จนตรอก * ชาติ กอบจิตติ
จนตรอก * ชาติ กอบจิตติ จำได้ว่าสมัยเด็ก ๆ ชอบอ่านวรรณกรรมเพื่อชีวิตมาก .. ติดตามงานเขียนของพี่วัฒน์ พี่ชาติ พี่ประชาคม พี่กนกพงศ์ พี่วินทร์ พี่จำลอง อ.เสกสรรค์ อ.ไพฑูรย์ พี่นิคม พี่นิเวศน์ พี่เดือนวาด พี่อัญชัน พี่เสารี พี่ชัญวลี และอีกหลายท่านที่จำไม่ค่อยได้แล้ว .. จุดเด่นของงานเขียนแนววรรณกรรมเพื่อชีวิตที่สังเกตได้ก็คือ มีเนื้อหาหนักแน่น จริงจัง หดหู่ เศร้าหมอง ฟาดฟันและโบยตีตัวละครอย่างสุดจะทนได้ .. แต่ข้อดีที่เราได้รับตรงๆเลยก็คือ การมองสะท้อนภาพผู้คนเหล่านั้นจากการอ่านนวนิยายหรือเรื่องสั้นนั้นๆได้อย่างถึงแก่นแท้ของชีวิต จนบางทีถึงกับอ่านไปเช็ดน้ำตาไปก็มี .. นวนิยายขนาดสั้นเรื่อง .. จนตรอก ของพี่ชาติ กอบจิตติเรื่องนี้ก็มีข้อดีอย่างที่เกริ่นมาข้างต้นด้วยเหมือนกัน .. งานเขียนของพี่ชาติได้รับการการันตีจากหนอนหลายๆท่านว่าดีเด่นอยู่หลายเรื่อง .. อย่างคำพิพากษา / เวลา / พันธุ์หมาบ้า /จนตรอก / หมาเนาลอยน้ำ / นครไม่เป็นไร /มีดประจำตัว เหล่านี้ เป็นต้น .. จนตรอก เป็นเรื่องของชีวิตครอบครัวยากจนครอบครัวหนึ่ง มีหัวหน้าครอบครัวชื่อ บุญมา .. ครอบครัวนี้มีสมาชิกทั้งหมด 6 คน มีปู่อายุมากที่เพิ่งเดินทางมาจากบ้านนอก มีเมียของบุญมาที่เล่นชู้ไม่ค่อยได้เจอหน้า มีลูกสาวคนโตที่พ่อเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโสเภณี .. มีเด็กชายวัยกำลังเติบโตชื่อ ออด และเด็กชายตัวเล็กชื่อว่า ดำ .. โศกนาฏกรรมเริ่มต้นที่บ้านหลังเล็กโกโรโกโสหลังนี้ .. เพลงชีวิตเริ่มต้นและจบลงด้วยความเศร้าเพราะบุญมาติดคุกหัวโตตลอดชีวิต โทษฐานพยายามฆ่าลูกตัวเอง .. พอผมหยิบนวนิยายขนาดสั้นเรื่องจนตรอกของพี่ชาติ กอบจิตติเรื่องนี้ขึ้นมาอ่าน .. เหมือนถูกทุบด้วยค้อนขนาดใหญ่ไปที่หัว เพราะความเศร้าสะเทือนใจส่งตรงมาเป็นระลอก ๆ อยากจะปิดหนังสือไปเลยก็ทำไม่ได้เพราะสำนวนภาษา การสร้างภาพตามจินตนาการคนแต่งทำได้ดีมาก ( เน้นย้ำให้ดูตอนที่ปู่ถูกน้ำหม้อข้าวตกใส่ขาและเท้า โอ้โห ..ไม่มีคำบรรยายอะไรอีกแล้ว) งานเขียนชิ้นนี้เท่าที่ทราบรู้สึกจะเป็นงานเขียนประเภทนวนิยายเรื่องแรกๆ ของพี่เค้า ( ต่อมาก็ได้รับดับเบิ้ลซีไรท์จากคำพิพากษา กับเวลา) หลังจากนั้นก็มีงานขึ้นหิ้งแทบจะทุกเรื่อง .. ผมไปขุดเอานิยายเรื่องนี้มาอ่านก็เพราะติดตามข่าวของคุณอุทิศ เหมะมูล นักเขียนซีไรท์ล่าสุดบอกว่าลับแลแก่งคอยก็ได้รับคำแนะนำจากพี่ชาติ กอบจิตติมาด้วยเหมือนกันกับน้องศักดา สาแก้วนักเขียนยัง ฯ ค่ายนานมีก็ได้รับแรงบันดาลใจจากงานเขียนของพี่ชาติ มาเยอะพอสมควร .. นิยายจนตรอก .. บอกอะไรเรามากมาย รวมทั้งชีวิตที่ทุกข์ยาก ตกในห้วงวิบากกรรมไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อนหนอนคงอยากจะทราบชีวิตทั้งหกว่าจะเป็นยังไงกันใช่ใหมครับ .. * ปู่ .. หลังจากถูกตีเจียนตายพร้อมเงินก้อนนั้น กลับมาพิการ ทำงานไม่ได้ .. สุดท้ายก็ต้อง ... * บุญมา .. เมื่อได้บ้านมาก็ต้องออกเรือประมง จนติดคุกที่พม่า กลับมาไม่มีอะไรเหลือ นอกจาก .. * เมียบุญมา .. หายไปจากชีวิตครอบครัว เพราะขาดความรับผิดชอบ คิดถึงแต่ตัวเอง .. * ลูกสาวคำโต .. หายไปพร้อมกับถูกตราหน้าว่าเป็นคุณโส ..