|
|
|
*สร้างชาติ อำนาจ และพลัง*
*อมริกาเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ทรงพลัง ใครๆเขาก็ว่าอย่างนั้น กว่าจะเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกได้อย่างทุกวันนี้นั้น คนอเมริกันก็ต้องต่อสู้แลกมาด้วยเลือดและน้ำตาไม่ต่างไปจากคนพันธุ์อื่นๆ ร้อยกว่าปีที่ผ่านมานั้นอเมริกาเจริญรุดหน้าเกินกว่าคนในทวีปอื่นจะก้าวตามทัน แต่สิ่งเดียวของที่อเมริกาไม่เคยเปลี่ยนไปคือการชอบเอาชนะ
คนอเมริกันนั้นถือว่าการแข่งขันเป็นสิ่งที่ชอบธรรมมาตั้งแต่เริ่มสร้างชาติ ตั้งแต่ยุคสงครามพื้นเมือง ยุคคาวบอย ยุคสงครามกลางเมือง ยุคประชาธิปไตยเบ่งบาน ยุคล่าอาณานิคม ยุคสงครามโลก อเมริกันชนต้องแข่งขันตลอด แข่งขันกันเพื่อเอาชนะทั้งนั้น และคนอเมริกันนั้นเป็นพันธุ์เดียวในโลกที่ไม่ชอบเหยียบย่ำซ้ำเติมผู้แพ้ เพราะอะไร ก็เพราะคนอเมริกันรู้รสชาติของการเป็นผู้แพ้ได้ดีกว่าพันธุ์อื่น เพราะอเมริกาชอบแข่งขันเพื่อหาผู้ชนะ การดวลปืนแบบคาวบอย การรบกับอินเดียแดง สิ่งเหล่านี้บรรพบุรุษอเมริกันชนต่างเอาการแข่งขันมาแก้ปัญหาทั้งนั้น คาวบอยดวลปืนกันเพื่อหาผู้ชนะไปเป็นผู้นำถิ่น กองทหารอเมริกันดวลกับกองนักรบอินเดียแดง กองต่อกอง ฝ่ายไหนชนะก็ได้สิทธิ์ในดินแดนตรงนั้น ฝ่ายแพ้ก็ต้องถอยร่นไปหาที่อื่นอยู่ เพื่อรอให้เข้มแข็งแล้วก็กลับไปดวลกันต่อเพื่อเอาถิ่นคืน การที่อเมริกานิยมอย่างนี้เพราะในยุคแรกๆของการสร้างชาตินั้น อเมริกาเคยถูกอังกฤษปกครองมาก่อน ความเป็นผู้ดียุโรปของอังกฤษทำให้อเมริกันเอาเยี่ยงอย่างอยากเป็นแบบอังกฤษ เพราะเห็นว่าเป็นอย่างอังกฤษแล้วดีชาติจะเจริญเพราะอังกฤษในเวลานั้นมีอำนาจไปทั่วโลก แต่แล้วความเอารัดเอาเปรียบและความทารุณของทหารอังกฤษที่ปฎิบัติต่อคนพื้นเมืองและคนอเมริกันนั้น ก็ทำให้อเมริกาต้องสู้เพื่อปลดแอก แต่ครั้งนี้อังกฤษไม่เป็นสุภาพบุรุษผู้ดีเสียแล้ว ทหาอังกฤษภายใต้เสื้อโค๊ดสีแดงปราบปรามอเมริกันอย่างหนักและรุนแรงที่สุดเท่าที่อังกฤษเคยกระทำมาต่อชาติอาณานิคม ผู้ดีอย่างอังกฤษนั้นเผาทั้งโบสถ์ ทั้งบาทหลวง ทั้งเมือง ทั้งประชาชนอเมริกันตัวเป็นๆ สิ่งที่อังกฤษต้องการคือการขู่ให้คนในอาณานิคมของตนทั่วโลกกลัวเกรง และแล้วพระเอกก็ปรากฎตัวขี่ม้าขาวมาช่วยอเมริกาลิขิตประวัติศาสตร์ตัวเอง พระเอกนั้นคือ........
