กว่าจะได้เห็น...ทะเลหมอก ณ เขาค้อ และ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
กว่าจะตัดสินใจหาสถานที่ count down 2010 เอาจนวินาทีสุดท้ายเลยทีเดียว เริ่มจากคำถามว่า จะไปไหนดี ... ถามกันตั้งแต่เดือน พ.ย. 2009 จองทัวร์ไป แม่ฮ่องสอน สุดท้ายก้อโดนยกเลิกทัวร์ อาจเพราะคนเยอะเกินไป จนวันที่ 29 ธ.ค.2009 ถามครั้งสุดท้าย จะไปไหนดีพรุ่งนี้ ...
และแล้ว การหาที่พักช่วงปีใหม่ก้อเริ่มขึ้นตอนประมาณบ่ายโมง หาในเวปทัวร์ เวปที่พัก โทรสอบถามแต่ละที่ เต็มหมด .. หรือจะกางเต๊นท์ดีนะ แต่ครั้งนี้มีแม่สามีไปด้วย คงไม่สะดวกนัก .. แล้วก้อนึกขึ้นได้ว่าตอนเด็กๆ เคยไปเขาค้อกับพ่อแม่ รีสอร์ทนั้นห้องเยอะดีนะ ลองหาเบอร์ โทรถามดีกว่า และแล้วก้อสมหวัง .. คุณมินตรา ชวนชมรีสอร์ท แจ้งว่า "ว่างค่ะ แต่คืนเดียวนะคะ 30ธ.ค." คืนเดียวแล้วจะยังไงต่ออีก 2 คืนเนี่ยะ กลับมาตั้งหลักใหม่ หาที่ไปต่ออีก 2 คืน .. แฟนบอกว่า งั้นเที่ยวเพชรบูรณ์ 2 วัน 1 คืน ขับรถต่อไปสุโขทัยดีกว่า .. โอเค งั้นดูโรงแรมที่สุโขทัย .. ป่านนั้นก้อเกือบ 5โมงเย็นละ โทรถามทุกโรงแรม เต็มทุกที่ นี่มันอะไรเนี่ยะ จังหวัดที่เราไม่คิดว่าใครๆจะไปเที่ยว แต่ก้อเต็มแฮะ หาไปหามาแบบไม่ย่อท้อ สุดท้ายเจอเวปเอเจนซี่นึง แจ้งว่า รร.ไพลิน ว่างอยู่ ทำการจองเข้าไปอย่างเร็วเลย แต่ต้องรอเมล์ยืนยันภายใน 24 ชั่วโมง ตอนนั้นก้อ 2 ทุ่มกว่าละ พยายามรีเฟรชหน้าเวป เผื่อมีเมล์ยืนยันมาเร็วกว่าที่คิด รอจนประมาณ 4 ทุ่ม ลองโทรเข้าไปหาพนักงานดีกว่า ... ดีมากเลย พนักงานประสานงานดีมาก ไม่ต่อว่าลูกค้าว่าอะไรจะเร่งด่วนขนาดนี้ เค้าตอบว่าทางฝ่ายขายของโรงแรมปิดแล้ว ต้องพรุ่งนี้เช้า 9 โมงเช้าอ่ะ คืนนั้นทั้งคืนยังไม่รู้จะยังไง จะจัดกระเป๋าไหม หรือพรุ่งนี้จะไปไหนดี ตื่นเช้ามา 7 โมงกว่า ออนไลน์แต่เช้า เผื่อว่าจะมีเมล์อัพเดตอะไรเพิ่มเติม ก้อยังไม่มี รอ...จนถึง 9 โมง โทรไปหาพนักงานเวปอีกที เค้าตอบว่า จะรีบประสานงานให้ แล้วอีกประมาณ 10 นาที ก้อมีเมล์กลับมาให้คอนเฟริมเรื่องการชำระเงินได้เลย จองที่พักเรียบร้อย 2 คืน .. จากนั้นรีบโทรกลับไปชวนชมรีสอร์ท จองคืนนี้ 1 คืน โอนเงินผ่านอีแบงกิ้งทันที เย้ๆๆๆ !!! บอกแม่สามี จัดกระเป๋าได้เลย