Group Blog All Blog
|
Review : Paintเล็บง่ายๆ ด้วยวิธี Nail Stamping กับลาย Sxy Zebra Nails! ค่ะ
D.I.M (do it myself) Esy Sxy Zebra Nails! สาวๆจ๊าาาา วันนี้ Irisa ภูมิใจนำเสนอการเพ้นท์เล็บที่สาวๆคลั่งไคล้ จากเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายภายในเวลาแป๊บเดียว ไม่ต้องเสียเวลามานั่งเพ้นท์เป็นวันๆ หลายๆชม. เพราะเทคนิคนี้เค้าเรียกกันว่า Nail Stamping ค่ะ  อุปกรณ์ที่ใช้ในครั้งนี้เป็นของยี่ห้อ Konad ของเกาหลีนะคะ (ใช้ดีมว๊ากก ปั๊มแล้วติดง่ายค่ะ ไอริสาสั่งซื้อทางอินเตอร์เนต) 1.Pattern Plate 2.ใบมีด หรือจะใช้ใบมีดโกนก็ได้ค่ะ 3.Stamper (เป็นตัวสีชมพูที่มียาง) 4.Nail Polish  เริ่มต้นการทำ Nail Stamper กันเลยค่ะสาวๆ ก่อนอื่นเราก็เอายาเพ้นท์เล็บสีดำมาทาเป็นพื้นนะคะ  และเราก็เอายาทาเล็บสีขาวมาทาบน Pattern Plate ลายม้าลายที่เราต้องการจากนั้นใช้ใบมีดสีชมพูกดแล้วปาดไวๆนะคะ ถ้าช้าแล้วสีจะแห้งปั้มไม่ติดค่ะ จากนั้นก็เอาตัวแสตมป์เปอร์ มากดลดบนแป้นแบบที่เราได้ปาดเรียบร้อยแล้ว  พอปั๊มลงบนstamperแล้วลายจะติดแน่นสวยงามดังรูปค่ะ อย่ารอช้าก่อนสีทาเล็บจะแห้งรีบเอาตัวปั้มมาปั้มที่นิ้วที่ได้ทาพื้นสีดำไว้แล้วในทันที เพราะเราต้องนำ stamper ไปปั๊มลงบนplateทีละสี ลายจะติดขึ้นมาตรงยางของstamper จากนั้นไปปั๊มลงเล็บ ปั๊มโดยเริ่มจากช้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง จะได้ลายที่แม่นยำและคมชัดกว่าการเล้งแล้วปั๊มจากตรงกลาง  ปั๊มเสร็จลายม้าลายที่เราต้องการก็จะมาปรากฎอยู่บนเล็บอย่างสวยงามและง่ายดาย เห็นมั้ยคะว่าง่ายจริงๆ ไม่เสียเวลาและสวยเป๊ะมั่กๆ เราจะเห็นว่ามีขอบๆที่เลอะออกมาใช่มั้ยคะ เอาคัตตอลบัตจุ่มน้ำยาล้างเล็บแล้วค่อยๆเช็ดส่วนเกินออกนะคะสาวๆ และทาทับด้วย Top Coat สีใสๆเป็นอันเสร็จพิธีค่ะ  เสร็จสมบูรณ์ภายในเวลาแป๊บเดียวว สวยงามมิคะ สาวๆทำตามกันได้เลยนะ อ้อนิ้วนางไอริสาแอบเอากากเพชรมาทาก็สวยไปอีกแบบน้าา ขอบคุณมือสวยๆ และการรีวิวของน้องสาวไอริสา Credit by my sis Tkt ^^ด้วยนะจ๊ะ ถ้าชอบกันจะมีเอามาลงให้ดูเรื่อยๆค่ะ เป็นการเพ้นท์ง่ายๆที่เราเห็นจากยูทูปแล้วลองทำเองได้มีหลายแบบเลย ไว้เจอกับไอริสาอีกคราวหน้านะคะ สาวๆที่สนใจข่าวคราวIrisa สามารถตามเข้ามาได้ที่ Facebook นะคะ ผ้าพันคอลายแรกของเราออกแบบใกล้เสร็จแล้วนะ ตามมาดูลายกันค่ะ อิอิ Review: YSL Rouge Volupte 4เฉดสี และ M.A.C 7เฉดสีสันที่คุ้นเคยของสาวๆค่ะ เเละ Travel Set อีก 4 Set ค่ะ
