เปิดถุงชอปปิ้งระบายความเครียด โอ้วววววววว ม่ายยยยยยย ช้านทำอะไรลงไปเนี่ย!!~ ช่วงนี้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย -_-' เหนื่อยใจจริงจริ๊ง แต่ท่ามกลางความเหนื่อยหน่าย ก็ยังมีอะไรมาให้กระชุ่มกระชวยบ้างนิดหน่อย อะอิ๊ๆ และสิ่งนั้นก็ทำเราเริงร่าได้ไม่เว้นวัน ... โคตรชื่นใจ -3- ตอนอาบน้ำเมื่อคืน ((อย่าคิดรูปตาม...เดี๋ยวอ้วก)) สบู่หมดงิ ก็พอดีว่าตอนนี้ Oriental Princess ลดราคาผลิตภัณฑ์ผิวและผมอยู่ อยากรอให้ถึงวันพฤหัสที่ ๒ ของเดือนอยู่หรอกนะ เพื่อที่ว่าจะได้ลด ๑๕% แต่กว่าจะถึงวันนั้น สบู่หมดไปชาติกว่าแล้วมั้ง ตัวจะเหม็นเฉ่า เน่าแบบรับไม่ได้เอา เดินเล่นที่ MBK เดินไปเดินมาจากที่จะสอยแค่ครีมอาบน้ำกลิ่น Water Lily ๒ ขวด มันได้แตกหน่อออกมาเป็นอย่างที่เห็น ... ((หลงคารม BA อีกแว้ว ... เห็นแก่แต้มซะงั้นล่ะตรู)) เรียงตามลำดับซ้ายไปขวา ๑. Princess Garden Oriental White Flower Shower & Bath Cream ๒. Oriental Beauty Water Lily Shower Cream ๓. Oriental Sensuality Sensual Pleasure Shower & Bath Cream ๔. Oriental Beauty Water Lily Shower Cream ขวดที่ ๒ ๕. Tropical Nutrients Banana Treatment Shampoo ๖. Oriental Beauty Botanical Shower Cream รวมค่าเสียหายเบ็ดเสร็จจากร้านนี้ ๕๓๘ บาท ๒๕ สตางค์ ได้ของแถมเป็น Perfumed Body Cream กลิ่น Frangipani มาซองนึงด้วย ((ก็ยังดีกว่าไม่แถมอ่ะเนาะ)) เดินออกจากร้านด้วยความอิ่มเอม จ่ายตังค์ไปห้าร้อยก่าๆ ได้สบู่มา ๕ ขวด แชมพูอีก ๑ ฉันล่ะรักยี่ห้อนี้จริงๆ Oriental Princess จงเจริญญญญ เดินยังไม่ทันครบ ๓ ก้าวดี เหมือนโดนแรงอะไรบางอย่างลากเข้าไปในร้าน Cute Press ข้างๆ ((เมื่อวานอ่านรีวิวเจอว่าแป้งตัวใหม่กะลิปสติกแจ่มใจ)) โอ๊ะ...โอ๊ะ... ...ไม่นะ ((พยายามข่มใจสุดชีวิต)) พยายามเดินผ่านอย่างรวดเร็ว ตั้งสมาธิกับปลาหมึกตรงโน้น... ...อย่าไปสนใจ พุท...โธ... พุท...โธ... ...ตะกี้รูดไปแล้วห้าร้อย... พุท...โธ... เดินผ่านร้านไปได้ ...เย้!!~ เอ๊ะ! ตาย... อะไรลากตูถอยหลังเนี่ย ว้อยยยยย~ BA: สนใจแป้งตัวนี้เหรอคะ? เรา: ((เฮ้ย...ตูเข้ามาในร้านแล้ว...ม่ายยยยย)) เดินเพลินมาก BA น่ารัก พูดบรรยายสรรพคุณสินค้าได้แหล่มม่วก ผลลัพธ์ที่ตามออกมาก็เป็นฉะนี้แล... ((ขอเตือน BA สาขานี้เป็นอันตรายต่อกระเป๋าตังค์...