เราจะไปเขาค้อ, สุโขทัย กัน ออกจากบ้าน (กทม.) ประมาณ 10โมงครึ่ง ขับรถไปทาง วงแหวนบางปะอิน ตามเส้นทางในแผนที่ ไปถึงเขาค้อ ประมาณ 4 โมงครึ่ง วันนี้การจราจรยังไม่ติด แค่ขับตามๆกันไป เหมือนรถหลายคันจะไปด้วยกันเลย จิงๆ ขับทางเดียวกัน ใช้ความเร็วพอๆกัน คืนแรกที่เขาค้อ พระจันทร์ส่องสว่างทีเดียว  เช้าวันที่ 31 ธ.ค. วันนี้ต้องเที่ยวพระตำหนัก, อนุสาวรีย์ และต้องขับรถต่อเข้าสุโขทัยอีก ที่รีสอร์ทไม่เห็นทะเลหมอก แต่พอขับรถมาถึงไปรษณีย์เขาค้อ ... ทะเลหมอกสวยอะไรเช่นนี้ ตอนนั้นประมาณ 9 โมงกว่าๆ แม่สามีบอกว่า เห็นแบบนี้ อยากจะกระโดดลงไปนอนเลย ท่าจะนิ่มน่าดู  ถนนในเขาค้อก้อสวยงามดี แต่ธรรมชาติกำลังจะหมดไป เพราะเนินเขา ภูเขาที่เคยเขียวขจี กลายสภาพเป็นรีสอร์ทไปเยอะ ส่วนถนนเพชรบูรณ์-พิษณุโลก ก้อสวยแล้วก้อน่ากลัวด้วย เพราะชันแล้วก้อเล็ก แถมเจอแต่พวกขับรถซิ่ง คิดว่าแน่ ....  ถึงพิษณุโลกประมาณ บ่าย 2 โมง แวะกินก๋วยเตี๋ยว และถึงสุโขทัย ประมาณ บ่าย 3 โมงกว่า รร.ไพลินใหญ่ดี ห้องเยอะ ข้างโรงแรม มีร้านขนมจีน อร่อยดีเหมือนกัน หลังจากเช็คอินแล้วก้อขับรถแวะเข้าไปที่อุทยานฯ เซอร์เวย์หน่อย ปรากฎว่าใกล้จะปิดแล้ว เลยขับรถไปดูวัดที่อยู่นอกอุทยานฯก่อน วัดสะพานหิน เดินขึ้นซะเมื่อยเลย .. ส่วนวัดศรีชุม ต้องเสียค่าธรรมเนียม 20 บาท งั้นพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ดีกว่า จะได้มีเวลาเยอะหน่อย ถ่ายรูปตอนเช้าก้อสวยด้วย ปีนี้ count down เมืองไทย (ปกติจะอยู่เซี่ยงไฮ้) ปีนี้เลยได้รับ/ส่ง sms กันเพียบ ส่วนสามีและแม่สามีนอนกันหมดละ เพราะเหนื่อยขับรถ นั่งรถ เช้าวันปีใหม่ เริ่มต้นที่วัดศรีชุม อยู่นอกอุทยานประวัติศาสตร์ รู้สึกได้เลยว่าสวยงามมากๆ unseen thailand จริงๆ  จากนั้นเข้าไปในอุทยานฯ ค่าธรรมเนียมคนไทยคนละ 20 บาท .. เช่าจักรยานคันละ 20 บาท (รถสีแดง) แรกๆขี่ก้อยังสั่นๆ ซ้ายๆขวาๆ 5555 เพราะไม่ได้ขี่มาหลายปีมาก แต่พออุ่นเครื่องได้ที่ละ ก้อซิ่งได้ละ ภายในอุทยานฯ สวยงาม ใช้เวลาจริงๆแค่แป๊บเดียวก้อชมครบทุกที่ แต่เราไม่ต้องรีบ  ขี่จักรยานดีกว่าเยอะ ได้ออกกำลังกาย ได้รับอากาศบริสุทธิ์ ไม่เปลืองพลังงานด้วย แถมสนุกสนานอีกต่างหาก  ขอจบทริป เท่านี้ค๊า กาญจนบุรี สะพานข้ามแม่น้ำแคว-พร้อมมิตรสตูดิโอ
