กลเม็ดแพรวพราวในการเล่าเรื่อง เล่าเรื่องเหียก ๆ ในสายตาของฉันได้น่าติดตามมาก สมจริง สนุก ตลก สมน้ำหน้า น่าสงสาร เห็นใจ รัดทนใจ และไม่อยากให้มีโลลิตาน้อยอีกเลย ซึ่งคงจะเป็นไปไม่ได้ในโลกที่ยังมีผู้ชายอยู่ (แรงส์) แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วชะตากรรมของพระเอกจะไม่ได้เจริญรุ่งเรือง หรือลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมได้โดยไม่มีความผิด แต่บทลงโทษที่เขาได้รับในทางโลกแสดงอยู่ในไม่กี่หน้าสุดท้ายของหนังสือหนา 256 หน้า ความรู้สึกผิดนิดๆ ก็แฝงอยู่ในระหว่างบรรทัดที่อาจมองไม่เห็นได้ง่ายๆ เลย แต่ก็ต้องยอมรับละว่าหนังสือเรื่องนี้...สนุกง่ะ... เขียนโดย วลาดีมีร์ บาโบคอฟ ถอดความโดย นายตำรา ณ เมืองใต้ อ่านจากฉบับสำนักพิมพ์ศรีปัญญา มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับหนังสือเรื่องนี้มาตั้งแต่ครั้งในอดีต ว่ามันเป็นหนังสือเล่าเรื่องโลกีย์ต่ำ ๆ หรือเรื่องดีชั้นเลิศกันแน่ ซึ่งฉันคิดว่า...555...ก็แล้วแต่มุมมองนะ...อย่าเชื่อถ้ายังไม่ได้อ่านเอง... ================================================================================= เล่าสั้นๆ (ใน เครื่องหมาย ... เป็นประโยคในหนังสือ) นายฮัมเบอร์ต เกิดปี 1910 ปารีส ฝรั่งเศส มีความรู้ดี ฐานะดี รูปร่างดี การงานดี แหมก็เป็นพระเอกอะนะ ชีวิตโดยทั่วไปของเขาจากภายนอกก็สมบูรณ์ดี แต่ภายในจิตใจของเขาแล้ว....อาการหลงใหลในตัวเด็กสาววัยเรียนมันพลุ่งพล่าน ร้อนรน แอบซ่อนอยู่หลังหน้าฉากที่สวยงาม หนังสือเล่มนี้เป็นบันทึก และคำให้(ด้านมืดอันหมกหมุ่น) แอนนาเบล แฟนคนแรกสมัยวัยรุ่น ตายเสียก่อนที่จะได้คบหากันถึงขั้นลึกซึ้ง แต่ก็เกือบไปอยู่หลายครั้ง 1935 (อายุ 25 ปี) แต่งงานกับ วาเลอเรีย (ไม่แน่ใจอายุ น่าจะมากกว่าเขา ราวๆ 30) ด้วยเหตุผลทางสังคม โอกาส และหวังจะเป็นที่ป้องกันตัวเขาเองจากเด็ก ๆ แต่การแต่งงานครั้งนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้จิตใจของเขาสงบลง าเซาะแสวงหาเด็กๆ ไว้เก็บกิน ซึ่งการแต่งงานไม่ได้ช่วยให้ความคิดอยากกินเด็กหายไปได้เลย ในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน ชีวิตคู่ไม่ได้ราบรื่น สุขสันต์ ระหว่างนี้ชายหนุ่มเฝ้ามองหานางพราย เหล่าเด็กหญิงวัยเรียน เอาะๆ ไม่ได้สนใจดูแลภรรยาของเขาเท่าไหร่นัก ก่อนที่ชายหนุ่มจะทิ้งเมียที่ไปขอมาแต่งงานด้วย เขาก็ถูกทิ้งสะก่อน ในปี1939 (อายุ29 ปี) เมื่อเขาจะทำเรื่องย้ายที่อยู่เดินทางไปอยู่ประเทศอื่น วาเลอเรีย มีท่าทีหงุดหงิด เขาจึงถามเธอไปว่า มีอะไรอยู่ในใจหรือ มีชายอื่นอยู่ในใจ เธอตอบ นี่เป็นคำจัญไรที่สามีพึงจะได้ฟัง (สะใจคนอ่านหญิงที่เลยวัยนางพรายมาหลายสิบปีอย่างฉันจริงๆเลย) หลังจากนั้นเธอผู้เหี่ยวเฉา น่าเบื่อไม่มีอะไรดีก็จากไปพร้อมกับชายที่อ่อนโยนและรักเธอจริงๆ ...ต่อหน้าต่อตา..... เขา ตาพระเอก จมอยู่กับความทุกข์โศก แต่หาใช่จากเมียแก่จากไป หากเป็นเพราะว่าไม่อาจลด บรรเทาความต้องการที่พุ่งพล่านรุนแรงอันที่จะไปเกี่ยวข้องกับนางพรายน้อยได้ เวลาผ่านไปกับอาชีพการงานต่างๆ ที่เจริญดีของเขา จิตใจที่หมกมุ่นครุ่นคิดเรื่องเด็กสาวในชุดนักเรียนไม่ได้จางหายไป ภาระหน้าที่และอะไรก็ตามทำให้เขาออกเดินทาง...สู่อเมริกา...ที่ที่วิบากกรรมที่แท้ได้เริ่มขึ้นจริงๆ เสียที 1947 (อายุ 37 ปี) พบกับโลลิตา เด็กหญิง ป.7 อายุ 12 ขวบ ในครั้งแรก บรรยายได้ดูเหมือนตกหลุมรักมาก โรแมนติก อ่านเพลินๆ ไป ทั้งน่าสงสารเห็นใจ ชายหนุ่มอายุ 37 ผู้โดดเดี่ยวเงียบเหงาและคอยแอบมองหาโลลิตาน้อยวัย 12 อย่าให้ผู้เขียนชักนำเราได้ง่าย หนักแน่นไว้ ดูเหมือนเทพนิยาย เรื่องประโลมโลกที่ชายวัย 37 อบอุ่นมีชั้นเชิงจะหลงรักเด็กหญิงวัย 12 และเฝ้าดูแล รอคอยให้เธอเติบใหญ่ ทะนุถนอม และแต่งงานกันเมื่อถึงวัยอันควร...ลืมเสียเถอะ..นี่เป็นหนังสือ 1 ใน 100 วรรณกรรมชั้นเยี่ยมของโลก..เรื่องราวมันคงไม่ง่ายอย่างนั้น.. ข้าพเจ้ารู้สึกว่ายากอย่างที่สุด ที่จะบรรยายให้เห็นชัดถึงกำลังที่กระทบใจข้าพเจ้า เมื่อได้เห็นภาพนั้น ภายในแสงแดดที่สาดตัวเธอ ข้าพเจ้าได้โลมสายตาไปทั่วกายเด็กสาวที่กำลังคุกเข่าอยู่ (เธอขยิบตาภายในแว่นสีดำจัด แม่หนูน้อยที่จะรักษาความปวดร้าวของข้าพเจ้าให้หาย) เดี๋ยวนี้เรากลายเป็นกวีไปแล้ว เราได้แต่งกลอนชมขนตาอันดำงามแห่งลูกตาสีน้ำตาลอ่อนอันไร้เดียงสา ชมไฝเล็กที่วางได้จังหวะบนนสิตที่เผยออกกว้าง...แต่เขียนแล้วก็ฉีกทิ้ง และก็จำไม่ได้ว่าเขียนว่ากระไรบ้าง... (เป็นเอามากนะเนี่ย...แต่ไอ้ตอนชมขนตาอันดำงามเนี่ยก่อนหน้านั้น เขาบอกโลลิตาว่า ชาวนาสวิสเอาผงออกจากตาโดยใช้ลิ้นเลีย แต่เขาก็ทดลองทำกับชนตาอันดำงามของโล...