(น้ำท่วมทำให้ทริปที่จองไว้อีก 2 ที่ ต้องเสียค่าจองไปฟรีๆเพราะเลยกำหนด)
ออกเดินทางกันตั้งแต่เช้ามืด จะได้แวะไหว้พระที่วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี และวัดมังกรบุปผาราม
ว่ากันว่าวัดนี้เป็นวัดในตำแหน่งของหางมังกรด้วยนะ
(ส่วนหัวมังกร อยู่ที่วัดมังกรกมลาวาส เยาวราช ตัวมังกร อยู่ที่วัดจีนประชาสโมสร จ.ฉะเชิงเทรา
ได้ไปไหว้มาครบทุกส่วนของมังกรแล้ว ^^)
วัดเขาสุกิม
สมเด็จพระมงคลมุนีไพรีพินาศศาสดาจารย์
วัดมังกรบุปผาราม หรือวัดเล่งฮั่วยี่ อยู่ในตำแหน่งของหางมังกร
หลังจากไหว้พระกันเรียบร้อยก็มุ่งหน้าแหลมศอกกันเลย ก่อนจะลงเรือก็หาอะไรใส่ท้องกันซะหน่อย แวะกันที่ร้านแหลมศอกชวนชิม เป็นร้านเล็กๆเข้าไปในซอ
ยก่อนถึงสำนักงานเรืิอนิลมังกร อาหารทะเลสดๆ รสชาติอร่อย แถมราคาไม่แพงด้วยนะ ^^
จากท่าเรือแหลมศอก มุ่งหน้าเกาะหมาก เดินทางกันด้วยเรือ Catamaran เรือใหญ่ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. บนเรือมีสัญาณ wifi ด้วยนะ
ท่าเรืออ่าวนิด
ถึงที่ท่าเรืออ่าวนิดก็มีรถจากเกาะหมากรีสอร์ทมารอรับไปเช็คอิน แล้วพาไปส่งถึงหน้าบ้านพักเลย ได้พักบ้าน F3 แต่มีขลุกขลักนิดหน่อย ระบบไฟชั้นล่างใช้งานไม่ได้เลย ทางรีสอร์ทเลยให้ช่างมาซ่อมให้ชั่วคราว แต่ก็ยังใช้งานไม่ได้ เลยได้เปลี่ยนไปพักบ้าน F2 หลังใกล้ๆกันนี่แหละ
หน้าบ้านพัก มีสนามหญ้ากว้าง วิ่งเล่นได้ ต้นมะพร้าเยอะซะจนตอนเดินผ่านกลัวลูกมะพร้าวจะหล่นลงมาโหม่งหัวจริงๆ ^^
ชายหาดหน้าเกาะหมากรีสอร์ท มีต้นมะพร้าวขึ้นเป็นทิวยาว จำได้ว่าเมื่อก่อนเคยมาที่เกาะหมากต้นมะพร้าวจะเอียงหาพระอาทิตย์จนลำต้นแทบจะขนานไปกับพื้นทราย...มาวันนี้ต้นมะพร้าวแบบนั้นไม่มีแล้วเท่าที่เห็นในภาพนี่ก็เอียงมากที่สุดแล้ว
มุมชิงช้าที่หน้าหาด
เกาะหมากเป็นเกาะเงียบๆ เหมาะกับการมาพักผ่อนสบายๆ ปั่นจักรยานชมรอบเกาะ ข้ามไปนั่งชมวิวทรายสวยๆที่เกาะขาม ไปดำน้ำตามเกาะใกล้เคียง พระิอาทิตย์
ส่วนทริปนี้เราเลือกข้ามไปฝั่งเกาะขาม กับนั่งรถชมวิวรอบเกาะ ได้คนพื้นที่แต่ดั้งเดิมบนเกาะหมากเป็นไกด์แนะนำให้ตลอดเส้นทาง ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.
เกาะขาม เกาะส่วนตัวเล็กๆตรงข้ามกับเกาะหมากรีสอร์ท ใช้เวลานั่งเรือข้ามไปประมาณ 10 นาที ไม่น่าเชื่อว่าระยะทางห่างกันแค่ 1 กิโลเมตร บนเกาะขามกลับมีทรายขาวกว่าบนเกาะหมากอีก สัญลักษณ์ที่สำคัญของเกาะขามอีกอย่างนึงคือ หินภูเขาไฟ ที่กระจายอยู่หน้าหาด และจะเห็นสันทรายเป็นทางยาวเวลาน้ำลง เหมือนทะเลแหวกน้อยๆเลย ^^
หินภูเขาไฟกระจายอยู่หน้าหาด
บาร์น้ำเล็กๆบนเกาะ กับพนักงานสาวจากประเทศเพื่อนบ้าน อัธยาศัยดี คอยเก็บบัตรขึ้นเกาะ และบริการเครื่องดื่ม
สันทรายยามน้ำลง
ทรายขาวละเอียด ^^
ขากลับจากเกาะขามเรามาขึ้นเกาะกันที่ท่าเรือหน้าเกาะหมากรีสอร์ืทกันเลย
ต่อกันด้วยไปชมวิวรอบๆเกาะ
สะพานไม้ทอดยาวไปในทะเลที่หน้าชินนามอนรีสอร์ท
ถ่ายย้อนกลับไปจากปลายสะพาน
บรรยากาศเงียบหาดหน้า Bene Resort พี่ไกด์บอกว่า ช่วงเดือน ก.ค. น้ำจะลงจนสามารถเดินข้ามไปเกาะตรงข้ามได้เลย
พิพิธภัณฑ์เกาะหมาก เป็นบ้านหลังเก่าของบ้านพี่ไกด์ที่ดัดแปลงมาเป็นพิพิธภัณฑ์ บอกเล่าความเป็นมาของคนบนเกาะหมากแต่ดั้งเดิมผ่านครอบครัวของพี่ไกด์
เกาะหมากเป็นเกาะที่ต้นแบบในโครงการ Low Carbon Destination เป็นโครงการที่พยายามให้คนบนเกาะลดการใช้พลังงานที่ปล่อยก๊าซคาร์บอน
พระอาทิตย์กำลังจะตกที่หน้าเกาะหมากรีสอร์ท
ถามว่าเกาะหมากยังสวยเหมือนเดิมมั้ย...ก็คงไม่เหมือนเดิมเมื่อครั้งหลายปีย้อนหลังที่เคยได้มา ตอนนั้นเกาะหมากยังไม่มีไฟใช้ 24 ชม. ต้องปิดไฟหลังเที่ยงคืน ทุกอย่างยังเป็นธรรมชาติอยู่มาก ถนนคอนกรีตก็ยังไม่มีให้เห็น นักท่องเที่ยวต่างชาติมาอยู่เป็นเดือนๆ เกาะหมากตอนนี้กำลังพัฒนาไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ความสะดวกสบายมีมากขึ้น...แต่การพัฒนาของเกาะหมากในความรู้สึกของตัวเอง...เกาะหมากกำลังพัฒนาไปอย่างช้าๆ บนวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนบนเกาะหมาก คนในพื้นที่ยังรักในพื้นที่ที่ได้รับทอดต่อกันมาเป็นร้อยปี ยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่รักสงบมาเที่ยวกันเป็นเดือนอยู่เหมือนเดิม แต่ทุกอย่างก็ไม่แน่นอน เมื่อความเจริญมีมากขึ้น นักลงทุนต่างถิ่นเข้ามากมาขึ้น เกาะหมากก็อาจเปลี่ยนไปเหมือนเกาะใหญ่ๆที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตก็เป็นได้