จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
Group Blog
 
All Blogs
 

ทางผ่านกามเทพ * กรุง ญ ฉัตร

ทางผ่านกามเทพ * กรุง ญ ฉัตร

ผมไม่ค่อยได้อ่านงานของคุณกรุง ญ ฉัตรมากสักเท่าไหร่ (จำได้ว่าเคยอ่านเรื่อง... ขอแค่คิดถึง) พอได้ลองอ่าน “ทางผ่านกามเทพ..” เพราะเคยได้ยินหนอนเจ้าประจำเคยแนะนำว่าลองอ่านเรื่องนี้สิสนุกนะ โครงเรื่องคล้าย ๆ “จำเลยรักของป้าชูวงศ์ ฉายะจินดา”แล้วก็บังเอิญอีกเช่นเคยไปเจอที่ร้านขายหนังสือเก่าของสำนักพิมพ์คลังวิทยา จัดพิมพ์ปี 2547 ราคา 300.-บาท ลังเลใจตั้งนานซื้อไม่ซื้อดี (กลัวแพงและไม่สนุก)
สุดท้ายก็ซื้อมาอ่าน หลังจากไปตะเวรตามร้านเช่าแล้วหาไม่เจอ อ่านไปเรื่อยๆ ก็นึกประหวัดไปถึงเรื่อง
“ จำเลยรัก” ทูกที เพราะกว่าจะหลุดความจำในเรื่องดังกล่าวมาได้ก็เกือบครึ่งเล่มหนึ่งพอดิบพอดี อิอิ
ทางผ่านกามเทพ เป็นนวนิยายที่อ่านสนุกมาก มีลุ้นตัวละครตลอดตั้งแต่ต้น ตั้งแต่พระเอก(ไตรภพ) เข้าใจผิดและจับตัวนางเอก(ภัทรลดา)ไปบ้านชายทะเล /กลับมาเป็นเจ้านายลูกน้องกัน/นางร้าย(พี่สาวนางเอกชื่อ พิมลภา ร้ายมั่กๆ) เปิดเผยธาตุแท้ขึ้นเรื่อยๆ/นางเอกจำยอมเป็นนางบำเรอและเกิดท้องจนแท้ง/กระทั่งพระเอกรู้ความจริงทุกอย่างเปิดเผยจนจบเรื่องในเล่มที่สอง ด้วยความโล่งใจ เฮ้อ เหนื่อยจังเนอะนางเอก...โครงเรื่องแบบที่พระเอกเข้าใจผิดนางเอกถูกจับไปเป็นตัวประกัน แล้วเกิดความรักความเข้าใจกันในภายหลัง มีนิยายหลายเรื่องที่นำเสนอออกมาได้สนุกน่าติดตาม อย่างตัวแม่ “จำเลยรัก” โจรปล้นใจ ของ
นภัสสร และ อีกหลายเรื่อง ถึง “ทางผ่านกามเทพ” ของกรุง ญ ฉัตร แต่ละเรื่องล้วนมีคุณค่ามากน้อยลดหลั่นต่างกันไป ...โดยสิ่งที่ผู้อ่านได้รับกลับไปเมื่ออ่านเรื่องเหล่านี้ ก็คือ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตัวละคร ความบันเทิงอย่างเปี่ยมล้น ความสนุกสนานวางแทบไม่ลง ฯลฯ
วันนี้ได้โอกาสอัพบล็อกก็ขอเชิญหนอนจ๋าที่น่ารักไปหาอ่านงานเขียนตบจูบที่สนุกเข้มข้นด้วยเนื้อหาและพล็อตเรื่องอย่าง “ทางผ่านกามเทพ”ของกรุง ญ ฉัตรมาอ่านกันให้ได้ครับ ขอรับรองว่าหนุกเจงๆ ขอเชียร์ๆ อย่างออกนอกหน้ากันอย่างงี้เลยครับท่าน ...ตอนนี้ละคร “ จำเลยรัก” กำลังออนแอร์ที่ช่อง ๓ เนื้อหาอาจจะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย ลองติดตามเป็นกำลังใจให้กับคนทำละครกันได้นะครับ สำหรับ “ทางผ่านกามเทพ“ ได้รับการทำเป็นละครมาแล้วเมื่อไม่นาน ทางช่อง ๓ (ที่เรทติ้งกระฉูดสุดๆ) นี่แหละครับ (พระเอกน่าจะเป็นแอนดริว ส่วนนางเอกคือเจนนี่ อะไรประมาณนี้ครับ) จู่ๆก็มีคนมาถามผมว่า อ่านทำไมนิยายไทย .. เสียเวลาทำมาหากิน ... ผมก็อึ้งไม่รู้จะตอบอย่างไงดี ได้แต่ยิ้มที่มุมปากน้อยๆ แล้วตอบไปสั้นๆว่า “ ผมชอบอ่านนิยายไทย แบบไม่มีเหตุผลง่ะมีอะไรมั้ย ..” คนถามทำหน้างง (จะเข้าใจหรือเปล่าก็ไม่รู้) แล้วก็เดินหนีไปเลย ... ผมยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะก้มหน้าก้มตาอยู่ในโลกส่วนตัวที่ผมเลือกแล้วต่อไป และผมก็เชื่อว่าคนอ่านบล็อกนี้น่าจะรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับผมแน่ ๆ เฮ้อ ! ภูมิใจจังที่เกิดมาเป็นหนอน(หนังสือ)....

นักเขียนที่รักทุกท่านครับ เขียนมาเถอะครับ พวกผมจะอ่านงานของท่านตลอดไป ขอสัญญาด้วยเกียรติของหนอนน้อยสามัญรุ่นใหม่ อิอิ ... แล้วพบกันครับ ...



นี่คือภาพจากละครช่อง ๓ ครับ..


อีกภาพพระนางครับ




 

Create Date : 22 ธันวาคม 2550    
Last Update : 22 ธันวาคม 2550 22:26:26 น.
Counter : 5639 Pageviews.  

คาวดอกไม้ นวนิยายสะท้อนสังคมของแขคำ ปัณณะศักดิ์

คาวดอกไม้ ของ แขคำ ปัณณะศักดิ์


... ถ้าเล่าว่าลินจงกับคัทรียาเป็นสาวไซด์ไลน์ มีอาชีพพิเศษกว่าใคร และผ่านอุปสรรคในชีวิตต่าง ๆ มากมายเลือดตาแทบกระเด็น จนสุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีเหมือนเมฆหมอกร้ายพ้นไป

เท่านี้นิยายเรื่อง “คาวดอกไม้” ของแขคำ ปัณณะศักดิ์ คงไม่ต้องถูกเปิดให้น่าค้นหาอีกต่อไป ...

แต่ถ้าใครมี “คาวดอกไม้” อยู่ในมือเตรียมเอนตัวลงอ่าน ผมขอเชียร์คะแนนเต็มสิบว่าให้เปิดคำนำรีบอ่านเถอะครับ รีบอ่านเลย เพราะนวนิยายเรื่องนี้สนุกมาก ๆ ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบเลยทีเดียว ..

ชีวิตของลินจงและคัทรียาไม่ได้สวยหรูเหมือนเปลือกนอกที่กำลังพยายามสร้างหรือหลอกตัวเองอยู่ แต่ตรงกันข้ามที่คนทั้งสองต้องดิ้นรนหาเลี้ยงปากท้องและความต้องการอย่างไม่สิ้นสุด ปัญหาอุปสรรคเข้ามาเป็นระลอกและเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดทุกอย่างเกือบจะสายเกินแก้ไปแล้ว ... แต่ทุกสิ่งอย่างล้วนเป็นสัจธรรมว่าฟ้าหลังฝนย่อมสวยสดใสเสมอ ... สุดท้ายลินจงกับคัทรียาก็พบหนทางสว่างของชีวิตจนได้ ปัญหาทุกอย่างมีทางออกและทางแก้ อยู่ที่เราใช้สติกันมากแค่ไหน...

