ชาวบ้าน อ.แม่เมาะ เข้ามอบกระเช้าดอกไม้ ขอบคุณผู้ว่าฯลำปาง หลังมีมติ ครม. เห็นชอบให้ชาวบ้าน 1 พันกว่า
ชาวบ้านในอำเภอแม่เมาะ 1 พันกว่าครัวเรือนจาก 5 หมู่บ้าน ในเขตพื้นที่ 2 ตำบล แสดงความดีใจ หลังจากที่คณะรัฐมนตรี มีมติที่ประชุมเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2556 เห็นชอบในหลักการให้ อพยพชาวบ้านทั้ง 5 หมู่บ้าน ออกจากเขตพื้นที่การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) แม่เมาะ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎร ที่ได้รับผลกระทบ โดยหลังการทราบข่าว นางแสงจันทร์ มูลซาว ผู้ใหญ่บ้านบ้านห้วยคิง พร้อมด้วย นายอำเภอแม่เมาะ และผู้แทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) แม่เมาะ ได้นำตัวแทนกลุ่มชาวบ้านทั้ง 5 หมู่บ้าน เดินทางมายังศูนย์ราชการจังหวัดลำปาง ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง เข้าพบ นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เพื่อมอบกระเช้าสิ่งของและดอกไม้ เป็นการแสดงความขอบคุณ ที่ได้ทำการช่วยเหลือเดินเรื่องการขออพยพของชาวบ้าน จนมีความคืบหน้าได้รับความเห็นชอบในหลักการ จากคณะรัฐมนตรี
โดยคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงพลังงาน ย้ายราษฎร 1,458 ครัวเรือน ในเขตพื้นที่ 2 ตำบล รวม 5 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านห้วยคิง, บ้านหัวฝาย, บ้านดง, บ้านสวนป่าแม่เมาะ ตำบลแม่เมาะ และบ้านหัวฝายหล่ายทุ่ง ตำบลบ้านดง ให้ออกไปอยู่บนพื้นที่ที่จัดสรรให้แห่งใหม่ โดยทาง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) แม่เมาะ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งหมด ประมาณ 2,970 ล้านบาทนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้กล่าวว่า ขณะนี้ทางจังหวัด รอเพียงหนังสือสั่งการเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาภายใน 1 สัปดาห์ เนื่องจากขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการกลั่นกรอง เพื่อไม่ให้มีความผิดพลาดในเรื่องเนื้อหา และหากทางจังหวัดได้รับหนังสือสั่งการแล้ว ก็จะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ที่จะขออพยพทันที ส่วนเรื่องของค่าใช้จ่าย ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการนั้น ขณะนี้ได้เตรียมพร้อมเรื่องงบประมาณทั้งหมดไว้แล้ว ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน และถึงแม้ว่าครั้งนี้จะมีการประเมินค่าใช้จ่ายให้แก่ชาวบ้านสูงกว่าครั้งก่อนๆ ก็จะไม่มีผลกระทบจากชาวบ้านกลุ่มเดิมที่มีการอพยพออกไปก่อนหน้านี้ เนื่องเพราะค่าใช้จ่ายอาจมีการปรับขึ้น-ลงได้ ตามสภาวะของเศรษฐกิจด้าน นางแสงจันทร์ มูลซาว ผู้ใหญ่บ้านบ้านห้วยคิง ได้กล่าวหลังได้รับข่าวดีว่า เรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้านได้ผ่านมติ ครม. แล้ว ถือว่ามีความคืบหน้ามาก หลังจากที่ต้องใช้เวลารอคอยกันมานานเกือบ 5 ปี ซึ่งหลังจากนี้ ก็จะเป็นเรื่องของชาวบ้านที่จะต้องเป็นผู้ติดตามเรื่องต่อไป และตนเองเชื่อว่าหากทุกฝ่ายดำเนินงานตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ยืนยัน การอพยพของชาวบ้านจะเสร็จสิ้นภายในสองปีนี้อย่างแน่นอน.
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