เฮ้อ) ไม่นานเขาก็แต่งงานกับแม่ของโลลิตา ซึ่งเขาเล่าว่ามีลักษณะหน้าตารูปร่างน่าเวทนา ทำไมละ ทั้งๆ ที่รักโลลิตา นานางิ (นั่นนะสิ) ก็เพราะเขามีแผนการบางอย่างในดวงตาและดวงใจที่ดำมืดไปด้วยความสุขสมหวังจากร่างน้อยๆ ของลูกเลี้ยง....บรื๋ย... เพียงไม่นาน แม่ของโลลิตา ก็ตายด้วยอุบัติเหตุ ที่มีสาเหตุการตายดั่งฟ้าประทาน หรือ ดั่งนรกสั่ง ก็แล้วแต่คนอ่านหรือระยะทางที่อยู่ใกล้หรือไกล ชายหนุ่มจิตตกคนนี้ ที่แน่ๆ ชายคนนี้เป็นคนเดียวกับคนที่นั่งดื่มเหล้าฉลอง และร้องไห้เมื่อมีคนมาแสดงความเสียใจ...ฮึ หลังจากนั้น ฮัมเบอร์ต คิดและทำตามแผนการอีกมากมาย ซึ่งความจริงเขาก็คิดมาตลอดทั้งเรื่องนั่นแหละเพื่อจะได้พา โลลิตา ผู้เสียแม่กะทันหันให้ออกเดินทางไปกับเขา พ่อผู้โศกเศร้าและสูญเสีย ด้วยความรักหรือเล่ห์กล เขาก็ได้พาเด็กหญิงที่เป็นดวงใจของเขาออกเดินทางไปจากบ้านเดิมของเธอ หลายครั้งที่ชีวิตเป็นอย่างนี้ ก่อนทุกข์หนักมาหา สุขชั่วๆก็มาเยือน เขาท่องเที่ยวไปกับลูกสาว (ของเมีย) และได้ลูกสาว (ของเมีย) เป็นเมีย อย่างสุขสมหวังในสถานที่ต่างๆ ของอเมริกา และทำไอ้อย่างว่ากันทั้งในเมือง นอกเมือง....และนอกห้อง หลังจาก 2 ปีแห่งการเดินทางเข้าออก รร. (โรงแรม) ผ่านไป วันที่คราวเคราะห์ หรือคราวดีก็มาถึงจนได้...วันที่โลลิตาจากไปสู่ชะตากรรมของเธอเอง 1950 (อายุ40 ปี) พบกับริต้าแม่หมาย ร่วมเดินทางและเข้าออก รร.อีกครั้ง แต่ริต้าไม่ใช่นางพรายน้อยแค่หน้าเหมือนเท่านั้นเอง 1952 (อายุ42 ปี) ได้รับจดหมายของ โล เดินทางไปพบ โล อายุ 17 ปีแล้ว ท้องโต อยู่กับสามีหูตึง...แต่ไม่ใช่ชายที่พรากโลจากไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ชายคนนั้นที่โลรัก แต่เขาไม่ได้รักเธอจริง ชายวัย 42 ออกเดินทางตามหาผู้ที่ลักพาตัวและหัวใจของโลลิตาน้อย นางพรายของเขาไปจากอก และทิ้งเธอไปอย่างไม่ไยดี เขามีแผนที่จะทำบางอย่าง....ดั่งเช่นแผน ที่เขาอยากจะทำกับชายที่พาวาเลอเรียจากไป และแผนที่เขาจะทำกับแม่ของโลลิตา...แผนครั้งสุดท้ายนี้จะสำเร็จหรือไม่...จุดจบในหนังโปรดติดตามต่อ (ถ้าสนใจ)...