Group Blog |
เล่าประสบการณ์ + ภาพจากงาน ROC รอบ National cup
           สเต็กซานตาเฟ่
  ไปแอ่วเมืองลาวม่วนแต๊ๆ
วันนี้จะมาเขียนเล่าประสบการณ์การไปเที่ยวประเทศลาว จำนวนวันที่ไปทั้งหมดก็ 4 วันด้วยกัน ในการไปเที่ยวครั้งนี้จีจี้ไปกับทัวร์ของ Oceansmile ซึ่งทัวร์ที่ไปด้วยนี้ต้องยอมรับว่าเค้าเก่งจริง
วันที่ 1 ของการไปแอ่วเมืองลาว เราเริ่มการเดินทางด้วยการนั่งเครื่องบินสายการบิน Lao Central Airline ตอนประมาณ 9 โมง ไปที่สนามบินวัดไต นครหลวงเวียงจันทร์ เมื่อถึงสนามบินวัดไต เราก็เตรียมตัวเดินทางต่อด้วยเครื่องบินสายการบิน Lao Airlines ไปที่ เมืองหลวงพระบาง เมืองหลวงพระบางนั้นเดิมเคยเป็นราชธานีของอาณาจักรล้านช้าง ในวันนี้ก็ได้ไปชมพระราชวังหลวง ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ไปไหว้พระบาง และชมอนุสาวรีย์เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และไปชมความงามของวัดใหม่สุวรรณพูมาราม วัดนี้มีจิตรกรรมฝาผนังที่สวยมาก และไปไหว้พระที่วัดวิชุนราช ซึ่งภายในตัววัดจะมีพระธาตุหมากโมอยู่ เป็นพระธาตุที่มีรูปคล้ายกับลูกแตงโมผ่าครึ่ง ภายในพระธาตุมีหนองน้ำ แต่ภายในพระธาตุไม่สามารถเข้าชมได้เนื่องจากได้ถูกปิดตาย นอกจากนี้ก็ได้ไปชมวัดเชียงทองอีกด้วย ตอนเย็นก็ได้ไปเดินถนนคนเดินและได้ไปซื้อซิมมือถือลาวมาใช้ ได้ประสบการณ์การใช้สามจีจริงๆเป็นครั้งแรก สามจีที่ลาวเร็วดีนะ รูปแรกนี้คือรูปของภายนอกพระราชวัง ภายในมีสิ่งที่สวยงามหลายอย่าง แต่ไม่สามารถถ่ายภาพภายในพระราชวังได้  ต่อมารูปนี้เป็นภาพภายในวัดวิชุนราช ในภาพนี้คือพระธาตุหมากโม  ภาพต่อมาคือภาพภายในวัดเชียงทอง  วันที่ 2 ของการไปแอ่วเมืองลาว เช้าวันนี้ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปตักบาตรข้าวเหนียว เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้ตักบาตรข้าวเหนียว ชาวลาวจะใช้ข้าวเหนียวขาวในการตักบาตรเพราะเชื่อว่าจะทำให้จิตใจเรา ใสสะอาดบริสุทธิ์เหมือนกับข้าวเหนียวขาว วิธีการตักบาตรข้าวเหนียวก็คือ เริ่มแรกเราจะพาดผ้าที่ไหล่ของเรา เวลาตักบัตรให้เราปั้นข้าวเหนียวแบบพอดีคำที่อยู่ในกระติ๊บอันเบอเร่อและวางใส่ใน บาตรของพระสงฆ์แต่ละรูปที่ผ่านมา รวมแล้วก็นับร้อยกว่ารูปได้ ถ้าหากว่ารพระรูปไหนเดินผ่านไปโดยที่เรายังไม่ได้ตักบาตรข้าวเหนียวก็ไม่เป็นไร ให้ตักบาตรข้าวเหนียวกับพระสงฆ์รูปต่อไป และอีกอย่างคือห้ามปั้นข้าวเหนียวไว้รอเพราะคิดว่าจะได้ตักบาตรทัน ต่อมาก็ได้ไปเดินเที่ยวตลาดเช้าตามด้วยการล่องเรือไปที่ถ้ำติ่ง จากนั้นก็ไปที่บ้านช่างไห ชาวบ้านแถวนี้มีอาชีพในการต้มเหล้าขาย ที่นี่เราจะเห็นเหล้าแปลกๆมากมาย เช่น เหล้าที่ทำการแช่งู แมงป่อง เป็นต้น เนื่องจากในกรุ๊ปไม่มีใครซื้ออะไรเลยเหลือเวลาเยอะ ทำให้ทัวร์พาไปนวดเท้าฟรี ในยามบ่ายก็ไปเที่ยวน้ำตกตาดกวางสี น้ำตกที่นี่สวยมาก และไปเลือกซื้อผ้าพื้นเมืองที่บ้านผานม จากนั้นไปไหว้พระพุทธพูสี และเดินเที่ยวที่ถนนคนเดิน Night Market เนื่องจากใกล้กับโรงแรมก็เลยสบาย รูปแรกเป็นภาพบรรยากาศของการตักบาตรข้าวเหนียว  ภาพต่อมาคือภาพที่ถ่ายจากภายในของถ้ำติ่ง