(มีของพิมกับอาร์ทรวมกันค่ะ)  อยากบอกว่าเนื้อของYSLนุ่มมมมั่กๆค่ะ มันวาวในตัว มอยส์เจอร์เยอะทาแล้วไม่ต้องทากลอสยังได้เลยค่ะ สีสวยติดทน เม็ดสีชัด แต่ก็ไม่แน่นเท่าM.A.C YSL Rouge Volupte no.26 ส้มนู้ดดๆแบบว่าคล้ายๆกับRavishing แต่สีนมทองกว่าไม่ออกชมพู สวยมากค่ะ เนื้อลิปดีมากจริงๆสำหรับเราที่ปากแห้ง ชอบมากเพราะไม่ต้องทากลอสทับเลย มันแผล่บๆด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว   YSL Rouge Volupte no.29 สีคล้าย please me ตอนทากลอส และเข้มกว่าangelค่ะ ดูสวยหวานน่าร้ากกสดใสดีนะคะ   YSL Rouge Volupte no.30 ส้มนู้ดๆคล้าย Ravishing แต่เบอร์นี้สีจะออกนมๆกว่า Ravishingสีจะออกส้มมากกว่าเบอร์30กว่าเมื่อทาออกมาแล้วจะสุขภาพดีกว่า เบอร์30จะดูเหมือนป่วยนิดๆ ทาตอนแรกดูเหมือนจะลอยๆไม่สวย แต่พอได้แต่งหน้าทำผม รอให้สีลิปซึมกลืนเข้ากับปากมากขึ้น สีที่ได้เวลาถ่ายรูปก็ออกมาสวยใช่ย่อยเลยนะคะ  YSL Rouge Volupte no.27 ชมพูบานเย๊นบานเย็น สีนี้ให้ลุค เปรี้ยวเฉี่ยวหวานๆได้นะคะ สีนี้คล้ายกับchatter-box แต่จะออกแดงกว่า ถ้าเพื่อนๆเบื่อที่จะเปรี้ยวด้วยลิปแดงอย่างเดียวแล้ว ลองมาเป็นสีนี้ หรือmorage บ้างก็สวยไม่แพ้ลิปแดงสีคลาสสิค แดงสดเลยค่ะ สาวๆจะดูเป็นสาวมั่นขึ้นเยอะเมื่อลองเปลี่ยนลุคจากสีนู้ดๆธรรมดาๆมาเป็นสีจัดจ้าน ที่ไม่ได้ร้อนแรงอย่างแดงเพลิง  ลิปสีสวยยอดฮิตกับ M.A.C lip 7เฉดสี และกลอสอีก 1 แท่งค่ะ ในรูปนี้ถ่ายแค่สีที่ซื้อมาใหม่แค่ 4 เฉดนะคะ แต่จะมีสีที่มีอยู่แล้วมาเพิ่มให้ดูตอนรีวิวอีก 3 สีค่ะ  เรียงสีแรกจากซ้ายมือนะคะ Ravishing ,Morage , Chatter Box, Please me, ส่วนกลอสเป็นสี รุ่น Kissable สี So vein ค่ะ  สีที่ 5 ที่เว้นว่างไว้ไม่ทราบว่าสีอะไร เพราะว่าซื้อมานานแล้วก้นลิปมีชื่อแบบเจือจางมากกกก เดาว่า _ _ DDY 28 ภาพรีวิวของM.A.C. เรียงสีให้ดูตามที่ปาดสีแขนข้างหมดเหมือนเดิมนะคะ มาเริ่มสีแรกด้วยกลอสรุ่น Kissable สี So veinค่ะ ไอริสาว่าแมคทำออกมาได้ดีนะคะ กลบสีปากมิด เม็ดสีชัด ถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากพกลิปแค่แท่งเดียวเดินออกจากบ้านลองลิปรุ่นนี้ได้เลยค่ะ เป็นทั้งลิปทั้งกลอสในตัว มีกลิ่นหอมนิดๆด้วย น่ากิน อิอิ สีนี้ในไทยอาจจะยังเพิ่งเข้ามาใหม่ แต่ถ้าที่เมกามีมานานได้ซักพักแล้วค่ะ   2. สีcreme cup ชมพูนู้ดดูวาวๆ มอยส์นิดๆไม่แห้งมาก ดูชมพูนู้ดเบาๆแต่ก็ดูไม่ป่วยนะคะ เพราะสีดูไม่นมมากเท่าไหร่ น่าจะไม่ได้ชมพูมากเหมือนมีส้มนิสสนึง เลยทาออกมาแล้วเป็นแบบนี้น้า  3. สี please me ชอบมากอ่ะค่ะ สีนี้ทาแล้วให้ความรู้สึกแบ๊วๆแบบบาบี้ เนื้อจะแมทหน่อยนะคะ ถ้าใครชอบวาวก็ต้องเติมกลอส แต่ไอริสาว่า ทาแบบนี้ก็ดีสวยไปอีกแบบดูเห็นสีชัดดี อยากบอกว่าเม็ดสีติดดีมาก ถ้าทานอะไรก็จะจางลงบ้าง ไม่ต้องเติมสีใหม่ก็ได้นะคะถ้าไม่ซีเรียสมาก ทากลอสทับก็จะได้อีกลุคนึงค่ะ ตอนแรกที่เห็นสีนี้ กลัวว่าทาแล้วจะลอยหรือแรงไปป่ะนะ เพราะสีเข้มแล้วผิวสีเราเหลืองแต่ก็ไม่ได้มีปัญหา