ไม่กล้าเข้ามาบ้านอีกเลยต่อจากนั้น * ออด ... เด็กน้อยผู้น่าสงสารต้องดิ้นรนเฮือกสุดท้าย จนต้องติดคุกไม่รู้อนาคตข้างหน้า .. * ดำ .. ชีวิตที่เกิดมาก็ยากลำบากอยู่แล้ว สุดท้ายก็ต้อง .... เพราะผู้เป็นพ่อ นานๆจะได้อ่านเรื่องเศร้าสุดกู่แบบนี้เสียครั้งหนึ่ง .. น้ำตามันจะไหล แต่ก็ไหลไม่ออก .. รู้อยู่อย่างเดียวว่า .. ชีวิตที่ได้เกิดมาเป็นตัวเราในตอนนี้ เวลานี้ ก็ดีมากมายนักหนาแล้ว .. จะไปคาดหวังหรือเสาะแสวงหาอะไรกันอีก .. วันนี้เชิญชวนเพื่อนๆหนอนที่ถวิลหาอารมณ์วรรณกรรมเพื่อชีวิต .. ประเภทอ่านไป .. อึ้งไป .. ตลอดเวลาจนจบเรื่องในเวลาอันรวดเร็วเรื่องจนตรอก ของพี่ชาติ กอบจิตติเล่มกันนะครับ .. สวัสดีวันจันทร์ สุขสันต์การกินเจที่สำเร็จตามตั้งใจ ..นายเมฆชรา
Chatty Cop * ninaM
Chatty Cop * ninaMปกติผมจะไม่ค่อยได้อ่านนิยายประเภทหวานแหว๋ววัยรุ่นจ๋าอย่างนิยายที่ออกมาจากค่ายต่างๆ อย่าง แจ่มใส /ไฟน์บุ๊ค / อักษรศาสตร์ / กระซิบ /ซูการ์บีด /ยาหยียาใจ และอีกหลายสำนักพิมพ์สักเท่าไหร่ .. ด้วยเพราะหนึ่งวัยเลยสามสิบมาพอสมควรแล้ว สองพอลองเปิดอ่าน ๆ ดูได้สักสิบยี่สิบหน้าก็ทนไม่ได้ (ด้วยสาเหตุอะไรไม่ขอบอก อิอิ) ข้อสามก็คือน้องนักเขียนรุ่นใหม่ยังมีชั่วโมงบินไม่เพียงพอทั้งการใช้ภาษา คำ รูปประโยค ถ้อยสำนวน และรายละเอียดปลีกย่อยที่เป็นเหมือนเครื่องเคียงนวนิยายอีกมากมาย ( แต่หลายท่านก็เขียนใช้ได้อยู่นะครับ) .. ผมทราบว่ามีนิยายของหลายสำนักพิมพ์ได้รับความนิยมจนถึงกับนำไปสร้างละคร .. ค่ายแจ่มใสก็มีหลายเรื่องอย่าง เทใจรักนักวางแผน / จำเลยกามเทพ /ปฏิบัติการรักต้องแย่ง (กุหลาบตัดเพชร) ค่ายอื่นๆ ก็มีเรื่อง .. รักข้ามรั้ว / มาเฟียที่รัก และอีกหลายเรื่อง .. แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ค่อยจะหยิบนิยายกลุ่มวัยรุ่นขึ้นมาแล้วไปจ่ายกะตังค์ที่เคาท์เตอร์ซะที กระทั่งมีคุณพี่เจ้าเก่าคนเดิมแนะนำว่าลองไปอ่านนิยายเรื่อง Chatty Cop ของนินาม( ninaM)นี้ดู ถ้าไม่สนุกซาบซึ้งน้ำตาไหลพรากก็ให้มาทุบ เอ๊ย มาว่าได้ .. ขั้นตอนต่อไปของผมก็เหมือนเคยนั่นก็คือ ..ออกตามหาล่านิยายเรื่องนี้อย่างจริงจัง .. กระทั่งพบเจอที่ห้องสมุดกองทัพภาคที่ ๒ เหมือนสวรรค์ทรงโปรด ..ได้หยิบยืมมาอ่านในทันที ..แรกอ่านก็ยังเฉย ๆ กับการสนทนาของคนสองคนระหว่างนางเอกคือ .. แอม กับนายตำรวจนิรนามที่ชื่อ .. เมษ ..อ่านไปอ่านมาชักเอะใจ .. มันเป็นสนทนาที่ไม่ธรรมดาเสียแล้ว .. ความสนุกเริ่มต้นเมื่อทั้งสองบอกความคิดความรู้สึกพรั่งพรูออกมาด้วยถ้อยทีสนุกสนาน น่ารัก อบอุ่น ทีเล่นทีจริง .. คล้ายชีวิตจริงของเรา ๆ เป็นกันอยู่ยังไงก็ไม่รู้ .. ผมบอกไม่ถูกว่าโดนยังไง ..