Group Blog All Blog
|
ระวังการใส่คอนแทคเลนส์ราคาถูก
ระวังการใส่คอนแทคเลนส์ราคาถูกคอนแทคเลนส์หรือบิ๊กอายส์ที่ไม่ใช่เลนส์สายตา เป็นเลนส์แฟชั่น เพื่อความสวยงาม เปลี่ยนสีของนัยน์ตา และขยายขนาดของตาดำ ทำให้ดูตาโต ตาหวาน ตาสีฟ้าเหมือนฝรั่ง การใช้บิ๊กอายส์ หรือแม้กระทั่งคอนแทคเลนส์ที่เป็นเลนส์สายตา มีความเสี่ยงอันตรายทั้งสิ้น เพราะคอนแทคเลนส์เป็นสิ่งแปลกปลอม ต้องสัมผัสกับกระจกตาโดยตรงเป็นระยะเวลานาน หากคอนแทคเลนส์สกปรก มีความโค้งไม่ได้มาตรฐาน จะทำให้เกิดอันตราย บาดตาขาว หรือเกิดการติดเชื้อที่กระจกตา อาจลุกลามถึงขั้นตาบอดได้อย่างรวดเร็วภายใน 2 วัน ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยจากการใส่คอนแทคเลนส์และบิ๊กอายส์มารักษาที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าอย่างต่อเนื่อง ที่น่าเป็นห่วงพบเป็นเด็กนักเรียนอายุต่ำกว่า 16 ปีมากขึ้นเรื่อยๆ รายล่าสุดตาอักเสบ สอบถามประวัติพบว่าซื้อบิ๊กอายส์ราคาถูก ที่วางขายในตลาดนัดในห้างสรรพสินค้า อีกรายซื้อมาจากอินเตอร์เน็ตที่มีการโฆษณารับรองจากแม่ค้าว่า ใช้ดี แม่ค้ายืนยัน หลังใส่แล้วถอดออกไม่ได้ ตาอักเสบ เป็นแผล ต้องให้การรักษาอย่างเร่งด่วน สามารถป้องกันตาบอดได้ทัน
ปัจจุบันคอนแทคเลนส์ มีทั้งถูกและผิดกฎหมาย คอนแทคเลนส์ที่ได้คุณภาพ มาตรฐานการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. จะมีความกว้างไม่เกิน 14.5 มิลลิเมตร หากมีขนาดกว้าง 15-19 มิลลิเมตร ถือว่าผิดกฎหมายหรือเป็นของเถื่อนทั้งสิ้นโดยผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ควรมีอายุ 18 ปีขึ้นไป หรือเป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่แนะนำให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีใส่ เนื่องจากยังขาดความระมัดระวัง ความใส่ใจดูแลทำความสะอาด เสี่ยงปัญหาตาอักเสบติดเชื้อ มีผลกับอนาคตระยะยาว หากมีความจำเป็นต้องใส่ เช่นมีปัญหาสายตา ควรปรึกษาจักษุแพทย์มากกว่าร้านขายแว่นหรือร้านตัดแว่นทั่วไป
ข้อควรระวังในการใส่คอนแทคเลนส์คือ
1.ไม่ควรใส่เลนส์สัมผัสกับผู้ที่มีสภาวะของดวงตาผิดปกติ เช่น ต้อเนื้อ ต้อลม ตาแดง กระจกตาไวต่อความรู้สึกลดลง ตาแห้ง กระพริบตาไม่เต็มที่ 2.ควรใช้น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ที่ใหม่ เปลี่ยนน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทุกครั้งที่แช่เลนส์ 3.ควรเปลี่ยนตลับใส่เลนส์ทุก 3 เดือน 4.ไม่ควรใส่เลนส์ขณะว่ายน้ำ เพราะอาจทำให้น้ำเข้าไปขังระหว่างเลนส์กับผิวตา เสี่ยงการติดเชื้อที่ตาได้ง่าย 5.