h blog5

Group Blog
 
All blogs
 

กางร่ม ชมวัง @ มฤคทายวัน







กางร่ม ชมวัง ในวันแดดจ้า @

พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน



พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน พระราชวังสีหวานริมทะเล เพชรบุรี เป็นพระตำหนักที่ประทับริมทะเล ได้รับขนานนามว่า “พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง”



ตั้งอยู่ในค่ายพระรามหกอยู่ระหว่างชะอำและหัวหิน จากชะอำไปตามถนนเพชรเกษม หลักกิโลเมตรที่ 216 เลยหาดชะอำมาประมาณ 8 กิโลเมตร จะเห็นค่ายพระรามหกอยู่ทางซ้ายมือ เราสามารถขับรถเข้าไปข้างในได้ (ไม่ต้องแลกบัตร) เราขับรถตามทางมาเรื่อยๆ จะเห็นทางเข้าพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เลยไปนิดนึงจะมีที่จอดรถ สำหรับผู้เข้าชมพระราชนิเวศน์ ที่นี่มีจักรยานให้เช่าขี่ชมรอบๆค่ายพระรามหกด้วย



เปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันพุธ ระหว่างเวลา 08.30-16.00 น. โดยจะเริ่มเปิดให้ซื้อบัตรเอาชมตอน 08.00 น.



เมื่อมาถึงด้านหน้าแล้วซื้อตั๋วกันก่อนนะค่ะ คนไทยทั่วไป (ผู้ใหญ่) ต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 30 บาท ส่วนเด็ก 15 บาท



ก่อนเข้าไปด้านในเจ้าหน้าที่จะประกาศบอกว่า “สำหรับผู้ที่แต่งกายไม่สุภาพ เช่น เสื้อแขนกุด กางเกงขาสั้นเหนือเข่า ต้องเดินไปลงทะเบียนยืมผ้าคลุมก่อน ร่วมถึงผู้ที่จะใช้กล้องถ่ายรูปขนาดใหญ่ ก็ต้องไปลงทะเบียนกล้องที่ศาลาสีขาวก่อน” และถ้าใครประสงค์จะขึ้นชมด้านบน ต้องไปรับบัตรคิวก่อน เนื่องจากว่าวันนี่มีผู้เข้าชมเยอะ (เราว่าก็น่าจะเยอะทุกวัน)


อยากแรกต้องไปลงทะเบียนกล้องเสียก่อน จะได้ป้ายห้อยคอสีส้ม เห็นแต่ไกล



ทางเข้าพระราชวัง



พอเข้าไปด้านใน


บรรยากาศด้านในร่มรื่น มีเก้าอี้สีขาว ไว้ให้นั้งพัก คลายร้อน



เดินต่อเข้าไปอีกนิด เห็นเรือนไม้ทาสีครีมตัดสีฟ้า อยู่ตรงหน้า เป็นเรือนไม้ชั้นเดียว สร้างแบบยกพื้นสูง สวยงามมาก



เดินเลียบชายหาดไปสุดทาง เดินไปรับบัตรคิว




เหลือบไปเห็น.ใบไม้ที่เขากวาดไปร่วมไว้เพื่อใช้เป็นปุ๋ย..ดีจัง



ถึงแล้ว..โต๊ะรับบัตรคิว เราได้รับบัตรคิวที่ได้เป็นสีเขียว รอบ 12.20 น. รอ ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง



การจะขึ้นไปชมด้านบนจะต้องไปเป็นกลุ่ม ครั้งละประมาณ 20 คน เนื่องจากพระราชนิเวศน์มีอายุมากแล้ว ถ้าขึ้นไปครั้งละมากๆ อาจทำให้เกิดความเสียหายได้



การแต่งการของผู้เข้าชมต้องเป็นชุดคลุมเข่า สำหรับผู้หญิงถ้าใส่กางเกงขาสั้นมา จะมีผ้านุ่งให้สวมทับ ส่วนรองเท้าจะต้องเอาใส่ในถุงผ้าที่พระราชนิเวศน์จัดเตรียมไว้ หรือจะซื้อตรงโต๊ะรับบัตรคิว ราคา 30 บาท เงินรายได้ร่วมทำนุบำรุงพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน (เราเลยอุดหนุนสักใบ) ถุงใส่รองเท้าเราจะต้องถือติดตัวไว้ด้วย เพราะทางขึ้นกับทางลงจะอยู่คนละทางกันคะ