**ฝรั่งเศส คืออัศวินที่ไม่ได้ขี่ม้าขาวมาช่วยอเมริกา แต่ขี่เรือรบมาช่วยอเมริการะดมยิงกองบัญชาการสูงสุดของผู้แทนกษัตริย์อังกฤษในอเมริกา พร้อมทั้งส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้อเมริกา ส่งผลให้อเมริกาชนะสงครามครั้งนี้ เหตุผลที่ฝรั่งเศษมาช่วยอเมริกานั้น ไม่ใช่เพราะฝรั่งเศสรักใคร่อเมริกานักหนา แต่เป็นเพราะอังกฤษคือคู่ปรับตัวฉกาจเป็นโจทย์เก่าของฝรั่งเศสมาตลอดกาลตั้งแต่โบราณ ก็เหมือนไทย-พม่านั่นแหล่ะ**
***เมื่ออเมริกาเลิกทาสและรวมชาติได้สำเร็จ สิ่งที่ ปธน.อเมริกาตั้งแต่คนแรกจนคนปัจุบันทำเหมือนกันคือ เร่งสร้างเร่งพัฒนากองทัพ เพราะอเมริการู้แล้วว่าหากจะมีความเปลี่ยนแปลงของชาติพันธุ์ตัวเองนั้น ความเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องมาจากภายนอก
หากอเมริกาไม่เร่งพัฒนากองทัพ ไม่ช้าภัยจากภายนอกก็จะมาเยือนอเมริกาอีก คนระดับชั้นผู้ปกครองของอเมริกานั้นเขามองข้ามชอทเรื่องความมั่นคงของอเมริกาไปข้างหน้าเป็นสิบๆปีและหลายสิบปี วิทยลัยการสงครามของอเมริกันจึงถือกำเนิดขึ้นด้วยเหตุผลนี้ ผลการวิเคราะห์และวิจัยของสถาบันนี้ ปธน.อเมริกาทุกคนจะต้องรับฟังและเชื่อถือ ผลงานที่โดดเด่นของสถาบันนี้คือ การพยากรณ์มองภัยคุกคามต่ออเมริกาล่วงหน้า ไปที่ เยอรมัน และญี่ปุ่น และมันก็เป็นไปตามนั้นจริงๆซะด้วย ทุกวันนี้ การเลือกใช้เลือกที่จะมีอาวุธต่างๆสำหรับใช้ในกองทัพอเมริกา วิทยาลัยการสงครามแห่งนี้ มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการกำหนดทิศทางและการพัฒนา และรวมไปถึงทิศทางในนโยบายการป้องกันประเทศของอเมริกาด้วย ที่ปรึกษา ปธน.ฝ่ายความมั่นคง จะต้องรับฟังความเห็นจากสถาบันนี้เป็นหลักในการเสนอยโยบายต่อ ปธน. ดังนั้นผู้บัญชาการวิทยลัยแห่งนี้แต่ละคน จึงต้องเป็นนายทหารชั้นเทพที่ผ่านการคัดเลือกคัดสรรค์ในทุกประเด็นและมุมมอง ไล่กันไปเลยตั้งแต่ ความสามารถ ประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ผลงานในกองทัพ จิตวิทยาส่วนตัว แนวคิด และที่สำคัญมากๆคือ การยอมรับจากคนในทุกเหล่าทัพ ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า ผบ.ทบ ผบ.ทอ. ผบ.ทร.ของกองทัพอเมริกานั้นไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าไร เปรียบเหมือนประมุขของเหล่าทัพเท่านั้น ผบ.เหล่านี้ทำหน้าที่ในการเลื่อนยศปลดย้ายในเหล่าตัวเอง และรับนโยบายจาก รมต.กลาโหมมาปฎิบัติบริหารเหล่าทัพตัวเองเท่านั้น ระดับรองๆลงไปก็ทำหน้าที่เหมือนสตาฟโค๊ชของเหล่าทัพ ที่คอยให้คำปรึกษา คำสั่งให้ปฎิบัตินั้นจะอยู่ที่ ปธน.และ รมต.กลาโหมเท่านั้น ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่ากองทัพอเมริกันมีการจัดการที่เป็นเอกภาพมาก มีเสถียรภาพสูง เพราะฝ่ายการเมืองไม่มีสิทธิ์มาล้วงแต่งตั้งโยกย้ายทหารในกองทัพได้ คงมีสิทธิ์แต่งตั้งโยกย้ายได้เฉพาะระดับหัวขบวนหรือคณะสต๊าฟเท่านั้น ที่เหลือในกองทัพสต๊าฟเขาจะจัดการกันเองเหล่าใครเหล่ามันโดยพิจาณาจากความสามารถเป็นหลัก จบนายร้อยหรือเปล่าอันนั้นเป็นเรื่องรองๆ อเมริกาจึงไม่มีปัญหาการปฎิวัติรัฐประหารโดยกำลังทหารเหมือนบางประเทศ นี่เป็นการบริหารจัดการที่ดีมากของกองทัพที่มีขนาดมโหฬารและทรงประสิทธิภาพหมายเลขหนึ่งของโลก***
