ความยากจนจ๋า พี่ขอลาก่อน ความสุขจ๋า รีบมาไวๆ เด้อ
Group Blog
 
All Blogs
 

ความยากจน ครั้งสุดท้าย ตอน ออมจริง ประหยัดจริง

ผมไม่รู้ว่าคุณจะมี่รายได้เท่าใด หลักกการคือออม ร้อยละ 15-30

 ของรายได้
เนื่องจากตอนนี้ก็ 12 สิงหาคม 2556 แล้ว

ผมให้คุณเอาเงินไปฝากธนาคาร บัญชีที่ไม่มี ATM เลย



 ถอนยากหน่อย  ประมาณ 1000-3000 บาท

 แล้วแต่รายได้ หากคนไหนมีเงินเดือนมากก็

ฝากไปเลย 3000 บาท หากมีรายได้น้อย ก็ฝาก 500-1000 บาท

ก็พอ ลองดูสิว่า มันจะตายไหม

เงินหายไปเท่านี้ เราจะัอยู่ ได้ไหม ประหยัด

เพื่อลดรายจ่าย ของจริง ๆ ไม่ใช่ plan  แล้ว นิ่ง



 เริ่มฝากเงิน 13 สิงหาคม 2556 เลยครับ


นี้มาสนุกกันได้ใครฝากแล้วมาโพสต์ที่กระทู้นี้

หรือ อายก็ pm มาก็ได้ ครับ ถือว่า ทำเอามันส์ขำๆ


 มาลองของจริงกัน เสียที จะได้ไม่ยากจนอีกต่อไป

มาลองประหยัดรายจ่าย ให้ได้ 500-3000 บาท

 ในเวลาประมาณ 17 วันก่อนเงินเดือน ออกดูสิ


 เราจะทำได้ไหม  ??????????????



เราจะประหยัดได้ไหม อ่านมาเยอะแล้ว

 ต้องลงมือทำเสียที ลุยครับพวกเรา สู้ๆ





 

Create Date : 12 สิงหาคม 2556    
Last Update : 12 สิงหาคม 2556 23:03:33 น.
Counter : 4753 Pageviews.  

ความยากจน ครั้งสุดท้าย ตอน บัตรเครดิตนรก




บัตรเคดิตร เป็นอะไรที่น่ากลัวมาก หากใช้ไม่เป็น เพราะอะไร???

ดอกเบี้ยมหาโหด และค่าปรับยิบย่อย น่าเกลียดมาก คือตัวปัญหา
จากบัตรเคริตรที่ทำให้เราจนลง อย่างรวดเร็ว ด้วยสาเหตุคือ

1 ดอกเบี้ยสูง
2 ค่าปรับแพง
3 เสียเงินได้สะดวกรวดเร็ว
4 อาจถูกฉ่อโกงได้
5 ทำให้ใช้จ่ายเกินตัว
6 ค่าธรรมเนียมรายปี

แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีข้อดีของบัตรเครดิตรอยู่
1 การซื้อ ที่สะดวก
2 ความคุ้มครองต่างๆ
3 รางวัล ของแถมต่างๆ
4 มีรายการสรุป
5 เป็นแหล่งเงินฉุกเฉิน

แต่อย่างไรก็ตามบัตรเคดิตรมันเอาเปรียบเราได้
เ่ช่น

ค่าธรรมเนียมรายปีแพง  ดอกเบี้ยโหด
ค่าปรับ  ค่าทวงถามมีตลอด  งง มาก
การมีพวกมาตื๋อขายประกันทางโทรศัพท์บ่อยมาก
จ่ายเงินขาดไป 3 สตางค์ ค่าปรับ 450 บาท
ต้องจ่ายหนี้ก่อนเงินเดือนออก 3 วัน จะเอาเงินมาจากไหน

ทางแก้
1 ปิดบัตรเครดิตรให้หมดเหลือแค่ใบเดียวเท่านั้น
2 กู้เงินสหกรณ์มาปิดหนี้บัตรเครดิตร
3 ขอประนอมหนี้ 
บัตรเครดิตร หากไม่้ไหวจริงๆ



เมื่อก่อนผมเคยมีหนี้บัตรเครดิตร 3 ใบ รวม หนี้ 150000 บาท
ต้องจ่ายหนี้เดือนละ 16000 บาท ตายครับตายสนิท
ผมเลยหารายได้เสริม มาใช้หนี้เพิ่ม และกูสหกรณ์ มาปิดหนี้ทั้งหมดจบครับ

  ข้อมูลที่ควรรู้

ดอกเบี้ยบัตรเครดิต ร้อยละ 18 ต่อปี
ดอกเบี้ยสหกรณ์ออมทรัพย์ร้อยละ 7 ต่อปี
หนี้บัตรเครดิตร ต้องผ่อนคืนใน 10 งวด
หนี้สหกรณ์ แบ่งจ่ายได้นานถึง 240 งวด


"นิยาม" ของคำว่า Hair-cut

Hair-cut ก็คือการจ่ายชำระมูลหนี้ ที่มีการค้างชำระกันไว้ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ โดยมีข้อตกลงเจรจาเป็นการนำเสนอที่จะทำการลดมูลหนี้ที่คงค้างกันอยู่...ว่าจะมีการลดหนี้ให้เป็นจำนวนเท่าไหร่?

โดยคิดจากมูลหนี้ที่คงค้างทั้งหมด จากยอด ณ.ปัจจุบัน

ซึ่งก็คือยอดหนี้ของ ณ.วันนี้ นั่นเอง

วันที่เรากำลังเจรจาต่อรองเรื่องส่วนลดหนี้กันอยู่ ณ.ขณะนี้

(ไม่ใช่ยอดหนี้ของเงินต้นในอดีต...ไม่ใช่ยอดหนี้ของวันที่เราเริ่มต้นหยุดจ่าย)


ซึ่งส่วนมากทางเจ้าหนี้มักจะเป็นผู้เสนอว่า จากมูลหนี้ที่คงค้างอยู่ ณ.ปัจจุบันนี้ จะลดหนี้ให้เท่าไหร่? โดยการแจ้งเป็นตัวเลข ว่าจะลดให้กี่บาท หรือกี่เปอร์เซนต์ (ซึ่งส่วนมากจะเสนอตัวเลขเป็นบาท แต่ถ้าเราอยากรู้ว่าเป็นกี่เปอร์เซนต์ ก็สามารถเอามาคำนวนเองได้)

ยกตัวอย่างเช่น มีหนี้คงค้างอยู่ ณ.ปัจจุบันนี้ เป็นจำนวนเงิน 100,000.-บาท (หนึ่งแสนบาท) ทางเจ้าหนี้เสนอมาว่า จะลดหนี้ให้เป็นจำนวน 40% ก็หมายความว่า ทางเจ้าหนี้พึงพอใจที่จะเรียกเอาเงินคืนเพียงแค่ 60,000.-บาท (60%) เท่านั้น...ส่วนอีก 40,000.-บาท (40%) นั้น...ทางเจ้าหนี้ลดหนี้ให้ ด้วยเหตุผลต่างๆดังนี้

:S - ขี้เกียจทวงแล้วโว้ย...ทวงเท่าไหร่ก็ไม่ยอมจ่ายสักที

:ohmy: - ทางเจ้าหนี้ แทงบัญชีหนี้ของเราเป็น NPL ไปแล้ว (เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้)
หรือตัดบัญชีของเราเป็น“หนี้สูญ”ไปแล้ว



อ่านข้อมูลเติมที่ ชมรมหนี้บัตรเครดิตร
//debtclub.consumerthai.org/











 

Create Date : 06 สิงหาคม 2556    
Last Update : 6 สิงหาคม 2556 18:17:57 น.
Counter : 2234 Pageviews.  