ตรงบริเวณทางขึ้นจะมีนาฬิกาอันใหญ่ ตารางรอบของบัตรดิวสีต่างๆๆ รายละเอียดการขึ้นชม และโดยรอบจะมีเก้าอี้ไว้ให้นั้งรอ



เดินชมวัง จนพอใจ นั่งพัก รอขึ้นด้านบนดีกว่า



มาดูด้านบนกันค่ะ การถ่ายภาพด้านบนนั้น ห้ามใช้กล้องขนาดใหญ่ (DSLR) ห้ามถ่ายวิดีโอ แต่สามารถใช้กล้อง compact ขนาดเล็กถ่ายได้






พอลงมาด้านล่าง แวะไปซื้อน้ำ กับขนม ดีกว่า








 

Create Date : 16 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 21 กรกฎาคม 2553 20:47:43 น.
Counter : 1424 Pageviews.  

SALA@HUAHIN





lozocat
lozocat


Sala @ HuaHin





Trip นี้พักที่ Sala @ HuaHin ก่อนเข้าหัวหิน โทรศัพท์สอบถามห้องว่างและราคา สำหรับ walk-in ในวันหยุด กับทาง Sala (เบอร์: 032 616 100) ก่อนเข้าพัก (มีห้องว่างคะ..อิอิ) มาถึงที่พัก check in ก็ประมาณบ่าย 2 โมงพอดี



Sala @ HuaHin ตั้งอยู่ที่ หัวหิน ซอย 3 ริมถนนเพชรเกษมระหว่างชะอำ-หัวหิน พอลอดอุโมงค์มาสักพักก็ถึง เลยสนามบินหัวหินมานิดนึง ซึ่งเป็นที่พักแบบ service apartment and hotel จะอยู่ทางซ้าย (ขาเข้าหัวหินน่ะค่ะ) ไม่อยากจะบอกเลยค่ะว่า ขับรถเลยด้วยอ่ะ





ด้านหน้าทางเข้า จัดสวน ส่วน Car Park อยู่ด้านหน้า สามารถจอดรถได้หลายคัน เสียอย่างเดียวเป็นที่จอดรถกลางแจ้ง รถโดนแดดเต็มๆๆ เลยค่ะ





ห้องพักที่เราพักเป็นห้อง Superior ราคาห้องพักอยู่ที่ 1.500 บาท รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่านค่ะ


มาดูด้านในส่วนล๊อบบี้กันบ้างค่ะ ออกแบบได้น่ารักเชียวคะ









ห้องที่พักเป็นห้อง Superior เตียงคู่ ตอนแรกจองเตียงเดี่ยว แต่คุณสามีบอกว่ามาทะเลทั้งที่ต้อง see view เลยขอเปลี่ยนห้อง น้องๆ พนักงานก็น่ารักให้เปลี่ยน (ต้องขอโทษด้วยจ้า) จากตอนแรกพักห้อง 613 เปลี่ยนเป็นห้อง 729 ห้องหัวมุม พอ check-in เสร็จ น้อยพนักงานจะให้ key card กับคูปองอาหารอย่างละ 2 ใบ





มาดูภายในห้องพักกันดีกว่าค่ะ ดีไซด์ห้องแบบเรียบง่าย ผนังห้องเป็นผนังปูนเปลือยขัดมัน





มองเข้าไปด้านในมี LCD ทีวี 32 นิ้ว โต๊ะ/เก้าอี้ไว้นั้งทำงาน กระจกบานใหญ่ bean bag สีน้ำตาลไว้นั้งเล่นชมวิวทะเล





ทางเข้า พอเราเดินเข้าไปในห้อง จะเจอซิงค์ (ซิงค์แบบกลม) อยู่ข้างๆๆ กับตู้เย็น และตู้เสื้อผ้า


