กฏระเบียบระหว่างอยู่ปฏิบัติธรรมและตารางวัตรปฏิบัติของ แดนมหามงคล
ขอบคุณภาพจาก J0ie Koo ชั้นสองของศาลามหาบุญ ตั้งจิตอธิฐานบวชใจต่อหน้าพระพุทธรูปปางประธานพรที่นี่ก็ได้ แล้วแต่สะดวก อาราธณาศีล 8 จบแล้วเป็นอันเสร็จพิธี ต่างคนต่างทำหรือจะรวมกันเป็นหมู่คณะก็ได้ ถ้ามาด้วยกัน เวลาเปิด-ปิดของแดนมหามงคลค่ะ
เช้าเปิด 08.00-11.00 น.
บ่ายเปิด 12.00 -17.00 น. กรุณามาให้ถึงสถานธรรมก่อน 17.00 น.ค่ะ บุคคลผู้ไม่รับพิจารณาให้มาปฏิบัติธรรม 1. บุคคลผู้ที่มีจิตวิปลาสคลาดเคลื่อน ขาดสติสัมปัญชญญะ 2. บุคคลผู้ติดยาเสพติด 3. บุคคลผู้ต้องคดีอาญา 4. บุคคลผู้ที่มีโรคติดต่อร้ายแรง 5. ผู้สูงอายุที่ดูแลตัวเองไม่ได้
หลังจากทำตามกฏข้อที่ 1 เรียบร้อยแล้ว ก็เดินข้ามสะพานเข้าแดนมหา มงคลชัย ต่อด้วยกฏข้อที่ 2 ตามลำดับค่ะ ข้อกฏระเบียบปฏิบัติเมื่อไปถึงสถานธรรม
1.ก่อนข้ามสะพานไปฝั่งแดนมหามงคล เป็นจุดตรวจกระเป๋าด้วยเครื่องสแกน และเปิดกระเป๋าให้ดูข้างในด้วย พร้อมฝากโทรศัพท์มือถือ,กล้องถ่ายรูป,กล้องวีดีโอ ปกรณ์สื่อสารทุกชนิดห้ามนำเข้าไปในสถานธรรมเด็ดขาด หากตรวจเจอในด่านที่ 2 ก่อนเข้าที่พักจะถูกเชิญกลับในทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้น(ในช่วงเทศกาล) 2.ลงทะเบียนโดยใช้บัตรประชาชน อนุญาตให้พักปฏิบัติธรรมได้ครั้งละ ๓ วัน หลังจากอยู่ครบตามกำหนดแล้ว มาขออนุญาติเพิ่มวันอยู่ต่อได้อีกถ้าต้องการอยู่ต่อ
3.นำสำเนาใบลงทะเบียนเข้าไปแจ้งในจุดที่สองหน้าที่พัก ตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำค่ะ (จะบอกว่าพักที่ไหน เดินไปอย่างไร)
4.เมื่อถึงอาคารที่พัก ยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ อ่านคำแนะนำเรื่องการมาพักบำเพ็ญ เจ้าหน้าที่จะขอเก็บโทรศัพท์ค่ะ ดังนั้นควรจัดการธุระทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนฝากโทรศัพท์ จะได้มาปฏิบัติอย่างสบายใจไร้กังวล (ในเวลาปกติที่ไม่ใช่เทศกาล) 5. ที่นี่ลงทะเบียนเข้าปฏิบัติฯได้ทุกวัน ไม่ต้องจอง ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีห้องพักส่วนตัว ทุกคนเสมอภาคกัน พักรวมนอนเรียงกันบนศาลาใหญ่ ที่นี่ไม่มีเบอร์โทรฯให้ค่ะ ไม่ต้องพยายามโทร ใช้วิธีบอกกันแบบปากต่อปาก และจากกัลยาณมิตรแนะนำกันเท่านั้น
6.ไม่มีตู้บริจาคเหมือนวัดทั่วไป แต่ถ้าเรามีความประสงค์จะทำบุญในวันที่จะกลับจะมีพานให้ใส่เงินบูชาธรรมตามแต่กำลังศรัทธา หรืออยากเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารผู้ปฏิบัติธรรมก็แจ้งความประสงค์ได้ที่เจ้าหน้าที่ 7.เอากระเป๋าสัมภาระไปวางจองที่นอน เอาผ้าขาวที่เตรียมมาคลุมไว้ให้เรียบร้อย ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดตามระเบียบของสถานที่ หรือจะอาบน้ำเปลี่ยนชุดตรงจุดลงทะเบียนครั้งแรกก็ได้ค่ะ จุดที่มีร้านสวัสดิการ เรียกว่าศาลาอภัยทาน มีห้องน้ำอุบาสก-อุบาสิการองรับ สะดวกทุกจุดค่ะ
8.ไปอธิษฐานบวชที่ศาลาบวชใจหรือศาลามหาบุญก็ได้ อาราธนาศีล 8 เองได้เลยค่ะ เปิดดูในหนังสือสวดมนต์ของสถานธรรมเสร็จแล้วกลับมาที่พัก ถามเจ้าหน้าที่ว่าขณะนี้กลุ่มปฏิบัติอยู่ที่จุดไหน แล้วตามหมู่คณะไปเลยค่ะ ศาลาหลังนี้ชื่อว่า"ศาลบวชใจ"ค่ะ มาตั้งจิตอธิฐานบวชใจต่อหน้าองค์พระพุทธชินราชจำลอง สมาทานศีล 8 หรือุโบสถน์ศีลที่นี่ การบวชไม่มีพิธีรีตองอะไรมากมายไม่เน้นพิธีกรรม
มาตั้งจิตอธิฐานบวชใจต่อหน้าองค์พระพุทธชินราชจำลอง สมาทานศีล 8 หรือุโบสถน์ศีลที่นี่ การบวชไม่มีพิธีรีตองอะไรมากไม่เน้นพิธีกรรม นี่คือเหตุผลที่ต้องตรวจกระเป๋าถึงสองรอบค่ะ ที่นี่เคร่งครัดมาก ถ้าตรวจเจอในด่านที่สองจะถูกเชิญกลับในทันที สิ่งที่ผู้ปฏิบัติต้องเตรียมมาด้วย มีดังต่อไปนี้
1.ร่ม มีให้ยืม แต่เอาไปด้วยดีที่สุดค่ะ เพราะถ้าฝนไม่ตก แดดก็ออกอยู่ดีแดดจัดด้วยในเวลากลางวัน แต่กลางคืนอากาศเย็นจัดจนต้องนอนคลุมโปง
2. กล่องใส่ข้าว ช้อน แก้วน้ำ ที่นี่จัดอาหารเช้าให้ 1 มื้อเท่านั้น แต่เราสามารถตักเก็บไว้ทานเวลาฉันท์เพลได้ (มื้อก่อนเที่ยง) กล่องข้าวแก้วน้ำส่วนตัว ถ้าไม่เตรียมไปที่ร้านสวัสดิการมีขายค่ะ จัดให้สองมื้อเฉพาะช่วงเทศกาลทีมีวันหยุดยาวต่อเนื่อง เพราะผู้ปฏิบัติจะหลั่งไหลมาเยอะมาก หลายพันคนโดยประมาณ
3 .ไฟฉายสำคัญมาก เพราะอาคารที่ทำกิจกรรมแต่ละหลังปลูกอยู่ห่างกัน ได้ใช้แน่นอน โดยเฉพาะเวลาเดินธุดงค์หลังทำวัตรเช้า เวลา 05.00 น. ของทุกวัน
4. รองเท้าใช้แบบสวมสบายๆ ไม่เน้นสวย หรือรองเท้าแตะก็ได้ มีรองเท้าธุดงค์ขายค่ะราคา 100 บาท ไม่ซื้อก็ได้แต่ต้องเดินเท้าเปล่าเวลาเดินธุดงค์เพราะสถานธรรมแห่งนี้เน้นการเดินธุดงค์ค่ะ เจ็บเท้ามากเพราะเป็นถนนลูกรัง ต้องเขียนชื่อติดรองเท้าด้วยค่ะ เพราะใส่ผิดประจำ บางทีก็หายไปเลย
5. หมอน ผ้าห่มต้องเอามาด้วยทุกครั้ง มีเสื่อให้ เพื่อไม่เป็นการแพร่เชื้อโรค และเป็นภาระมากในการทำความสะอาดสำหรับอุบาสิกาที่เป็นเจ้าหน้าที่
6. มีชุดขาว,สไบ ให้เช่าหรือซื้อใส่ปฏิบัติธรรม เสื้อ 130 สไบ 100 ผ้าถุง 200 บาท เสื้อขาวของที่นี่ต้องยาวสุดแขน แขนสามส่วนแบบทั่วไปใช้ไม่ได้ ถือว่าผิดกฏค่ะ ถ้าเตรียมมาผิดต้องซื้อใหม่เท่านั้น ควรมีอย่างน้อย 3 ชุด เสื้อมีหลายราคาขึ้นอยู่กับเนื้อผ้าและยี่ห้อ ราคา ณ วันที่ 31 มค. 2557