รู้แต่ว่ายิ่งอ่านไปเรื่อย ๆ ยิ่งติดใจหนักขึ้น ๆ .. นิยายบ้าอะไรเนี่ย .. อยากจะวางไปทำอย่างอื่นก็วางไม่ลง เพราะอ่านสนุกเหลือเกิน .. การเดินเรื่องเริ่มกระชับ มีตัวละครเพิ่มเข้ามาอีกตัวสองสามตัว (จากที่พระเอกกับนางเอกคุยกันเองมาครึ่งเล่ม) ยิ่งไม่อยากจะให้เรื่องจบเลย .. พอหนังสือเริ่มบางลง ใจก็หาย พระเอกจะตายไหม .. นางเอกกำลังร้องไห้ กำลังจะป่วย กำลังจะตาย ... โอย .. ทำไมมันเศร้าอย่างนี้ .. ตกลงเราคนอ่านจะรู้ไหมว่าพระเอกเป็นใคร ? .. มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้หรือไม่ .. ทำไมพระเอกถึงหายไป .. แล้วจะตายต่อจากนั้นไหมล่ะเพราะตอนแยกกันกับนางเอกครั้งสุดท้ายกำลังป่วยเจียนตายนี่นา .. คำถามทุกคำถามประเดประดังเข้ามาจนอยากจะเปิดไปที่หน้าสุดท้ายของนิยายเรื่องนี้โดยเร็วไว .. อดทนไว้ อดทนไว้ .. ความไม่น่าเชื่อที่ผมเจอมาข้างต้นคือความอัศจรรย์ใจของนิยายค่ายแจ่มใสเรื่อง .. Chatty Cop ของนินาม( ninaM) เรื่องนี้ .. ถ้าเพื่อนหนอนมีโอกาสได้อ่านหรือเคยอ่านผ่านตามาแล้ว ก็คงคิดแบบผมเป็นแน่ ..สำหรับผมความรักในโลกออนไลน์บนเรื่องราวของแอมกับเมษ ยังติดตราตรึงใจไปไม่รู้ลืมนานแสนนาน ..ซึ่งถ้าให้เลือกตอนจบได้ ผมอยากจะให้จบถึงตอนที่นางเอกของเรานั่งตรงชิงช้าร้องไห้ออกมากับสายฝน ด้วยความคิดถึงคุณตำรวจที่รักอย่างนายเมษ .. คนนั้นอยู่อย่างนั้นไม่รู้อีกนานแค่ไหน .. ฮือ ๆ ๆ ๆ เศร้าจริงๆ ..วันนี้วันพฤหัสสีส้ม .. มาชวนเพื่อนหนอนที่น่ารัก มาอ่านนวนิยายซาบซึ่งประทับใจที่พูดคุยกันเพียงสองคนทั้งเรื่องได้อย่างสนุกสนานวางไม่ลง แม้เวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไหร่ก็ตาม จึงขอสรุปด้วยคอนเช็ปความดีเด่นของนิยายเรื่องนี้สั้นๆง่ายๆว่า ..“ .. ของเขาดีจริงๆ .. อิอิ ” ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑
เป็นที่หวังดังดวงดาว * ก.ศยามานนท์
เป็นที่หวังดังดวงดาว * ก.ศยามานนท์พอได้รับคำชมว่ามีคนติดตามอ่านบล็อกรีวิวหนังสือของตัวเอง ก็รู้สึกเหมือนได้ยาชูกำลังชนิดอย่างดีมาชุบชโลมหัวใจให้ชุ่มชื่นพอมีแรงเขียนอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าเพื่อนหนอนที่แสนน่ารักจะเบื่อกันไปข้างหนึ่ง .. วันก่อนไปร่วมงานชุมนุมเพื่อนๆ ชาวพงศกรคลับของพี่หมอโอ๊ต .. งานเลี้ยงสนุก / อาหารอร่อย / กิจกรรมก็ยอดเยี่ยม / แถมได้หนังสือและผัดหมี่กรอบทรงเครื่องกลับบ้านคนละกล่องสองกล่องประทับใจกันถ้วนหน้า .. งานนี้ขอขอบพระคุณพี่หมอโอ๊ตพงศกร เจ้าภาพงานที่เอื้อเฟื้อสถานที่และกิจกรรมดีๆแบบนี้ ... ผมนายเมฆชราขอให้กิจการท่านพี่ร่ำรวย เฮง ๆ ตลอดไปนะครับผม.. ในระหว่างที่สนทนาประสาคนหล่อ (เอิ้ก .. ตรงไหน) กับพี่หมอทอมมี่กับน้องศศิศ .. เจ้าของบ้านก็ค่อยย่องมาแล้วยื่นหนังสืออ้วนๆเก่าๆเล่มหนึ่งมาให้แล้วกำชับบอกว่า “ อ่ะอิสพี่ให้..” ผมกระเด้งตัวออกจากโซฟาด้วยความดีใจสุดขีดเพราะนวนิยายที่กำลังอยู่ในมือผมตอนนั้นก็คือเรื่อง ... เป็นที่หวังดังดวงดาว ของ ก. ศยามานนท์ ที่กำลังตามล่าหาอ่านมานานอยู่หลายปีดดีดักนั่นเอง .. ก็ต้องขอขอบพระคุณพี่หมอโอ๊ต ( เจ้าของนวนิยายเรื่องล่าสุดขบวนการกิงก่องแก้ว) ที่กรุณากับหนอนตัวน้อยหัวใจผงาดฟ้าคนนี้นะครับ ... เป็นที่หวังดังดวงดาว เป็นผลงานหนึ่งในอีกหลายเรื่องของ ก.