ดูสดใสกว่าสีที่สองอีก ทาออกมาแล้วก็ดูโอเคนะคะ อิอิ   4. สี angel ชมพูใสๆแต่น่าร้ากก ความแตกต่างของสีนี้กับ creme up สีangelตะเข้มกว่านิดหน่อยออกชมพูกว่าแต่ก็ไม่เข้มมากเท่า please me และเนื้อก็วาวนิดๆคล้ายๆ angel เป็นอีกสีที่ชอบน้าา  5. สีอะไรก็ไม่รู้เค้าจามมไม่ได้  เพราะว่าซื้อมานานแล้วก้นลิปมีชื่อแบบเจือจางมากกกก เดาว่า _ _ DDY 28 สีดูไปดูมามันก็คล้ายๆ creme cup กับ angel เนื้อวาวนิดๆ แต่สีจะมีเม็ดสีส้มผสมมากกว่า แต่ก็ไม่นมเท่า creme up เนอะ เทียบยากจริงๆค่ะ เพราะสีค่อนข้างเหมือนกันมากกก  6. สี chatter-box เนื้อแมทสีเข้มกว่า please meนะคะ แอบดูวาวกว่านิสสนึงด้วย สวยดีนะคะ ถ้าจะแอบหวานซ่อนเปรี้ยว ถ้าเบื่อแบบแบ๊วๆแล้ว สีนี้ถือว่าโอเคเลยนะ ไม่หวานไปไม่เปรี้ยวไปค่ะ  7. สี Ravishing สีส้มนู้ดสีสุดโปรดของสาวๆอีกหลายคน เราก็เช่นกันค่ะ สีมันสวยมว๊ากกก มันส้มนมนิดๆ มีชมพูผสมหน่อยๆ แอบเซ็กซี่เล็กๆชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ใช้เลยค่ะ เม็ดสีแน่น กลบสีปากมิด (รูปนี้ไม่สวยเหมือนรูปอื่นๆเพราะว่าถ่ายเองค่ะ รูปก่อนๆให้แฟนถ่ายให้ ถ่ายเยอะจัดลืมหยิบสีนี้มาถ่ายด้วย เลยต้องกลับมาถ่ายเอง อิอิ  ) 8. สี Morage มาสาวๆถ้าอยากเปรี้ยวเข็ดฟันต้องลองสีนี้เลยค่ะ มันก็ไม่ได้เข็ดฟันไรเว่อร์หรอ สีมันอาจจะดูแรงแต่พอทาออกมาสวยยยอีกแล้วค่ะ ชอบมากกก แบบว่าเหมือนจะแรงแต่ก็ไม่ได้แรงเว่อร์ แต่กลับดูสวยดึงดีดีมากๆเลยนะ เป็นส้มสด เนื้อแมท เม็ดสีแน่นมากกกกกก เพราะสีเข้ม ถ้าทานไรแล้วจาง ไม่อยากเติมก็กลอสทับไปเลยนะคะ อิอิ   พอหอมปากหอมคอกับสีสันสวยๆบนเรียวปาก ที่ไอริสานำมารีวิวให้ในครั้งนี้ จะช่วยเพื่อนๆในการเลือกสีลิปที่ชอบได้บ้างนะคะ ทิ้งท้ายกับ Collection เเบบ Travel Set ของหลายๆเเบรนด์ ที่เชื่อว่าสาวๆหลายคนคงเคยเห็นจาก Duty Free เเต่อาจจะไม่กล่าซื้อเนื่องจากว่า โอ้ มันไม่สามารถเลือกสีได้ ลองก็ไม่ได้ ซื้อเเล้วจะเจ๊งทั้งเซตไหม Irisa มีบางส่วน เลยเอามาเเชร์ให้เพื่อนๆลองชมกัน เเต่ว่าเซตนี้ต้องขออภัย บางอันได้ส่งมอบให้ญาตพี่น้องเเล้ว เลยไม่มีโอกาสได้เขียนชื่อสีของลิป ต้องขอภัยทุกคนด้วยน๊า ยังไงดู Packaging เอาละกานนะคะ เวลาไปเลือกซื้อถ้าหากว่าสนใจ^^ Review: Lipstick with a Travel Set ESTEE LAUDER Travel Exclusive 3 Pure Color Long Lasting Lip Jewels. รุ่นนี้คือเเบบว่า ตลับสวยเว่ออออ ทองอร่าม เเถมมีกระจก ไอเดียเก๋น่ารักมากกก ขนาดกะทัดรัดพกพาสะดวกสุดๆ เฉดสีที่บังคับในกล่องเเบบเลือกไม่ได้ ก็ทําใจรับได้นะ เพราะสีนึงออกชมพูนมไปเลย เราผิวคล้ำๆทาก็หมองหน่อย อีกสีออกโทนส้ม สุดท้ายออกโทนชมพู โอเคอยู่ เนื้อเนียนดี เเต่ไม่เท่ากับอีฟเเซงหรอกนะ อันนั้นนุ่มเว่อไปเลยค่ะ^^ สรุป ส่วนใหญ่ ที่ซื้อ Travel Set มาเพราะตลับเป็นส่วนใหญ่ เก๋กูี๊๊ดมากค่าา 