เทคนิค คิดก่อนซื้อ 3 รอบ และการควบคุมตัวเอง

          เคยไหมครับ ที่เราซื้อของแพงๆ มาแล้วพบว่า
มันไม่จำเป็นสักนิดเดียว
ผมเองก็เคยเหมือนกันครับ
 ที่มีก็ได้แก่ จอ LCD projector   ราคาแพง
และคอมพิวเตอร์จอสัมผัส ราคา
30000  up




หลายครั้งเราซื้อของ ตามอารมณ์อยากได้ ไม่มีเหตุผล
ทำให้ชีวิตติดลบ มีหนี้สิน ชีวิตยากจนมากมาย เพราะ
ซื้อตามอา่รมณ์ ไม่คิดหน้า คิดหลังให้ดี ใจร้อนเกินไป
เทคนิค การคิดก่อนซื้อ 3 รอบ ช่วยท่านได้ โดย


จะต้องตั้งกติกากับตัวเอง ว่าหากจะซื้ออะไร อยากได้
ต้องสืบค้่นหาข้อมูลเพิ่มก่อน ข้อดี ข้อเสีย ราคา
และดูว่า เราจำเป็นต้องมีมันหรือไม่ คิดรอบแรกสรุปก่อน
ทอดเวลาไว้สัก 3 วัน แล้วคิดอีกรอบว่าจำเป็นไหม
โดยในรอบที่ 2 ให้คิดว่าไม่ซื้อได้ไหม ???


 ด้วยการมองหา
ความเป็นไปได้ที่เราจะไม่ซื้อ หากยังจะซื้ออยู่ รออีก 5วัน
แล้วคิดรอบที่ 3 ในประเด็นต่อไปนี้

1 มันจำเป็นไหม
2 ราคาสมเหตุผลหรือไม่
3 ข้อดี ข้อเสียคืออะไร
4 ไม่ซื้อมันจะได้ไหม






หากคิดรอบที่ 3 แล้วยังต้องซื้ออยู่ ก็ตามสบายครับ
แสดงว่าคิดมาดีแล้ว อารมณ์อยากได้ ใน 8 วันน่าจะจางแล้ว
ไม่ใช่ คิด อยากซื้อ ปุ๊บ มีอารมณ์ซื้อ ทันที แบบนี้ยากจนแน่นอน

การควบคุมตัวเองในการใช้จ่าย


1 ใช้วิธีหักเงินฝากตั้งแต่ต้นเดือน ควรออมอย่างน้อย 10% ของรายได้
แต่ผมคิดว่า ออม 15% กำลังดีครับ ยกตัวหากคุณมีเงินเดือน
เดือนละ 20000 บาท ต้องออมเดือนละ 3000 บาท จึงถือว่าผ่าน

2 การจำกัดเงินที่พกใส่กระเป๋า เช่นไม่พกเงินไปเกิน 500 บาท
แต่อาจมี ATM ไปด้วยเป็นต้น

3 การบันทึกรายจ่ายทุกวัน จะช่วยเตือนสติเราได้ดี ต้องทำทุกวัน
การเขียนจะทำให้เราชัดเจนว่าเงินเราไปไหนหมด

4 ไม่เดินไปใก้ลสถานที่ต้องเสียเงิน เช่น ผมก็ไม่เดินไปใกล้ผับ หรือ
คาเฟ่ ไม่ไปร้านหนังสือ หรือ เดินตลาด หรือ ห้างสรรพสินค้า โดยไม่
จำเป็นให้ใช้เวลา อยู่ในสถานที่ ที่ไม่เสียเงิน

5 หาอะไรดีๆ มาทำ และเป็นกิจกรรมที่ไม่เสียเงิน อาทิเช่น
ล้างรถ วิ่งออกกำลังกาย  อ่านหนังสือในบ้าน ฝึกฝนภาษาอังกฤษ
อ่านเอกสารวิชาการในสาขาอาชีพของคุณ เป็นต้น

6 ท่องคาถาประหยัดก่อนนอน 10 รอบทุกคืน

ไม่ซื้อของที่อยากได้
ไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็น
ประหยัดวันนี้ สบายวันนี้

7 เริ่มลงมือตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลง
โดยเดือนแรก
อาจจะมีเป้าหมาย ลดรายจ่าย 1000 บาท ทดลอง
ทำมันอย่างจริง และทำให้สนุก







 

Create Date : 06 สิงหาคม 2556    
Last Update : 6 สิงหาคม 2556 7:26:59 น.
Counter : 1030 Pageviews.  