ในตู้เย็นมีน้ำเปล่าขวดเล็ก 2 ขวดกับน้ำแข็ง 1 ถาด ด้านบนมีชุดกาแฟพร้อมกาน้ำร้อน


เดินสำรวจสักพัก แม่บ้านของทางโรงแรมนำขนม+มาม่ามาให้คะ คุณแม่บ้านบอกว่า “เป็นบริการจากทางโรงแรม ฟรีน่ะค่ะ”





มาสำรวจในตู้เสื้อผ้ากันคะ นอกจากผ้าขนหนู รองเท้า แล้วยังมีตู้เซพไว้ให้พร้อมสรรพ ไฟฉายไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ส่วนในถุงเล็กๆ เป็นไดร์เป่าผมคะ




มาดูห้องน้ำกันบางคะ แบ่งเป็นสัดส่วน แยกส่วนของอ่างล้างหน้า ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำออกจากกัน เรามาดูส่วนแรกกันค่ะ เริ่มจากส่วนของอ่างล้างหน้า จะมีชั้นวางของอยู่ด้านข้าง วางอุปกรณ์อาบน้ำค่ะ มีให้ทั้งสบู่ แชมพู คลีมนวด โลชั่น ที่สำคัญมีแปรงสีฟันและยาสีฟันให้ด้วยคะ





ส่วนห้องอาบน้ำและห้องน้ำ ค่อนข้างแคบไปนิด





ต่อด้วยภาพวิวจากระเบียงห้องคะ มองออกไปเห็นวิวทั้งวิวทะเลและวิวภูเขาเลยค่ะ





ตื่นเช้า มาเปิดดูวิวทะเลกันสักหน่อย ไปอาบน้ำ-แปรงฟันดีกว่า เสร็จแล้วก็หิวแระ ลงไปทานอาหารเช้าที่ทางโรงแรมจัดให้ดีกว่า อาหารเช้าของโรงแรมเป็นแบบบุฟเฟต์ ครั้งแรกเรานึกว่าเป็นอาหารชุดๆ ซะอีก แต่จริงๆ เป็นบุฟเฟต์คะ อาหารมีให้เลือกหลายอย่าง





เราเลือกนั้งโต๊ะที่อยู่ตรงสระว่ายน้ำ บรรยากาศดีใช้ได้เลย





อิ่มแล้ว ไปเก็บของดีกว่า



เตรียม check-out ไว้โอกาสหน้าจะมาใช้บริการใหม่



lozocat
lozocat




 

Create Date : 12 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 21 กรกฎาคม 2553 21:03:59 น.
Counter : 2614 Pageviews.  

หาดทรายขาว น้ำทะเลใส @ สัตหีบ







ทรายขาว น้ำใส @ สัตหีบ


พาเด็กๆๆ ไปเที่ยวทะเล เล่นน้ำ 3-5 เม.ย. 53


ออกจากโคราช 10.00 น. โดยประมาณ ถึงสัตหีบ บ่ายสองโมง (แดดร้อนมาก) แต่ความร้อนไม่สามารถทำลายความอยากเเล่นน้ำได้.. ที่แรกที่พาเด็กๆ ไป คือ หาดนางรำ





หาดนางรำ มีคนมาพักผ่อนเยอะมาก ทิวสนยาวสุดลูกหูลูกตา มีคนมาจับจอง ปูเสื้อ นั่งปิกนิกกันเต็ม บรรยากาศคลึกคลืน





สุดปลายแหลมนางรำมีรูปปั้นพระอภัยมณี และนางผีเสื้อสมุทร อยู่บนแหลมหินซึ่งจะกั้นระหว่างหาดนางรำกับหาดนางรอง ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของหาดนางรำก็ว่าได้




วันที่ 2 @ สัตหีบ


เด็กๆๆ ตื้นแต่เช้า (อยากเล่นน้ำ..อีกแล้ว) แต่เกือบครบคน ก็เที่ยงพอดี (ร้อนอีกแล้ว) ที่ๆ เราจะพาเด็กไปเล่นน้ำกันวันนี้ คือ หาดดงตาล ซึ่งเป็นหาดที่สวยงาม โค้งมนไปตามขอบอ่าวสัตหีบ เป็นหาดที่ตั้งอยู่ในกองเรือยุทธการ ทางเข้าเราจะเห็นป้ายกองเรือยุทธการ ขนาดใหญ่ เลี้ยวเข้าไปสักหน่อย ก็เห็นทะเลเลย