7.ของใช้ส่วนตัวสำหรับอาบน้ำทุกอย่าง มีห้องน้ำเพียงพอสำหรับทุกท่านค่ะ อาบด้วยฝักบัว ส้วมเป็นชักโครกบางส่วน พื้นปูหินอ่อนอยางดี
8. ยา,เจล ครีมทากันยุง ยุงมีบ้างปะปรายใช้ขนาดเล็กก็พอ ถ้าเป็นแบบสเปรย์จะสะดวกกว่า
9. ถุงพลาสติก สำหรับใส่เสื้อผ้าส่งซัก เขียนชื่อติดพร้อมใส่ค่าซักไปด้วยชิ้นละ 5-10 บาท สำหรับผู้พักอยู่นานที่ต้องส่งชุดซักประจำ
10. ที่นี่ไม่อนุญาตให้ซักเสื้อผ้าทุกชนิด พราะไม่มีที่ให้ตากและป้องกันการสูญหาย
11.สำหรับผู้ไปพักน้อยวันควรเตรียมชุดไปให้พอใช้ สะดวกกว่าจะได้ตัดปัญหาจุกจิกไป
12. ผ้าคลุมกระเป๋า (ผ้าสีขาว) ไว้คลุมสัมภาระให้ดูเรียบร้อย (ไม่มีก็ได้)
13.ผ้าคลุมผม สำหรับกันแมลงตอมหูเวลาเดินธุดงค์ในป่าค่ะ (ควรมี) สีขาวค่ะ ที่นี่มีขายด้วยค่ะ
14.สุขภาพต้องแข็งแรงพร้อมก่อนไปค่ะ หากมีโรคประจำตัวควรนำยาไปด้วย ถ้าเป็นโรคภูมิแพ้อากาศต้องใส่หมวกเวลาอากาศเย็นจัดในศาลา ต้องนั่งหลังสุดและแจ้งแม่ชีที่ดูแลให้ทราบด้วย จะได้ไม่ถูกเตือนบ่อยๆ ป้องกันการเกิดวิวาทะ ปฏิคะทางใจ เพ่งโทษกันและกัน ทำให้จิตเศร้าหมองขณะปฏิบัติธรรม ควรเตรียมป้ายติดหน้าอกไปด้วยค่ะ ว่าผู้ป่วยภูมิแพ้ เหมือนป้าย พนง.บริษัททั่วไป
15.หนังสือสวดมนต์ ไม่ต้องเตรียมไปเพราะแต่ละสถานธรรม กำหนดบทสวดมนต์ไม่เหมือนกัน มีหนังสือให้ยืมใช้ระหว่างอยู่ปฏิบัติ หรือจะซื้อไว้เองก็ได้ 16. ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่มสำเร็จรูปแบบ 3 in 1 ใครชอบทานแบบไหนก็เอาติดมาด้วย ถ้ารู้สึกหิวช่วงดื่มน้ำปานะ ที่นี่มีจัดให้แต่ไม่ค่อยพอ วางแป็บเดียวหมดๆ เอามาด้วยดีที่สุดค่ะ 17. ช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ อากาศเย็นมากลมแรงด้วย โดยเฉพาะเวลาเช้า-เย็น กลางหุบเขาลมแรง ให้เตรียมเครื่องกันหนาวมาด้วย เช่นหมวก, ผ้าคลุมไหล่ เสื้อกันหนาวแบบหนาๆเลยค่ะ ทิศตะวันออกของสถานธรรมเป็นภูเขาสูง มีสภาพอยู่กลางป่าเขาจริงๆ อากาศจึงเย็นมาก ต้องใส่เลคกิ้งตลอดเวลาแล้วใส่กระโปรงทับอีกที หรือใส่ลองจอนส์ก็ได้
กกเหล็กเพิ่มเติมค่ะ
-ห้ามข้ายสินค้าเครือข่ายสมาชิกและติดต่อ ธุรกิจทำการค้า ทุกชนิด เพื่อป้องกันมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาหลอกลวง ต้มตุ๋น ผู้ปฏิบัติธรรม
-ในศาลาขณะสวดมตนต์ไม่อนุญาติให้ใส่หมวกทุกกรณี ถือว่าเรากำลังเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าและเป็นการไม่ให้เกียติ์สถานที่