ห้ามเข้าใกล้เกินระยะหน้าร้าน ๕๕)) จากซ้ายไปขวา ๑. Natural Facial Foam Kiwi&Yogurt ๒. Renown Miracle Repairing Deep Cleansing Milk ๓. Moisture Milk UV Expert Protection SPF 50 PA+++ Beige Color ๔. Translucent Liquid Lip Color สี 02 ๕. Translucent Liquid Lip Color สี 06 ๖. Jet Set ๓ in ๑ Mascara สีดำ ๗. Jet Set Liquid Eyeliner Waterproof สีดำ ๘. Mineral Water ขวดเล็ก ๙. Evory Oil Control SPF 25 สี 02 ค่าเสียหายทั้งหมดทั้งสินอยู่ที่ ๘๒๗ บาท ๗๕ สตางค์ จากราคาเต็มที่ต้องจ่าย ๑,๓๘๓ บาท ได้ลดไปตั้ง ๔๕๕ บาท ๒๕ สตางค์แน่ะ อะหูวววววว งานนี้ก็รูดปื้ด รูดปื้ดตามเคยอีกแล้ว เอาสีลิปมาปาดให้ดูกันก่อน แล้วค่อยทำรีวิวอีกที รักเมืองไทย ใช้ของไทยนะฮ้าา ตะกี้...อาบน้ำด้วย OP Botanical หอมอ๊า~ มีความสุขที่สุดเลย สำหรับวันนี้บุญรักษาค่ะ   Create Date : 21 มิถุนายน 2551     14 comment Last Update : 21 มิถุนายน 2551 22:25:55 น.     Counter : 1042 Pageviews.   Share Tweet

Review: DHC-มิเล็ตโตะ อิกิซึ ((เร่งผมยาว)) Product Brand: DHC Product Name: มิเล็ตโตะ อิกิซึ Trying Amount: ๒๐ วัน ๖๐ เม็ด Product Cost: ๓๕๐ บาท สั่งทางเวบไซท์ เนื่องจากตัวนี้ทาง DHC ประเทศไทยไม่ได้เอาเข้ามา Instruction: ในหนึ่งวัน กินครั้งละเม็ด สามเวลา พร้อมน้ำอุ่น หรือน้ำที่อุณหภูมิห้อง Warning: ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ และห้ามกินร่วมกับยาคุมกำเนิด ขอเกริ่นจั๊กกะหน่อยว่าที่ซื้อเจ้าตัวนี้มาเนื่องจากทนกับผมที่มันสั้นไม่เป็นทรง จัดการไม่ได้ซักที คือ...ไอ้สั้นไปเลยน่ะไม่เท่าไหร่ ... เราชอบนะ แต่ว่าไอ้ที่มันเป็นปัญหาอยู่ตอนนี้คือ มันจะสั้นก็ไม่สั้น จะยาวก็ไม่ยาว เป็นไอ้หัวเห็ดอยู่เนี่ย แล้วเวลาที่ต้องมาจัดการมันให้เข้ารูปเข้ารอยตอนเช้า จิตจะตกมากมาย ((ออกแนวสับสน ระบุเพศตัวเองไม่ค่อยได้แน่ชัดว่าวันนี้จะเป็นเพศอะไรดีหว่าตู)) ก่อนจะเลือกเจ้าตัวนี้ เราก็ Google หลายตัวเหมือนกันว่าจะเอาอะไรมาเสกสรรให้ผมยาวขึ้นดี ตัวเลือกของเราเท่าที่คิดไว้ก็มีดังต่อไปนี้... ๑. ต่อผม >> แพง แถมเป็นผมใครก็ไม่รู้อ่ะ ต่อมาทีก็อยู่ได้ ๒-๓ เดือนเอง เคยเห็นผมเพื่อนตอนที่ต่อมา เวลาผมจริงเริ่มยาว มันจะพันๆ กัน ... ไอ้นี่เรื่องใหญ่ เนื่องจากเรากลัวว่าถ้ามันพันกันมากๆ อาจถึงขั้นต้องตัดผมจริงที่มันพันๆ กันทิ้งไป ((วิตกจริต)) แถมได้ข่าวมาว่า ถ้าสระแล้วไม่เป่าให้ผมแห้ง ก็จะมีกลิ่นอับตามมา ((อึ๋ย)) ผ่านด่วน ไม่ไหวๆ ๒. ใช้เซรั่มเร่งผมยาวแบบที่คล้ายๆ ขวดมอร์ฟีน >> หาซื้อยาก แถมแพงจิ๊บ ๓. แชมพูพลังม้าเร่งผมยาว >> แชมพูสระขนม้าเนี่ยนะ ให้เอามาใช้กับหัวคน...