ศยามานนท์ เจ้าของบทประพันธ์อันเลื่องชื่ออย่างเรื่อง จ้อนกับแดง / กำไลประดับเพชร / ไข่มุกสีชมพู /ดวงใจในม่านเมฆ /ทรามวัยในวสันต์ และอีกหลายเรื่องที่ผมจำไม่ได้แล้ว อิอิ .. นิยายเรื่อง .. เป็นที่หวังดังดวงดาว เรื่องนี้เป็นเรื่องราวชีวิตอันแสนจะผกผันของสามพี่น้อง นั่นก็คือ ธาริษา ไมตรี สาวน้อยอายุสิบแปดปีผู้งดงามอย่างอ่อนโยน ละเมียดละไม หล่อนมีดวงหน้าอันได้สัดส่วนอย่างน่าชม ที่สวยที่สุดก็คงเป็นนัยน์ตาอันกว้างใหญ่มีขนตาหนาทึบและคิ้วอันดกดำ จมูกและปากของหล่อนได้รูป มียิ้มอย่างหวานชื่นจากริมฝีปากที่อิ่มเต็มนั้น หล่อนมีความงามโดยมิต้องอาศัยเครื่องตบแต่งใดๆเลย .. ส่วนผู้เป็นน้องคนกลาง ก็คือ ธาริน ไมตรี จัดเป็นเด็กสาวผู้น่ารักน่าเอ็นดูโดยแท้ หล่อนไม่มีลักษณะความงามอันอ่อนโยน หากคมขำอย่างเอกอุ ความเฉลียวฉลาดส่อสำแดงควบคู่มากับอัจฉริยภาพ จมูกที่รั้นน้อยๆ บอกความไว้วางตัว และปากที่ได้รูปนั้นคงจะเต็มไปด้วยถ้อยคำอันแหลมคม .. สาวน้อยธารินมีอายุเข้าสิบเจ็ดปีเท่านั้นเอง ... ทั้งธาริษาและธาริน ไมตรี คือตัวละครเอกของเรื่องที่นำพาเรื่องราวนิยายเป็นที่หวังดังดวงดาว ให้เคลื่อนเลื่อนไหลไปตามเหตุการณ์ที่สนุก เข้มข้น พลิกผันอยู่ตลอดทั้งเรื่อง .. เริ่มต้นที่กระติกกับกระเตง สองนางเอกของเราได้มาพักอาศัยอยู่บ้านย่าแท้ๆของตัวเองอย่างอัดคัตขัดสนเพราะต้องไปอยู่เรือนหลังเล็กแทนที่จะอยู่ตึกใหญ่โตโอ่โถงสมชาติวงศ์พงศา โดยมีสองแม่ลูกมหาภัยอย่างนางลำยองกับลักษมี คอยยุแหย่ผู้เป็นย่าอยู่ตลอดเวลาด้วยเรื่องราวต่างๆ .. เรื่องราวเข้มข้นขึ้นเมื่อพระเอกโผล่มาพร้อมตัวร้ายฝ่ายชาย .. พระเอกของเราคือ วสิต วราธิวัตรกับหม่อมราชวงศ์ภาดา คำแดง สองหนุ่มสหายรักเสมือนญาติสนิทกับ ม.ร.ว.นภดล คำแดง .. ผู้เป็นพี่ของภาดานั่นเอง ..ความสนุกสนานเพลิดเพลินพลิกผันโศกเศร้าเคล้าน้ำตาเริ่มต้นที่ชายทะเลสามมุข ไล่เรียงต่อเนื่องมาถึงพระนครในความยาวของนวนิยายเล่มโต ๔๒ ตอนจบ ๗๗๘ หน้า ตอนจบของเรื่องมีหักมุมด้วย .. ผมอ่านจบแล้วในสองคืนเกือบตีสอง วางไม่ลงเลย .. อยากจะเล่าเรื่องย่อทั้งเรื่องให้เพื่อนๆฟัง แต่ก็เล่าได้ไม่เต็มที่เพราะกลัวจะข้ามตอนสนุกไป เอาเป็นว่าสรุปตอนจบเรื่องนี้ก็คือแฮปปี้เอนดิ้ง สมรักทั้งสองคู่ ... แต่ที่น่าติดตามคือระหว่างเส้นทางความรักของทั้งสองคู่ มันน่าติดตาม น่าใจหายใจคว่ำไปเสียเหลือเกิน ...