*มุมมองแบบทหารเกี่ยวกับสงคราม๓จว.ภาคใต้(๒)*
* ถ้า คมช.จะเจ๊ง ถ้าท่านนายกฯจะเจ๊ง ก็เรื่อง๓จว.นี่แหล่ะที่จะทำให้เจ๊ง* - คนไทยมีนิสัยไม่ยอมถูกรังแกฝ่ายเดียวโดยมิได้ต่อสู้ โดนอย่างนี้บ่อยๆ ถี่ๆ รายวัน คนไทยทั่วประเทศจะทนรับไม่ได้ นานๆไปจะรู้สึกไม่พอใจรัฐบาลที่เชื่องช้า และแก้ไขอะไรไม่เป็นรูปธรรม ท้ายที่สุดความต้องการและความเจ็บแค้นแทนเพื่อนร่วมชาติจะกลายเป็นหอกเป็นดาบทิ่มแทงเข้าใส่รัฐบาลจนเจ๊งทั้งคณะ - กองทัพกำลังถูกกดดันอย่างหนัก นายทหารสายรบหลายท่านเริ่มซ่อนความคับแค้นไว้ในใจต่อรูปแบบของกองทัพที่เกี่ยวกับ ๓ จว.ใต้ หากความอดทนสิ้นสุด เราอาจได้เห็นปฎิวัติซ้อนในเร็ววัน - สถานการณ์๓จว.ใต้ในวันนี้ บ่งบอกถึงขีดความสามารถของคณะเสธ.ในเหล่าทัพได้อย่างชัดเจนว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ รร.เสธ.ต้องสังคายนาระบบการสอนเสียใหม่ ให้ตรงกับสภาพความเป็นจริงของกองทัพไทย ทุกวันนี้ เราเป่ะปะมากกับการตั้งธงปัญหาและการฟันธงปัญหา นั่นคือการนำไปสู่การล้มเหลวในยุทธการต่างๆใน ๓ จว.ภาคใต้ - กองทัพไทยทุกวันนี้ หวงของมากกว่าหวงคน เป็นอย่างนี้ทั้ง๓เหล่าทัพ กลุ่มโจรที่โอเปอเรชั่นอยู่ในพื้นที่นั้น เราจะเห็นได้ว่า พวกนี้ไม่มีเทคโนโลยีในการรบสักเท่าไร แต่กลับสร้างผลการยุทธได้อย่างรุนแรง แต่กองทัพไทยมีเทคโนโลยีที่ดีกว่ากลุ่มโจรพวกนี้แยะ กลับเอาไว้โชว์แค่วันเด็ก เอาไว้อวดแค่สื่อมวลชน เอาไว้แค่พีอาร์ แต่กลับเทกำลังพลลงไปโดยปราศจากความมั่นใจในการรุกรบ ผลที่ได้จึงเป็นอย่างที่เห็น การข่มขวัญข้าศึก เป็นเพลงยุทธบทแรกของทุกตำรารบ แม้แต่พวกโจรเองมันก็ใช้วิธีนี้ตลอดมาจนทุกวันนี้ สร้างความหวาดกลัวและหวั่นไหวให้กับกำลังพลในพื้นที่อย่างรุนแรง หากเราไม่ข่มศัตรูให้หวั่นไหวบ้าง ขวัญกำลังใจไพร่พลที่ไหนจะมีเหลือ ยิ่งเป็นศัตรูที่มองไม่เห็นตัวด้วย ยิ่งสร้างความหวาดระแวงให้กับกำลังพลอย่างสูง - นายอย่าแยะ เสธ.อย่าเยอะ ตัดใจมอบหมายให้ ทภ.๔บัญชาการไปโดยตรง พลาดมาปิดข่าว สำเร็จก็ต้องประโคม นี่เป็นเพลงยุทธบทแรกๆของการข่าว การโอเปอเรชั่นของทหารในพื้นที่รบ ควรใช้ทหารของ ทภ.๔เป็นหลัก ไม่ควรเอาทหารจากภูมิภาคอื่นมา ให้ทภ.