ในหนังสือค่ะ หน้าที่ 238 เขาทำลายหัวใจหนู แต่ป๋าทำลายชีวิตหนู (นี่คือความจริงที่สุดที่ฉันอ่านพบ) ================================================================================= เรื่องเศร้าสะเทือนใจที่เห็นได้จากเรื่องที่มีจุดกำเนิดจาก ความรัก (บางครั้งก็คิดว่า ฮัมเบอร์ต รัก โลลิตาจริงๆ บางครั้งก็ไม่ หรือนี่แหละที่เรียกว่าความรัก) ความลุ่มหลง ราคะ หลอกลวงของชายตัณหากลับ วัย 30 กว่า ๆ (ไปเยอะ) กับเด็กหญิงวัย 12 ขวบ (หน่อยๆ) ก็คือปลายทางชีวิตของโลลิตาในวัย 17 ปี เวลาแห่งความสดใสในวัยเด็ก ความสนุกสนานในช่วงวัยรุ่น การต่อสู้ชีวิตในวัยทำงานมันได้ผ่านเลยไปแล้วอย่างรวดเร็ว... ถึงแม้ไม่อาจกล่าวได้ว่า..นี่คือผลพวงจากความต้องการของชายคนหนึ่งเพียงเท่านั้น การที่ชีวิตคนๆ หนึ่งจะเป็นไปในทิศทางใด เราย่อมไม่ควรจะยัดเยียด บังคับให้ใคร คนใดคนหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบไปทั้งหมดนั้น ในตอนต้นที่ฮัมเบอร์ตพบโลลิตา สถานการณ์ครอบครัวของเด็กสาวไม่ได้สุขสันต์อบอุ่น แม่ของเธอซึ่งเป็นหม้าย ไม่ค่อยสนิทกับเธอนัก นางมีลูกชายที่ตายตั้งแต่ยังเด็ก เด็กชายที่นางเฝ้าหวนไห้ระลึกถึงด้วยความรัก แม้ว่าโดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าความต้องการในตัวชายคนนี้ที่ไม่อาจหยุดยั้งตัวเองได้ เป็นผู้ที่มีส่วนเต็มที่ในการชักนำให้ชีวิตเด็กน้อย โลลิตา ไปสู่เส้นทางลัดที่คดเคี้ยว ที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนกับชีวิตที่แปลกแยก สับสนกับอารมณ์และความรู้สึกในวันวัยที่ยังขาดความรู้ประสบการณ์ แด่... ชายผู้หลงใหลในน่องขาวๆ หน้าใสๆ อกเล็กๆ...ชายผู้หลงใหลสิ่งเหล่านี้ และได้ทำลายมันด้วยตัวเขาเอง...ถึงแม้จะมาเศร้าใจภายหลัง ฉันก็แอบเห็นใจเขาแค่เพียงนิดหน่อย เขายังแอบบ่นเกี่ยวกับโทษที่เขาได้รับนั้นมากเกินไปหรือเปล่า....ยังไงเขายังก็มีความดีอยู่บ้าง ซึ่งก็ใช่ แต่ถ้านายฮัมเบอร์ต ลองคิดกลับไปว่า ถ้าลูกสาวของแก มาพบผู้ชายอย่างแก แกจะรู้สึกอย่างไร ไม่แน่ แกอาจจะคิดว่า ก็ไม่ได้ผิดอะไรนี่ ถ้างั้นเราคงต้องให้แกเกิดผู้หญิงแล้วละ ไม่ก็ให้แกลองถูกเกย์สูงวัยรักและจับแกร่วมรักตามที่ต่างๆ วันแล้ววันเล่า ไม่มีคุณค่าหรือก่อประโยชน์อื่นใด นอกจากให้คนสูงวัยกว่ามาร่วมหลับนอน ไม่แน่อีกนั่นแหละ แกอาจชอบ...เอ...หรือเราควรสงสารแกดี....!!!!
Create Date : 21 เมษายน 2556 | | |
|
Last Update : 23 เมษายน 2556 12:31:04 น. |
| |
Counter : 3043 Pageviews. |
| |
|
|