นัยยะความหมายของชื่อเรื่องตามความคิดของผม ... เป็นที่หวังดังดวงดาว ก็คงจะหมายถึง .. สิ่งที่นางเอกของเรื่องคือ กระเตง ฝันอยากจะเป็นนักประพันธ์เอกได้เพียรพยายามไต่หาฝันจนสำเร็จ พร้อมกับความดีงามของตนเองจนชนะอุปสรรคทุกสิ่งอย่าง นั่นรวมถึงความรักแท้ด้วย .. ธาริษาก็เช่นเดียวกัน เธอพิสูจน์หัวใจบริสุทธิ์ของรักแท้ตามพรหมลิขิต เฝ้ารอคอยผลลัพท์ของมันอย่างใจเย็น จนวันหนึ่งทุกอย่างก็เป็นที่หวังดังดวงดาว ..“ รัศมีแห่งความดีงามของธาริษา ย่อมจะฉายเด่นให้ “ ใครคนหนึ่ง ” ได้ประจักษ์แจ้งใจ ..”ถ้าเพื่อนหนอนได้ประสบพบเจอนวนิยายรักเข้มข้นสนุกเรื่องนี้ก็อย่ารีรอที่จะหยิบขึ้นมาอ่านกันนะครับผม .. รับรองว่าเรื่องนี้เอาไปเลยห้าดาวเต็มสำหรับความสนุกสนาน สี่ดาวสำหรับสำนวนภาษาอันวิจิตรอลังการ .. แต่ผมก็อดจะแปลกใจไปไม่ได้ว่าคนรุ่นเก่าสมัยคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย (พ.ศ. ๒๕๐๔) ได้มีนวนิยายไทยที่อ่านสนุกมากๆๆๆ อย่างนี้ด้วยอยู่หลายเรื่อง (อย่างงานของคุณน้อย ชลานุเคราะห์ที่ผมจับมารีวิวอยู่บ่อยๆ) แถมพล็อตเรื่อง โครงเรื่องประมาณนี้ยังยืนยงคงอมตะอยู่บนจอโทรทัศน์บ้านเราในตอนนี้ไม่แตกต่างจากนวนิยายสมัยก่อนเลย .. ถ้าหากน้องๆนักเขียนรุ่นใหม่ได้อ่านบล็อกนี้ก็ลองไปหาอ่านงานเขียนนวนิยายรุ่นเก่าอย่างที่ผมรีวิวมาดู ก็จะทราบว่าภาษาไทยของเรานั้นวิจิตรบรรจง สวยงามเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น ยากจะหาชาติใดเสมอเหมือนได้อีกแล้ว .. ที่สำคัญนักประพันธ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในสมัยก่อน ต้องฝ่าด่านอรหันต์ของนักภาษาไทยกับคนอ่านมากมายแค่ไหน ถึงจะได้รับการพิมพ์นวนิยายไทยให้เราได้อ่านอย่างซาบซึ้งและเข้าถึงความคิดตัวละครอย่างชนิดที่ประทับใจกับไม่รู้ลืมเลือนเลยทีเดียวเชียวครับ ..วันนี้วันพฤหัสบดี .. ใกล้เทศกาลกินเจแล้ว ขอให้เพื่อนหนอนมีความสุขกันมากๆ นะครับ ..นายเมฆชรา
ชะรอยบุญ * น้อย ชลานุเคราะห์
ชะรอยบุญ * น้อย ชลานุเคราะห์ช่วงนี้บ้านเมืองเรามีเรื่องราวมากมายให้ได้คิดทั้งปัญหาการเมือง อุทกภัยพายุฝน ข่าวคราวทางทหาร และเรื่องอื่นๆอีกหลายเรื่อง ในฐานะเป็นหนอนตัวน้อยก็อยากจะขอให้เพื่อน ๆ ช่วยส่งกำลังใจช่วยทุกฝ่ายให้ทำหน้าที่ลุล่วงไปด้วยดี ...ชะรอยบุญ * เป็นรวมเรื่องสั้นเล่มเดียวของคุณน้อย ชลานุเคราะห์ที่ผมได้รับความอนุเคราะห์จากพี่หมอทอมมี่เจ้าเก่าคนเดิม ไปคว้ามาจากร้านหนังสือเก่าแถวจตุจักรแล้วหยิบยื่นให้เมื่อคราวได้พบเจอกันท่ามกลางความสวยงามของธรรมชาติเขาใหญ่ ... ข้าน้อยขอขอบพระคุณพี่หมอผู้ใจดีเป็นอย่างสูงมา ณ ที่โอกาสนี้ด้วยนะครับ ... ชะรอยบุญเป็นรวมเรื่องสั้น จำนวน ๑๒ เรื่องที่แสนสนุกได้สาระให้กับชีวิต ผมจะขอรีวิวยกตัวอย่างเรื่องที่อ่านสนุกให้เพื่อนๆ สักห้าหกเรื่องนะครับ ... เริ่มต้นเรื่องแรกคือ ... 