Christian Dior Rouge Trio Collection Voyage
Givenchy Travel Collection Trio Rouge Interdit Shine เป็นอีกเซตที่ตลับเก๋มากกกกกก เพราะว่ามันออกเเบบให้มีหูหิ้ววว น่ารักมากกก เเต่เฉดสีที่ทามันอ่อนมากกก ทาเเบบต้องทาหลายทีเฉดถึงจะเต็มเม็ดสีอย่างที่เห็น เลยทําให้ในความคิด Irisa เลยสามารถใช้ได้ทุกเฉดสีเลยค่ะ มันเป็นเหมือนจางๆเพื่อเป็นกลอสเเละเเท่งจะเเข็งๆเพราะมีเกล็ดของ Glitter ด้วยน่ะค่ะ ทาเเล้วจะวิ้งๆค่ะ     Elizabeth Arden color Intrigue Effects Lipstick เเบรนด์นี้ไม่ค่อยมีคนพูดถึง เเต่ของเค้าก็ดีนะคะ เพียงเเต่เซตนี้เนี่ย เราไม่ค่อยทาสีน้ำตาลเท่าไหร่เเต่ว่าความจริงมันก็สีสวยนะ เเล้วก็ชุ่มชื่นดีค่ะ ที่ทายากสําหรับเราคงเป็นชมพูอ่อนนั่้น เเต่ว่านะ ผิวคนอื่นคงทาเเล้วเจิดอยู่ ลองชมเนื้อสีของเค้าดูละกันนะคะ^    จบเเต่เพียงเท่านี้ละค่ะสาวๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะค๊าาาา อย่าลืมติดตามข่าวสารของ Irisa by Art and Pim ได้ใน Facebookนะคะ ขอบพระคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนเสมอมา ติดตามข่าวกานใกล้ชิดนะ Irisa อาจจะโปรดักส์ใหม่ๆที่ผลิตเองมาเเชร์กะเพื่อนๆเร็วๆนี้ ขอบคุณทุกคนมากค่าาา/ Irisa แต่งหน้าแบบนู้ดๆ แต่ดูไม่ป่วย กับ Black Moon eyeliner ของ NARS ค่ะ
THE IMMACULATE COMPLEXION เมื่อวันเสาร์ที่ 3 มีนาคม 2555 Irisa ไปงานworkshop กับ nars ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าวมาค่ะ 
งานจัดกันที่เคาน์เตอร์Nars มีผู้เข้าร่วมworkshop วันก่อนที่ไปจัดที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีจะได้เรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ เลยร่วมลงทะเบียนกับนารส์ซื้อvoucher workshop 2,500 บาทค่ะ
พอเข้าไปถึงพี่บีเอก็ถามว่าวันนี้อยากแต่งหน้าแนวไหนดีคะ เลยบอกทางพี่บีเอไปว่าอยากแต่งหน้าแบบnude nude
เริ่มด้วยการลบหน้าที่แต่งมาออกให้หมด แล้วทาครีมบำรุง Nars skin aqua gel hydrator เจลบำรุงสำหรับคนที่ผิวหน้าแห้งมากค่ะ ทาแล้วหน้าก็จะเยิ้มๆหน่อยสังเกตได้จากขอบหน้าผากที่ยังมันอยู่นะคะ
ตามด้วยรองพื็นตัวใหม่สูตรมอยส์เจอไรเซอร์ Pure Radiant Tinted Moisturizer SPF 30/PA+++สีAlaska - light2 สู่ความงามของผิวสวยเนียบเรียบ ดูเปล่งประกายกระจ่างใส
แล้วก็เอา copacabana มาทาข้างๆตาเป็นรูปตัวสี และส่วนต่างๆเพื่อเพิ่มมิติเวลาแสงตกกระทบหน้าแล้วจะเงาเหลือบสวยๆเหมือนนางแบบ
เนื่องจากขอบตาค่อนข้างดำเลยมีต้องใช้คอนซีลเลอร์ สี จิงเจอร์ เข้ามาช่วยทำให้ใต้ตาและเปลือกตาดูจางลง นอกจากนั้นเรายังเอามาทาที่มุมจมูกและปากเผื่อปกปิดรอบคล้ำ
หน้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มแต่งตาแบบสโม๊กกี้อายส์กันค่ะ นางเอกของงานนี้มาตกอยู่ที่ดินสอblack moon สามารถเขียนเหมือนครีมได้เนียบเป๊ะ แล้วค่อยๆเบลนให้สีอายไลน์เนอร์ดูฟุ้งๆนะคะ ดังรูปค่ะ
และแล้วเราก็ได้พบกับ MARCO CASTRO make up artist จากนิวยอร์ค ตัวจริงเสียงจริงง ระหว่างที่พี่บีเอแต่งหน้าให้เราเค้าก็เดินมาพร้อมกับล่ามพี่เค้าให้เราถามถ้ามีอะไรสงสัย หรืออยากให้เค้าช่วยแนะนำ เราเลยบอกเค้าไปว่า เราอยากแต่งหน้าแบบนู้ดๆ แต่ดูแล้วไม่ป่วย เค้าบอกกับพี่บีเอว่าสิ่งที่คุณแต่งให้ลูกค้าดีแล้วนะ แต่ควรเพิ่ม นู่นนี่นั่นลงไป ทาปากสีอะไร แก้มสีอะไร และเราก็มาเริ่มต้นแต่งกันต่อ ตามรูปเลยค่ะ
เห็นความแตกต่างเมื่อเสร็จแล้ว1 ข้างมั้ยคะ ดูเป็นคนละคนเลยเนอะ
มาเริ่มข้างที่2ด้วยblack moonหมือนเดิมนะคะ
เสร็จ2ข้างแล้ว เหลือปากกับแก้ม เค้าใช้สีน้ำตาออกทองมาเป็นตัวช่วยเพิ่มความเซ็กซี่ ลิปสติก Biobao 1097 เพิ่มความแวววาวของริมฝีปากด้วยกลอสยอดฮิต สีGold Diggerค่ะ ลงเฉดดิ้งสร้างกรอบหน้าด้วย Laguna แบบเนื้อครีมและแบบตลับแป้งอัดแข็ง
ลงบรัช ลิป บลาๆๆ เรียบร้อยแล้วออกมาเป็นลุคนี้ค่ะ
ออกมาถ่ายเสงธรรมชาติก็จะได้อีกลุคนึงค่ะ
เห็นกันให้ชัดๆกันเลยด้วยรูปสุดท้ายยยนี้นะคะ
 พอจบงานเราก็มาเลือกสินค้าว่าเราอยากได้อะไรเพิ่มเติมรึไม่ในวันนั้น เราแต่งเองคงไม่เป็นแบบนี้ 555 เลยสอยเครื่องสำอางมาทั้งหมด 9 ชิ้น ของทั้งหมดที่ได้มาอยู่ในรูปเลยคร่าาา(แปะโป้งไว้ก่อนยังไม่ได้ถ่ายเลยอ่ะ ไว้จะเอามาลงให้ดูกันเร็วๆนี้นะคะ) และรีวิวต่อไปจะถ่ายวิวให้ดููนะว่าของแต่ละชิ้นมีสีอะไร ทาออกมาแล้วเป็นยังไง
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์คร่าวๆที่Irisaพอจะถ่ายมาให้เพื่อนๆได้ดูทันนะคะ
Free TextEditor Review : 6 Urban Decay อายพาเลทสุดฮอต ทากันให้ตาเเฉะไปเลยค่ะ^^
สวัสดีค่ะ กลับมาพบกลับ Irisa อีกครั้ง เนื่องจา่กช่วงนี้บ้ากับ Urban Decay มากค่ะ มีอยู่มากกว่า 1 ตลับ ราวกับว่าจะเก็บไว้ทาตัวด้วยอย่างไรอย่างนั้นเลย คิดว่าการรีิวิวเฉดสีทั้งการ Swatch สีบนเเขนเเละตัวอย่างที่เเต่งเเต้มบนหน้า น่าจะเป็นประโยชน์กับสาวๆเลยทํารีิวิวนี่ขึ้นค่ะ ถ้าสาวๆหรือใครก็ตามที่ติดตามการรีิวิวของ Irisa มาเรื่อยๆ จะพบว่าจัดเต็มทุกครั้ง 555 เนื่องจากเราบ้าถ่ายรูปค่ะ เอาหนุ่มๆใกล้ตัวนี่เเหละมาถ่ายให้ (ให้เค้าฝึกฝีมือไปในตัว) ของที่รีิวิวของก็ของ Art ของ Pim น้องสาว Art เเละเพื่อนสาว Pim 555 ดังนั้นทั้ง 6 พาเลทนั้นไม่ได้เป็นของใครผู้ใดผู้หนึ่งเเต่เพียงผู้เดียวนะคะ ก็มารวมตัวกันในครั้งนี้เพื่อรีวิวอะไรดีดีให้สาวๆทุกคนก่อนตัดสินใจซื้อพาเลทเเต่งตาตัวฮิตของ Urban decay เเละเผื่อเป็นเเนวในการเเต่งหน้าให้กับน้องๆเด็กที่ติดตามอยู่ด้วยค่ะ ^^  เยอะไหมค๊าา เหอะๆ คุณผู้ชายถ้าเปิดมาดูไม่้ต้องตกใจที่ซื้อไว้เนี่ยไว้ทาตาพื้นที่ขนาดไม่เกิน 4 เซ็นติเมตรนี่เเหละค่ะ หมดนี่ชาตินี้จะทาหมดไม๊เคอะ อิอิ มาเริ่มที่ตัวเเรกกันเลยค่ะ