หาดดงตาล คนไม่ค่อยเยอะเหมือนหาดนางรำ และน้ำใส สะอาดกว่าด้วย แต่เปลื่อกหอยเยอะมาก ตอนเดินลงทะเลต้องระวังบาด แต่ให้รู้สึกได้ถึงทะเล





นอกจากเล่นน้ำ ที่นี้ยังมีคนพายเรือคายิกและแล่นเรือใบท้าลม ภายใต้บรรยากาศในช่วงบ่ายๆ
สำหรับผู้ใหญ่ที่ไม่อยากเปียกน้ำ บริเวณริมหาดก็มีบริการนวดตัว นวดฝ่าเท้า และระบายสี แต่ลืมเก็บภาพบรรยากาศริมหาดอะค่ะ เอาเป็นว่าพอเด็กๆ เล่นน้ำจนพอใจ อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ออกมานั้งระบายสีตรงชายหาด อยากสบายใจ





ถ่ายภาพหมู่ เป็นหลักฐานกันก่อน





ก่อนกลับเก็บภาพทะเล...สักหน่อย



มองเห็นท่าเทียบเรือ บก.กร. กลางอ่าว



พระอาทิตย์คล้อยตก




วันที่ 3 @ สัตหีบ (จะกลับแล้วจ้า)


ก่อนกลับอาที่ขับรถบอกว่า "เดี๋ยวจะพาไปไหว้พระ แวะซื้อของที่แสมสารและพาเด็กๆๆไปดูเต่าที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลแล้วค่อยกลับ"



วัดแรกที่เราไป คือ วัดหลวงพ่อดำ เขาเจดีย์ (วิหารหลวงพ่อดำ)
" ไหว้หลวงพ่อดำ " คนส่วนใหญ่ที่มาที่ช่องแสมสารต้องหาโอกาสแวะเคารพสักการะหลวงพ่อดำ วิหารของหลวงพ่อที่อยู่ในหมู่บ้านเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง การเดินทางไปวิหารของหลวงพ่อดำ จะมีป้ายบอกทางชัดเจน และวิหารอยู่บนเนินสูง (ทางขึ้นไปวิหารนี้ ชันมาก)




ด้านหลังโบสถ์ เป็นจุดชมวิวช่องแสมสาร มองเห็นเกาะแรด เกาะแสมสารและยังสามารถชมวิวหมู่บ้านชุมชนแสมสารมุมสูงได้อีกด้วย





วัดที่สองเป็นวัดช่องแสมสาร เป็นวัดที่มีคนมาแวะสักการะและลอดใต้โบสถ์



ห้องน้ำก็สะอาด








พอไหว้พระเรียบร้อยแล้ว แวะซื้ออาหารทะเลสดๆๆ ที่สะพานปลาของชุมชนแสมสาร จากนั้นถึงเวลาของๆๆ เด็ก ที่จะได้ดูเต่าที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล












 

Create Date : 08 เมษายน 2553    
Last Update : 21 กรกฎาคม 2553 21:08:48 น.
Counter : 3683 Pageviews.  

ทานตะวันบานที่ปากช่อง





ทานตะวันบานที่ปากช่อง



ช่วงเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงทานตะวันบาน ขี่รถไปปากช่อง เจอทุ่งทานตะวัน โดยบังเอน น่าจะเป็นแปลงทานตะวันที่เกษตรกร เขาปลูกเพื่อเอาเมล็ด อดไม่ได้ที่จะจอดรถถ่ายภาพ







สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด ท่ามกลางทุ่งทานตะวัน










 

Create Date : 24 มกราคม 2553    
Last Update : 21 กรกฎาคม 2553 21:12:09 น.
Counter : 2334 Pageviews.  