1. ชะรอยบุญ * เรื่องนี้เป็นเรื่องของศิรี ... สาวแก่นแก้วตามหาความรักจนพบรักกับนาวิน นายร้อยสุดโก้หรู แต่โชคชะตาดันแกล้งให้ผู้หลักผู้ใหญ่จับหมั้นหมายกับชายหนุ่มที่เหมาะสม เอาล่ะสิที่นี้คุรปุ๊นางเอกของเราจะสมรักได้อย่างไร ... นี่คือไฮไลท์ของเรื่องนี้แหละครับเพื่อนๆ 2. แบบละคน * เรื่องนี้ตอนคุยกับพี่หมอทอมมี่ก็ยังงงๆกับชื่อเรื่องว่าคล้ายชื่อนวนิยายเรื่อง “คนละแบบ”ที่เป็นเรื่องยาวครั้นพออ่านไปก็เข้าใจว่าชื่อเรื่อง ๆ นี้เหมาะสมกับแนวเรื่องแล้ว เรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องของคู่รักที่ผิดฝาผิดตัว ...ธวัช หนุ่มหล่อมาดดีมีคู่หมั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องชื่อพิศเสน่ห์ แต่ดูแล้วทั้งคู่ไม่น่าจะไปด้วยกันได้เพราะรสนิยม ความชอบ และทัศนคติไปคนละทิศคนละทาง .. วันหนึ่งธวัชพบเจอกับทัชชา น้องสาวแสนสวยของเพื่อนรัก ...จึงตกหลุมรักเจ้าหล่อนในทันที .. อ่ะทีนี่ผมอยากให้เพื่อนหนอนทายว่าธวัชจะได้แต่งงานกับใครระหว่างพิศเสน่ห์ สาวสวยเปี่ยมเสน่ห์กับทัชชา ผู้สวยหวานเยือกเย็นใจคนนี้ ...ทายไว้ในใจ ไม่มีรางวัล อิอิ 3. บุพเพสันนิวาส * พออ่านจบผมชอบพล็อตเรื่องนี้จังเลย เรื่องมีอยู่ว่าราญ หนุ่มรูปงามเดินไปตามถนนแล้วพบเจอรูปถ่ายของหญิงสาวที่เขาบรรยายไว้ว่า “... ภาพน้อยใบนั้นเปนดวงหน้าของดรุณีแน่งน้อยคนหนึ่ง ถ่ายไว้เพียงครึ่งตัว ใบหน้าอ่อนกำลังอยู่ในท่าหัวเราะซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติอย่างที่สุด หวานน่ารัก ดวงตาคมวาวเยิ้มเกือบจะหยด ฟันซี่เล็กเรียบปากเป็นรูปคันธนู ผมสลวยยาวประบ่า แบบธรรมดารับกับวงหน้าอย่างไม่มีใครเหมือนได้ ... และมีลายเว็นไว้ด้วยลายมือเล็กๆ เรียบงดงามเปนระเบีบด้วยคำสั้นๆว่า ... สริยาค่ะ พี่คะ ...” ราญจึงเพ้อละเมอหาแต่สริยาโดยไม่รู้ว่าหล่อนเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ... แต่ด้วยความบังเอิญที่เพลินกมล คู่รักเห็นรูปถ่ายเข้าเสียก่อนจึงเกิดเรื่องราวขึ้นมา ... เรื่องสั้นเรื่องนี้อ่านสนุกเพราะมีประโยคคำพูดระหว่างตัวละครหลักสามตัวปะทะคารมกันตลอดทั้งเรื่อง ก่อนจะจบด้วยความสุข ...สรุปแล้วผมชอบเรื่องนี้เพราะเข้มข้นห้าดาวเต็ม แถมชื่อเรื่องก็โอ้โห โดนใจวัยรุ่นอย่างเรา ๆ มากมาย ... 55555.. 4. บัตรเชิญสีฟ้า * เรื่องนี้ก็สนุกเป็นเรื่องความเข้าใจผิดของนางเอกคือสุมนากับพระเอกของเราคือรอง ...เมื่อพบเจอกับบัตรเชิญสีฟ้าที่เป็นปริศนา ... สุมนาจะขอยกเลิกการหมั้นหมายกับรองเพราะการ์ดใบนี้ใบเดียว ..ในตอนจบ เพื่อนหนอคงอยากทราบแล้วใช่ไหมรับว่าตกลงบัตรเชิญใบนี้มีที่มายังไง ใครเป็นคนส่ง ..?????? 5. ชาติที่รัก * ในรวมเรื่องสั้นชุดนี้ผมชอบเรื่องนี้มากที่สุดอีกเรื่อง ... แค่ชื่อเรื่องก็สุดแสนจะกินใจ ชาติที่รัก คำว่าชาติในที่นี้คือรั้วของชาติ .. ในวรรณกรรมยุคนี้ไม่ว่าจะเป็นนวนิยายหรือเรื่องสั้นจะหาอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับทหารหาญในมุมมองนักเขียนหญิงได้ยากเต็มทน ... เรื่องนี้เป็นเรื่องรักสามเศร้าของนางเอกของเราคือเจือจันทร์กับสองพระเอกหนุ่มร้อยเอกชิดชัยกับร้อยเอกรุทธ ... เรื่องอาจจะธรรมดาถ้าชิดชัยไม่ใช่พี่ชายของเจือจันทร์ แต่มีความพิศวาสรักน้องสาวตัวเองถึงขั้นอยากอยู่ร่วมหอลงโรงด้วย ... แต่เจือจันทร์หาได้รักพี่แบบนั้น เพราะหัวใจของเธอได้ผูกไว้กับร้อยเอกรุทธจนหมดใจแล้ว ...