ชีวิตพอเพียงกับการเลี้ยงกล้วยไม้
Group Blog
 
All Blogs
 
ผักหวานป่า รายงานประสพการจริงจากสวนเกษตรพอเพียง

ทีสวนของผมได้ทดลองปลูกผักหวานป่าเมื่อ เมย ปี 2551 ปีนี้ก้เข้าปีที่ 2
ของการปลูกได้ประสพการมาเล่าให้ฟังดังนี้
1.กล้าที่ปลูกเวลาที่จะปลูกห้ามให้รากขาด ห้ามให้ดินที่หุ้มรากหลุดออกจากลำต้นเด็ดขาด ต้องปักไม้ทำร่มช่วงครึ่งปีแรก



2.จากการไปทดลองปลูกหลายที่ สรุปได้ดังนี้ ผักหวานชอบดินร่วนที่
มีหน้าดินลึกพอสมควร น้ำไม่ท่วมขัง ชั้นถัดจากหน้าดินควรเป้นชั้นหินลูกรังหรือ ชั้นดินที่มีความโปร่ง ถ้าเป็นดินเหนียวรากไชชอนไม่ได้ก็มักจะไม่โต
ผักหวานต้นนี้อายุ 2 ปีครับ ปลูกบริเวณเดียวกับต้นอื่นๆ แต่โตช้ากว่า
คาดว่ารากจะเดินไม่ดีเท่าต้นอื่น




3. ร่มเงาจำเป็นมากในการปลูกผักหวาน ถ้าท่านปลูกที่โล่งแจ้งรับรอง
ร้อยละ 99 จะตายครับผมลองมาแล้วช่วงต้นของการปลูกตายไป 50 ต้น
หมดเงิน 1,000 บาท ต้องมีพืชพี่เลียงครับ พืชพี่เลี้ยงที่ดีคือ ต้นแคครับ
ที่เราเอาดอกสีขาวมาทำแกงส้มนะครับ พอฝนเริ่มลงเราก็หยอดเม็ดแค
ห่างกัน 2 * 2 เมตร ไม่เกิน 2 เดือน ถ้าฝนตกดีก็สูง 50 ซมใบมันจะแผ่เป็นทรงพุ่ม แคเป็นพืชตระกูลถั่วช่วยตรึงไนโตรเจนให้ผักหวานด้วยครับ
จากนั้นเราก็ปลูกต้นผักหวานระหว่างต้นแค การปลูกต้องปักหลักเป็นคอกสี่เหลียม และเอาสแลนล้อมรอบต้น เพื่อกันสัตว์ไปจิกใบต้นอ่อนครับ
ช่วง 6 เดือนแรกจะโตช้ามากครับต้นนี้เอาออกจากสแลนแล้วและยังใช้หลักปักและยึดด้วยเชือกอยู่กันต้นโยกครับ




3.การให้น้ำให้เฉพาะช่วงปลายหนาวจนถึงหน้าแล้ง ให้ 7 วันครั้งครับ
ปุ๋ยควรใช้ปุ๋ยคอกเท่านั้นเป็นขี้วัวจะดีที่สุด ถ้าเป็นขี้หมูและขี้ไก่ควรหมักอย่างน้อย 6 เดือน ไม่งั้นมันจะมีความเค็มทำให้ต้นตายได้ ปุ๋ยเคมี
ไม่ควรใช้ครับ เพราะมันมีความเค็มจากจากเกลือที่เป็นส่วนประกอบปุ๋ย
ท่านจะหงุดหงิดมากช่วงปีแรก-ปีที่ 2 มันเป็นพืชที่โตช้ามากๆๆ
ปลูกยาก ตายง่าย