กลับจากจีนก้อโดดไปกาญจนบุรีกันต่อเลย เดือนนี้แทบไม่ทำงานทำการกันเลยนะเนี่ยะ ก้อเพราะความโลภตั้งแต่งานท่องเที่ยวไทย เดือนมีนาคม ที่ไปหว่านซื้อแพคเกจกอล์ฟกันจนหน้ามืด แล้วก้อไม่ได้ใช้กันเลย นี่ใกล้จะหมดอายุเต็มทีเลยได้โอกาสตระเวนเที่ยว
ว่าแล้วลืมอะไร ลืมถ่ายรูป lion hill golf and resort ขอบรรยายแบบให้ได้จินตนาการภาพกันเองนะคะ ขับรถจากกรุงเทพ - ตัวเมืองกาญจนบุรี ใช้เวลา 3 ชั่วโมง (เซลล์เคยบอกว่า 2ชั่วโมงถึง คือไม่ทราบว่านับจากหลักกิโลเมตรสุดท้ายของกรุงเทพฯรึป่าวนะ) บ้านเราก้อทิศตะวันออกของกรุงเทพ กว่าจะตัดผ่านไปทิศตะวันตกของกรุงเทพก้อผ่านไป 1 ชั่วโมงละ  ผ่านตัวเมืองกาญจน์ ถึงแยกแก่งเสี้ยน เลี้ยวขวา ไปถึงแยกซ้ายไทรโยค เราก้อเลี้ยวขวาไปทางบ้านเก่า เข้าไปอีกซัก 10 กม. ก้อถึง ระหว่างทางไม่มีไฟ ตอนกลางคืนก้อมืดสนิท ไปถึงก้อทีออฟก่อน แดดก้อแรงจิง คล้ำกันไปตามๆกัน ครีมกันแดดก้อไม่ช่วย เอาน่ะต้องทำใจ ที่นี่เป็นสนามภูเขา ทางก้อขึ้นๆลงๆ เดินกันจนเหนื่อย ไม่เช่ารถกอล์ฟเพราะเล่นไม่เก่ง ตีไม่ไกล หญ้าแฟร์เวย์ใช้ได้นะ ราฟไม่ค่อยมี แคดดี้บอกว่าตัดกันทุกวัน ที่นี่มีทัวร์เกาหลีเยอะ เวลามาเล่นถ้าเจอกรุ๊ปเกาหลีต้องทำใจ เพราะคนเยอะมาก แคดดี้ที่นี่นิสัยดี ไม่ใช่เอาแต่สวย ดูแลนักเล่นอย่างพวกเราดีมาก ขนาดทาครีมกันแดดยังเอากระจกมาส่องให้ คือแบบว่าเกรงใจจัง น้องทำเองได้ค่ะ ที่พักก้อเป็นบ้านไม้ หลังไม่ใหญ่ มี 2 ห้องต่อ 1 หลัง สะอาดระดับนึง แต่ก้อเหมือนผ่าศึกมาหลายปีเหมือนกัน ไม่ใหม่ ที่พักก้ออยู่ข้างๆสนามนั่นเอง รวมๆก้อใช้ได้ ถ้าไม่หวังอะไรมากค่ะ ออกรอบกันจบ 18 หลุม ทั้งหิว ทั้งเมื่อย แวะทานข้าว แล้วก้อมาเที่ยวสะพานข้ามแม่น้ำแคว  ร้านอาหารที่ทานตอนบ่าย 3 แนะนำร้านนวด "มะกรูด" อยู่แถวนี้พอดี ใครเมื่อยก้อมาใช้บริการกันได้นะ พี่เจ้าของร้านโอเคเลย เพื่อนๆกะสามี เข้าไปนวดตัวแล้วหลับกันไปตามๆกัน แต่เรานั่งนวดเท้าอยู่ด้านหน้าคนเดียว เฝ้าร้านไปในตัว นวดเสร็จได้เวลาดินเนอร์ ทางร้านก้อแนะนำให้ขับรถเลยเข้าไปด้านในอีกหน่อย ร้านอาหารสไตล์บาหลี ชื่อ คีรีธารา อาหารก้อโอเค ร้านสะอาด สวย หรู แต่ราคาไม่แพงมาก