รีวิวดองเค็มข้ามปี Summer in Phayao #2 วัดอนาลโย
วัดอนาลโย เป็นวัดที่สำคัญอีกวัดหนึ่งของจังหวัดพะเยา ใครที่ไปเที่ยวจังหวัดพะเยาอย่าลืมแวะไปนะคะ เดี๋ยวเขาจะหาว่าไปไม่ถึงพะเยาและเนื่องจากดองเค็มเอาไว้ซะนานขอบรรยายด้วยภาพนะคะ
Summer in Phayao #1 วัดศรีโคมคำ [ตามรอยคำขวัญจังหวัดพะยาที่กล่าวถึง "ศักดิ์สิทธิ์พระเจ้าตนหลวง"]
มีโอกาสได้ไปดูงานที่มหาวิทยาลัยนเรศวรวิทยาเขตพะเยา ก็เลยได้ไปตามรอบคำขวัญจังหวัดพะเยา ที่ว่า "กว๊านพะเยาแหล่งชีวิต ศักดิ์สิทธิ์พระเจ้าตนหลวง บวงสรวงพ่อขุนงำเมือง งามลือเลื่องดอยบุษราคัม"เริ่มต้นจากวัดศรีโคมคำค่ะ เข้าสักการะพระเจ้าตนหลวง ใครไม่มาวัดนี้ถือว่ามาไม่ถึงพะเยานะคะนี่ล่ะค่ะ พระเจ้าตนหลวงที่กล่าวถึงในคำขวัญจังหวัดพะเยา
Summer in Phetchaburi #The End [ที่พักหมู่คณะ ณ ค่ายนเรศวร]
Summer in Phetchaburi #5 [พระราชนิเวศน์ฤคทายวัน]หลังจากเดินชมพระราชวังมฤคทายวันจนหมดเรี่ยวหมดแรงกันแล้ว เราทั้งหมดก็ออกเดินทางเข้าที่พักหมู่คณะของค่ายนเรศวร เพื่อที่จะทำกิจกรรมที่เป็นจุดประงค์หลักของโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และด้วยที่เรามากันครั้งแรกและไม่เคยมีผู้ร่วมทริปคนใดเคยมาพักก่อนเลย แม้กระทั่งคนจองที่พักก็อาศัยหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเอา พวกเราก็ลุ้นว่าที่พักจะเป็นไงสอาดมั้ย มีนี่นั่นนู่นหรือเปล่า แล้วเราก็เดินทางมาถึงหน้าค่ายนเรศวรกันแล้ว แล้วก็มาถึงอาคารที่เราจะเข้าพักกันค่ะ หลังนี้แบ่งเป็นสี่ห้องจริงๆ นอนได้สองคน แต่ห้องค่อนข้างกว้าง แต่ละห้องมีห้องนอนแยกจากโซนดูทีวีค่ะ ก็เลยสามารถนำที่นอนมาเสริมได้เป็นห้องละเจ็ดคน หน้าห้องจะมีโต๊ะสำหรับรับประทานอาหาร นั่งเล่น พอเดินมาด้านในจะเป็นส่วนที่นั่งดูทีวีค่ะ มีตู้เย็นอยู่หน้าห้องน้ำที่นอนเสริมด้านนอกค่ะ (ห้องนี้ไม่มีแอร์ค่ะ มีพัดลมให้) นอนกันสี่คนเข้าไปดูในห้องนอนกันบ้าง (ห้องนี้มีแอร์ค่ะ) นอนกันสองคนและมีที่นอนเสริมอีกหนึ่งที่ ไปดูห้องนอนห้องข้างๆ กันบ้าง หวานแหว๋วไปดูห้องน้ำกันบ้าง ในห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่นด้วยแล้วก็ไปดูห้องน้ำห้องข้างๆ อีกเหมือนเดิม ยังคงคอนเซปหวานแหว๋วราคาเครื่องดื่มที่มีบริการในห้องพัก ราคาไม่แพงเราเลยกินกันเต็มที่ ออกไปดูด้านนอกกันบ้างดีกว่าชายหาดบริเวณหน้าที่พักค่ะใครมาเป็นครอบครัวเล็กๆ เขาก็มีบ้านหลังเล็กไว้บริการค่ะ นอนได้สองถึงสี่คนกลับมาที่พักของเราต่อ ด้านหน้ามีฝักบัวสำหรับล้างตัวค่ะมาดูวิวบริเวณที่พักกันบ้าง รูปพวกนี้ถ่ายช่วงเช้าก่อนเดินทางกลับค่ะปิดท้ายด้วยรูปนี้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันซะหน่อยสรุปข้อมูลที่พัก สามวันสองคืนถ้าจำไม่ผิดราคาอาคารที่เราพักประมาณเก้าพันบาท ภายในบริเวณที่พักมีร้านอาหาร ร้านขายของชำ มีจักรยานให่เช่า มีบานาน่าโบ๊ท และหากต้องการไปเที่ยวในเมืองก็มีบริการรถรับส่งด้วยค่ะ บริการทุกอย่างราคาไม่แพง ส่วนอาหารรสชาติพอใช้ได้ค่ะ
Summer in Phetchaburi #5 [พระราชนิเวศน์ฤคทายวัน]
Summer in Phetchaburi #4 [ร้านพวงเพชร]หลังจากที่ทานอาหารกลางวันที่ร้านพวงเพชรจนอิ่มแปร้พุงปลิ้น เราก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสูพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน พระราชวังฤดูร้อนที่สร้างในสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เนื่องจากเราใช้พลังงานไปมากบนเขาวัง แม้เราจะเติมพลังกันที่ร้านพวงพชรมาแล้วแต่พลังงานที่ได้มันยังไม่เพียงพอที่จะเดินเข้าไป เราจึงมองหาเครื่องทุ่นแรงและแล้วก็ได้เจอเจ้าสอล้อให้เช่า หรือรถถีบ(ภาษาเหนือ) นั่นเอง หลังจากได้รถถีบมาทุ่นแรงแล้วก็มาจ่ายค่าเข้าชม ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกผู้ใหญ่ 20บาท เด็ก 10บาท ชาวต่างชาติ 30บาทพอจ่ายค่าเข้าชมเสร็จแล้วก็ตามเพื่อนๆ ร่วมทริปไปกันเลย ถึงจุดนี้เลี้ยงซ้ายไปจะเป็นที่จอดรถจักรยาน และทางไปบ้านเจ้าพระยารามราฆพ ซึ่งเราจะพาไปดูในตอนต่อไป ทางขวามือจะเป็นวังมฤคทายวัน แวะเอาจักรยานไปจอดก่อน เพราะด้านในเขาไม่ให้เอารถจักรยานเข้าไป จอดรถจักรยานเสร็จแล้วก็เดินมาทางขวาจะมีทางเข้าชมพระราชวังค่ะพอเข้ามาภายในเราจะพบกับห้องจัดแสดงรูปภาพและข้อมูลเกี่ยวกับพระราชวังค่ะ นี่เป็นโคมไฟที่อู่ในห้องจัดแสดงรูปภาพภายในห้องจัดแสดงบานประตูหน้าต่างดั้งเดิม ก็นำมาจัดแสดงไว้ด้วยกลอน ลูกปิดประตู สวิทไฟสมัยก่อนค่ะ เคยเห็นของแบบนี้ที่บ้านเพื่อนซึ่งเป็นพักของทหารกองบิน 41 แสดงว่าห้องแถวพวกนั้นก็สร้างมานานมากแล้วสภาพเดิมของวังมฤคทายวันก่อนได้รับการบูรณะค่ะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นที่เดียวกัน เพราะหลังบูรณะเสร็จแล้วสวยมากเลยค่ะพอออกจากห้องจัดแสดงก็จะมีเจ้าหน้าที่แนะนำเส้นทางเดินชมวังมฤคทายวันสวนที่นี่ร่มรื่นมาก