ต่อมาเกิดสงครามวีรชนกลับบ้านพร้อมบาดแผล ชิดชัยกลับมาในสภาพปกติแต่พระเอกของเราขาขาดไปข้างหนึ่ง ... เรื่องสั้นเรื่องนี้คุณน้อยเขียนตอนจบได้ซาบซึ้งประทับใจไม่มีวันลืมเลือนได้เลย ... “ รุทธของเจือจันทร์เป็นคนพิการ เจือเป็นคนน่ารักและสวยมาก รุทธไม่อยากให้เจือต้องได้รับความอับอาย ชิดชัยรักเจือมาก เจือควรเห็นใจชิดชัยบ้าง ปล่อยรุทธไปตามยถากรรมเถอะจ๊ะ” หญิงสาวยกมือขึ้นปิดปากเขาไว้ทันที “ ไม่ต้องพุดอะไรมาก บอกมาคำเดียวว่า รุทธหมดรักเจือจันทร์แล้ว เจือจะแต่งงานกับใครๆก็ได้ไม่ใช่เฉพาะชิดชัยเท่านั้น รุทธรับได้ไหมล่ะว่าไม่รักไม่ต้องการเจือคนนี้แล้ว” “ โธ่ เจือจันทร์ยอดรักของรุทธ ไม่เคยรักเจือน้อยลงเลย” รุทธคราง “ ถ้าอย่างนั้น เจือจันทร์คนนี้เป็นของรุทธแน่ ให้รุทธตาบอด แขนขาด ขาขาดเพื่อประเทศชาติแล้ว เจือไม่ทิ้งรุทธเลย” หญิงสาวพูดหนักแน่น “ชื่นใจของรุทธ ถ้าดอกไม้ของชาติเป็นอย่างนี้ทุกคนแล้ว ชาติต้องเจริญแน่” แล้วร้อยเอกหนุ่มพิการ ก็ได้แอบชื่นใจยอดรักของเขาจริงๆ อย่างดูดดื่ม .. เป็นไงครับตอนจบซึ้งไหมครับ ... นี่แหละผลงานเรื่องสั้นตัวอย่างทั้งห้าเรื่องของคุณน้อย ชลานุเคราะห์ชุดชะรอยบุญ เรื่องอื่นๆ ก็สนุกนะครับมี ... พยุงใจ(ชื่อนางเอก)/ ไก่แก่ / รักอะไรกันแน่/อนิจจาผู้ชาย/เกือบเข้าใจผิด/ฟ้าสางเดือนดับ/ซ้อมละคร รวมเรื่องสั้นชุดนี้จึงสมควรที่หนอนควรไปหามาเก็บสะสมด้วยประการทั้งปวง ... ส่วนผมถ้าไม่ได้พี่หมอทอมมี่ก็คงไม่ได้ซาบซึ้งกับความรักในรูปแบบต่างทั้งสิบสองเรื่องแน่ๆ ... งานเขียนของคุณน้อยอีกสองเรื่องที่ผมมีคราวหน้าจะมารีวิวต่อก็คือ มาลัยทิพย์กับสุดชีวิต เป็นนวนิยายเรื่องยาว ... เพื่อน ๆ หนอนติดตามกันได้ที่บล็อกนี้นะครับผม ... ขอนอกเรื่องอัพเดทนิยายเรื่องใหม่ ๆ ที่กำลังวางแผงตามร้านหนังสือทั่วไป ขอเพื่อหนอนช่วยอุดหนุนนวนิยายไทยกันบ้าง (ท่ามกลางนิยายแปลต่างประเทศล้นแผงขณะนี้) ก็มี ...เสือเพลินกรงของ ผาด พาสิธรณ์ / นกก้อนหิน ของพี่บินหลา สันกาลาคีรี / ก้าวไปเก็บจันทร์พันดวง ของพี่ประชาคม ลุนาลัย / เลือดรักเลือดลวง ของ ณินทิรา / ลับแลแก่งคอย ไม่ต้องพูดถึงขายดีกระฉูดอยู่แล้ว และนักเขียนท่านอื่นๆอีกมากมาย (ผมจำไม่ได้ อิอิ) แต่ถ้าถามว่าวรรณกรรมแปลดีไหม ผมก็ตอบว่าดีมากแน่นอน เพราะการเรียนรู้โลกกว้างผ่านวรรณกรรมไม่ว่าชาติใด ภาษาใดย่อมจะให้คุณประโยชน์กับคนอ่านคนเสพมากมายมหาศาลอย่างแน่นอน ... อ่านเถอะครับ อ่าน อ่าน อ่าน อ่าน อ่าน นั้นดีแน่ .... วันนี้วันพฤหัสบดีสีส้มสดใส ฝนตกพรำๆชุ่มฉ่ำหัวใจ ...สวัสดีครับผม .. นายเมฆฉาย