4. จากนั้นแคพืชพี่เลี้ยงก็จะสูง 3 เมตร เป็นร่มคลุมให้ต้นกล้า ผักหวานป่า
ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปีขึ้นไป ผักหวานจึงจะตั้งตัวได้ ของเพื่อนบ้านปล่อยผักหวานโดยไม่มีพืชคอยให้ร่มเงา ปรากฏว่าค่อยตายไปทีละต้น
ผักหวานตามธรรมชาติ ที่ลำปาง ลำพูน ที่มีผักหวานป่า มักจะพบในป่าแพะ คื่อ ป่าละเมาะ มีพุ่มไม้เตี๊ย และหน้าแล้งจะแล้ง ไม้หลักจะทิ้งใบ ผักหวาน
จะสวนทางกับไม้อื่นๆ จะแทงยอดอ่อน ช่วงนี้แหละครับชาวบ้านจะเข้าไปเก็บยอดอ่อน พร้อมกับหาไข่มดแดงมาแกงกับผักหวาน ส่วนป่าทึบ หรือป่า
ดงดิบจะไม่พบผักหวานป่า




5. เคล็ดลับในการเลือกพื้นที่การปลูก ถ้ามีต้นเก่าปลูกอยู่แล้ว ก็ปลูกบริเวณ
นั้นเลยครับแสดงว่าดินตรงนั้นเหมาะกับการปลูกผักหวาน ถ้าไม่มีต้นเดิม
เราก็เลือกกที่เนินน้ำไม่ขัง ดินร่วนซุย หรือ มีหินมีกรวดผสมอยู่ก็น่าจะเหมาะสมครับ





6. มาดูผักหวานอายุ 2 ปี จำนวน 20 ต้นที่ผมปลูกไว้ จากรูปข้างบน
ที่ไม่ค่อยโต กับพวกที่โตและเก็บยอดมาแกงได้ในปีนี้ ถึงแม้ว่าจะปลูก
บริเวณเดียวกัน ผมสังเกตว่าพวกที่อยู่ใต้ต้นแคจะโตดีครับอย่างชัดเจน




7.ต้นผักหวานอายุ 2 ปี ที่โตดีสูง 50 ซม ที่นำมาให้ชมครับ

ต้นที่ 1




ต้นที่ 2 อยู่ใต้ต้นแค ต้นไม้พี่เลี้ยงครับ




ต้นที่ 3 กำลังแตกใบอ่อนครับ





ต้นที่ 4 ต้นนี้งามสุดๆ ในบรรดา 20 ต้นที่นำมาปลูกเมื่อ 2 ปีที่แล้วครับ





ต้นแรกที่แม่ผมนำมาปลูกเมื่อ 10 ปีที่แล้วสูงท่วมหัวและแตกใบอ่อน
เก็บได้ 0.5 กก พอแกงหม้อใหญ่เลยครับ





ผักหวานป่ามี 2 ชนิดที่ผมสังเกตได้ดังนี้


แบบแรก ใบแก่แบนราบเป็นมันไม่มีร่องใบ ให้ยอดดกดีแกงอร่อย




สภาพต้นโดยรวม





แบบที่สอง ใบจะบางกว่าแบบแรก ด้านบนของใบมีร่องของเส้นใบชัดเจน
ผมมีอยู่ 1 ต้นนี้สูง 3.5 เมตร ออกแต่ดอกเต็มต้น ไม่ค่อยติดผล มีผลติดไม่เกิน 10 ลูก ผมเรียกเล่นๆ ว่าต้นตัวผู้ ยอดจะไม่เหมือนแบบแรก แกงไม่อร่อยครับผม



ต้นที่สองโดยรวม

หวังว่าจะได้แนวทางในการปลูกบ้างนะครับ





การดูแลรักษาให้ปุ๋ยต้นโต คือ ให้ปุ๋ยขี้วัว ต้นละ 10 -20 กก/ปี โดยแบ่งให้ 2 ครั้ง คือ ครั้งแรก หลังเก็บยอดปลายเดือน พค ก่อนเข้าฤดูฝน และอีกครั้ง ศัตรูพืชยังไม่ค่อยพบ แมลงไม่ค่อยชอบ จะมีบ้างคือเพลี้ย
การปลูกผักหวานจึงไม่ใช้ยาฆ่าแมลง จัดเป็นพืชปลอดาสารพิษครับ
ก็ปลายฝนช่วงต้นเดือน ตค