ถ้าใครมาจากด้านสะพานก้อให้เดินทะลุออกด้านหลังป้อมยามรถไฟ จะมีร้านอาหารเรียงๆขนานกะแม่น้ำ ร้านสุดท้ายนี้ล่ะที่เราพูดถึง เช้าอีกวัน ออกรอบกันอีก 18 หลุม อึดไหมล่ะ ตอนแรกๆก้อยังกระชุ่มกระชวยอยู่นะ พอเดินไปได้ครึ่งทาง ก้อเมื่อย ไม่อยากเล่นละแต่เสียดายตังค์ต้องเดินให้จบ เพื่อนคนนึงเมื่อวานเล่นไป 9 หลุม แล้วไม่สบายเลยกลับห้องนอน วันนี้ตื่นมา 10โมง มาเล่น 9 หลุมหลัง ..ครั้งหน้าเราก้อจะแทคทีมกะเค้าเล่นกันคนละ 9 หลุม  ... ผู้หญิงบอบบางอย่างเรา เล่น 36หลุม 2 วันไม่ไหวจิงๆ เช็คเอ้าท์ที่พักเสร็จ มุ่งหน้าสู่พร้อมมิตรสตูดิโอ หรือโรงถ่ายหนัง พระนเรศวรฯ  มาดูความน่ารักของช้างที่นี่ ตัวนี้เคยเล่นภาพยนตร์ ต้มยำกุ้ง เค้าชื่อ โยโย่ ให้ตังค์เค้า 20 บาท ท่าทางจะขี้งกซะด้วย รีบคว้าไปเลย  แล้วก้อฉากห้องโถงของหงสา  ฉากห้องโถงของอโยธยา  มาถึงส่วนสุดท้าย ฝนตกหนักพอดี เลยได้มีเวลาอยู่ในห้องสิ่งของประกอบฉากนานหน่อย จึงมีทหารหน้าใหม่เกิดขึ้น  ฝนตกหนักไล่หลังเราจนถึงกรุงเทพเลยนะเนี่ยะ ขอบคุณที่ให้เราเดินทางโดยสวัสดิภาพ  อะไรใหม่ๆ สำหรับเรา .. เซี่ยงไฮ้
ฤดูร้อนที่เซี่ยงไฮ้ มันช่างร้อน และแห้ง ยิ่งกว่าเมืองไทยบ้านเราซะอีก ไม่เคยได้ไปสัมผัสในช่วงนี้ด้วยสิ
 ไปมาหลายครั้งหลายครา ครั้งนี้ถือว่าได้พบอะไรใหม่ๆ หลายอย่าง เช่น สนามบิน pudong อาคารใหม่ สวยดี ไม่สับสน เดินไม่ไกล (ภาพนี้เป็นห้องผู้โดยสารขาออก.. ขาเข้าไม่ได้ถ่ายรูป)  ใครจะใช้บริการ รถไฟ maglev ด่วนจี๋ 8 นาทีเข้าเมือง ก้อต้องเดินไปทางเชื่อม ที่จะไปอาคาร 1 รูปไกลๆนี้ maglev มาพอดี ปีที่แล้วได้ใช้บริการครั้งแรก ก้อเร็วดี แพงดี แต่แนะนำให้คนที่สัมภาระไม่เยอะ เพราะสัมภาระเยอะไม่สะดวกเท่าไหร่ (อันนี้เป็นรูปเก่าเมื่อปีที่แล้ว)  CRH รถไฟด่วน ระหว่างเมือง วันเสาร์ 12/7/51 เช้าไป-เย็นกลับ เซี่ยงไฮ้-ซูโจว ขาไป 26 หยวน(economy class) ขากลับ 31 หยวน (first class) จิงๆไม่ได้อยากจะไฮโซ first class อะไร แต่ไม่มีตั๋วราคาประหยัดต่างหาก ความเร็วของรถไฟอยู่ที่ 250 กม./ชม. แต่ไม่ใช่ความเร็วโดยตลอด เค้าค่อยๆปรับขึ้นในระหว่างทางสามารถวิ่งเร็วได้ ใช้เวลาประมาณ 20-25 นาที ยังไม่ทันได้หลับเลยเรา ถึงแล้ว ..