คนละโลก* ม.มธุการี
คนละโลก* ม.มธุการีความจริงอยากจะรีวิวแนะนำนิยายเรื่องอื่นที่ไม่ใช่งานของคุณ ม.มธุการีบ้าง เพราะกลัวเพื่อนหนอนจะเบื่อกันไปเสียก่อน แต่ไหน ๆ แนะนำกันมาสองเรื่องแล้ว ... เลยเกิดอาการอยากจะบอกเล่าความดีเด่นของนิยายเรื่องคนละโลกเรื่องนี้ให้เพื่อนที่ยังไม่เคยได้อ่าน ไปหามาอ่านกันให้ได้ ... เพราะเรื่องนี้ดียอดเยี่ยมจริงๆ ทั้งเรื่องความสนุกน่าติดตามตั้งแต่ตอนแรกจนตอนสุดท้าย ทั้งสำนวนภาษาที่ใช้ก็กระชับไม่ยิ่นเย้อ และที่สำคัญเรื่องนี้เคยทำเป็นละครโทรทัศน์ที่โด่งดังคับฟ้ามาแล้วหลายครั้ง ... คนละโลก เป็นเรื่องราวของชีวิตที่พลิกผันกันไปตลอดเวลาของคนสองคนก็คือพระเอกของเรา ...นายทิเบต ...เขาเป็นคนยากจนดิ้นรนเลี้ยงชีวิตด้วยการทำงานเป็นเด็กยกกระเป๋าโรงแรมหรูกลางเมืองที่มีนางเอกของเรื่อง ... คลเมขลา..ทำงานเป็นผู้จัดการที่นี่ ... เรื่องราวคนละโลกเริ่มต้นที่น้องสาวของทิเบตถูกกานน ลูกพี่ลูกน้องของคลเมขลาข่มขืนจนเกิดท้อง ...เขาจึงไปเรียกร้องความยุติธรรม แต่สิ่งที่ได้รับคือความเหยียดหยามดูหมิ่นว่ามีค่าต่ำต้อยเยี่ยงสัตว์ .. กลายเป็นความแค้นที่ฝังไว้แน่นยากจะหักลบกลบหายไป แม้แต่คลเมขลาจะพยายามไกล่เกลี่ยความผิดด้วยการทำความชดใช้ด้วยเงินทอง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธอย่างไม่ทิ้งรอย ... ทิเบตกลับมาอีกครั้งพร้อมความร่ำรวยขนาดที่สามารถเทคโอเว่อร์กิจการโรงแรมที่คลเมขลาทำงานได้เกือบครึ่งหนึ่งทีเดียว ... หญิงสาวแปลกใจในการกลับมาครั้งนี้ของเขา พร้อมกับคำถามที่ผุดขึ้นมาว่าไปร่ำรวยอะไรมาถึงมีฐานะดีขึ้นมาในชั่วพริบตาไม่กี่ปี ... เหตุผลที่ว่าเริ่มจะกระจ่างเมื่อนางเอกของเราแต่งงาน ทิเบตเริ่มเปิดเผยความรู้สึกกับคลเมขลา ... จนเกิดเหตุการณ์สลับซับซ้อน ซ่อนปม หักหลัง อาฆาต เอาคืน รัก โกรธ หลง ชั่ว ดี และสุดท้ายตอนจบเรื่องก็คือ ... สัจธรรมชีวิตของมนุษย์ทุกคน ... นิยายเรื่องนี้เพื่อนหนอนที่ยังไม่ได้อ่านต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวงที่จะไปหามาอ่าน เพราะดียอดเยี่ยมห้าดาว (ในทัศนะของข้ากระผม อิอิ) ทุกอย่างอย่างที่พูดถึงข้างต้น ... เมื่อบล็อกที่แล้วก็มีเพื่อน ๆ ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้พอสมควร สรุปได้ก็คือ .. ชอบ จบเศร้า น่าสงสารในชะตากรรมของตัวละครมากมากมาก .. ถ้าพูดถึงตัวละคร ... นิยายเรื่องนี้มีครบรสชาติทั้งคนดี คนชั่ว คนเลว คนเหลาะแหละ คนเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน อย่างเช่น กานน , ปุราณ , คุณหญิงนิโลบล , คุณย่า , บุศย์ และอื่นๆอีกหลายตัว ... วันนี้วันพุธสีเขียวสดชื่น ... มาชวนอ่านนิยายสนุกๆเหมือนเช่นเคยกันนะครับผม ... นายเมฆชรา๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑นายทิเบตครับทิเบต+คลเมขลา เวอร์ชั่นแซม+ปรียานุช
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [