แบ่งๆกันอยู่ แล้วโลกเราจะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ
 
มืดศรี ... คนดีของแม่

เวลาถ่ายรูปยัยมืดศรี จะได้ภาพหน้ายิ้มตลอด




ความเป็นมาของยัยมืดศรีนั้น ก็ทุลักทุเล ไม่แพ้ใครๆ

ตอนที่ย้ายมาอยู่อยุธยา ช่วงปีแรก เวลาไปส่งพ่อที่ทำงาน แม่จะเห็นลูกหมาสีดำตัวเตี้ยๆ วิ่งเล่น และหลบนอนในลานจอดรถ

ยามเรียกมืดศรีว่า ไอ้มืด ไอ้มืดของพี่ยามใจดี จะวิ่งตามก้นหมาตัวผู้ "ไอ้แดง" ที่ท่าทางนักเลงโต ชอบวิ่งเห่าไล่มอเตอร์ไซค์ที่เสียงดังๆ

ไอ้มืดของพี่ยามเป็นลูกหมาติ๋มๆ วิ่งตามต้อยๆ ไอ้แดงไปทางไหน ไอ้มืดก็ตามไปด้วย

ดังนั้น ความซวยจึงมาเยือนไอ้มืดอย่างช่วยไม่ได้

ซึ่งความซวยนั้น ทำให้แม่กับพ่อ ต้องเอาไอ้มืดมาอยู่ด้วย





เรียกว่าเป็นสันดานก็ได้

พอเราย้ายไปอยู่ไหน ก็จะชอบมองหาว่าแถวที่เราอยู่มีหมาจรจัดที่น่าสงสารอยู่บ้างมั้ย

ยัยมืดก็เช่นกัน แรกเห็น ก็สงสารขึ้นมาเลย เพราะมืดเป็นลูกหมาสีดำเตี้ยตะแมะแคะ ผอมกระหร่อง ขี้กลัวเอามากๆ ชอบแอบอยู่ใต้ท้องรถ เวลาพี่ยามแบ่งข้าวให้กิน มืดก็จะรอกินเหลือไอ้แดง เลยได้กินแค่เม็ดข้าวติดถุงก๊อบแก๊บ

ทุกวัน นอกจากอาหารเม็ด แม่ก็จะซื้อขนมปังหมูหยองมาฝากมืดกับแดง ต้องแอบๆให้ เพราะคนแถวนั้นไม่ค่อยจะชอบไอ้แดงนัก เพราะความซ่าของมันนั่นแหละ

จะเล่าถึงยัยมืด ต้องเล่าถึงไอ้แดงก่อน

กับเรา 2 คน ไอ้แดงจะน่ารักมากๆ เจอกันทีก็ทำตัวเป็นลูกหมาตัวเล็กๆ ทั้งที่ตัวเองตัวใหญ่เบ้อเร่อ

ไอ้แดงจะกระดี๊กระด๊ามากๆๆๆ จนต้องเปลี่ยนชื่อเป็น ไอ้คึกคัก หรือ ไอ้คึก

ไอ้คึก จะมีแผลมาให้ทายาอยู่เรื่อย ครั้งหนึ่งหน้าแหก หน้าแหกจริงๆ คงไปกัดกับใครมา แล้วกัดสะบัดตรงใต้ตา เป็นแผลฉีก เลือดโชก แม่ต้องจัดการทำแผล พันหน้าเป็นมัมมี่ให้เป็นอาทิตย์ แผลหาย แต่หน้าบาก มีรอยแผลสมกับความเป็นจิ๊กโก๋ประจำลานจอดรถ คนยิ่งกลัวมันเข้าไปอีก

ไอ้คึกไม่เคยกัดใคร แต่มันนิสัยเสียที่ชอบไล่เห่ามอเตอร์ไซค์ ในที่สุด ความซวยมาถึง มีคำสั่งจากผู้บริหาร ให้กำจัดหมาพวกนี้ ซึ่งนับว่ายังมีเมตตาธรรมอยู่ เพราะ ให้จับทำหมันแล้วเอาไปปล่อยวัด

เราได้รู้เรื่องว่าจะเอามืดกับคึกไปปล่อย จึงไปบอกกับพี่ยามว่า เราจะเอามืดไปนะ เพราะมันเป็นลูกหมาที่น่าสงสาร ตัวดำแบบนี้ เอาไปปล่อย มีหวังถูกคนใจแอนิมอลจับกินแน่