  >>> รายงานความคืบหน้า ปี 2556 ครับ<<<<


 หลังจากปลูกมาได้ 4 ปีเข้าสู่ปีที่ 5 ผักหวานที่โตเต็มที่จะออกดอก การออกดอกจะไม่ออกทุกต้นครับ จากจำนวน 20 ต้น จะออกดอกและให้ลูกเพียง 3 ต้น ซึ่งต้นนี้จะออกทุกปี  ช่วงต้นมีนาคมจะเริ่มแทงช่อดอกตามลำต้นและปลายกิ่งครับ และช่อดอกบากช่อก้จะฝ่อไปบ้างครับ




 ลักษณะช่อดอกที่แทงออกตามลำต้นและปลายกิ่งแก่






 ปลายกิ่งช่อดอกก็ออกเช่นกัน ช่วงนี้ควรรดน้ำบ้างสัก 5 วันครัง ดอกมันจะออกเรื่อยๆจนถึงต้นเมษายน ถ้ามันแล้งมากน้ำน้อยดอกมันก็ร่วงครับ





 การติดผลก็ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของต้น และการดูแลให้น้ำบำรุงต้นในช่วงให้ดอกครับ






 อีกมุมครับ






  ส่วนต้นที่ไม่ออกดอก เราก็รูดใบแก่ทิ้งช่วงต้นเดือน มีนาคม จากนั้นก็ให้น้ำเพื่อเร่งยอดอ่อน เอามาแกงกินกับไข่มดแดง เป็นอาหารชั้นสูง เพราะเอามาจากยอดไม้ทังคู่ 555





Create Date : 22 มีนาคม 2553
Last Update : 13 เมษายน 2556 14:48:00 น. 5 comments
Counter : 7873 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:21:13:47 น.  

 
มีความสังเกตดีมากครับ
เพื่อนผมว่า ไม่ให้ดินหลุดเพราะมีแบคทีเรียพิเศษ พวกไรโซเยี้ยมอยู่ เก็บความชื้นและหาธาตุอาหารให้ผักหวานใช่หรือไม่


โดย: เจษ IP: 112.142.233.45 วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:6:51:55 น.  

 
ได้ความรู้ดีครับสุดยอด5555 จะนำไปทดลองปลูก


โดย: Jam IP: 192.249.41.3 วันที่: 25 กรกฎาคม 2556 เวลา:17:01:13 น.  

 
ดีมากๆครับ ที่ให้ความรู้การปลูก สรุป การปลูกน่าจะอยู่ที่ดินที่จะปลูก ว่าผักหวานชอบหรือไม่ ปลูกไม่ได้ทุกพื้นที่
คำถาม การปรับปรุงดินที่ผักไม่ชอบ ควรทำอย่างไรครับ


โดย: วรสันต์ IP: 110.77.233.127 วันที่: 7 มกราคม 2558 เวลา:11:26:36 น.  

 
มีเมล็ดแคจำหน่าย เหมาะเป็นพืชพี่เลี้ยงผักหวานป่าครับ สนใจติดต่อ นก 082-6945126
www.nasithome.com


โดย: นก IP: 182.53.102.64 วันที่: 30 พฤษภาคม 2558 เวลา:23:24:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แจ้ห่ม47
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 109 คน [?]




ที่อยู่หลัก ลพบุรี ลำปาง และ ปทุมธานี
ที่อยู่ที่อื่นๆ ตามเขตการขายที่ดูแล ภาคตะวันตก ภาคใต้และ ภาคอิสานตอนบน (ทัวร์นกขมิ้นทุกเดือน เนื่องจากดูแลฝ่ายขายครับ ไม่ได้หนีหนี้ 555)
ภาพทุกภาพไม่สงวนลิขสิทธิ์ ถ้านำไปเผยแพร่เพื่อ เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมโดยไม่ผิดกฏหมายหรือศีลธรรม เพื่อนๆสามารถนำไปใช้ได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาติ ไม่หวงครับ ขอกันกินมากกว่านั้นแต่ขอให้อ้างอิงแหล่งที่มาของรูปด้วยครับ ขออภัยหากตอบท่านช้า หรือเข้าไปเม้นต์ท่านช้า ผมใช้เนตผ่านมือถือครับช้ามากๆขออภัย และ หากผิดพลั้งไป ต้องขออภัยเพราะความรู้ต่ำ
New Comments
Friends' blogs
[Add แจ้ห่ม47's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.