ฺUrban Decay Book of Shadows 3 ตลับเว่อได้อีกค่ะ รุ่นนี้ เพราะว่าหนาหนัก ของตกเเต่งตลับอย่างเว่ออ เปิดออกมามีไฟด้วย เเถมด้วยอายไลเนอร์สองสี คือดำเเละม่วง เเละรองพื้นก่อนทาสีตาเพื่อให้สีอายชาโดว์ติดทนนานเห็นเม็ดสีชัดขึ้นอีก 1 กระปุก คุ้มมากๆๆ ในเว็บขายเเยกก็ราคาสูงละ ทั้งตลับนี่ประมาณ 3,000 บาทได้ค่ะ (ราคาซื้อจาก Internet เนี่ยละจ้า) โดยส่วนตัวรู้จักว่าเฉดสีมันหลากหลายกว่าตลับอื่นมาก อย่าง Naked เนี่ยคุมโทนมีเเต่สีเนื้อเข้มอ่อนสลับกันไป เเต่เจ้าตลับนี้มีทั้งที่สีสดใส เม็ดสีจัดจ้าน ฟ้า เขียว ชมพู ม่วง เอามาหมด เม็ดสีสดใสก็ชัดมาก ตลับเดียวเเต่งไปงานหรือโทนนู้ดๆก็ทําได้ในตลับเดียวค่ะ เราติดอยู่ที่ว่าพกพายากคงได้เเต่เเหมะอยู่ที่บ้าน เเละเม็ด Glitter มันใหญ่มากไปสําหรับเรา เเละสีดําสนิทนั้นไม่มีนะจ้ะ สาวๆทําSmoky Eye ถ้าใช้ตลับนี้คงต้องใช้สีอื่นไปก่อนเน้ออ อย่างอื่นครบเซตอายไลนเนอร์ ไพรม์เมอร์ เฉดสีครบ สมบูรณ์มากค่ะ (เเต่ไม่มีเเปรงนะ 555) 
Urban Decay 15 Year Anniversary ตลับนี่อาจจจะราคาถูกกว่าตลับเเรกเพราะราคาตกราว 2,500 บาท ตลับสวยเป๊ะเยี่ยงกัน สวยไฮเอนด์มากๆค่ะ นอกจากำมะหยี่ ตลับกระจกฉลุ สวยไฮโซมากๆ เเต่ว่าไม่มีอายไลเนอร์ ไพรม์เมอร์นะ เเปรงก็ไม่มีเน้อออ เเต่ที่มีคือออ สีดำสนิทนั่นเอง Blackout จ้าา สีโทนนู้ด โทนสีสันก็มี เเต่สีสดใสก็ไม่จัดเต็มเท่าตลับเเรกนะ อย่างไรก็ตามเรามองว่าสีสดใสเนี่ยยังคุมโทนอยู่ที่ชมพู น้ำเงินเข้ม เขียวปีกเเมงทับค่ะ ที่เหลือโทนนู้ดเเละเข้มๆค่ะ ก็ถือว่าเป็นตลับที่ควรค่าเเก่การซื้อเก็บไว้นะ เนื่องจากสีที่เยอะใช้ได้ทุกโอกาสเเล้วเนี่ยตลับยังสวยเว่อมากจริงๆ หรูมากๆเลยค่ะ ของเเถมไม่มีนะ เเปรงก็ไม่มีเหมือนกันจ้า 
Urban Decay Mariposa Palette ตลับนี้สําหรับพกพาสุดๆ ขนาดกระทัดรัดเเละดูทนทานมากๆ เเถมให้พู่กันขนาดเล็กระทัดรัดมาด้วยอีกต่างหาก โทนสีเหมือนจะเข้มนะคะ เเต่ว่าพอ Swatch จริงเเล้วๆจะพบว่าอ่อนๆทุกเฉดสี จะจางๆน่ะค่ะ เพื่อนบอกว่าเม็ดสีมันอัดเเน่นมาก เวลาจะปัดต้องถูหนักมือหน่อยเม็ดสีถึงจะหลุดออกมา ซึ่งก็จริงค่ะ ทายากนิดหน่อย เเต่สีสดใสอย่าง Rockstar,Infamous, Haight and Limelight สวยมากๆนะคะ ทาเเล้วสดใสมากมากเลย ไม่มีสีดำสนิทเช่นเคยค๊า เเต่ว่าบางเฉดใกล้ๆกับตลับอื่นเเละ เดี๋ยวตอนท้าย Irisa จะลองสรุปดูนะคะ