แต่สำหรับคึก เราคิดทบทวนดูแล้ว หากเราเอาไปบ้าน คงมีปัญหากับหมาตัวอื่นๆแน่ โดยเฉพาะด่าง ที่สำคัญ เราคิดในแง่ดีที่ว่า คึกเป็นหมาตัวผู้ที่ตัวใหญ่ แข็งแรง และสู้ คงจะเอาตัวรอดได้

ยังไม่ทันได้เอามืดมาเลย ตอนเย็นตั้งใจว่าจะเอามืดกลับ ปรากฏว่า ตอนสายๆมืดถูกเอาตัวไปปล่อยวัดเสียแล้วพร้อมคึก

เรา 2 คน ก็รีบขับรถไปตามเอาตัวกลับมา พอไปถึงวัด วัดนั้นเป็นวัดเก่าๆ ซอมซ่อ มีหลวงตาที่ชราภาพมากแล้ว เป็นเจ้าอาวาส

ในวัด เต็มไปด้วยหมาแมว ที่คนไม่ต้องการ หลวงตาท่านมีเมตตาเหลือกำลัง เหลือกำลังของท่านจริงๆ หมาแมวดูมอมแมม ผอม วัดก็เหม็น

เห็นแบบนี้แล้วสงสารท่าน กับชีวิตน้อยๆจำนวนมากมายในวัดเหลือเกิน วัดแบบนี้ เทียบกับวัดใหญ่ๆ ใครมันจะมาทำบุญเล่า

พอไปถึงวัด เราก็ถามหาหมา 2 ตัวที่ถูกจับมาปล่อย ได้ทราบว่า ถูกทำหมันเรียบร้อยแล้ว นอนพักฟื้นอยู่ในกรงชั่วคราว

เราก็เดินไปดู ทั้งมืด ทั้งคึก ดีใจมากที่เห็นเรา เห็นคึกแล้วอยากจะร้องไห้ เพราะเราตัดสินใจกันแล้ว ว่าคงจะเอามืดไปตัวเดียวเท่านั้น

หลังจากให้คึกกินขนมที่ชอบ เล่นกับคึก กอดมัน บอกลามัน...

เราบริจาคเงินจำนวนหนึ่งให้หลวงตาไว้ คงจะช่วยอะไรท่านมากไม่ได้ แต่ก็ทำได้เท่านี้

อุ้มมืดขึ้นรถ มองเห็นสายตาคึก ที่มองตามว่าทำไม ไม่เอาคึกไปด้วย คึกไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าทำไม ทำผิดอะไรถึงต้องมาอยู่ในกรงแบบนี้

...................

ประมาณ 2 อาทิตย์ต่อมา กลับมาทำบุญ มาเยี่ยมคึก หลวงตาบอกว่า แค่วันเดียวหลังจากมาอยู่ คึกวิ่งเตลิดหนีออกไปแล้ว

โธ่ วัดนี้อยู่ท่ามกลางป่า มองไปมีแต่ป่า กับทุ่งนา คึกจะไปอยู่ที่ไหน หากคึกหาทางกลับเองจะถูกรถชนตายไปเสียแล้วก็ไม่รู้ เพราะมาอีกไกลหลายสิบกม. ถนนสายเอเซีย ก็มีแต่รถใหญ่ๆ

เฮ้อ...ไปดีเถิดนะ คึกเอ๊ย



มืดศรี

จากบ้านนา เขาเรียกกันว่าอี กลอย เปลี่ยนอี กลอยมาเป็นแรมจันทร์....

ยัยมืดก็เช่นกัน จากไอ้มืด ก็กลายมาเป็น คุณหนูมืดศรี

จริงก่อนมืดจะมาอยู่นั้น เราได้มี ยัยจิ๊งมาอยู่ก่อนหน้าแล้วเกือบ 1 ปี แต่ด้วยเรารู้จักมืดก่อน จึงเล่าเรื่องมืดก่อน

ตอนที่รับมืดมา เราย้ายบ้านมาอยู่บ้านใหม่กันแล้ว แต่ยังไม่ได้สร้างห้องหมา

หมาตัวใหญ่ ยังอยู่ในกรงขนาดใหญ่ สูง เมตรครึ่ง กว้าง เมตรครึ่ง ยาว 2 เมตร เราเข้าไปเดินได้ วางพัดลม 1 ตัว หมานอนกันสบายๆ