ปกติ 40 นาที .. ระยะทางใกล้ๆ อาจไม่รู้สึก แต่ถ้าคุณต้องนั่งไปต่างจังหวัดที่ไกล 3 ชั่วโมง คุณจะรู้สึกเลยว่ามันเร็วจิง  ดูๆๆ นั่ง first class ซะสบายเลย เซี่ยงไฮ้ยามเช้า เวลาตี 5 นะ สว่างแล้วอ่ะ เราก้อไม่รู้ยังไง ทุกวันตื่นมา ตี3 ตี4 ก้อเห็นท้องฟ้าสว่างเร็วมาก เวลากลางวันยาวนานกว่ากลางคืน  ตลาดเซียงหยาง ที่เคยอยู่บนถนนหว๋ายไห่ ซึ่งถูกรื้อไปแล้ว ตลาดนี้ขายสินค้าก๊อปปี้ แล้วก้อสินค้าสวยๆ ราคาก้อสวยมาก ต้องต่อราคากันให้ตายกันไปข้างนึง เพราะเค้าเปิดราคามาซะเว่อร์เกินไป ขนาดฝรั่งยังต่อราคากันจนคนขายหน้ามืด ซึ่งต่างจากเมืองไทย ต่อราคากันได้แค่ 9 บาท 10 บาท ถ้วนๆๆ ประมาณนั้น แต่ใครๆที่เคยชื่นชอบตลาดนี้ก้อเฮกันได้แล้ว ตอนนี้เปิดใหม่แล้วที่สถานีรถไฟใต้ดิน สาย 2 พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยี่เซี่ยงไฮ้ ฝั่ง pudong .. อยู่เซี่ยงไฮ้ แม้จะไกลแค่นี้ แต่รถไฟฟ้าก้อไปถึงอย่างง่ายดาย เมื่อไหร่น๊ากรุงเทพจะเป็นแบบนี้มั่ง โผล่ขึ้นมาเป็นสำเพ็ง โผล่ขึ้นมาเป็นเจ๊เล้ง โผล่ขึ้นมาเป็นพระราม 2 เครื่องบินมารับแล้วค๊า ลำนี้อ่ะ  ไปนั่งรอเครื่องบินขึ้นอีก 2 ชั่วโมง  เค้าว่าอากาศไม่ดี ต้องรอ .. ดีเลย์อีกแล้ว ดีนะได้จอส่วนตัวกันทุกที่นั่ง ดูหนังกันมันส์ไปเลย ขอบพระคุณที่มาแวะชมทริปเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้จ้า พักร้อน ที่ Royal Hill Golf Club นครนายก
กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ ฮ่า ไฮ่ ฮ่า ไฮ่ !!!
19-20 เมษายน พักร้อน คลายร้อน หรือยิ่งร้อน ที่นครนายก ขับรถจากกรุงเทพฯ ไปแค่ 1 ชั่วโมงนิดๆ ฝากเตือนเพื่อนๆ ถ้าซิ่งขวา ระวังเจอะคุณตำรวจโบกให้จอด แบ่งปันค่าขนมหน่อยนะ วันนั้นแบ่งไปร้อยนึง สามีบอกว่า ตั้งแต่ขับมา ไม่เคยเจอ ... ทุกคนต้องมีครั้งแรก ... มาถึงนครนายก ผ่านหน้ารีสอร์ท เลยไปเขื่อนคลองท่าด่านกันก่อน  แม้แดดจะแรง แต่ลมเย็นดี เมื่อได้เห็นความสง่างามของเขื่อนนี้ ถนนทางขึ้นสวยน๊า ใครว่างๆก้อแวะมาเที่ยวกันสิ ใกล้กรุงเทพฯแค่นิดเดียว บ่ายๆ เข้ารีสอร์ท รอยัลฮิลล์ กว้างดี มีห้องพักหลายแบบ แต่เราซื้อที่งานศูนย์สิริกิตต์ เลือกพักแบบโรงแรม กอล์ฟวิว สวยมากๆๆ  อาหารที่รีสอร์ท อร่อย มีร้านกาแฟสดอยู่หน้าตึกโรงแรม ดีจัง ตื่นเช้ามา เตรียมตัว ทีออฟ  ออกรอบ 3 คน อีกคนผู้ติดตาม และเป็นตากล้องจำเป็น  เล่นก้อพอได้ แต่ไม่กล้าไปแข่งกะใคร อิอิ สกอร์ก้อยังแย่อยู่ เป็นแค่ความสุขทางใจ   เจอหลุมทรายสุดท้าย รูปหัวใจ อิอิ ลงทรายทั้งคู่เลย  นครวัด เสียมเรียบ กัมพูชา