เมื่อเงินไม่ใช่คำตอบของชีวิต

สมัยก่อนผมคิดว่า การมีเงินเยอะๆ ถึงมีความสุข
หากผมเป็นเศรษฐีร้อยล้าน ชีวิตคงมีความสุขมาก



แต่พอผมเรียนจบมา ได้ทำงานในชนบท กันดาร
ได้ไปคลุกคลีกับชาวบ้าน คนรากหญ้า ได้เข้าใจเขา
ได้ช่้วยเหลือ ดูแล เยียวยา เป็นเพื่อนกับ พวกเขา
ชีวิตผม กับมีความสุขอย่างน่าประหลาด
มันมีความสุขมากกว่าไป ดื่มสุรากับคนรู้ใจเสียอีก


แบบที่เขาเรียกว่า ความสุขที่ได้ทำความดี
เหมือนว่า เป็นงานที่หล่อเลี้ยงชีวิต

ความกระหาย อยากร่ำรวย เลยค่อยๆ
หายไป ทีละน้อย พออายุใกล้ 30 ปี
การอยากมีภรรยา มีครอบครัว
เป็นสิ่งที่ผมต้องการ แทนการ อยากมีเงินเยอะๆ ครับ

ผมเองก็ได้คำตอบแล้วว่า อยากได้อะไรชีวิตนี้

1 ครอบครัวอบอุ่น
2 สุขภาพดี
3 การเงินมั่นคง
4 เปลี่ยนประวัติศาสตร์วงการเภสัชกรรมไทย
(โอเวอร์ไป หรือเปล่านี่ ข้อ 4)



ซึ่งความฝันทั้ง 4 ข้อ ไม่ต้องใช้เงินมากมาย

เมื่อ รู้ สิ่งที่ตนอยากได้ 4 ข้อ แล้ว
ผมก็เริ่มลุบเลยว่า ต้องทำอะไรบ้าง
ทำอย่างไร ความฝันทั้ง 4 ข้อ จะเป็นจริง
ทำให้ผมไม่จมปลักกับเรื่องเงินเลยครับ
ชีวิตง่ายขึ้นในทันทีครับ

สิ่งที่ต้องทำเพื่ิอครอบครัวอบอุ่น
1 อยู่ด้วยกัน บ้านเดียวกัน
2 ทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น พาลูกไปว่ายน้ำ
3 นัดเที่ยว จัดเต็มทั้งครอบครัว ทุกปี
4 พยายามตั้งใจฟัง กันและกัน
5 จ้องจับถูก ไม่คอยจับผิด
6 ทำสิ่งดีๆ ให้กัน
7 รู้จักยืดหยุ่นให้แก่กัน ให้อภัย



มีข้อ 2 และ 3 เท่านั้นที่ต้องใช้เงิน และไม่เปลืองด้วย


สุขภาพดี
1 ออกกำลังกายทุกวันที่สันเขื่อน
2 ลดแป้ง งดน้ำตาล
3 เพิ่มผัก เส้นใย และผลไม้
4 ตรวจสุขภาพทุกปี
5 ลดเค็ม ลดสุีรา งดเหล้่าเข้าพรรษา
6 เล่นกล้าม
7 ใช้ยาตามความจำเป็น



ข้อที่ใช้เงิน มีแค่ ข้อ 3  และ 6 เท่านั้นไม่เปลืองเลย


การเงินมั่นคง
1 มีงานประจำ รับราชการ
2 ออมร้อยละ 15

3 เงินสำรองฉุกเฉิน 6 เท่าของรายจ่าย
4 ประกันชีวิต ตายแล้วได้ สัก 2 ล้านบาท
5 บ้านและที่ดินปลอดหนี้
ผมทำได้แล้ว เหลือหนี้ไม่มากครับ




 เปลี่ยนประวัติศาสตร์วงการเภสัชกรรมไทย
อันนี้เป็นเรื่องภายในครับ ....