มันจะดีเรอะ ไม่อยากเอาหัวตัวเองไปเสี่ยงเลยแฮะ ต่อให้แชมพูตัวนี้จะมาจากอเมริกาก็เหอะนะ เห็นว่าต้องใช้ควบคู่กับเซรั่มพลังม้าอีกต่างหาก ฉะนั้น ราคา...แพงอย่างแน่นอน ๔. กินอาหารบำรุง ไม่ว่าจะเป็นอาหารจำพวกถั่วเหลือง งาดำ ฯลฯ ที่จะไปบำรุงผมให้สลวยเงางาม >> ไม่เอาอ่ะ ขี้เกียจอย่างแรง ไม่อยากกินอะไรที่ไม่ชอบ ((เรื่องมากจริ๊ง)) แถมไม่รู้ว่าต้องกินปริมาณเท่าไหร่ต่อวัน ... ไม่มีใครทำการวิจัยเอาไว้ และเราก็ไม่อยากเป็นคนเริ่ม ... สาบาน ๕. บดยาคุมผสมกับครีมนวด >> วิธีนี้เคยใช้แล้ว ได้ผลจริง แต่ผมแห้งมากถึงมากที่สุด ได้ความยาวแต่คุณภาพนี่ห่วยแตก ตอนนั้นที่เคยทำ มันแห้งจนไม่อยากจับผมตัวเองเลย ใครคิดจะใช้วิธีนี้ ขอแนะนำว่าถ้าไม่ได้อยากมีไม้กวาดอยู่บนหัวก็อย่าทำเลย เราไม่อยากมีไม้กวาดอยู่บนหัว ฉะนั้น วิธีนี้ ... ปล่อยผ่านโลด ๖. DHC มิเล็ตโตะ อิกิซึ ปริมาณ ๒๐ วัน >> อือ ใช้เวลาน้อยดี ราคาน่าสนใจ ซื้อมาลองนิดหน่อยก็ไม่น่าจะมีปัญหา ท่าทางจะเหมาะกับคนใจร้อนอย่างเรา อย่ากระนั้นเลย สั่งอย่างด่วน จ่ายตังค์อย่างรวดเร็ว ((ตอนนั้นตังค์ก็ไม่ค่อยมีเท่าไหร่...ขอสารภาพต่อมิตรรักแฟนเพลงเลย)) ได้รับของมาก็เริ่มกินเลยครับ...กินมั่ง...ลืมมั่ง ตามประสาคนไม่ค่อยเอาใจใส่ตัวเองเท่าไหร่ แต่พอประมาณ ๓ วันผ่านไป ผมยังไม่ได้ยาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเท่าไหร่ แต่ไอ้ที่อยากจะกรี๊ดดังๆ ก็คือ ผมนิ่มขึ้นเยอะมาก เป็นไปได้เนอะ น่าจะเป็นเพราะไอ้เจ้าตัวนี้มันไปบำรุงผมโดยตรง ทำให้ผมแข็งแรงสมบูรณ์ขึ้น ปริมาณเส้นผมที่หลุดร่วงมีน้อยลง ((น้อยลงนะคะ ไม่ใช่ไม่ร่วงเลย)) ได้ผลอย่างนี้เราก็เฮเด่ะ กินต่ออย่างไร้ข้อกังขา วันนี้มานั่งนับเม็ดวิตามินที่เหลือ ตอนนี้เหลืออยู่ประมาณ ๔๐ เม็ด ((นับไปก็ตกใจ ... เฮ้ย กินไป ๒๐ เม็ดเอง จริงเด่ะ เท่ากะว่ากินไปประมาณ ๗ วัน)) ๗ วันที่กินไป กะผมที่ยาวเพิ่มขึ้นเร็วมากมายนั้น ก่อเกิดความปลื้มปิติให้เราอย่างท่วมท้น ฮือ ดีจริงๆ เลย ใครเป็นคนคิดค้นผลิตภัณฑ์ตัวนี้เนี่ย บันไซๆๆ ไอ้เจ้ามิเล็ตโตะ อิกิซึนี่มันเยี่ยมยอดจริงๆ เป็นตัวที่แนะนำสำหรับคนที่อยากผมยาวเร็วๆ และเป็นผมของตัวเอง ไม่ใช่เอาผมคนอื่นมาต่อ แล้วไม่ต้องยุ่งยากกับการหาอาหารต่างๆ มาบำรุงมันอ่ะนะ และแนะนำสำหรับคนที่ผมเสียในขั้นต้นๆ เพราะมันทำให้ผมชุ่มชื่นขึ้น ส่วนที่ว่าจะเงางามเลยหรือเปล่านั้น อาจจะต้องดูกันไปอีกเรื่อยๆ ค่ะ ดีใจกะหัวตัวเองที่มีพัฒนาการอย่างที่สุด เลยเอามานั่งเขียนรีวิวอยู่นี่ ... รูปประกอบก็ยังไม่ได้ถ่าย ... ช่วงนี้ขี้เกียจจับกล้อง ... เพราะขี้เกียจทำ Photoshop รู้มากก็เรื่องมาก เฮ้อ... ((เฮ้ย มันเริ่มไม่เกี่ยวกะ DHC ละ กลับมาๆ )) จริงๆ บล็อกนี้ควรจะมีรูปผลิตภัณฑ์ และหัวของเจ้าของบล็อกให้ดูกัน แต่ว่าด้วยความขี้เกียจ ขอผลัดไปก่อนนะคะ แล้วจะเอามาใส่ให้เบิ่งทีหลังเด้อ คะแนน: ๙.