Urban Decay Ammo Shadow Box ตลับนี้คงจะบางเบาที่สุดที่มี นอกจากว่าจะมีพู่กันมาให้ด้วยเเล้ว เฉดสีเน้นไปทางสว่าง มีวิววับเป็นประกายในเนื้อตลอดค่ะ ความจริงเเอบชอบสีของตลับนี้มากโดยเฉพาะสี Sin,Grifter, Shattered and Last call เเละเเน่นอนมีเฉดสีที่ใกล้ๆกับตลับอื่น เดี๋ยวเราค่อยว่ากันเนอะ เราว่าตลับนี้กับ Mariposa เ้น้นการพกพา น้ำหนักเบา เน้นสีนู้ดเเละสดใสมากกว่าโทนเข้ม เพราะเช่นกันในตลับนี้ไม่มีสีดำสนิทค่ะ เเต่ตลับนี้เราไม่มีปัญหากับเม็ดสีอัดเเน่นจนต้องถูหลายทีให้สีติดนะ ตลับนี้ปาดทีเดียวอยู่จ้ะ กลิตเตอร์ไม่ใหญ่เกินไปจ้า สําหรับเราเราอาจจะต้องพกไปคู่กับตลับสีอื่นที่เราชอบอีกที สีมันน้อยอ่ะผสมสีลำบาก เเต่ละสีต้องทาเเยกกันเป็นส่วนใหญ่ เเต่ถ้าใครชอบทาเเบบสีสองสีอยู่บนเปลือกตาก็ตลับนี้น่าจะลงตัวเลยค่ะ
Urban Decay Naked เเละเเล้วก็มาถึงตลับฮิตที่ทําให้ Urban Decay ซื้อใจสาวไทยเพราะพี่โมเมไป ก็คือเจ้า Naked นี่เอง เเต่ถามว่าทําไมมันถึงชนะใจ Irisa จนต้องสอยมา คงเป็นเพราะเฉดสีที่ไม่ต้องคิดมากอ่ะ เพราะทายังไงก็สวย เพราะสีมันใกล้กะสีเนื้อ เอาจริงปะ ถึงคุณจะทาอายชาโดว์ไม่เป็น เบลนไม่เป็น ผสมสีเเล้วงงๆทาเเล้วเลอะเหมือนโดยต่อย เเต่เฉดสีอ่อนสลับเข้มที่ใกล้เคียงสีเนื้อเนี่ยย ทายังไง๊ก็สวยอ่ะ มันไม่โดดออกมามาก เเถมยังทํา Smoky eye ได้อีกเเต่อย่าลืมนะว่าพาเลทนี้ไม่มีสีดำสนิทจ้าาา อย่างไรก็ตามสีที่ทาได้ทุกวันไปทํางานหรืองานกลางคืนทายังไงก็สวยยกให้ Naked จริงๆเลยจ้าา ตลับรุ่นนี้เป็นกํามะหยี่ ฝุ่นจับง่ายหน่อย เเต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคกับการใช้งาน เเปรงก็เเถมมาให้ในตัว พกพาง่ายไหมไม่รู้เพราะอาจจะยาวไปสําหรับบางคน เเต่เราว่าพกอันเนี่ยยังไง๊ก็รอดตาย 5555 เเต่ใครชอบสีจัดๆ เเบบเหลือง เเดง ม่วง ชมพู หยุดค่ะ ตลับนี้ไม่มีไม่ต้องซื้อจ่ะ หากใครซื้อรุ่นนี้เค้าจะเเถมไพรม์เมอร์นะคะ จะได้ทาเเล้วเฉดสีติดง่าย ทนมากขึ้นจ้า ขอโทษด้วยไม่ได้เอารูปมาเเปะ ตอนถ่ายรีวิวไม่ได้ใช้เลยน่ะจ้ะ ^^
Urban Decay Naked 2 มันไม่จบเพราะ Urban Decay ดันทําเวอร์ 2 ของ naked ขึ้นมาซะงั้นเเถมคราวนี้ตลับไม่จับฝุ่น เเปรงมีสองด้านไว้เบลนได้ด้วยเเละมีสีดำสนิทมาในตลับนี้ โอ้ววว คนมีตลับ 1 ถึงขั้นชั้นต้องซื้ออีกตลับไหม Irisa ว่าเอาจริงปะ สีมันก็ไม่ได้ซ้ำมากมายไรนะ มันมีเเบบใกล้เคียงเฉยๆ เเล้วมันออกโทนเทามากกว่าน้ำตาลอย่างเวอร์ชั่นเเรก เราว่าไม่จําเป็นต้องซื้ออีกนะ อย่างที่บอกสีเเนวๆสีเนื้อเนี่ย ตลับเดียวอยู่จริงๆ เลือกเอาว่า 1 หรือ 2 เฉดมันใกล้ๆกันละนะในความคิดเรา เเต่เราเเค่ต้องการสีดำสนิทอ่ะ นั่นเป็นปัจจัยให้เราสอย Naked 2 ค่ะ อ้อ ถ้าใครซื้อเวอร์ 2 นั้นจะพบว่าเค้าเเถมลิปกลอสเเบบบีบๆมาให้หลอดเล็กๆ ซึ่งโดยส่วนตัวกลิ่นมันหอมขนมมากไป เราไม่ชอบอะไรเหมือนอาหารติดอยู่ที่ปากตลอดเวลา