 

Create Date : 05 สิงหาคม 2556    
Last Update : 5 สิงหาคม 2556 21:27:45 น.
Counter : 2140 Pageviews.  

ทำไมต้องประหยัด ความยากจนครั้งสุดท้าย



หลายคนเข้าใจว่า หากอยากรวย อยากสบาย ต้องหาเงินได้มากๆ
ผมเห็นมากับตา แล้ว ที่คนเงินเดือนสามหมื่นบาท แต่รวยกว่า
คนเงินเดือน แสนกว่า บาท  10 เท่า นี่คือเรื่องจริงครับ
ยกตัวอย่าง คนแรกเงินเดือน 30000 บาท เหลือออม
14000 บาท ต่อเดือน นำเงินไปลงทุนต่อ ทุกๆ เดือน
คนที่สอง เงินเดือน 100000 บาท แต่ใช้เงินไม่เหลือเลย




ผ่านไป 20 ปี คนแรกมีทรัพย์สินเกิน 100 ล้านบาท
ส่วนคนที่สอง เงินเดือนแสนกว่า เป็นหนี้ 10 ล้านแทน
นี่คือเรื่องจริงครับ ว่า ต่อให้หาเงินได้มากแค่ไหนก็ไม่รวย
หากใช้เงินหมดเกลี้ยง ไม่เหลือเลย แบบนี้ ยากจนแน่นอน
ความร่ำรวย หรือ ยากจนเกิด จากทรัพย์สินที่เรามี และรายได้
ประจำต่อเดือนว่ามากน้อยแค่ไหนนั่นเอง

การไม่ประหยัด ทำให้ใช้จ่ายเกินตัว จนเสียนิสัย
เกิดการเสพติดหรูหรา ติดแล้วแก้ยากครับ
ตอนผมเรียนจบเภสัชใหม่ มีรายได้ จากการขายวัว
เดือนละ 30000 บาท + เงินเดือน เมื่อ 15 ปีก่อน
น่าจะรวยครับ แต่กินเหล้า +เทียวทุกคืน เงินหมดตูด
แถมติดลบอีกต่างหาก นี่คือเรื่องจริงครับ



ดังนั้น ใครไม่อยากยากจน สิ่งแรกที่ควรทำคือประหยัีด
โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ ออม 15% จากรายรับทั้งหมดครับ

วิธีที่แนะนำง่ายครับ ในแต่ละเดือน ให้หักเงินออมทันที
ในวันที่เงินเดือนออกเลย แล้วใช้เงินที่เหลืออยู่ให้พอครับ
ทำแบบนี้ได้ผลแน่นอน ครับ

สรุป

ความประหยัด คือเกราะป้องกันความยากจน

หากใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หาเงินได้มากค่ไหน
คนที่ไม่ประหยัดเลยก็ยากจนแน่นอน

ประหยัด คือมีเงินออมอย่างน้อยร้อยละ 15 ของรายได้




 

Create Date : 05 สิงหาคม 2556    
Last Update : 5 สิงหาคม 2556 18:56:34 น.
Counter : 1685 Pageviews.  

1  2  3  

เภสัชเอก
Location :
ขอนแก่น Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ผม เป็น เภสัชกร ครับ รับราชการ
อยู่ โรงพยาบาลชุมชน ในอำเภอแห่งหนึ่งของจังหวัด ขอนแก่น
อายุ 41 ปี แล้วเกิด ปี 2515 ลูก 1 คน ภรรยา 1คน
Friends' blogs
[Add เภสัชเอก's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.