คาวดอกไม้ ของแขคำ ปัณณะศักดิ์ จึงเป็นเหมือนแสงเทียนส่องทางคนยากให้ก้าวผ่านข้ามชีวิตอันเลวร้ายให้พ้นไปได้อย่างภาคภูมิ นวนิยายดีดี สะท้อนความคิด กระแทกจิตใจการใช้ชีวิตของคนในสังคมไทยเช่นทุกวันนี้หาได้ไม่บ่อยนักในผลงานของนักเขียนผู้ชาย แต่แขคำฯ ทำได้ดีมากๆในทุกองค์ประกอบ ทั้งสำนวนภาษา คำพูดสนทนาที่เผ็ดร้อน การดำเนินเรื่องที่ลื่นไหลไปจนจบเรื่อง และชื่อเรื่องที่ตรงกับเนื้อหาประเด็นทั้งหมดของเรื่อง สุดท้ายพวกเราในฐานะคนอ่านต้องขอบคุณแขคำ ปัณณะศักดิ์ที่นำเสนอมุมมองผู้หญิงไซด์ไลน์ให้เราได้รับรู้ได้อย่างถึงแก่น ...

ซึ่งผมก็เชื่อว่าหลายเรื่องในนวนิยายเรื่องนี้ ท่านนักอ่านคงยังไม่ทราบเหมือนผม ...

วันนี้ก็อีกเช่นเคย พออ่านคาวดอกไม้จบ เริ่มอาการร้อนรุ่มอยากบอกต่องานเขียนดีๆของนักเขียนรุ่นใหม่มาแรง(จริงๆ)อย่างแขคำ ปัณณะศักดิ์ ที่ผมได้สัมผัสตัวจริงมาแล้ว น่ารัก เป็นมิตรน่าประทับใจมาก...

คาวดอกไม้ เป็นหนึ่งในงานเขียนในหลายเรื่องที่เป็นผลงานของแขคำ อย่างงานเก่าๆของเขาก็มี รวมเรื่องสั้น "บินข้ามคืน" กับ "บอใบไม้สระอานอหนูไม้โท" และกวีเรื่อง "เพื่อเธอ…ที่รัก" และนวนิยายเรื่อง “หนี”

ประวัติสั้นๆ จากเวปประพันธ์สาส์นของแขคำฯ ก็คือ เป็นชาวเชียงใหม่ เกิดเมื่อ 11 พฤษภาคม 2514 จบ ป.6 โรงเรียนบ้านบ้านเชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ม.3 โรงเรียนเชียงดาววิทยาคม อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ปวช. และ ปวส. สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตภาคพายัพ ใช้วุฒิ ปวส.บริหารธุรกิจ-การตลาด สอบเข้าทำงานธนาคารและศึกษาไปด้วย สำเร็จปริญญาตรีศิลปศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ค้นพบว่าตนเองสามารถเล่าเรื่องผ่านตัวอักษรได้ในปี 2535 มะม่วง เรื่องสั้นเรื่องแรก ได้รับรางวัลเรื่องสั้นยอดเยี่ยม THE BOY BEST POET 1993 จากนิตยสาร THE BOY 8 เซนติเมตร ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ เรื่องสั้นยอดเยี่ยมประจำปี 2538 จาก นิตยสาร แปลก SPECIAL แมลงเม่า ได้รับรางวัลเรื่องสั้น สุภาว์ เทวกุลฯ ประจำปี 2540 ดิ้นเร่าในตัวตน ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 50 เรื่องสั้นช่อปาริชาต 2001 กลางคืนพระจันทร์ กลางวันพระอาทิตย์ นิยายขนาดสั้นเรื่องแรกผ่านพิจารณารอตีพิมพ์เป็นตอน ๆ ในนิตยสาร ขวัญเรือน ปัจจุบัน เขียนหนังสืออยู่ที่เชียงดาว เชียงใหม่ ....