ล้างมือ ฟอกสบู่ให้สะอาดทุกครั้งก่อนสัมผัสเลนส์ 6.หากเกิดอาการผิดปกติเช่น เจ็บ ปวดตาอย่างมากร่วมกับอาการแพ้แสง ตามัว น้ำตาไหลมากหรือตาแดง ให้หยุดใช้เลนส์ทันที และรีบไปพบจักษุแพทย์ 7.ห้ามใช้เลนส์ หากภาชนะบรรจุอยู่ในสภาพชำรุดหรือถูกเปิดก่อนใช้งาน เนื่องจากจะมีความเสี่ยงอันตรายต่อการติดเชื้อสูง เครดิต#www.sanook.com#ภาพประกอบจาก :: Thinkstockphotos.com ปฏิทินความรู้คู่ดวงตา ปี 2558
ปฏิทินความรู้เรื่องตา 2557
ปฏิทินความรู้เรื่องตา ปี 2557
โรคขอบเปลือกตา
โรคขอบเปลือกตา
ในส่วนของขอบบริเวณเปลือกตาของคนเรา จะมีต่อมไขมัน (meibomian gland) โดยอยู่เรียงรายตลอดแนวของขนตา ซึ่งต่อมนี้มีหน้าที่ผลิตส่วนประกอบของน้ำตา เพื่อให้ดวงตาชุ่มชื้น แต่เมื่อเกิดการอักเสบขึ้น ก็ทำให้เกิดอาการตามมาได้
อาการ เคืองตา แสบตา ขอบเปลือกตาแดง ถ้าเป็นมากอาจทำให้ขอบเปลือกตาเป็นแผล ขรุขระ และอาจมีขนตาบิดเบี้ยวจนทำให้ทิ่มกระจกตาดำได้
สาเหตุ ส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากความไม่สะอาด ก็คล้ายกับการเกิดสิว ซึ่งอาจจะเป็นเพราะมีฝุ่นผงเข้าตาบาง หรือแม้กระทั้งการแต่งหน้าบริเวณรอบดวงตา การกรีดอายไลน์เนอร์ ก็ทำให้ฝุ่นผงเหล่านี้เข้าไปอุดตันทางเปิดของต่อมน้ำตาได้ จนเกิดการอักเสบขึ้น บางครั้งอาจเป็นการอักเสบระคายเคือง หรือ อาจมีการติดเชื้ออักเสบขึ้นได้ ถ้าเป็นมากๆ ก็อาจเป็นตากุ้งยิง (hordeolum) มีหนองได้
การรักษาและการป้องกัน การทำความสะอาดขอบเปลือกตาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการรักษา และเป็นการป้องกันอีกด้วย
1. โดยการใช้น้ำอุ่นผสมกับแชมพูเด็ก (ซึ่งมีความอ่อนโยนต่อดวงตา) เช็ดทำความสะอาดบริเวณขอบเปลือกตา โดยการค่อยๆถูแนวขอบเปลือกตาและขนตา (เหมือนกับเป็นการสระขนตาไปในตัว) เป็นการขจัดสิ่งสกปรกออก และป้องกันการอุดตันของต่อมเปลือกตา
2. การหยอดน้ำตาเทียม เป็นการล้างสิ่งสกปรกออก และช่วยให้ผิวตาชุ่มชื้นได้ หรือการใช้ยาลดการอักเสบ ยาลดการอักเสบ มีทั้งชนิดรับประทาน และ ชนิดครีมทาขอบตา ใช้ในกรณีที่มีการอักเสบมาก ซึ่งการหยอดน้ำตาเทียมอาจไม่เพียงพอ (การใช้ยาหยอดหรือรับประทานนั้น ต้องให้แพทย์ผู้เชียวชาญแนะนำนะค่ะ) |
jw.jane
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] สวัสดีค่ะ เจ้าของบล๊อคนี้ชื่อ "เจน" นะคะ บล๊อคนี้ทำขึ้นมาเพื่ออยากที่จะแบ่งปัน ข้อมูล ความรู้ เกี่ยวกับเลสิก ใครที่อยากทราบข้อมูลอะไรที่เกี่ยวข้อง หรือมีปัญหาอยากสอบถาม เจนจะช่วยตอบข้อข้องใจให้ อาจจะไม่เก่งหรือมีความรู้ที่แน่นมาก แต่จะพยายามหาคำตอบมาให้แน่นอนค่ะ Care 4 ur eyes ^^
|