๕/๑๐ หักที่ต้องกินกะน้ำอุ่น หรือน้ำอุณหภูมิห้องนี่แหละ เพราะบางทีเวลาออกไปออกทริปถ่ายรูป มันไม่สะดวกที่ต้องพกน้ำอุ่นไปอ่ะ ซื้อมากินต่อไหม?: ซื้ออย่างแน่นอนค่ะ ตอนนี้เล็งแบบ ๖๐ วันเพื่อเอามากินต่อ ฮิๆ สำหรับวันนี้ บุญรักษาให้มีผมสวยกันทุกท่านค่ะ เพิ่มเติม หลังจากที่มีคอมเมนต์ขอทราบแหล่งซื้อ จขบ. แนะนำว่า Google โลดค่ะ มีหลายเวบมากเลยที่เอามาขาย หาดีๆ นะคะ บางทีน่าจะได้ราคาถูกกว่าที่เราหาอีกนะเออ Keyword ที่แนะนำคือ "DHC มิเลตโตะ อิกิซึ" ค่ะ   Create Date : 27 พฤษภาคม 2551     22 comment Last Update : 21 มิถุนายน 2551 22:25:08 น.     Counter : 8810 Pageviews.   Share Tweet

Oriental Princess: Radience C Toner วันนี้ไปเดิน MBK ดูเลนส์กล้อง เผื่อจะสอยมาซักอัน แต่ไม่ได้สอยอ่ะ เห็นราคาแล้ว "สะเทือนใจ" จัง แต่ก็เลยเลยไปดู Oriental Princess เผื่อว่าจะสอย Toner ของ Radiance C มาบ้าง ... อ่านรีวิวของคุณปั้นแล้วกิเลสมันพุ่งปรี๊ดอ่ะ แบบว่าอะไรที่คุณปั้นใช้ดี เราก็ใช้ได้เหมือนกันเลยอ่ะ สงสัยหนังหน้าประกอบด้วยมวลสารเริ่มต้นคล้ายคลึงกัน เลยไปดูซะหน่อย ชั้น ๒ MBK นี่ละว้า พอเดินเข้าไปมองหา...ไหงมันเหลือแต่ขวดทดลองขวดเดียวเองว้า ข้อสันนิษฐานแรกที่แวบเข้ามาในหัวคือ ... กระแสห้องแป้งมันแรงจัด คนแห่ไปสอบ Toner มาใช้หมดแน่เลย หันไปถาม BA ดีก่า ((กลัวเค้าตบนิดๆ เพราะกระแสห้องแป้งเรื่อง BA OP เหมือนกัน เรื่องความมีมิตรไมตรี...น้อย...ในการรับแขก ๕๕ แต่สาขานี้ BA โอเค ยิ้มแย้มดีค่ะ)) BA บอกมาว่าสินค้าไม่ได้หมดค่ะ แต่ว่าอาทิตย์หน้า จะมี Toner ตัวใหม่มา เราก็สงสัยว่ามันจะมีการปรับสูตรหรือเปล่า ... ได้รับคำตอบมาว่า จะมีการปรับสูตรด้วยค่ะ เอาละสิ ... คราวนี้ต้องหาอ่านรีวิวก่อนไหมเนี่ย สูตรใหม่ กลัวแพ้อ่ะ เผื่อมันใส่อะไรแปลกประหลาดลงไป แพ้แล้วได้ไปหาหมอแน่เลย ((ตอนนี้ก็หาอยู่ หนังหน้าขึ้นเยอะมากแล้ว เหลือรอยสิวอีกนิสหน่อยเท่านั้นเอง เย้ แต่ถ้ามันเห่อขึ้นมาอีกที ได้หยึยแทนเย้แน่เลยฉัน)) เราก็เลยเดินออกมา ไปเข้า OP อีกร้าน ที่อยู่ชั้น ๓ ผล... เหมือนเดิม เหลือแต่ขวดทดลองอีกละ มันน่าขอไอ้ขวดทดลองมาใช้เสียให้เข็ด ฮึ่ม ทำไมชั้นไม่ซื้อตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ววะ ไม่รู้รออะไรอยู่ ((บ้าหนังสืออยู่ )) เอ่อ ... มีใครจะอาสาฃองสูตรใหม่บ้างไหมคะ ((คนอ่าน : ไม่ใช้เองล่ะ หนังหน้าตัวเอง วู้)) แง้ ... เสียใจอ่ะ แต่ก็ยังอยากได้อยู่ดี สงสัยต้องลองเอง ทำรีวิวเองซะละมั้งนี่... ใครอยากรออ่าน ชูจักกะแร้ขึ้นสูงๆ เลยคับ วันนี้...