12-16 เมษายน ตบเท้าไปนครวัด เสียมเรียบ
นั่งรถของคาสิโนไป ผ่านด่านคลองลึก ประเทศไทย กรุ๊ปเรามี 4 คน มีคนจีน 3 คน เลยต้องทำ re-entry ที่ด่าน วันนั้นชาวเขมรก้อจะกลับบ้าน คนเยอะมาก ทำให้การทำ re-entry เสียเวลาไปเกือบ 3 ชั่วโมง ผ่านด่านปอยเปตแล้ว เรียกแท็กซี่แคมรี่ เหมาไป 1200 บาท บวกค่านายหน้า 100 บาท ถนนก้อเป็นอย่างนี้อ่ะ  แต่มีช่วงโปรโมชั่นบ้าง ให้หายใจหายคอดีขึ้น ข้างทางก้อแห้งแล้ง เสียดายพื้นที่จัง ใช้เวลารวมแวะกินข้าวเที่ยงก้อ 3 ชม.นิดๆ โชเฟอร์ขับซิ่งน่าดู พอไปถึงโรงแรม พักที่ซิตี้อังกอร์ พักเหนื่อยแป๊บนึง เราโทรเรียกโชเฟอร์รถละเมาะโมโตมารับ เหมาเที่ยว 2 วันกะเย็นนี้พาขึ้นพนมบาเค็ง .. ชื่อพี่โสภณ .. สาวเปรี้ยวหัวใจหวานแห่ง BP แนะนำให้ .. เหมาไป 30usd  มาถึงก้อต้องมาซื้อตั๋วนครวัด มี 1วัน 3วัน 7วัน เราซื้อแบบ 3 วัน ได้ขึ้นพนมบาเค็งเย็นนี้ฟรี เพราะหลัง 5โมงเย็นแล้ว ..ในบัตรก้อต้องถ่ายรูปด้วยนะ เตรียมยิ้มกันให้ดี เค้าไม่นับ 1-3 ล่ะ  พนมบาเค็ง  ดูพระอาทิตย์ตกกันที่นี่ล่ะ  เช้าวันที่ 2 ลุยกันสายหน่อย วันนี้จะวิ่งรอบเล็ก นครวัด  ปราสาทบายน ที่นี่ชอบสุดๆๆ  หิวก้อต้องกินมะม่วง ..  อร่อยมากเลยอ่ะ ปราสาทตาพรม ปราสาทเก่าแก่ ถูกต้นไม้ยึดไปแล้ว  อาหารเขมรที่มีเกือบทุกร้าน คือ Amok มันคือ ห่อหมกบ้านเรา แต่ยังเป็นน้ำอยู่เลย เหมือนแกงเขียวหวานที่เป็นสีเหลืองมากกว่า  คืนวันแรก ฝากท้องที่ร้าน Soup Dragon ก้อมีหม้อไฟน้ำซุปอร่อย คืนที่สอง ร้าน Angkor Famous ร้านเล็กๆในซอกหลืบ แต่มีคอกเทล ซื้อ 1 แถม 1 กลางวันที่สาม ร้าน มหาราชา อาหารอินเดีย ไก่ย่างอร่อยมาก คืนที่สาม ร้าน Red Piano อร่อยสุด ทุกจานที่สั่งมาได้ที่หมด คืนที่สี่ ผิดหวังสุด ร้านคนไทย Dead Fish สมชื่อเลย ไม่อร่อย แพง โชว์อัปสราแบบเด็กประถมก้อรำได้ อิอิ  วันสุดท้ายต้องเหมาแคมรี่ไป เพราะทางไกล ที่แรกคือ เบิงเมเลย์ หรือ บึงมาลา