มีนักเขียนที่ชื่นชอบเป็นพิเศษยึดเป็นแบบอย่างในการทำงาน คือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช , ประภัสสร เสวิกุล, ชาติ กอบจิตติ,ประชาคม ลุนาชัย, มาลา คำจันทร์, คมทวน คันธนูและกฤษณมูรติ

วันนี้ก็ได้ถือโอกาสเชิญชวนชาวหนอนที่น่ารักทุกท่าน ไปหาอ่านงานสนุกๆ สุดมันส์ของแขคำ ปัณณะศักดิ์ เรื่อง คาวดอกไม้ มาอ่านกันได้นะครับ รายละเอียดสำนักพิมพ์อยู่ข้างล่างนี้ครับผม ...

รายละเอียดจากเพื่อนดี ครับ..
Book from Puendee

ชีวิตของนักศึกษาสาวมหาวิทยาลัย "ลินจง" และ "คัทลียา" ผู้ใช้เปลือกนอกปกปิดเนื้อใน ดำเนินชีวิตเลิศหรูเฉิดฉายบนปลายยอดสูงสุดของความเสี่ยง ระเริงร่านท่ามกลางเหล่าภมร หยอกล้อสายลมละอองฝนดั่งตนมีความสุขเสียเต็มประดา ท้ายที่สุดชีวิตหล่อนจะเป็นเช่นไร...หรือต้องปลิดร่วงไปตามกาลเวลา

สำนักพิมพ์: เพื่อนดี
พิมพ์ครั้งที่: 1

* ISBN: 978-974-253-014-3
* โดยผู้แต่ง: แขคำ ปัณณะศักดิ์




 

Create Date : 15 ธันวาคม 2550    
Last Update : 15 ธันวาคม 2550 21:51:18 น.
Counter : 2972 Pageviews.  

เมคอินแก่งกระจาน นิยายหวานของ ... เชิญอักษร

เมคอินแก่งกระจาน * นิยายหวานของเชิญอักษร



เมื่อก่อนถ้ามาถามผมว่ารู้จักนิยายขนาดสั้นของเชิญอักษรในหลายๆเรื่องมั้ย ผมก็ตอบได้เลยในทันทีว่า “ ไม่ได้อ่านเลยสักเรื่องเดียว แต่จำชื่อคนแต่งได้คลับคล้ายคลับคราเท่านั้น ” จนมาวันหนึ่งเมื่อไม่นานพี่ที่รักและเคารพได้แนะนำว่าหากจะอ่านนิยายวัยรุ่นวัยหวานให้ลองไปหางานของเชิญอักษรมาอ่านดู ...

ไอ้ผมนั่นก็บ้าจี้อยู่แล้วจะไปหามาอ่านยังไงล่ะนี่ เริ่มต้นง่ายๆ ขี่มอเตอร์ไซค์คันเก่าตระเวรไปตามร้านหนงสือเช่าเพื่อหามาอ่านจนได้หนึ่งเรื่อง คือ เมคอินแก่งกระจาน อ่านจนจบด้วยความรวดเร็ว สนองความอยาก ... แล้วก็อึ้งด้วยความประทับใจ สรุปได้ว่าผลงานของเชิญอักษรดีเช่นนี้นี่เอง ...

แทบไม่น่าเชื่อว่างานเขียนขนาดสั้นเพียงไม่กี่บทจะประทับใจได้ขนาดนี้ งานเชิญอักษรสั้นกระชับด้วยความแม่นยำของจังหวะเรื่อง เนื้อหา เหตุการณ์มีไม่มาก แต่ทุกอย่างลงตัวสัมพันธ์กันหมด ก่อนจะคลี่คลายในบทสุดท้ายอย่างประทับใจ...
ผมชอบผลงานของเชิญอักษรที่ได้อ่านมาแล้วสี่เรื่องก็คือ เมคอินแก่งกระจาน นิราศกะป๋อหลอ ฟ้าสางที่กลางดง และกระเหรี่ยงยอดรัก สนุกสนาน หัวเราะ อิ่มเอมกับเรื่องราวสั้นๆ ประทับใจทั้งหมดมาก ๆ จนต้องหางานของเชิญอักษรมาเก็บตุนในชั้นหนังสือไว้ได้หลายเรื่อง อาทิ ออร์ กลางห้วย ถนนสายบ้านไร่ ตะเกียงกลางทุ่ง หัวใจที่ปล่อยวาง ปริศนาแห่งหัวใจ ฯล ...