๔ไล่ต้อนข้าศึกทั้งการการข่าวและการเมือง คัดกรองคนร้ายออกจากคนดี แยกแนวร่วมออกจากแนวปกติ แล้วกดดันให้พวกนี้ต้องหนีออกจากชุมชนเมือง พอเข้าป่า ก็ประเคนสรรพกำลังอัดให้ย่อยยับ อย่าให้เหลือเชื้อพันธ์ให้คนภายหน้าต้องได้ยากอีก - กฎอัยการศึก ต้องเข้ม เคอร์ฟิวต้องมีแล้ว ใน๓ จว.ใต้ เศรษกิจพินาศ เราสร้างใหม่ภายหลังได้ แต่ชีวิตทหาร พลเรือน ตายแล้วตายเลย สร้างใหม่ไม่ได้ คุมเข้มเรื่องข่าวสาร ข่าวสารใดๆใน๓จว.ใต้ นสพ.วิทยุ โทรทัศน์ กองทัพต้องตรวจต้องบล๊อค ข่าวเราเราปล่อย ข่าวพวกมันเราปิด ต่อให้มันฆ่าคนอีกกี่พันศพ พีอาร์ของมันก็ไร้ค่า - ปิดชายแดน๓.จว.ทุกด้าน ทั้งที่ติดกับ จว.อื่น และประเทศอื่น ค่อยๆเทกำลังพร้อมเทคโน บีบวงล้อมให้แคบลงไปเรื่อยๆ สกรีนทุกด้านแม้แต่ธุรกรรมการเงิน กดดันอย่างนี้อย่างต่อเนื่อง ไม่ช้ามันจะหันมาอัดทหาร แทนอัดพลเรือน เมื่อนั้นเราจะเห็นตัวมัน - ส่งนักรบลงไปเป็นนาย ส่งนักรบลงไปเป็นเสธ. ส่งไอ้พวกคิดออกแค่ พสร.วันทวีคูณ กลับกรุงเทพให้หมด ไอ้พวกนี้กินแรงชาติ เอาคนอยากรบลงไปรบ เอาคนปอดแหกกลับมา จัดกำลังแบบไทยๆ อย่าจัดแบบเวสพอยท์ เพราะนี่มันสงครามจรยุทธ เวสพอยท์ไม่เคยชนะสงครามแบบนี้แม้แต่สักครั้งในทุกภูมิภาคของโลก เลิกเป่ะป่ะ เลิกแยกทหารแบบผิดคุณลักษณะ แม้อาจทำให้๓จว.มีสภาพเหมือนยามสงคราม ก็ต้องทำ รบพิเศษติดอาวุธแปลงตัวเป็นพลเรือนซ้อนอยู่ในพลเรือนที่ทหารคุมอยู่อีกชั้น ทหารจะตายน้อยลง ข่าวสารจะหลั่งไหลมากขึ้น นี่เป็นเรื่องสำคัญ *จงอย่าใช้ทหารหรือกำลังรบผิดคุณลักษณะทางทหาร* มิฉะนั้น มันจะเหมือนเป็นการทำลายหรือบั่นทอนประสิทธิภาพของกำลังรบโว้ย รู้บ้างมั้ย .... ทุกวันนี้คนทั่วไปไม่รู้หรอกว่า ทหารที่ปฎิบัติหน้าที่อยู่ ๓จว.น่ะ ขวัญกำลังใจอยู่ในขีดไหนขั้นไหน ผลล่ะอยากให้คนทั้งประเทศได้รู้ได้เห็น บรรยากาศวันที่ ผู้การเขียว ถูกซุ่มด้วยระเบิดเสียชีวิตจริงๆ ข่ายวิทยุทหารทุกข่าย ระงมเซ็งแซ่ไปทั้งทัพ ข้าราชการฝ่ายปกครองตึงเครียดไปทุดอำเภอทั้ง๓จว.โดยเฉพาะในยะลา ส่วนด้านกำลังพลของทั้ง๓ ฉก.นั้นระดับบนเคียดแค้น ระดับล่างเสียขวัญ ตำรวจนั้นไม่ต้องพูดถึง ปอดลอยไปถึง ปทุมวัน ในกทม.