ปีใหม่ 2553





ปีใหม่ 2553 (31 ธ.ค. 52 - 2 ม.ค. 53

สวัสดีปีใหม่ ส่งท้ายปี 2552 พร้อมๆๆกับการต้อนรับปี 2553 กันที่โคราชบ้านเรา


อาหารทะเลอันประกอบไปด้วย กุ้งเผาตัวโตๆ ปลาหมึกย่าง ปูผัดผงกะหรี่ ฝีมือคุณแม่ ลาบหมู คอหมูย่าง เฟรชฟราย อภินันทนาการจากคุณป้าติ้ม

ปีที่แล้วไม่ได้เค้าท์ดาวน์ หลับกันไปเสียก่อน ปีนี้เด็กๆๆตั้งหน้าตั้งตา รอนับดาว (เด็กๆๆ เข้าใจว่าการเค้าท์ดาวน์คือการนับดาว คุณครูพิมพ์พิชชา อธิบายให้เด็กๆๆ เข้าใจว่า การเค้าท์ดาวน์ก็คือ การนับถอบหลังเข้าสู่ปีใหม่ ปีเสือ) พอถึงเวลา 5 4 3 2 1 สวัสดีปีใหม่ เด็กๆๆ (น้องบลู น้องกาย น้องแพรว) and ผู้ใหญ่ (นำโดยคุณแม่แต๋ว คุณป้านง พี่ลูกน้ำ ลูกนก และโอ๊ค ) ออกมาดูพุนอกบ้าน (แต่ก็ไม่เห็น เห็นแต่เขาปล่อยโคม) แม่แต๋วบอกว่าบ้านเราก็มีโคม เอามาปล่อยใหม่ วันนั้นเลยได้ปล่อยโคมที่หน้าบ้าน เสียดายที่ไม่ไดเก็บภาพเด็กๆๆกระโดดโลดเต้นดีใจที่เห็นโคมของเราลอยไปตามลม ไม่เห็นสีหน้าของผู้ใหญ่ที่ลุ้นว่าโคมจะไปตกบนหลังคาบ้านใครเขารึป่าว


ปีใหม่ปีนี้ของให้ทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวย และมีความเจริญในอาชืพ/งานการ



วันที่ 1 มกราคม 2553

โปรแกรมสำหรับวันนี้ พี่ลูกน้ำจะพาไปเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน

โดยใช้เส้นทาง จากมิตรภาพฝั้งขาเข้ากรุงเทพ เลี้ยวซ้ายตรงตลาดไม้ดอก/ไม้ประดับ โคกกรวด ตรงไปเรื่อยๆๆ (มีป้ายตลอดทาง) ก็จะถึงพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน (ตามแผนที่)




แผนที่จาก web: //www.khoratfossil.org/

ก่อนเข้าชม ต้องซื้อบัตรเข้าชมก่อน ผู้ใหญ่ คนละ 30 บาท เด็ก คนละ 10 บาท ส่วนเด็กความสูงไม่เกิน 150 ซม. เข้าชมฟรี เราไปทั้งหมด 7 คน ผู้ใหญ่ 3 : เด็กโต 2 : เด็กน้อยๆ อีก 2 เสียค่าเข้าแค่ 110 บาท

การเข้าชม จะมีเป็นรอบๆๆ อันเนื่องมาจากว่า ทางพิพิธภัณฑ์มีวิดีทัศน์บรรยายการความเป็นไปเป็นมาของการตั้งพิพิธภัณฑ์ ความเป็นมาของโลกของเรา วิวัฒนาการการเกิดไม้กลายเป็นหินกำเนิดและการค้นพบฟอสซิวไดโดเสาร์ แบบที่นั่งสั่นสะเทือนสมจริง

จัดเป็นสถานที่ที่นำเสนอได้อย่างน่าสนใจ และควรแก่การพาเด็กๆๆ ไปชมจริงๆๆ







อีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ การเปิด Animation ไดโนเสาร์ บนจอขนาดใหญ่ ความกว้าง 180 องศา



ลันล้าด้านในเสร็จแล้ว เด็กๆ พากันมากระโดดโลดเต้นกันด้านนอก








 

Create Date : 06 มกราคม 2553    
Last Update : 19 มิถุนายน 2553 19:42:25 น.
Counter : 1730 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  

ICONbook
Location :
ขอนแก่น Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Friends' blogs
[Add ICONbook's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.