เท่านี้ละคับ บุญรักษาฮับ   Create Date : 04 พฤษภาคม 2551     6 comment Last Update : 4 พฤษภาคม 2551 18:03:34 น.     Counter : 615 Pageviews.   Share Tweet

Yves Rocher: Ode au reve Products Brand: Yves Rocher Product Name: Ode au reve Products Type: Eau de parfume Product Amount: ๕๐ ml Product Cost: น่าจะประมาณ ๕๐๐ นิดๆ เพราะใช้สิทธิ์วันเกิดลด ๕๐% จากราคาเต็ม ลักษณะขวดน้ำหอมค่ะ เราชอบน้ำหอมของ Yves Rocher หลายตัวมากค่ะ เนื่องจากมันลดราคาบ่อย แล้วก็ราคาถูกกว่าน้ำหอมแบรนด์อื่นค่ะ ยิ่งเวลามีโปรโมนชั่นทั้งหลายแหล่ อย่างเช่น ลด ๓๐%, ๔๐%, ๕๐% อย่างนี้ถูกใจมากมาย รูปขวดด้านข้าง กลิ่นนี้เป็นกลิ่นออกแนวกรุ่นๆ ผู้ใหญ่หน่อย แต่ว่าไม่ฉุนนะคะ เราว่ามันเหมาะกับหน้าหนาวมากกว่าหน้าร้อนเยอะ แต่เราก็ฉีดมันทุกฤดูนั่นละ เพราะกลิ่นนี้เราชอบมาก ตั้งแต่ตอนแรกที่ได้กลิ่นแล้ว เป็นกลิ่นในอุดมคติเราเลยค่ะ เราว่ากลิ่นนี้เหมาะกับผู้หญิงอายุ ๒๐ ขึ้นไปค่ะ น้องๆ เราคิดว่ายังไม่เหมาะกับกลิ่นนี้ค่ะ แต่ถ้าบุคลิกนิ่งๆ น่าจะพอได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ของอย่างนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจส่วนบุคคลล่ะเนอะ ถ้าไปดมแล้วชอบก็สอยเลยค่ะ ((ยุคนอื่นให้เป็นเหมือนตัวเองซะงั้นน่ะ)) อีกข้างหนึ่ง กลิ่นนี้เราใช้มาตั้งแต่เรียนมหา'ลัยค่ะ ตอนนี้จบออกมาทำงานได้ ๓ ปีละ ฉีดก็ออกจะบ่อย แต่มันไม่หมดขวดซักทีอ่ะ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าขวดจะเบาๆ ลงแล้ว เนื่องด้วยที่ว่าขวดมันเป็นสีทึบ เลยมองไม่เห็นว่ามันเหลืออยู่มากน้อยแค่ไหน แต่ถ้าหมดแล้วจะซื้อต่อไหม? ตอบได้อย่างไม่ลังเลค่ะว่าซื้อต่ออย่างแน่นอน น้ำหอมของ Yves Rocher นอกจากราคาพอทำใจจ่ายแล้ว เรายังชอบที่ว่ากลิ่นติดทนนานดีค่ะ ... นี่พูดถึงตัว Eau de parfume เท่านั้นนะคะ เราไม่ชอบฉีด Eau de toilette อ่ะ เพราะเป็นคนมีเหงื่อ ถ้าใช้ Eau de toilette ล่ะก็ออกจากบ้านยังไม่ทันขึ้นรถเมล์ก็กลิ่นหายหมดแล้วค่ะ ถ้าเป็นงั้นก็ไม่รู้ว่าจะฉีดทำไมกันน้อ แต่ถ้าเป็นกลิ่นที่ชอบแต่ไม่มี Eau de parfume เราก็ยอมที่จะใช้ Eau de toilette นะ ก็มันชอบนี่ แหะๆ ส่งท้ายด้วยรูปขวดที่ปรับแต่งให้ดูประหลาดๆ ค่ะ ขอให้สาวๆ มีกลิ่นกายที่กรุ่นกำจายนะคะ บุญรักษาค่ะ   Create Date : 20 เมษายน 2551     7 comment Last Update : 20 เมษายน 2551 21:26:16 น.     Counter : 851 Pageviews.   Share Tweet