แล้วตั้งแต่สิ้นเสียงระเบิด * ** นาทีนี้ชั่วโมงนี้ ยุทธการต่างๆของทัพไทย ใน๓จว.นั้น เละเทะไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ทำได้แค่เฝ้าพระ เฝ้าวัด เฝ้าครู เฝ้าชุมชน หากเผชิญเหตุแบบนี้ ยุทธวิธีพื้นฐานของทหารเขาต้องทำยังไงกัน แล้วกองทัพเราได้ทำอย่างนั้นรึเปล่า ** *** สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตุเห็นคือ พวกพลรบจรยุทธของพวกโจรนี้ มันไม่มีความเกรงกลัวทหารหรือกองทัพเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะอะไร? ก็เพราะระดับมันสมองของพวกมันวางหมากไว้แล้วว่า ให้ก่อเหตุถี่ๆ หนักๆ แรงๆ ต่อเนื่อง และพยายามแฝงตัว หลบหลีกซ่อนเร้นให้พ้นหน้าศึกทุกครั้ง พีอาร์ที่ออกไป ภาพคือ ทหารหรือกองทัพไทย ไร้น้ำยา ไร้ประสิทธิภาพ ทำอะไรพวกมันไม่ได้เลยนอกจากตามเก็บศพเก็บชิ้นส่วนพวกเดียวกันเท่านั้น ยิ่งนานวัน ภาพนี้จะเสริมให้มีคนไปร่วมกับพวกมันมากขึ้น เพราะเห็นแล้วว่าจนท.รัฐหน่อมแน้มเพียงใด การได้ฆ่าทหาร หลบหลีกการไล่ล่าของทหาร จะเป็นสิ่งที่ท้าทายและได้รับความยอมรับในกลุ่ม ดังนี้เราจะเห็นได้ว่า ขวัญกำลังใจของพวกมันกำลังฮึกเหิมและกล้าแข็งขึ้นทุกวัน แต่ฝ่ายเรานั้นขวัญกำลังใจลดลงจนแทบเป็นศูนย์ ทหารจำนวนไม่น้อย ก่อนนอนนั่งจดบันทึกว่าเหลืออีกกี่วันวะ ที่จะครบกำหนดกลับที่ตั้งปกติ *** **** นั่นคือเรื่องขวัญกำลังใจของไพร่พลฝ่ายเรา แต่หากพูดถึงขวัญกำลังใจของพลเรือนในพื้นที่นั้น บอกได้คำเดียวว่า คำนี้ พลเรือนผู้บริสุทธิ์เหล่านั้นไม่รู้จักคำนี้แล้ว ลืมไปแล้ว เมื่อเป็นดังนี้ รัฐเอง กองทัพเองก็อย่าหวังเลยว่า ปจว.ของรัฐและกองทัพจะประสบผล ข่าวจะบอด การเล็ดรอดจะบังเกิด เพราะพลเรือนพวกนี้หมดแล้วซึ่งความหวังในความปลอดภัยในชีวิตที่จะได้รับจากรัฐ สู้อยู่เฉยๆ นิ่งๆ จะดีกว่า รัฐจะไม่ได้รับความร่วมมือใดๆจากพลเรือนอย่างเป็นชิ้นเป็นอันอีกต่อไป หากไม่มีการข่มขวัญศัตรูที่มองไม่เห็นตัวด้วยแสนยานุภาพที่เรามี **** ***** วันนี้ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราจะเล่นใต้ดินกับพวกมันบ้าง ใต้ดินอย่างไรนั้น ผมขอไม่เขียนในที่สาธารณะอย่างนี้ก็แล้วกัน เอาเป็นว่า ทหารทุกคนน่าจะรู้ว่าผมหมายถึงอะไร