ต้องซื้อตั๋วต่างหากจากตั๋วนครวัด ที่นี่เพิ่งเปิดให้เที่ยวไม่กี่ปีนี้ เพราะทางการเพิ่งเก็บกู้ระเบิดของพวกเขมรแดงไปหมด ทางลัดหฤหรรย์ เหมือนอยู่ในป่า ผ่านสะพานไม้พอดีคันรถ ที่ข้างล่างเป็นเหว  แล้วก้อไป กบาลเสปียน ดูจากหนังสือท่องเที่ยว สวยมาก เห็นแล้วน้ำลายไหลอยากไป พอไปถึงเดินขึ้นเขา 1.5 กม. ทำไมมันเหนื่อยจัง แต่ก้อสู้.. ต้องเหนื่อยก่อนถึงจะคุ้ม แต่พอไปถึงเป็นงี้อ่ะ  น้ำตาแทบไหล  น้ำก้อไม่ค่อยดี เด็กเขมรก้อมาเล่นน้ำตก ทำสกปรกมาก เศร้าใจ วันนี้รู้สึกเสียดาย ค่ารถที่ต่อราคากันไว้ 60usd ตั้งแต่วันแรกที่มาถึง เช้านี้พี่แกโกงค่ารถ บอกว่า 65usd แต่พอตอนเย็นส่งกลับแล้ว เราไม่เศษแบงค์ย่อย เราให้เค้า 70usd คิดว่าเค้าจะทอน เค้าว่า 70usd ให้เป็นทิปเค้าละกัน อีตาม๊อก Mok Pally จำชื่อไว้ให้ดีนะเพื่อนๆ แล้ววันสุดท้ายเราก้อจ้างแคมรี่คันเดิม อีตาม๊อก เคยต่อราคากันไว้อีกเช่นกันว่า 1000 บาท มัน(ขออนุญาตไม่สุภาพ) บอกว่า 1200 บาท แท็กซี่เสียมเรียบไม่มีใครไปปอยเปต เหมือนกะว่า ยังไงก้อต้องให้มัน เราก้อพูด ไม่มีทาง เมื่อวานคุณก้อโกงเราไป 10usd ละ วันนี้ 1000 บาท ... พี่แก ซิ่งสุดฤทธิ์ 2 ชั่วโมงถึงปอยเปต  ในหนังสือนำเที่ยวเคยบอกว่า แท็กซี่ขับประมาณ 4-5 ชั่วโมงไง คงต้องอัพเดตกันใหม่ละ 2 ชั่วโมงคนเขมรทำได้ พอลงจากรถขนกระเป๋าเสร็จ เราให้มัน 1000 บาท มันเชิดหน้าหนีสตาร์ทรถไปเลย ละเมาะโมโตก้อเหมือนกัน เรียกกลับโรงแรมจาก ถนนผับ เค้าเรียก 4-5 ดอลล่าร์ เราต่อราคาเหลือ 2.5 usd ถ้าเราให้เค้า 3 usd เค้าจะบอกว่าไม่มีเงินทอนให้เป็นทิป happy new year ละกัน ... เรื่องอะไรเนี่ยะ เราเลยวิ่งเข้าโรงแรมไปขอแลกเงินรีล (เงินสกุลกัมพูชา) มาจ่ายให้ ส่วนเวลาเจอพวกขายของ ถ้าเราไม่สนใจเค้าแต่แรก ก้อจะไม่มีอะไร ถ้าเราได้ถามมัน เหมือนว่าเปลืองน้ำลายบอกราคาแล้ว คุณต้องซื้อกะฉันเท่านั้น แม้ว่าอีกคนจะขายถูกกว่า คนนี้ก้อจะกัดไม่ปล่อยเลยล่ะ ทั้งตื๊อ ทั้งวีน ด่าไล่หลังว่าเราไม่ซื้อแล้วดันไปถามทำไม ขี้โกง ขี้วีน ขี้ตื๊อ เป็นนิสัยที่ได้ประสบการณ์มากจากที่นี่เลยล่ะ รูปนี้เป็นไอเดียของเราเอง อิอิ พอดูได้ไหม  |
IT Girl
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Friends Blog Link |