| Create Date : 29 มีนาคม 2549 | | |
| Last Update : 16 ธันวาคม 2552 15:55:30 น. |
| Counter : 395 Pageviews. |
| |
|
 |
|
|
|
|
|
* ทหารต้องมีวินัย วินัยเป็นเครื่องมือที่ใช้ควบคุมกองทัพ ทหารในกองทัพคือผู้ถืออาวุธของแผ่นดิน คำสั่ง สำหรับทหารนั้นคือสิ่งสำคัญที่เราไม่อาจละเลยได้ หากทหารทุกคนในทัพเอาความคิดของตนเป็นที่ตั้ง โดยไม่นำพาต่อวินัยในการเป็นผู้ถืออาวุธของชาติ ไม่ว่าตัวเล็กตัวน้อย อาวุธเล็กอาวุธน้อย กองทัพจะเป็นกองโจร ในการมีการใช้ในการถือครองอาวุธของแผ่นดินด้วยหน้าที่นั้น วินัยล้วนเป็นหลักทั้งสิ้น
ในสังคมทหาร ในกรมกองทหาร ไม่มีคำว่าประชาธิปไตย ไม่มีการออกสิทธิออกเสียง ไม่มีโหวต ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับคำสั่งของผู้บังคับบัญชา การวางปืนแล้วหันหลังออกจากแนวไป ไม่สนใจไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชามิว่าด้วยเหตุผลใดไม่ว่าในสนามรบหรือในที่ตั้ง นั่นคือการหนีทัพ ในสนามรบนั้นหากทำอย่างนี้ ถูกยิงเป้าทันที หากทำนอกสนามรบ นั่นคือการละทิ้งหน้าที่ มีโทษไม่น้อยเหมือนกัน มีทหารอีกมากมายนักในกองทัพที่ไม่ได้เห็นด้วยกับผู้บังคับบัญชาไปทุกเรื่อง แต่ทำได้แค่คิดเท่านั้น เราไม่มีสิทธิโต้แย้งใดๆในคำสั่ง
สิ่งเดียวที่ทำได้สำหรับระดับปฎิบัติคือ เมื่อเราเห็นว่าเป็นคำสั่งที่ผิด เป็นคำสั่งที่ผิดศีลธรรมจรรยาของทหารแห่งชาติที่ดี ไม่ว่าด้วยแง่มุมใดๆ เรายังคงต้องปฎิบัติไปตามคำสั่งนั้น เราอาจทำให้ไม่สำเร็จ ทำได้แค่นี้เท่านั้น เราทำแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ นี่เป็นทางออกเดียวเท่านั้นของระดับผู้ปฎิบัติหรือระดับสั่งการในสนามเล็กๆ รูปการณ์อย่างนี้มิใช่ว่ามิเคยมี ตัวอย่างมีให้ดูมาแล้วจากในอดีต เรามิได้ผิดวินัย แต่เราทำตามความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในเบื้องลึกในจิตใจเท่านั้น
นี่เป็นคำตอบที่ว่า ทำไมทหารค่อนกองทัพ ถึงต้องทำอย่างที่ประชาชนทุกคนเห็นตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ในรร.ทหารในระดับเริ่มต้น ก้าวย่างแรกของการเป็นทหาร ทุกคนในกองทัพจะต้องถูกหล่อหลอมเรื่องวินัยอย่างสุดขั้ว รร.ทหารที่ไหนๆในโลกก็ทำอย่างนี้กันทั้งนั้น เพราะทุกคนในโลกรู้กันดีว่า ผู้ที่จะจบออกไป จะเป็นผู้ที่ต้องถืออาวุธของชาติ และจะต้องใช้อาวุธในมือไปตามหน้าที่ และวินัยที่ รร.ทหารเฝ้าหลอมให้ทหารทุกคนนั่นก็คือ วินัยในการมีหน้าที่ ส่วนการจะถือจะใช้อาวุธในมือของตนตามหน้าที่และคำสั่งนั้น มันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกเฉพาะตนในความเป็นชาติ และความเป็นคนไทยเท่านั้น *นี่เป็นสิ่งเดียวที่จะมีอำนาจเหนือกว่า หน้าที่ในทางเป็นจริงของทหาร *
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [