โลกบ๊องๆของยายโบโบ้
 

~0~ ผ่านเข้ามาเพื่อที่จะจากไป ~0~

เคยสำรวจตัวเองบ้างไหม..


หนึ่งวันมีความรู้สึกอะไรเกิดขึ้นบ้าง หัวใจยังเต้นในจังหวะปกติดีอยู่หรือเปล่า

24 ชั่วโมง หมดไปกับการนอนหลับสัก 5- 6 ชั่วโมง เวลาที่เหลือถูกแบ่งสรรไปเพื่อทำอะไรต่าง ๆ


และใน “อะไรต่าง ๆ” ที่ว่านั้น..


กี่ครั้งที่ใจลอยคิดถึงใครสักคนอย่างไม่ตั้งใจ


กี่ครั้งที่นึกถึงคนนั้น แล้วอยากรู้ว่าเขากำลังนึกถึงเราอยู่บ้างไหม


กี่ทีที่อยากได้ยินเสียง


กี่ทีที่มองโทรศัพท์ อยากกดไปหาปลายสาย แต่ต้องคำนึงถึงเวลา


กี่หนที่อยากให้คน ๆ นั้นได้อยู่ใกล้


กี่หนที่พบว่าอยากโอบกอดเขาให้แน่น


หากเรากำลังร้องไห้ด้วยความอึดอัด

แล้วมีใครน้ำตาคลอไปกับเรา มันเป็นเรื่องวิเศษแค่ไหนกัน

หากเราบอกไปอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยว่าคิดถึง

และครั้งแล้วครั้งเล่านั้นก็มีคำว่าคิดถึงตอบกลับอยู่ร่ำไป มันเป็นเรื่องน่ายินดีแค่ไหนกัน


“เคยสบตาใครสักคนแล้วรู้สึกดิ่งจมหายไปในดวงตาคู่นั้นบางไหม”

“เคยจับมือใครสักคนแล้วรู้สึกอบอุ่นอย่างไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำอย่างไรบ้างไหม”

“เคยพบใครสักคนที่คุยกันได้อย่างมากมาย แต่กลับสื่อสารถึงกันด้วยหัวใจมากกว่าคำพูดหรือเปล่า”


ความเป็นจริงไม่ง่ายดายขนาดนั้น

ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่เหมือนลงตัว

กลับมีบางสิ่งที่ไม่อาจทำให้เป็นไป 

ไม่อาจยอมให้เกิดขึ้นได้


ความรู้สึกห้ามกันไม่ได้ใช่ไหม ความรักไม่เข้าใครออกใครใช่ไหม

น้ำตาที่ไหลออกมาเป็นหยดสาย หมายความถึงหัวใจที่ตรงกันหรือเปล่า

เมื่อไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเรา จึงไม่ใช่เรื่องน่ายินดีอะไรนัก แม้เราจะได้..รักกัน


ไม่อยากให้คุณเห็นว่าฉันอ่อนแอ

ไม่อยากให้คุณพูดว่า “สงสาร” ฉัน

มันทิ่มแทงมากกว่าคำใด ๆ ที่เป็นการปฏิเสธ

แค่คุณมีฉันอยู่ในดวงตาชั่วครั้งคราก็ดีถมไปแล้ว


“เรารักกันไม่ได้ คุณก็น่าจะรู้ว่าเพราะอะไร แต่...”

"เราเป็นคนรักกันไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าเรารักกันไม่ได้นะ"


ฉันอยากบอกคุณด้วยประโยคนี้ แต่ก็กลัวคำที่ตามมาจากปากคุณจะทำให้ยิ่งเจ็บกว่า


หนึ่งวันมีความรู้สึกอะไรเกิดขึ้นบ้าง หัวใจยังเต้นในจังหวะปกติดีอยู่หรือเปล่า


**เพราะ ...เราเดินทางมาพบกันในจุดๆหนึ่งของชีวิต

เพื่อที่สักวันเราก็จะสวนทางเดินผ่านกันไป**


“ผ่านเข้ามาเพื่อที่จะจากไป”


และเมื่อวันที่เราต้องจากกันมาถึง

วันนั้นจงได้โปรดก้าวออกไป แล้วไม่ต้องหันมองกลับมา

เชื่อเถอะว่าฉันจะยิ้มส่งคุณอย่างยินดี ..

.. แม้ในรอยยิ้มที่มีมันจะต้องกลั้นลมหายใจ


หยุดไว้ตอนนี้ อาจทำใจได้มากกว่า

เพราะถ้าถึงวันนั้น ..วันที่เรามีความทรงจำดีๆร่วมกันมากกว่านี้

และฉันมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งกับคุณเพิ่มขึ้น จนฉันคงไม่อาจจะมองผ่านคุณไปได้เพียงแค่กลั้นลมหายใจ

แต่อาจจะต้องบอกลาคุณด้วยน้ำตา ซึ่งฉันไม่อยากเป็นคนอ่อนแอ..แบบนั้นต่อหน้าคุณ


สำหรับเรา ฉันอยากให้มันมีเพียงรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความทรงจำดีๆเท่านั้น


เราต่างกันมากมาย คุณอาจจะยังไม่เข้าใจในวันนี้

แต่เชื่อฉันเถอะว่า ฉันเองคงไม่ทำสิ่งที่ฝืนใจตัวเอง ถ้าเหตุและผลที่มี มันไม่หนักแน่นพอ


อย่าให้ฉันต้องทำร้ายคุณด้วยเลย เพราะแค่ทำร้ายหัวใจตัวเอง มันก็แย่เกินพอแล้ว


** ฉันรู้สึกดีและขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เราได้มาพบเจอกัน

การได้มีคุณเข้ามาในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต เป็นช่วงเวลาที่สวยงาม

แม้เราจะไม่ได้เป็นคนรักกัน แต่ฉันจะจดจำช่วงเวลาที่แสนดีนี้ไว้ ..

.. เก็บไว้ในใจตราบนานเท่านาน **


รักษาระยะห่างของเราไว้เพียงเท่านี้ นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่ฉันจะอนุญาตให้หัวใจตัวเองทำได้

อย่าใกล้กว่านี้ให้ต้องเจ็บปวดใจวันข้างหน้าเลย


แล้วสิ่งที่ฉันเชื่อก็คือ หากระหว่างเราเป็นพรหมลิขิต เวลาจะทำหน้าที่ของมันเอง



ที่มา.. จำไม่ได้แล้ว




 

Create Date : 06 มิถุนายน 2555    
Last Update : 6 มิถุนายน 2555 11:24:54 น.
Counter : 1821 Pageviews.  

เส้นขนาน - สะพาน - รางรถไฟ

เธอบอกว่า"อยากให้ระหว่างเราเป็นดั่งเส้นขนาน ที่ได้มาบรรจบกัน"


ฉันตอบว่า "มันเป็นไปไม่ได้หรอก 'เส้นขนาน' ไม่มีทางจะบรรจบกันได้

เพราะถ้าอย่างนั้น ถ้าเมื่อไหร่ที่มันบรรจบกัน มันก็ไม่เรียกว่า 'เส้นขนาน' สิ"


แล้วถ้าระหว่างเรา มันเป็นเหมือนเส้นขนาน ที่ไม่มีวันได้บรรจบกัน

มันไม่ดีตรงไหนเหรอ..


เส้นที่ขีดขนานกันไป 2เส้น อยู่เคียงข้างกัน

โดยเว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างพอเหมาะ

เป็นแบบนั้น.. มันไม่ดีตรงไหน..


ฉันนึกถึงรางรถไฟ นึกถึงสะพาน สองเส้นที่ขนานกันไป

เป็นเส้นทาง ไปยังจุดหมาย ไปยังที่ต่างๆ ไปได้ทุกหนแห่ง

เพียงแค่ยังมีช่องว่าง มีระยะห่างต่อกัน


ใช่ การเป็น "เส้นขนาน" ไม่มีทางบรรจบกันได้

แต่ การเป็น "เส้นขนาน" ก็ขาดเส้นใดเส้นหนึ่งไม่ได้


แม้ไม่มีทางที่จะมาบรรจบกัน ณ จุดใดจุดหนึ่ง

แค่เพียงได้เจอกัน เคียงข้างกัน..

เห็นความเป็นไปของกันและกัน

ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ ได้ร้องไห้ ไปด้วยกัน


.. นั่นยังไม่เพียงพออีกเหรอ ..

สำหรับคนที่เป็นได้แค่ "เส้นขนาน"


ฉันเต็มใจเป็นเพียงแค่ "สะพาน" แค่ "รางรถไฟ"

ถ้ามันจะทำให้ได้มีเธอ..


ฉันยอมอย่างเต็มใจ แม้จะเป็นเพียงแค่ "เส้นขนาน"

ก็ยังดีกว่าเป็นเส้นตรงที่ต้องลากอย่างอ้างว้าง.. "เส้นเดียว"





 

Create Date : 05 มิถุนายน 2555    
Last Update : 6 มิถุนายน 2555 11:28:21 น.
Counter : 1530 Pageviews.  

ผมมองผ่านสายตาของเธอ

ผมมองต้นไม้ มองสระน้ำ มองเด็กน้อย มองนก มองถนน มองรถยนต์ มองผู้คน
ผมมองกระถาง มองก้อนเมฆ มองเด็กนักเรียน มองคุณตำรวจ มองสาวออฟฟิต
ผมมองรถไฟฟ้า มองหารถไฟใต้ดิน มองดูรถติด มองแม่ค้า มองดูเธอ


ผมมองดูเธอ มองดูเสื้อสีขาว มองกระโปรงสีน้ำตาล มองผมยาวๆ
ผมมองสายตาเธอ..
มองตาคู่นั้น สีน้ำตาสดใส เป็นประกายวิบวับ
ผมเฝ้ามองสายตาเธอ..


ผมไม่รู้ว่าเธอกำลังมองอะไรแต่ประกายตาที่ต่างออกไป..
ผมมองผ่านสายตาของเธอ


หยีตาเมื่อมองขึ้นฟ้า หรี่ตาเมื่อมองสิ่งลิบๆ
เบิ่งตาเมื่อมองแล้วประหลาดใจ

และเมื่อสายตาเป็นประกาย ผมหวังว่าเมื่อนั้น "ผมคือสิ่งที่คุณมอง"




 

Create Date : 06 มีนาคม 2555    
Last Update : 6 มีนาคม 2555 23:03:09 น.
Counter : 580 Pageviews.  

~0~ พื้นที่ส่วนตัว ~0~


มีบางพื้นที่ ที่เรานั้นสงวนไว้เพื่อตัวเอง

มีบางพื้นที่ ที่เราสงวนไว้เพื่อตัวเอง และแค่ใครอีกคน

มีบางพื้นที่ ที่เป็นพื้นที่เปิด ต้อนรับทุกคน


พื้นที่ในชีวิตเราก็คงแบ่งโซนนิ่งคล้ายบ้านนะ

มีห้องรับแขก ที่ไว้รับคนเฉพาะกลุ่ม

มีห้องนั่งเล่น ที่อาจเปิดรับคนคุ้นเคย และเพื่อนสนิท

มีห้องครัว ห้องทานอาหาร ที่ไว้รับคนในครอบครัว และญาติ

มีห้องนอน ที่ไว้รับเฉพาะคนรู้ใจ


และมีห้องน้ำ ที่เราคิดว่านั่นแหล่ะพื้นที่ส่วนตัว ของเรา

แต่ที่จะเขียนมันไม่ใช่อะไรที่เกริ่นมาบนๆ

(งงตัวเองว่า จะลากเข้าห้องน้ำทำไม ทั้งๆที่กำลังจะทำซึ้ง)



กลับมาที่พื้นที่ส่วนตัวของฉัน

พื้นที่ส่วนนี้ ที่เคยมีคนเปรียบเทียบไว้ว่า มันช่างเหมือนกำแพงสูง
กำแพงที่ฉันก่อขึ้นเอง เพื่อป้องกันตัวเองจากโลกภายนอก
ปิดกั้นคนอื่น ไม่ให้สามารถกล้ำกรายเข้ามาได้


โดยลืมคิดไปว่า กำแพงนี้เองก็กั้นฉันจากคนอื่นๆเ่ช่นกัน


ไม่มีใครสามารถเข้ามาในโลกส่วนตัวนี้ได้ ฉันเองก็ไม่กล้าพอจะปีนออกไปพบใคร

ฉันเคยบอกว่า รอคอยใครสักคนมาทลายกำแพงมหึมานี้
คนที่สามารถทำให้ฉัน กล้าที่จะออกมานอกกำแพง

