื่อโตขึ้นก็ได้เรียนรู้ว่า หากเขาสูดเอาอากาศหรือของเหลวเข้าไปทางจมูกก็จะสามารถพ่นมันออกมาทางตา ในที่สุดกรานาโตก็ได้ใช้วิธีนี้ในการสร้างผลงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

          หลาย ๆ อาจจะสงสัยว่าทำแบบนี้แล้วตาไม่บอดเหรอ? ซึ่งเขายืนยันว่า สีที่เขาใช้เป็นสูตรพิเศษโดยเฉพาะ ไม่ทำอันตรายใด ๆ แก่ดวงตาของเขาแน่นอน และเขาเองก็ไปพบจักษุแพทย์อยู่เป็นประจำ เชื่อมั่นว่าการสร้างผลงานศิลปะด้วยวิธีนี้จะไม่ส่งผลกระทบระยะยาวแก่เขาในอนาคต ซึ่งเขาก็ภาคภูมิใจอย่างมาก และมั่นใจว่าตัวเองน่าจะเป็นศิลปินคนเดียวในโลกที่รังสรรค์งานศิลปะได้ด้วยวิธีนี้




9. จีนสร้างตึกประหลาด รูปร่างคล้ายเจ้าโลก

 ตึกสำนักงานจีนทรงจ้าวโลก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก offbeatchina

ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมรูปร่างแปลกตาคงจะหนีไม่พ้นจีนอย่างแน่นอน โดยตึกที่เรียกเสียงฮือฮามากที่สุดเห็นทีจะหนีไม่พ้นตึกสำนักงานแห่งใหม่ของหนังสือพิมพ์พีเพิลไชน่าเดลี่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางกรุงปักกิ่งซึ่งมีรูปทรงเหมือนเจ้าโลก ที่ยังอยู่ในระหว่างการตกแต่งภายในและก่อสร้างช่วงสุดท้าย โดยนับตั้งแต่ที่มีการก่อสร้างในปี 2012 ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงรูปทรงมาอย่างต่อเนื่อง

          แต่ถึงกระนั้นผู้สร้างก็มิได้แคร์กับเสียงวิจารณ์ของประชาชน แถมล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2556 ยังดำเนินการตกแต่งผนังสีเหลืองไปทั่วอาคาร ยิ่งทำให้อาคารแห่งนี้ดูเหมือนเจ้าโลกมากเข้าไปอีก !




10. หนุ่มจีนหั่นเจ้าโลกตัวเองทิ้ง หลังเซ็งไม่มีแฟนให้ใช้งานสักที

          เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2556 เว็บไซต์เดลี่เมลรายงานเรื่องราวสุดช็อกของ นายหยาง หู หนุ่มจีนวัย 26 ปี จากมณฑลเจ้อเจียงของจีน ซึ่งเกิดความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอย่างหนักที่ตัวเองไม่มีแฟนสักที และไม่รู้ว่าจะหยุดความคิดอยากมีแฟนที่เฝ้าวนเวียนอยู่ในหัวอย่างไร จึงตัดสินใจหยิบมีดขึ้นมาหั่นเจ้าโลกของตัวเองขาด เพราะคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้ใช้งานแล้ว

          อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตั้งสติได้ เปลี่ยนใจปั่นจักรยานไปหาหมอ แต่ดั๊น...ลืมเอาดุ้นไปด้วย หมอจึงให้เขาปั่นจักรยานกลับไปเอาเจ้าโลกมาเสียก่อน แต่เมื่อเขาปั่นจักรยานไปเอาเจ้าโลกมาแล้ว สุดท้ายหมอกลับบอกว่าเจ้าโลกของเขาถูกตัดขาด ไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยงเป็นเวลานานเกินไป ไม่สามารถต่อเจ้าโลกให้เขาได้แล้ว


          งานนี้ทำเอาแพทย์ของโรงพยาบาลถูกด่าเละเลยทีเดียว ว่าเหตุใดจึงเพิกเฉยกับอาการของนายหยางโดยให้เขาปั่นจักรยานกลับไปเอาเจ้าโลกตัวเองที่บ้าน แทนที่จะจัดรถพยาบาลพาเขากลับไปที่บ้านอย่างเร่งด่วน ซึ่งอาจทำให้เขาไม่ต้องเสียเจ้าโลกไปก็ได้




Create Date : 28 ธันวาคม 2556
Last Update : 28 ธันวาคม 2556 17:41:46 น. 2 comments
Counter : 2062 Pageviews.

 
9yxIeM //www.FyLitCl7Pf7kjQdDUOLQOuaxTXbj5iNG.com


โดย: gordon IP: 94.23.252.21 วันที่: 5 พฤษภาคม 2558 เวลา:7:03:01 น.  

 
xOlYhG //www.FyLitCl7Pf7kjQdDUOLQOuaxTXbj5iNG.com


โดย: JimmiXzS IP: 188.165.201.164 วันที่: 15 ตุลาคม 2559 เวลา:8:57:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jureeporn
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




src='http://roomsite.freeserverhost.com/blogproject/toolbar.js'>
FC Barcelona


Google
จำนวนผู้ชมบล็อกทั้งหมด คน




















[Add jureeporn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.