L'Occitane: Honey Gentle Water รีวิวเครื่องสำอางค์แรกในชีวิตค่ะ อยากเปิดกรุตัวเองบ้าง มีไม่เยอะเท่าไหร่ จะทยอยเอามาให้อ่านกันเรื่อยๆ ก็แล้วกันนะคะ ช่วยติดตามด้วยค่า /me ก้มอ้อนวอน ((ฮา)) Product Brand: L'Occitane En Provence Product Name: Eau de Meil sans alcool (Honey Gentle Water without alcohol) Product Amount: ๑๐๐ ml Product Price: เพื่อนซื้อมาให้จากฝรั่งเศส ฉะนั้นไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ... ขอบใจนะคุณเพื่อน ((ให้ไปเองก็ไม่มีปัญญา และไร้ซึ่งกะตังค์)) มาดูรูปกันก่อนคับ นี่เป็นแพ็คเกจเริ่มต้น เหมือนจะเปิดกระป๋องไอติมมากินเลย แต่มันยาวกว่ากระป๋องไอติมนิโหน่ย บรรจุภัณฑ์เป็นกระดาษ ... ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมค่ะ ... ชอบจังเล้ย แกะออกมาก็เป็นลักษณะอย่างนี้ค่ะ ซูมเข้ามาใกล้อีกหน่อย เจ้าตัว Honey Gentle Water นี่ มัน Gentle สมชื่อจริงๆ ค่ะ เนื่องจากว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ค่ะ ดังนั้นจึงสามารถนำมาเป็นน้ำหอมเพื่อฉีดผมได้โดยไม่ทำอันตรายแก่เส้นผมค่ะ ((เค้าบอกไว้ในบรรจุภัณฑ์อ่ะนะ)) และด้วยความที่ไม่มีแอลกอฮอล์นี่เอง แม้แต่เด็กก็สามารถใช้ได้โดยไม่มีอันตรายค่ะ ส่วนกลิ่นของเจ้า Honey Gentle Water นี้ เป็นกลิ่นน้ำผึ้งค่ะ หอมอ่อนโยนแบบหญิงๆ เด็กๆ ละเมียดละไมดีมาก แต่ข้อเสียมีอยู่นิดเดียวเท่านั้นคะ คือกลิ่นอยู่ไม่ทนเท่าไหร่ ฉีดได้ประมาณชั่วโมงครึ่งกลิ่นก็หายหมดซะแล้ว อาจเป็นเพราะว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อนมั้ง เหงื่อออกนิดหน่อย กลิ่นเหงื่อก็ชนะซะแล้ว ฮ่าๆ แต่ถ้าฉีดผม กลิ่นจะอยู่นานกว่า ((ประมาณครึ่งวันค่ะ)) แล้วฉีดหน้าหนาวจะอยู่นานกว่าอีกนิดนึง เป็นน้ำหอมที่แนะนำสำหรับสาวเริงร่า และสาวหวานอ่อนโยนค่ะ ส่วนคนที่มีแควนแล้ว...ก็แนะนำ คุณแควนจะได้หอมหัว แล้วบอกว่า หัวฮ้อมหอมค่ะ เอิ๊กซ์ ได้ข่าวมาว่า น้ำหอมตัวนี้ไม่มีขายใน L'Occitane เมืองไทยนะคะ แต่ว่าแอบเห็นมีบางเวบเอาเข้ามาขายเหมือนกันค่ะ สนใจจะจับจ่ายก็ Google เอาโลดค่ะ   Create Date : 14 เมษายน 2551     9 comment Last Update : 14 เมษายน 2551 18:35:59 น.     Counter : 1312 Pageviews.   Share Tweet