งานเขียนเชิญอักษรจะเป็นนวนิยายขนาดสั้นและเรื่องสั้นขนาดยาว พิมพ์ออกมาจำหน่ายโดยหมึกจีน ราคาไม่แพง รูปเล่มเล็กๆ กะทัดรัดน่าเก็บสะสมทุกเล่ม (ตอนนี้เริ่มหายากแล้ว) งานเขียนบางเรื่องได้รับรางวัลจากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ฯ ก็คือ “ ข้าวหน้าลาน”(ยังมะมีฮือๆ)กับ“นิราศกระป๋อหลอ” ที่อ่านสนุกมากๆ วางไม่ลงขอบอก ขอบอก ....
ผมไม่ทราบประวัติของเชิญอักษรเลย ใครพอรู้บอกกล่าวกันหน่อยนะครับ ...

วันนี้ผมคงไม่สปอยเรื่องอยากให้ไปหาอ่านงานของคุณเชิญอักษรจริงๆ และอย่าลืมเก็บไว้ในหิ้งหนังสือด้วยนะครับ ตอนนี้ผมก็เก็บหามาได้สิบเอ็ดเล่มแล้วเหลืออีกนิดหน่อยจะครบชุดแล้ว อิอิ ...





 

Create Date : 05 ธันวาคม 2550    
Last Update : 5 ธันวาคม 2550 18:48:13 น.
Counter : 1603 Pageviews.  

แม้ความตายมาพราก ของศุภร บุนนาค

แม้ความตายมาพราก ของ ศุภร บุนนาค

พอได้อ่านงานเขียนชิ้นนี้ของคุณศุภรจบปุบ สิ่งแรกที่ผมอยากจะทำที่สุดก็คือ บอกต่อกับชาวหนอนทั้งหลายว่างานเขียนของศุภร บุนนาคนั้นสุดยอดเยี่ยมมาก ๆ ในเรื่องการใช้ภาษา ข้อมูล ฉากที่สมจริง และรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆอีกมากมายที่จะกล่าวไว้ที่นี้ได้หมด ...
งานเขียนเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งของคุณศุภรที่ฝากไว้ให้เราลูกหลานรุ่นหลังได้ศึกษาแนววิถีชีวิตคนสมัยก่อนผ่านตัวละครหลายตัว เช่น แจ่มใส เจ้าใจเพชร คุณรัศมี เจ้าหญิงจามรี เจ้ารัชทายาท ฯลฯ เนื้อเรื่องสนุกสนานเข้มข้นจนวางแทบไม่ลงเมื่ออ่านจบ เมืองแดนสรวงติดตราตรึงใจจนวาดภาพได้ชัดเจนว่าเมืองนี้สวยงามเหนือจินตนาการจริงๆ ฉากในพระราชวัง ฉากภูเขา ธรรมชาติ คุณศุภรบรรยายได้เลิศหรูอลังการ แทบจะหานักเขียนในยุดนี้เทียบเทียมยาก ..