-เวลาเดินไปรับอาหารที่ศาลามหาทานห้ามสวมรองเท้า อนุโลมเฉพาะผู้ที่เจ็บเท้าเท่านั้น แต่ต้องเดินหลังสุดของแถว ที่นี่มีโอ่งน้ำให้ล้างเท้าทุกจุดเข้า-ออกของศาลา ไม่ต้องกังวลเรื่องเท้าเลอะ
-เวลาเดินธุดงค์ ห้ามใส่รองเท้า เว้นแต่เป็นรองเท้าสำหรับเดินธุดงค์เท่านั้น รองเท้ามีขายที่ร้านสวัสดิการ
- ไม่อนุญาติให้ขึ้นเขาคนเดียว ควรขึ้นไปเป็นหมู่คณะ ตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป และต้องลงทะเบียนก่อนขึ้น-ลงทุกครั้ง ทั้งสองจุด สำหรับผู้ที่จะขึ้นเขางดทำบ่อบุญได้ในวันที่จะขึ้น เริ่มเวลา 08.00 -16.00 น.และต้องลงมาให้ทันทำวัตรเย็น อนุญาติให้ขึ้นเขาได้เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์และเทศกาลเท่านั้น - คำแนะนำเพิ่มเติมค่ะสำหรับคนที่จะขึ้นเขาพระเจดีย์ 7 ชั้นไม่ควรขึ้นในวันแรกที่มาถึงค่ะเพราะว่าสูงมาก บันได 1200 กว่าขั้นเพราะหลังจากลงมาแล้วจะทำให้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตึงไปหมดทั้งตัวโดยเฉพาะขา เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติธรรมมาก ควรขึ้นในวันสุดท้ายก่อนกลับ ถึงบ้านแล้วจะได้พักผ่อนไม่ต้องกังวล - ห้ามนำอาหารทุกชนิดขึ้นไปกินบนเขาสูง พระเจดีย์ 7 ชั้นเอาขึ้นได้เฉพาะน้ำดื่มเท่านั้น
- สไบของที่นี่ห้ามนำไปใช้กับสถานธรรมอื่นเด็ดขาด เพราะแต่ละที่มีกฏไม่เหมือนกัน จะถูกตำหนิได้ เพราะสถานธรรมทั่วไปถือว่าเป็นผ้าครองของผู้ออกบวชแบบปลงผมเท่านั้น แต่ที่นี่อนุญาติให้ใช้
-ห้ามคุยกันเสียงดังในขณะพักผ่อนในศาลาที่พัก โดยเฉพาะเวลานอน
-สำหรับผู้มาใหม่ที่ยังไม่ได้อธิฐานจิตบวชใจ ถ้ารู้สึกหิวจะทานขนมขบเขี้ยวกับเครื่องดื่ม ให้ถอดสไบออกก่อน ถ้าคนอื่นเห็นจะถูกตำหนิได้และเป็นแบบอย่างไม่ดีให้คนอื่นๆทำตาม
-ในระหว่างพำนัก แม้จะลาศีลแล้วก็ไม่ควรใส่กางเกง ใส่กระโปรงไปก่อน ก่อนเดินทางกลับค่อยเปลี่ยนแล้วออกไปเลย(อุบาสิกา)
-ก่อนมาถึงสถานธรรมควรทานอาหารมาให้พร้อม จะได้ไม่หิวตอนเย็น บริเวณใกล้ๆสถานธรรมไม่มีร้านอาหารให้บริการ ควรมีขนมขบเขี้ยวติดกระเป๋ามาบ้าง ไว้แก้ขัดในยามคับขัน -ท่านที่จะเดินทางกลับเช้ามืดในวันรุ่งขึ้นให้แจ้งความประสงค์ไว้ตั้งแต่ตอนเย็น กับเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลที่พักพร้อมแจ้งเบอร์ฝากโทรศัพท์เพื่อรับคืนในตอนเช้า เจะได้ไม่ฉุกละหุในตอนเช้า
มุมมองจากบนเขา ขวามือริมฝั่งน้ำคือสิ่งปลูกสร้างของแดนมหามงคล เป็นเขตห้ามเข้า สำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไปที่ต้องการเข้าไปเที่ยวชมสถานธรรม และขึ้นเขาเพื่อไปกราบนมัสการพระเจดีย์มหามงคล 7 ชั้น มีกฏปฏิบัติดังต้อไปนี้