พระพุทธรูปหลายองค์ถูกนำมาเก็บรวมกันไว้ในถ้ำติ่ง  ภาพต่อมาคือภาพน้ำตกตาดกวางสี บริเวณที่เล่นน้ำได้ก็แค่บริเวณในรูปขวามือ  วันที่ 3 ของการไปแอ่วเมืองลาว วันนี้ออกเดินทางแต่เช้าเพื่อไปที่เมืองวังเวียง เส้นทางถนนจะคดเคี้ยวไปมา ก่อนที่จะชื่อวังเวียงก็วังเว วังเวก็มาจากลังเล เพราะสมัยก่อนผู้คนที่เดินทางผ่านมาลังเลว่าจะพักที่นี่ดีหรือเดินทางต่อดี วันนี้โปรแกรมส่วนใหญ่ก็คือการนั่งรถและชมวิวทิวทัศน์ มื้อเที่ยงไปทานอาหารที่บ้านกิ่วกระจำ ซึ่งที่นี่วิวสวยมาก เห็นไกด์บอกว่า ทีนี่ต้องจองก่อนถึงจะมีที่และที่มากินก็มีแต่ทัวร์ทั้งนั้น โรงแรมที่นอนคืนนี้อากาศเย็นสบายมากเพราะว่าโรงแรมอยู๋ติดกับแม่น้ำซองและ มีเทือกเขาสูง ทำให้ได้รับสมญานามว่า กุ้ยหลินเมืองลาว ก็ได้ไปล่องเรือหางยาวเพื่อดูธรรมชาติ ดูวิวของกุ้ยหลินเมืองลาว วิวที่ถ่าย ณ บ้านกิ่วกระจำ  ภาพต่อมาถ่ายที่ กุ้ยหลินเมืองหลาว รูปซ้ายมือสุดถ่ายยามเย็น ส่วนอีกสองรูปถ่ายในตอนเช้า  วันที่ 4 ของการไปแอ่วเมืองลาว เริ่มยามเช้าตรู่ด้วยการเดินทางไปนครหลวงเวียงจันทร์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของลาว ในวันนี้ได้ไปชมหอพระแก้ว ซึ่งเดิมเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต ไปไหวพระที่วัดพระธาตุหลวง ชมอนุสาวรีย์ประตูชัย ซึ่งประตูชัยแห่งนี้สร้างขึ้นก็เพื่อรำลึกถึงข้าราชการและพลเรือนที่เสียสละชีวิตในสงครามอินโจีน และไปชมวัดเจ้าแม่ศรีเมือง รูปนี้คือวัดพระธาตุหลวง  มาต่อกันด้วยภาพอนุสาวรีย์ประตูชัย ทีนี่จะมีชาวลาวถือกล้องถ่ายรูปพร้อมด้วยเครื่องปริ้นรูปแบบสะพายได้ มาถามเราว่าถ่ายรูปมั้ย รูปเล็ก 20 บาท  และในภาพด้านล่างนี้ก็คือ ภายนอกของหอพระแก้ว ภายในหอพระแก้วห้ามถ่ายรูป ในนั้นจะมีพระพุทธรูปที่เราสามารถกราบไหว้ได้ และมีพระพุทธรูปที่มีอายุมาก บางองค์ก็ไม่มีเศียร บางองค์เล็กหน่อยก็จะอยู่ในตู้กระจก  ถึงแม้ว่าภาษาลาวกับภาษาไทยจะมีความคล้ายคลึงกัน แต่ก็มีคำบางคำที่เมื่อนำไปพูดที่ลาวอาจทำให้เข้าใจผิดกันไปไกลเลย ในการไปเที่ยวประเทศลาวครั้งนี้ทำให้ได้เรียนรู้ภาษาลาวมากขึ้นซึ่งต้อง ขอบคุณไกด์ที่เป็นคนบอกไม่งั้นก็คงไม่รู้ ถ้าใครที่ชอบท่องเที่ยวแบบธรรมชาติก็คงจะชอบประเทศลาวไม่น้อยเลย พาชมโบสถ์เอแบคบางนา
วันนี้จะพาไปชมความงามของโบสถ์ที่เอแบคบางนา ซึ่งบางครั้งโบสถ์ก็ปิดไม่ให้เข้าชม แต่เผอิญวันนั้นโชคดีมากๆที่เค้าเปิดให้เข้า ก็เลยได้มีโอกาสยลโฉมภายในโบสถ์ของเอแบคบางนาเป็นครั้งแรก โบสถ์ของเอแบคนั้นเป็นโบสถ์แบบคาทอลิค ที่หน้าต่างของโบสถ์ก็เป็นกระจกสีๆ นำมารวมกันจนเป็นรูปนะคะ ภายในโบสถ์ทำจากหินอ่อน ด้านหน้าโบสถ์มีปรัมพิธี หลังคาโบสถ์มีการตกแต่งอย่างสวยงาม มีรูปของสวรรค์ด้วย
พูดแล้วอาจจะไม่เห็นภาพ ไปชมกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าภายในโบสถ์จะสวยแค่ไหน |
JejieO
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] สวัสดีค่ะ เราชื่อจีจี้ ชอบเรื่องความสวยความงามค่ะ นอกจากนั้นก็ชอบด้านภาษา วันเสาร์อาทิตย์ก็มีสอนภาษาจีนค่ะ จีจี้เพิ่งหัดเขียนบล็อกครั้งแรกยังไงก็ติชมกันได้นะคะ Link |
Jejie and Oilly's world