เมื่ออ่านแม้ความตายมาพรากทุกคนคงคิดแบบผมแน่ว่าคุณศุภร เป็นนักประพันธ์กรที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่งในบรรพภพน้ำหมึกของบ้านเมืองเราเลยทีเดียวครับ นวนิยายเรื่องเยี่ยมเรื่องนี้อ่านได้เรื่อยๆ สนุกเข้มข้นขึ้นไปจนจบ (ฉบับที่ผมอ่านเป็น ฉบับรวมเล่ม ๓ เล่มจบ แต่ตอนนี้สำนักพิมพ์นวนิตาเอามาพิมพ์ปกใหม่เรียบร้อยแล้ว) เนื้อเรื่องทั้งหมดคงไม่ต้องเล่า กลัวหนอนๆ เสียอรรถรสในการอ่าน อยากให้ไปหามาชื่นชมกันดีกว่า ...สำหรับประวัติของคุณศุภร บุนนาค มีดังนี้ครับ ท่านเกิดเมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2464 ที่ตำบลวังบูรพาภิรมณ์ กรุงเทพฯ เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 4 คนของศาสตราจารย์ พระวรเวทย์พิสิฐ (ผึ่ง ศิวะศริยานนท์) เริ่มการศึกษาที่โรงเรียนเสาวภา ย้ายไปอยู่ที่โรงเรียนสตรีวิทยาโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย และจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนราชินี จากนั้นเรียนต่อโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา รุ่นที่ 1 คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนได้รับปริญญาอักษรศาสตร์บัณฑิต เมื่อ พ.ศ.2487แล้วแต่งงานกับนายดำรง บุนนาควิศวกรเหมืองแร่และติดตามสามีไปอยู่ต่างจังหวัดหลายปี โดยได้เข้าทำงานเป็นพนักงานรุ่นแรกของธนาคารศรีนคร ...เนื่องจากเป็นคนสนใจทางด้านร้อยกรองทั้งโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน มาตั้งแต่เด็ก และได้เริ่มงาน เขียนเรื่องสั้นเรื่องแรกชื่อ “ผ้าไหมผืนใหม่”ลงพิมพ์ใน “โฆษณาสาร” ที่ชอุ่ม ปัญจพรรค์เป็นบรรณาธิการ เมื่อ พ.ศ.2493 ทำให้มีกำลังใจเขียนเรื้องสั้นต่อมาอีกมาก รวมเรื้องสั้นชุด “ร่มเย็น” และ “คนซื้อฝัน” ได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวาง สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยจึงได้ประกาศยกย่องให้ ศุภร บุนนาค เป็นหนึ่งใน 25 นักเขียนเรื่องสั้นดีเด่นในรอบร้อยปี เมื่อ พ.ศ.2528 ส่วนผลงานนวนิยายเรื่องแรกคือ “ปาริชาติลวง” ได้รับการรวมพิมพ์เป็นเล่มเมื่อ พ.ศ.2497 และมีนวนิยายที่โด่งดังในระยะต่อมาอีกหลายเรื่อง เช่น รถเมย์สายพระพุทธบาท ฟ้าใหม่ ไม้ร่วมกอ และ บุญเพรงพระหากสรรค์ เป็นต้น ในช่วงปลายชีวิตได้หันกลับมาสนใจร้อยกรองอีกครั้งหนึ่ง ได้เขียนลิลิตโครงดั้นเรื่อง “ผืนแผ่นไผทนี้ล้ำ แหล่งคุณ” และส่งเข้าประกวดวรรณกรรมประจำปี 2516 ของธนาคารกรุงเทพ จำกัด ปรากฏผลชนะเลิศได้รับรางวัลวรรณกรรมไทยชั้น 1 และหลังจากถึงแก่กรรมไปแล้ว 1 เดือนก็ยังมีเรื่องสั้นเรื่องสุดท้ายได้รับการลงพิมพ์ในนิตยสาร “ชาวกรุง” อีกด้วยแม้ว่าผลงานประพันธ์ทั้งหมดของ ศุภร บุนนาค นั้นจะมีจำนวนไม่มากนัก แต่ก็เป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นผลงานที่ล้วนแล้วแต่มีคุณภาพ ...
ผลงานการแต่ง
นวนิยาย : ปาริชาติลวง รสลิน แม้ความตายมาพราก รถเมย์สายพระพุทธบาท ฟ้าใหม่ แผ่นดินยังกว้าง เกลียวทอง ไม้ร่วมกอ บุญเพรงพระหากสรรค์ ขอบฟ้าฤาจะกั้น