ผู้หญิง ควรสวมกระโปรงยาวสีขาวไม่บาง ไม่รัดรูป เสื้อสีขาวแขนยาว ไม่รัดรูป
ผู้ชาย ใส่เสื้อสีขาว กางเกงสีสุภาพ เอิร์ธโทนค่ะ ไม่ควรใส่สีฉูดฉาด
แต่ถ้าไม่มีทางสถานธรรมมีชุดขาวให้ยืมใส่ชั่วคราว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแล้วแต่เราจะทำบุญตามศรัทธา ผม- อุบาสิกาต้องมัดรวบผมให้เรียบร้อยค่ะ
ตารางวัตรปฏิบัติมีดังนี้ค่ะ
ใช้เสียงระฆังแห่งสติค่ะสำหรับทุกกิจวัตร
1. ตีระฆังเรียกตื่น เวลา 03.30 น. ตื่นนอนทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย
2. ทะยอยขึ้นศาลาเพื่อเพื่อเตรียมความพร้อม เวลา 04.00 น.ทำวัตรเช้า
3. เดินธุดงค์ เวลา 05.00 น.
4. พักดื่มน้ำปานะ พักผ่อนตามอัธยาศัย เวลา 06.00-06.45 น.
5. เวลา 06.45 เตรียมจัดแถวเดินไปศาลามหาทาน เพื่อทานมื้อเช้า
6. ทานมื้อเช้า เวลา 07.30 -08.30 น.
7. เวลา09.00-11.00 น. ปาวารณาตัวเองทำบ่อบุญที่ได้ตั้งสัจจะไว้ เช่น ทำความสะอาดหอฉันท์ ที่พัก ห้องน้ำ ศาลาบวชใจ กวาดใบไม้ฯ
ทุกคนต้องเลือกทำบ่อบุญหนึ่งอย่าง แม่ชีจะประกาศหลังทำวัตรเย็นทุกวัน
ว่าจุดไหนต้องการแรงงานกี่คน
8. เวลา 11.00 น. พักทานอาหารก่อนเที่ยง สำหรับท่านที่ทานสองมื้อ
9. เวลา12.00- 13.30 น. พักผ่อนตามอัธยาศัย
10. เวลา13.30-14.30 น. เดินธุดงค์ไปตั้งจิตอธิฐานตามสถานที่ต่างๆใน
แดนธรรมและฟังธรรมของแม่ในแดนธรรม
11.เวลา 14.30-16.00 น. พักผ่อนทำกิจส่วนตัว
12. เวลา 16.00-18.00 น. เข้าแถวเตรียมตัวเดินธุดงค์รอบเย็น
13. เวลา 18.00 -20.00 น. ทำวัตรเย็น
14. เวลา 20.00-21.30 น. เดินธุดงค์อธิฐานจิตขอพรรอบต้นพระศรีมหา
โพธิ์ ใกล้ๆที่พักตามอัธยาศัย 15. เวลา 21.30 น. พักผ่อน เข้านอน ติดต่อ สำนักปฏิบัติธรรมแดนมหามงคล (เกาะมหามงคล) มหาอุบาสิกาบงกช สิทธิพล ผู้ก่อตั้งและประธาน สถาบันพัฒนาจิตบวชใจนานาชาติเพื่อสันติภาพ ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี 71150 เลขที่ 149 หมู่ 1 บ้านช่องแคบ ก่อนถึงน้ำตกไทรโยคน้อย โทรศัพท์ 08-1862-1757 เบอร์โทรนี้ถูกยกเลิกใช้ไปนานแล้ว ที่นี่ไม่มีเบอร์โทรฯให้ค่ะ ไม่ต้องพยายามโทร ใช้วิธีบอกกันแบบปากต่อปาก และจากกัลยาณมิตรแนะนำกันเท่า
มุมมองจากบนเขาพระเจดีย์ค่ะ ข้อมูล ณ วันที่ 1 มค. 2557 โดย จุลลา
Create Date : 29 มกราคม 2557 | | |
Last Update : 10 กันยายน 2557 0:26:31 น. |
Counter : 33573 Pageviews. |
| |
|
|
|