Group Blog
 
All blogs
 
1 เดือน* จิตใต้สำนึกที่ปลูกได้

 


ได้มีโอกาสอ่านหนังสือเรื่อง "สมาธิสั้น หายได้ไม่ยาก" ของคุณนภัทร พุกกะณะสุต ถึงแม้บันบันจะยังเล็กและไม่มีวี่แววของเรื่องสมาธิสั้น แต่เก่งเห็นว่าหนังสือเล่มนี้สอนหลายๆเรื่องที่เป็นประโยชน์ และเป็นการดีถ้าเรารู้ว่าอะไรคือสาเหตุ คือแรงเร้าให้เด็กเป็นสมาธิสั้น เก่งยังอ่านไม่จบเล่มแต่อ่านถึงตรงเรื่องจิตแล้วถูกใจมาก เป็นเรื่องที่เก่งทำให้บันอยู่แล้วแต่ไม่เคยรู้หรอกว่ามีทฤษฎีประกอบ รู้แต่ว่าคิดว่าดีก็ทำ เป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถทำให้ลูกได้โดยไม่ลำบากจึงเอามาฝากกันเผื่อใครถูกใจก็นำวิธีไปประยุกต์ใช้นะคะ


จิตมีอำนาจและอิทธิพลเหนือมนุษย์ ไม่มีใครรู้ตำแหน่งที่ตั้งของจิต จิตควบคุมระบบการทำงานของร่างกาย การทำงานของสมอง อารมร์และความรู้สึกนึกคิด เราแบ่งจิตออกเป็น 3 ประเภท


1. จิตเหนือสำนึก หรือที่เรารู้จักกันว่า ซิกซ์เซนส์ คือการรู้ล่วงหน้า เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติที่อธิบายยาก  


2. จิตสำนึก คือจิตที่รู้สึกผิดชอบชั่วดี เหตุผล อะไรควรหรือไม่ควรทำ น่าเสียดายที่จิตสำนึกครอบงำการทำงานเพียง 5% ของสมอง ถ้าคนเรามีจิตสำนึกที่ดีกันทุกคนโลกก็คงสงบสุข แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น ดังนั้นจิตที่สามที่เราจะเน้นกัน


3. จิตใต้สำนึก เป็นแหล่งเก็บข้อมูล ใครทำอะไร ยังไง เราก็เก็บเป็นข้อมูลบันทึกอยู่ในจิตใต้สำนึก ติดแน่นทนนานตั้งแต่อยู่ในวัยเยาว์ เด็กยังไม่รู้จักการเลือกรับจึงบันทึกทุกสิ่งทุกอย่างลงจิตใต้สำนึก  เพื่อนพูดไม่ดีเด็กก็โกรธ เดินผ่านเพื่อนคนนี้ทีไรหน้าก็จะบึ้งโดยอัตโนมัต 


เด็กเกาหลีที่อเมริกาบุกเข้าไปยิงเพื่อนนักเรียนตาย 31 คน แล้วยิงตัวเองตายตาม สาเหตุเพราะเพื่อนไม่คบไม่เข้าใจเค้า เด็กคนนี้เห็นกิริยาและคำพูดของเพื่อนที่แสดงออกกับตนทุกวัน จนฝังแน่นในจิตใต้สำนึกว่า"เพื่อนเกลียด"จึงเกลียดเพื่อน จิตใต้สำนึกครอบงำจิตสำนึกที่รู้ดีชั่วซึ่งมีอยู่เพียง 5% จึงเกิดโศกนาฎกรรมเป็นข่าวครึกโครม หรืออย่างฮิตเลอร์ที่ปลูกฝังให้คนเยอรมันเกลียดคนยิว จนเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่าไร้ศีลธรรม นี่คืออิทธิพลของจิตใต้สำนึกที่มีทั้งคุณและโทษมหันต์


อิทธิพลของจิตใต้สำนึกลบเลือนยากมากๆต้องล้างด้วยการสะกดจิต ดังนั้นการปลูกฝังจิตใต้สำนึกจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งซึ่งสามารถเริ่มได้จากในบ้าน ปลูกฝังตั้งแต่รู้เดียงสาเป็นดีที่สุด ทำให้เห็น พูดให้ได้ยินทุกวันจนเป็นวิถีชีวิตในระดับคลื่นสมองปรกติตั้งแต่เช้าจรดเย็นจะใช้ได้ดียิ่งขึ้น หากทำให้เด็กสนใจตั้งใจฟังโดยใช้เสียทุ้ม นุ่ม มีจังหวะจะโคนพอเหมาะ จะดีที่สุดในเวลาที่เด็กมีคลื่นสมองที่อยู่ในภวังค์ ครึ่งหลับครึ่งตื่น นั่นคือเวลาก่อนนอนหรือลืมตาตื่นตอนเช้า 


การสื่อให้ลูกรู้ว่าแม่รักโดยให้ลงลึกในจิตใต้สำนึกคือ ก่อนนอนให้เข้าไปลูบหัวลูกเบาๆให้ศีลให้พรลูก "ลูกรักของแม่ ขอให้ลูกแม่หลับและฝันดี เป็นเด็กดี ฉลาดเชื่อฟังพ่อแม่และคุณครู ให้มีความประพฤติเรียบร้อย ทำให้ผู้อื่นรักทุกคน ประสบความสำเร็จทุกด้าน และมีสุขภาพแข็งแรงหายจากโรคภัยไข้เจ็บนะลูกนะ" ตอนเช้าเมื่อเข้าไปปลุกลูกให้พูดเหมือนกันว่า "ลูกรักของแม่ ตื่นเถอะลูก ขอให้ลูกแม่......"


สิ่งที่ควรปลูกฝังในจิตใต้สำนึกอย่างสม่ำเสมอคือ


1. ความรักโดยไม่มีเงื่อนไขที่สื่อให้เด็กสัมผัสได้


2. ความเป็นคนมีศีลธรรม มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์


3. ความกตัญญูต่อบิดามารดา ปู่ย่าตายาย และบุคคลที่ช่วยเหลือเกื้อกูล


4. ความเป็นคนมีวาจาดี ทำให้ผู้ฟังสบายใจและมีกำลังใจ


5. ความเป็นคนรู้จักหน้าที่และรับผิดชอบ


6. ความเป็นคนมีมรรยาท มีทักษะในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น


7. ความเป็นคนใฝ่รู้ 


8. ความเป็นคนมีระเบียบวินัย รุ้จักกรอบของเวลา


นอกเหนือจากข้างต้น ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าควรปลูกฝังในจิตใต้สำนึก ก็ควรทำโดยยึดหลักการเดียวกัน เรื่องคำให้ศีลให้พรด้านบนเก่งยกตัวอย่างมาจากหนังสือ ดังนั้นก็ปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละบ้าน อย่างบันบันเก่งทำอยู่ทุกคืนอยู่แล้วก่อนมาอ่านเจอบทความนี้ เก่งจะบอกบันบันว่า "บันบันคนเก่ง บันบันคนดีของแม่ ขอให้บันบันเป็นเด็กดีมีมานะ เข้มแข็ง อดทน คิดดีทำดี  เป็นที่รักของทุกคน คิดทำอะไรในสิ่งดีขอให้ประสบผลสำเร็จ" นี่เป็นคำที่เก่งบอกบันบันทุกคืนตอนให้ดูดนม แต่หลังอ่านบทความจะเพิ่มตอนเช้าด้วย เก่งเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยากที่จะทำสิ่งดีๆให้ลูก เป็นเรื่องที่คนอื่นทำให้ลูกเราไม่ได้ เราต้องทำเอง คำพูดจากใจแม่เป็นคำให้พรที่ประเสริฐ คิดดูสิคะเด็กได้ยินแม่อวยพรอย่างนี้ทุกวันทุกคนจะเป็นเด็กที่คิดร้านกับคนอื่นได้อย่างไร ทีนี้ไห้เวลาสองนาทีคิดคำอวยพรให้ลูกแล้วลงมือปฎิบัติเลยค่ะ




Create Date : 06 กันยายน 2551
Last Update : 6 กันยายน 2551 23:07:21 น. 5 comments
Counter : 1318 Pageviews.

 
แพรก็พูดกับเจ้าณฐประมาณนี้ทุกวันเหมือนกันเลยค่ะ

เห็นด้วยว่าคำพูดของพ่อแม่เป็นวาจาสิทธิ์ เป็นพรที่ประเสริฐ
เราต้องพูดดีกับลูก เพราะคำพูดของพ่อแม่มีผลต่อจิตใจของลูกมากกว่าคำพูดของคนอื่น

ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ


โดย: รินตินติน วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:9:55:46 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่แบ่งบันนะคะ จะลองเอาไปประยุกต์ใช้ เพราะก่อนนอน เราก็ลูบหัวลูกแล้วก็พูดให้ศิลให้พรเหมือนกัน เดี๋ยวจะลองเพิ่มตอนเช้าดูเช่นกันค่ะ


โดย: ส้ม IP: 69.203.209.120 วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:21:39:14 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ


โดย: แม่น้องริวว+จีน IP: 203.144.225.157 วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:11:27:42 น.  

 
ขอบคุณค่ะ มีอะไรดีๆเอามาให้อ่านอีกนะคะ จะได้ทำตาม+แนะนำคนอื่น


โดย: noi IP: 58.97.35.130 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:17:27:07 น.  

 
เริ่มคืนนี้เลยค่ะ ขอบคุณมากๆๆสำหรับข้อมูลดีๆๆ


โดย: callmehenry วันที่: 15 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:37:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

MamyKeng
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




Friends' blogs
[Add MamyKeng's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.