มืด นั้นเป็นหมาที่เรียบร้อย อ่อนน้อมถ่อมตน เมื่อก่อนตอนเจอกันที่ที่ทำงานพ่อ พอมืดเห็นเรา มืดจะไม่เดินมาแบบธรรมดา มืดจะเลื้อยมา บิดตัว คลานกระดื๊บๆ เข้ามาหมอบปลายเท้า ให้กินอะไรก็จะค่อยๆเล็ม นี่เป็นสิ่งที่ทำให้มืดเข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจพ่อแม่ตั้งแต่แรก

มืด ค่อนข้างเครียดทีเดียว เมื่อต้องแยกจากหัวหน้าอย่างคึก เคยเดินตามคึกต้อยๆ ไปไหนก็มีคึกคอยดูแล มืดหวาดระแวงหมาใหญ่ตัวอื่นๆในบ้านมาก ทั้งทำท่ากลัว และทำท่าขู่ ตอนแรก ต้องเอามืดมานอนหน้าบ้าน กางมุงคลุมเด็กให้ จากนั้นก็ค่อยๆย้ายให้ไปนอนหลังบ้าน ข้างๆกรงหมาใหญ่

ในที่สุด ประมาณซัก 2 อาทิตย์ มืดก็เริ่มเล่นกับพี่น้องคนอื่นได้แล้ว มีพี่บาวคอยดูแล แต่พี่บาวไม่เหมือนคึกหรอกนะ แค่เล่นด้วย จู๋จี๋ เวลามืดทะเลาะกับจิ๊กกี๋ประจำบ้าน คือ ยัยจิ๊ง พี่บาวก็รุมมืดเหมือนกัน

มีทะเลาะอยู่ 2 ครั้ง แม่ตีทั้งมืดและยัยจิ๊ง...ยัยนี่มากกว่านิดหนึ่ง จากนั้นก็เลิกกัดกันจริงๆจังๆ แค่ขู่กันเวลากินข้าวเล็กๆน้อยๆ เป็นยากระตุ้นความอยากอาหาร

มืด ค่อนข้างจะเป็นตัวของตัวเอง ไม่ค่อยจี๋จ๋ากับใคร เล่นกับน้องๆ นอนเบียดกับน้องๆ แต่ก็เฉยๆ ไม่หนิดหนม

มืดจะรักแม่มาก อันนี้แม่รู้ สายตามืดบอก เวลามืดเริ่มดื้อ เริ่มเกเร พอแม่ตวาดแว้ด มืดจะจ๋อยทันที

ใครๆจะไม่เลือกกิน แม่พ่อให้กินอะไร ก็จะแย่งกินอย่างมูมมาม แต่มืดไม่เป็นอย่างนั้น มืดไม่มูมมาม อันไหนไม่ชอบก็ไม่กิน อะไรที่ชอบก็จะชอบมากๆ

พวกขนมหวานๆทั้งหลาย มืดจะไม่ชอบนัก กินได้ แต่กินแบบเซ็งๆ

แต่ถ้าหากเป็นนมเย็นๆ หรือ ไก่ต้ม อันนี้มืดสู้ตาย ดังนั้น ทุกวัน แม่จะปรนเปรอมืด ด้วยนมจืด วันละถ้วย

มืดแข็งแรง ไม่เคยป่วยอะไรให้แม่ต้องกังวล มีอยู่แค่ 2 ครั้ง ครั้งแรก ตอนที่มืดยังอยู่ที่ลานจอดรถที่ทำงานพ่อ มืดโดนรถเฉี่ยว ข้อขาหลังบวมเป่ง มีแผลฉีกเห็นเส้นเอ็น แม่พาไปหาหมอ กระดูกไม่หัก แต่แผลค่อนข้างลึก ตอนนั้นแม่ต้องทำแผล พันขามืดด้วยผ้าอีลาสติกสีแดง เป็นอีกาคาบพริก

อีกครั้ง กัดกับยัยจิ๊ง มีแผลที่ขาเดิมอีก ทำให้ข้อนั้นบวมถาวร แต่ดูแล้วมืดก็เดินได้ดี วิ่งเร็วจี๋ ไม่มีปัญหาอะไร

สรุปว่า ยัยมืดศรี เป็นหมาดี เป็นหมาศรี





Create Date : 06 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 28 มกราคม 2553 14:24:54 น. 0 comments
Counter : 698 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

joeymydear
Location :
พระนครศรีอยุธยา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แม้ไม่เคยหวัง แต่ก็ไม่เคยผิดหวัง กับความรักที่หมาแมวมีให้
[Add joeymydear's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com