หากเราปล่อยให้ข้าศึกมีสกอร์นำ โดยเรามีแต้มเป็นศูนย์อยู่อย่างนี้ มิช้าทุกยุทธการในกองทัพเราจะล่มสลาย และอาจลุกลามเข้าสู่เมืองใหญ่ๆหรือกรุงเทพในไม่ช้า ทหารรบพิเศษ เก่งและได้รับการยกย่องเชื่อถือในประสิทธิภาพจากทหารทุกเหล่าทัพ แต่ในความเก่งกาจนั้น เกิดจากการซุ่มตีข้าศึก มิใช่เกิดจากการประจัญบานกับข้าศึก ทหารราบหลักต้องรบเป็นหมู่ ไปเป็นหมู่ ทำการรบทำการควบคุมพื้นที่การรบแบบทหารราบตามคุณลักษณะทางทหารแบบทหารราบ ทหารรบพิเศษซุ่มข้าศึก หลบหลีกซ่อนเร้นรุกลวงหน่วงรั้งทำลาย อยู่กันแค่คนสองคนก็ซุ่มข้าศึกที่มีกำลังมากกว่าได้ คนสองคนได้เปรียบข้าศึกเพราะซุ่มตีตอนข้าศึกไม่รู้ตัว ข้าศึกมี๕ ตีตอนไม่รู้ตัว๑วินาทีแรกเด็ดไป๓ เหลืออีก๒ สู้กันแบบตัวๆ รบพิเศษได้เปรียบอีกนิดตรงที่ซุ่มอยู่ ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม นี่คือคุณลักษณะของทหารรบพิเศษ การส่งทหารราบ๒คนไปเฝ้าจุด ไม่ต่างอะไรกับส่งพวกเขาไปตาย เพราะมันผิดคุณลักษณะทางการรบ การส่งทหารรบพิเศษขี่มอไซค์ซ้อนกัน๒นายไปตรวจตรา ก็ไม่ต่างอะไรกับการส่งหมูไปเข้าปากหมา เพราะมันผิดคุณลักษณะของทหารรบพิเศษอีกเช่นกัน ***** ***** เห็นมั้ยครับพี่น้องทหารทั้งหลาย ว่านี่คือการใช้กำลังพลผิดคุณลักษณะทางทหาร รบสิบศึกก็แพ้สิบศึก หากผบช.ที่มีอำนาจสั่งการ ยังงมงายอยู่กับตำราเสธ.อเมริกา ชีวิตพี่น้องทหารอีกมากจะต้องเซ่นสังเวยต่อไปเรื่อยๆ เริ่มจัดสรรค์ เริ่มจัดกำลัง เราก็มั่วแล้ว นี่ขนาดยังไม่ทันได้รบ ก็ยังออกทะเลขนาดนี้ เห็นมั้ยว่า เกือบจะทุกครั้ง ทหารเราจะเป็นเป้าโดยมิทันได้ต่อสู้แทบจะทุกครั้ง มันน่าแค้นใจไหม บ้านนี้เมืองนี้มันของเรา เราจะรบทัพจับศึกก็ทำในแบบของเรา จะกลัวไปไยกับคำท้วงติงของนานาประเทศ เมื่อพวกมันต้องการสร้างบรรยากาศแห่งความหวาดกลัวให้แก่ทหารและพลเรือนของเรา เราก็ควรสนองตอบมันด้วยการสร้างภาพแห่งสงครามในแบบของทหารให้พวกมันได้หวั่นไหวบ้าง ขวัญกำลังใจของพลเรือนจะกลับคืน กำลังพลจะฮึกเหิม ยุทธการของกองทัพจะเข้มแข็งและประสบผล ***** ** เรื่องใน๓จว.ใต้นั้น รัฐพยายามจะยัดเยียดให้กลุ่มนู้นกลุ่มนี้เป็นศัตรู เป็นจำเลย นั่นเป็นเพราะว่ารัฐยังหาตัวศัตรูจริงๆไม่เจอ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าศัตรูเป็นใคร การชี้นำให้ประชาชนทั้งประเทศเห็นว่า กลุ่มที่รัฐเอ่ยออกมานั้นคือตัวการ คือศัตรูของประเทศ ศัตรูของพลเรือนใน๓จว.ภาคใต้ มันเป็นได้แค่เพียงการปิดบังความไม่รู้ของรัฐต่อสาธารณะชนเท่านั้น ผมไม่เคยแปลกใจเลยว่าทำไมกองทัพไม่เดินหน้าในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ไปตามยุทธวิธีพื้นฐาน นั่นก็เป็นเพราะว่ารัฐโดยกองทัพนั้น ยังไม่รู้จะปักธงปัญหาไปที่ใด องค์ประกอบในการสงครามมันจึงยังไม่ครบ นั่นคือ มูลเหตุ-ปัญหา-พิพาท-ศัตรู-สงคราม รัฐรู้มูลเหตุ รัฐรู้ปัญหาแต่ก็ไม่ยอมแก้ รัฐพิพาทแล้วแต่เพิ่งคิดจะมาสมานฉันท์ แต่รัฐยังไม่เห็นไม่รู้ว่าศัตรูอยู่ไหน สงครามหรือการจัดการทางการทหารในฝ่ายของเราจึงชะงัก และล้มเหลวมาตลอดทั้ง๒รัฐบาล ทหารจะรบไม่ได้ถ้าไม่รู้ว่าข้าศึกคือใคร เรื่องอย่างนี้หากเป็นรัฐบาลปักกิ่ง เขาฆ่าล้างเมืองไปแล้วทั้ง๓จังหวัด ** *** หากรัฐและกองทัพยังคงวิ่งตามหาโจรใต้ วิ่งไล่หลัง ก้าวตามหลังอยู่อย่างนี้ รัฐจะไม่มีวันได้พบได้รู้ว่าศัตรูที่แท้จริงของปัญหานี้คือใครและอยู่ที่ไหน ศัตรูอยู่รอบๆตัวเราตลอดเวลา และที่น่ากลัวกว่านั้นคือศัตรูที่เป็นพวกเรากันเอง รัฐควรจะประจัญหน้าและก้าวสวนทางวิ่งสวนทางกับโจรใต้พวกนี้ พวกมันคิดมันทำเรียงลำดับอย่างนี้ ๑.ยึดครองพื้นที่ ๒.แย่งชิงมวลชน ๓.ทำสงครามจรยุทธ์ ๔.คิดแบ่งแยกดินแดน -ทางที่เราควรจะทำคือ - ๑.แบ่งแยกพื้นที่หรือดินแดนแล้วควบคุมด้วยกฎอัยการศึกอย่างยามสงคราม ๒.ทำสงครามนอกแบบตอบโต้*เพื่อข่มขวัญ*กับพวกมันแบบที่กล่าวไว้ในกระทู้บน ๓.แยกพลเรือนที่ดีออกจากพลเรือนแอบแฝง ด้วยเครื่องมือชั้นดีอย่างกฎอัยการศึกแบบยามสงคราม ๔.ยึดครองพื้นที่ในเขตเมือง บีบวงล้อมในทุกแบบและทุกทาง กดดันให้พวกมันอยู่ในเมืองไม่ได้
*** ท่านผู้อ่านคิดว่า ถ้ารัฐโดยกองทัพทำอย่างนี้ เราจะเสีย๓จว.นี้ไปมั้ย *** * เกิดเป็นทหารต้องแสวงหาศึก อยากเป็นขุนศึกต้องออกล่าศัตรู ตายช่างแมร่งมัน*
Create Date : 08 ธันวาคม 2549 | | |
Last Update : 16 ธันวาคม 2552 21:01:16 น. |
Counter : 1081 Pageviews. |
| |
|
|
|