รวมเรื่องสั้น : ลมเย็น คนซื้อฝัน ที่รัก รอบตะเกียงลาน สวรรค์ขุมไหน
สารคดี : สมบัติกวี ๒ เล่ม(ขุนช้างขุนแผน กับอิเหนา)
ร้อยกรอง : ผืนแผ่นไผทนี้ล้ำ แหล่งคุณ

* คุณศุภร บุนนาค ถึงแก่กรรมด้วยโรคไตเรื้อรัง เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ.2517 รวมอายุได้ 53 ปี
มีบุตรสาวเพียงคนเดียวคือ รองศาสตราจารย์ ดร.คุณหญิงสุริยา รัตนกุล

* ผลงานของคุณศุภรหลายเล่มยังหาเก็บได้อยู่ อย่างงานมหกรรมหนังสือฯ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมไปตามงานของคุณศุภรได้มาสามเรื่องดีใจมากครับ .... วันนี้ก็เช่นเคย มาบอกเรื่องราวผลงานเขียนอันทรงคุณค่ายิ่งของนักเขียนในดวงใจใครหลายคนอย่างศุภร บุนนาค ก็จะขอชวนพวกเราชาวหนอน ฯ ตามหางานที่ดียิ่งเช่นนี้มาอ่านกัน อย่างน้อยสักเล่มสองเล่มอย่าง ฟ้าใหม่ บุญเพลงพระหากสรรค์ รสริน รถเมล์สายพระพุทธบาท คนซื้อฝัน ลมเย็น แม้ความตายมาพราก ก็พอครับผม ...






 

Create Date : 31 ตุลาคม 2550    
Last Update : 31 ตุลาคม 2550 11:11:56 น.
Counter : 3314 Pageviews.  

ในวารวัน ของ ปิยะพร ศักดิ์เกษม


ในวารวัน ของ ปิยะพร ศักดิ์เกษม

“ หนึ่งชีวิตคนเราก็ไม่ต่างจากหนึ่งวารวัน..”

ผมได้เคยอ่านนิยายเรื่องนี้ของพี่เอียดเมื่อตอนตีพิมพ์รวมเล่มครั้งแรกแล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกเฉยๆ ไม่อะไรมากนัก เพียงแค่บอกกับตัวเองว่านิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่ดีมากเรื่องหนึ่ง ทั้งการเดินเรื่องสนุก ตัวละครได้เนื้อได้หนัง อ่านไปๆ ได้ความรู้เรื่องเกร็ดประวัติศาสตร์แถบจังหวัดชลบุรีอย่างล้นเหลือ (แบบไม่ยัดเยียดในการนำเสนอ) กลับมาให้ถกและสานต่อยอดความรู้อีกต่างหาก นวนิยายมีขนาดความหนา 706 หน้า แบ่งเป็นสี่ภาค ไม่ยาวเลยสำหรับการอ่าน สนุกได้อรรถรส ผู้ประพันธ์มีความละเมียดละไมทางภาษามาก แถมสรุปจบได้น่าประทับใจ คนทำดีย่อมได้ดีในตอนท้ายแน่นอน ขอเพียงความอดทนเท่านั้น ....

ในวารวัน ของพี่เอียด อ่านได้ความรู้สึกประมาณเดียวกับรากนครา คือ รู้สึกชอบทั้งสองเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว อ่านมาแล้วสองรอบ ยังอยากจะกลับไปอ่านอีกครั้งอยู่เรื่อยไปเพราะรู้สึกว่ายังเก็บเกี่ยวได้ไม่หมด นิยายเรื่องนี้เป็นภาคแรกของเรื่อง “ตะวันเบิกฟ้า” ส่วนเรื่องหลังเป็นรุ่นหลาน น่าสนุกเหมือนกัน แต่ผมยังมะได้อ่าน อิอิ ...