คนที่สามารถทำให้ฉัน กล้าที่จะออกมาสัมผัสโลกภายนอก


จนวันนึง มีคนผ่านเข้ามา บอกฉันว่า..
อย่าให้ใครมาทลายกำแพงกั้นนั้นเลย

หากวันใดที่ฉันล้า อยากมีพื้นที่าส่วนตัวล่ะ
อย่างน้อย ฉันจะได้กลับเข้าไปได้
เพื่อที่ยังมีที่ ให้ฉันอยู่ อย่างสบายใจ

แต่ใครคนนั้นยินดีปีนกำแพงสูง เข้ามานั่งเป็นเพื่อน พูดคุย ร่วมฝัน
และใครคนนั้น ยินดีจะพาฉันออกไปเที่ยวชมโลกภายนอก

และเมื่อไหร่ ที่ต้องการ ฉันจะสามารถกลับมาที่นี่ได้
... พื้นที่ส่วนตัว


มันช่างสวยงาม มันช่างเหมือนฝัน มันช่างมีความสุข
มันช่างเรียบง่าย มันช่างสอดคล้อง และอ่อนโยน
เหมือนเป็นแค่การหายใจเข้า-ออก


การที่คนสองคนรักกัน มันคงเป็นแบบนี้
ไม่ต้องคิด ไม่ต้องเฟค ไม่ต้องพยายาม

แต่เหมือนกับแค่หายใจเข้าและออก ไปพร้อมๆกัน
เรียบง่าย แบบนั้น และแค่นั้น



...................................




 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2555    
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2555 21:11:45 น.
Counter : 623 Pageviews.  

~0~ พื้นที่หลากสี ~0~


ถ้าพูดถึงพื้นที่หลากสี คุณจะนึกถึงอะไร

และ ถ้าพูดถึงพื้นที่สีเขียว คุณจะนึกถึงอะไร



แค่วันนี้นั่งอยู่ในที่กว้างๆ บนเก้าอี้ม้าหิน และนึกอยากมีสมุดกับดินสอสักแท่งในมือ
อยากเขียน เขียน เขียน อะไรแบบที่เคยชอบเขียน

........ เมื่อนานมาแล้ว



ลืมไปว่าการอยู่คนเดียวก็ดีเหมือนกันนะ

ลืมไปว่า นานแค่ไหนแล้ว ที่ไม่ได้คุยกับตัวเอง

ลืมไปว่า นานมากแล้ว ที่ไม่ได้หยุด คิด และมองสิ่งรอบๆกายแบบจริงจัง

เมื่อคิดแบบนั้น ก็อยากมีสุดสักเล่ม และดินสอสักแท่ง ให้ได้จดๆๆ ทุกๆอย่างที่นึกได้


แต่ตอนนี้ก็ได้แต่นั่งคิดว่า ฉันเห็นอะไรบ้าง
อะไร ที่ทำให้พื้นที่สีเขียว กลายเป็นพื้นที่หลากสี

ฉันชอบมุมมองจากเก้าอี้มาหินตรงนั้น
ฉันชอบภาพกลุ่มต้นไม้สีเขียวครึ้ม บดบังตึกสูง ที่มีท้องฟ้าสีครามเป็นฉากหลัง

ฉันชอบที่หันขวาไปเจอหนุ่มสาวคู่รัก นอนหนุนตักหยอกล้อกัน
ฉันชอบที่มองข้ามสระน้ำกว้าง เห็นภาพคุณพ่อเข็นเปลเด็ก และคุณแม่จูงมือลูกชายเดินเคียงข้างกัน

ฉันชอบที่หันขวาไปเจอกลุ่มเพื่อนนั่งพูดคุย
(ฝรั่งคนนั้นน่ารักมวากกก )

ฉันชอบลมเย็นๆ ชอบความรู้สึกที่มี ณ นาทีนั้น

ฉันชอบ ที่ตัวเองไม่ได้เห็นแต่สีเขียว

และชอบความรู้สึกดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบตัว แบบที่ หายไปนานแสนนาน





 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2555    
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2555 22:18:49 น.
Counter : 484 Pageviews.  

1  2  3  
 
 

I_JeejunBo
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Just a girl in the blue planet!
[Add I_JeejunBo's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com