เเอบรู้สึกว่ามันมีรสด้วยอ่ะ (ไม่รู้ว่าเพราะหอมมากจนคิดว่ามีรสหรือมันมีรสจริงๆหรือว่าอะไร) เเต่สีชมพูอ่อนๆ ทากับสีไหนก็สวยค่ะ เเต่ทาตัวเดียวโดดๆ นู๊ดมากเห็นสีปาก สีปากเราไม่งาม คงไม่สามารถใช้ตัวเดียวโดดๆได้ 5555 ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ถ่่ายรูปติดมารอบหน้ารีิวิวลิปจะเอามาฝากนะคะ สีของตลับนี้จะเห็น่ามีทั้งเนื้อ เเมท กะ กลิตเตอร์เมือนเดิมนะคะ ถ้าลองสังเกตSwatch สีดู หลายตนมองว่า Tease ไว้ไล้จมูกเป็นสัน Bootycall ไว้ไฮไลท์ ไรเเบบนี้ สีที่ซ้ำกะเวอร์ 1 ก็มีเดี๋ยวสรุปไว้ข้างท้ายนะ โดยส่วนตัวชอบเวอร์ 2 มากกว่าก็เพราะ Blackout อย่างเดียวเลยค่าาา
มาเปรียบเทียบความเหมือนกันของเเต่ละตลับกันค่ะ (ขาดเหลือสีไหนเเจ้งเลยะนะคะ) ฺBlackout มีใน 15 year and Naked 2 Smog มีใน Book of Shadows, Ammo and Naked Half Baked มีใน Naked and Naked 2 Gun Metal มีใน Mariposa and Naked Sin มีใน Ammo and Naked Rockstar มีใน Book of shadows and mariposa (เเอบคิดว่าชื่อเหมือนเเต่สีต่างอ่ะ 555) Money มีใน Book of shadow and Mariposa chopper มีใน Ammo and Naked 2 Suspect มีใน Book of shadows and Naked 2
มาเปรียบเทียบความคล้ายกันของเเต่ละสีกันค่ะ เน้นไปทาง Naked เน้ออ(ขาดเหลือสีไหนเเจ้งเลยะนะคะ) Ace=Gunmetal,Pistol M.I.A=Hustel Side Car=YDK,Suspect,Toasted Vergin=ฺBootycall Sneakbite=Smog ก็ใกล้ๆกันอ่ะ 555 Busted=Hustle
วันนี้ขอจบการรีวิวเเต่เท่านี้ ใครมีอะไรเพิ่มเติมหรือขอคําเเนะนําเเจ้งมาได้เลยนะคะ เเวะไปกด Like ในเฟสบ้างน๊าที่ ตอนนี้มี Pre Order Handmade Collar สวยหวานมากๆ ลองเข้าไปเเวะชมนะคะ เเล้วเจอกันใหม่รอบหน้าน๊าค๊าาา ปิดท้ายด้วยภาพขณะถายทําค่ะ ขอบคุณน้องเตนเเละเเก้วที่เื้อื้อเฟื้อหน้าเเละอุปกรณ์ในครั้งนี้เเละสองหนุ่มเคเเละซีที่ถ่ายภาพงามๆในครั้งนี้ค่ะ/Irisa
Free TextEditor
|
Irisa by Art and Pim
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] "Irisa" is a unique design with the Vintage pastel on Scarf/Scarves and Accessories. We are both Blogger and Designer. Hope you enjoy both our Collections and Reviews. Thanks!! Irisa เป็นคำเเทนของ อาร์ทเเละพิม ที่จับมือกันเขียน Blog รีวิวเครื่องสําอางเเละแฟชั่น เเละออกเเบบผ้าพันคอเเละเครื่องประดับค่ะ ขอฝากตัวด้วยทั้งรีิวิวเเละคอลเลคชั่นของเรานะคะ ขอบคุณทุกคนมากค่ะ Facebook Irisa by Art and Pim http://www.facebook.com/Irisabyartandpim http://www.irisacollection.com Instagram user name @irisabyartandpim 
Friends Blog |
"Irisa" Unique Design with the Vintage Pastel Collection.