สำหรับเนื้อความในเรื่องเป็นเรื่องของแม่วัน (นางเอกของเรื่อง)กับพ่อเทิด (พระเอก) ที่มีชีวิตในช่วงสมัยรัชกาลที่ ๕ จวบจนถึงสมัยรัชกาลที่ ๘ ซึ่งเป็นภาคที่สี่ ภาคสุดท้าย ชีวิตของแม่วันระหกระเหินไปมาในวงล้อของโชคชะตาจนต้องฝ่าด่านยากนี้ด้วยความอดทนและปล่อยวาง มีธรรมะอยู่ในใจตลอดเวลา ผมน้ำตารื้นกลับตอนหนึ่งของเรื่องที่ว่า ...

..แม่วันเลื่อนตัวลงมานั่งคุกเข่าปลายเท้าย่า แนบหน้าศรีษะกับฝ่าเท้าอันเย็นชืด กราบลงด้วยความรัก ความเคารพ และสำนึกในบุญคุณสูงสุด ก่อนจะลุกขึ้นเดินด้วยฝีเท้าอันเบากริบ .... ย่าคงหลับสบายและเป็นสุข สีหน้าอิ่มเอิบพริ้มเพรา และรอยยิ้มที่ริมฝีปากเธอว่าอย่างนั้น ...
เธอไม่ยอมให้ความทุกข์ยากแบบใหนรบกวนย่าได้อีก …
ท้องฟ้าภายนอกเพิ่งแสงแรกของอรุณที่ตีนฟ้า แม่วันเดินผ่านเรือนหลังใหญ่ไปหาครูเนื่อง ...
ทันทีที่ครูเนื่องเปิดประตู เด็กหญิงก็ถาม ..
“ ครูเนื่องคะ ย่าไม่อยากให้ฉันลำบากต้องเลี้ยงดูย่าใช่ไหมคะ ถึงได้รีบร้อนไปตั้งแต่ป่านนี้..” ...เอาอีกแล้วกระแสน้ำเริ่มไหลบ่ามาท่วมร่างเธอ มันเชี่ยวกรากรุนแรงราวน้ำป่าที่พังทลายเขื่อนดิน ..
“ ฉันตั้งใจทำงาน ตั้งใจจะเก็บออม ทำมาหาเลี้ยงไม่ให้ย่าลำบาก ทำไมย่าไม่ยอมให้ฉันทำอย่างที่ตั้งใจ ทำไมย่าไม่อยู่เพื่อดูฉัน ดูว่าฉันสามารถอยู่ได้ดี ฉันสามารถเป็นคน....คน...ดีได้ ท่าม....กะ...กลางความยากลำบาก อยู่ได้เพราะคำสั่งสอนของย่า..”
“ แม่วัน ...แม่วัน....พุทโธ่เอ๋ย....แม่วง...คุณพระคุณเจ้าช่วย..”
ไม่ต้องบอกสักคำครูเนื่องก็รู้ ผู้สูงวัยพูดได้เพียงแค่นั้นก็ต้องอ้าแขนรับร่างเล็กบางของผู้เยาว์ไว้ ปากก็ร้องเรียกทั้งนางปริกและนางจาดเสียงขรม ...
เด็กหญิงมิได้รับรู้สิ่งใดอีกแล้ว นอกจากโลกอันมืดและเย็นเฉียบ ...
(หน้าที่ ๒๒๙ ถึง ๒๓๐ )


ในวารวัน จึงเป็นนวนิยายในดวงใจผมอีกเรื่องด้วยประการฉะนี้ครับ ...
วันนี้อยากจะชวนเชิญชาวหนอนไปหาอ่านงานที่มีคุณค่าต่อชีวิตอย่างเรื่องๆนี้กันนะครับ ใครอ่านแล้วรู้สึกอย่างไร..ประทับใจมากๆ เหมือนผมไหม บอกกล่าวเล่าสู่กันฟังนะครับผม ..สวัสดีครับ ..




 

Create Date : 29 กันยายน 2550    
Last Update : 29 กันยายน 2550 22:20:38 น.
Counter : 1760 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  

เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




เข้าสู่ปีที่ 8
Friends' blogs
[Add เมฆชรา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.