ผิดกับเขาวังลิบลับ อากาศก็เย็นสบายวิวทะเลก็สวยเดินชมเพลินไปเลยค่ะจากนี้ไปขอบรรยายด้วยภาพละกันค่ะเพราะถ่ายภาพมาค่อนข้างเยอะ ใช้ภาพเล่าเรื่องน่าจะดีที่สุดพอเข้ามาถึงตัววังจะมีเจ้าหน้าที่แนะนำเกี่ยวกับกฎการเข้าชม และมีถุงผ้าสำหรับใส่รองเท้าหรือจะซื้อเป็นของที่ระลึกก็ได้จำหน่าย หากไม่ซื้อก็มีถุงผ้าให้ยืมใส่รองเท้าค่ะ (เจ้าหน้าที่จะเก็บถุงผ้าคืนตรงทางออกค่ะ)เร็จเราก็มาเดินชมภายในกันค่ะห้องเสวยเจ้าหน้าที่ที่นี่เขาใส่โจงกระเบนด้วยล่ะเดินชมกันต่อชอบวังนี้จริงๆ ไม่ว่าอยู่มุมไหนก็มองเห็นทะเลเดี๋ยวเราจะไปดูที่เรือนข้าหลวงกัน เรือนไม้แถวในภาพ ทางลงตรงนี้จะมีเจ้าหน้าที่คอยรับถุงผ้าคืนค่ะเดินชมด้านหลังก่อนไปเรือนข้าหลวงแล้วเราก็เดินมาถึงเรือนข้าหลวงเข้าไปดูภายในกันค่ะ ว่าข้าหลวงสมัยก่อนเขาอยู่กันยังไงบ้างยังดูได้ไม่ครบก็ต้องกลับแล้วค่ะ เพราะพี่ร่วมทริปเขาเรียกแล้วระหว่างทางกลับก็ยิงภาพไปเรื่อยๆ ______________________________ตอนต่อไปเราจะไปต่อกันที่บ้านของเจ้าพระยารามราฆพค่ะ
Summer in Phetchaburi #4 [ร้านพวงเพชร]
Summer in Phetchaburi #3 [พระรามราชนิเวศน์(วังบ้านปืน)]หลังจากเดิมชมพระราชวังบ้านปืนเสร็จ ท้องเราก็ส่งเสียงร้องควรครางเรี่ยวแรงก็หมดถึงขั้นต้องดมยาดมกันเลยทีเดียว เวลาเที่ยงตรงรถก็มุ่งหน้าสู่ร้านพวงเพชรทันที หิวจนกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว ร้านนี้ได้คำแนะนำมาจากคุณชายกางและเพื่อนๆ ในห้องก้นครัวและแนะนำอาหารขึ้นชื่อของร้านนี้มาให้ด้วย ต้องขอขอบคุณมาณ โอกาสนี้ด้วยค่ะอาหารที่เพื่อนๆ แนะนำมาอย่างแรกปลาดุกทะเลผัดฉ่า อร่อยและเผ็ดมากตามคำแนะนำเลยค่ะอย่างที่สองที่เพื่อนๆ แนะนำมาผัดโป๊ยเซียน เมนูสำหรับคนที่ทานเผ็ดไม่ได้ อร่อยอีกแล้วค่ะ ส่วนตัวชอบเมนูนี้ที่สุดอย่างที่สาม ยำรวมทะเล อร่อยอีกแล้วอย่างที่สี่เต้าหู้ทรงเครื่อง นี่ก็อร่อยอย่างที่ห้าปลากระพงทอดน้ำปลา เมนูนี้เฉยๆ เนี่องจากน้ำจิ้มรสไม่จัดเท่าไหร่อย่างที่หกหมึกสามรสน้ำ อร่อยอีกแล้วค่าเสียหายทั้งหมดรวมข้าวเปล่า น้ำ น้ำแข้ง ผลไม้(ส้มโอ 1 จาน) ตกราคาโต๊ะละ 1,280บาท สรุปได้ว่าร้านพวงเพชรอร่อยสมกับที่เพื่อนๆ ห้องก้นครัวแนะนำจริงๆ ค่ะ------------------หลังจากเติมพลังกินกันจนอิ่มแปร้แล้ว ตอนต่อไปเราจะไปต่อกันที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน