ชีวิต...ไม่ใช่เป๊ปซี่..จึงไม่ได้ดีที่สุดเสมอไป..
Group Blog
 
All blogs
 

ตามรอย"ชนเผ่าเยอ"

"ศรีสะเกษแดนปราสาทขอม หอมกระเทียมดี มีส่วนสมเด็จ เขตดงลำดวนหลากล้วนวัฒนธรรม"

ท่านเคยได้มาศรีสะเกษไหม เคยลอดสะพานดำรถไฟไหมสะพานนี้มีตำนานเก่าแก่ว่าผู้ใดนั่งรถไฟเข้ามาศรีสะเกษผ่านสะพานดำแล้วจะได้พบเนื้อคู่ที่นี่ ไม่ได้กลับไปตั้งรกรากที่อื่น
บางคนกลัวไม่อยากอยู่ก็ไปแก้เคล็ด ไม่ใช่แก้เคล็ดขัดยอกกนะครับ อันนี้แก้เพื่อไม่ให้อยู่ศรีสะเกษต่างหากละครับ.....
เพื่อนๆเคยได้ยินชนเผ่าเก่าแก่ชนเผ่าหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษไหม ชนเผ่านั้นคือ "คนเผ่าเยอ"

จังหวัดศรีสะเกษเป็นจังหวัดหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากจังหวัดอื่นคือ เป็นดินแดนของหลายเผ่า ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอีสาน มีพื่้นที่ประมาณ 8,800,000 ตารางกิโลเมตร ห่่างจากกรุงเทพ 515 กิโลเมตร
(โดยทางรถไฟ) แบ่งการปกครองออกเป็น 22 อำเภอ มีประชากรประมาณ 1 ล้่านกว่าคน และจังหวัดศรีสะเกษ เป็นปัจจันตเขต มีพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเขมร และอยู่ใกล้กับประเทศลาว
สองประเทศนี้เปรียบเหมือนเมืองพี่เมืองน้อง เพราะมีวัฒนธรรมทางภาษาคล้ายคลึงกันกับคนไทยที่อยู่ทางภาคอีสานเรา และไปมาค้าขายติดต่อกันเป็นประจำ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้จังหวัดศรีสะเกษ มีคนหลายเผ่า..
ได้แก่ ชนเผ่าลาว เผ่าเขมร เผ่าส่วย และสุดท้าย "เผ่าเยอ" (ที่จะพูดถึงในเนื้อหาต่อไป)+++++
ซึ่งแต่ละเผ่ามีลักษณะวัฒนธรรมเป็นของตนเอง มีความสัมพันธ์อย่างกลมกลืน โดยเฉพาะกลุ่มชนคนเผ่าเยอ"บ้านโพนค้อ"

++++ต.โพนค้อ อ.เมือง.ศรีสะเกษ มีทั้งหมด 6 หมู่บ้าน มีประชากรเกือบ 3,000 คน ห่างจากตัวจังหวัดศรีสะเกษ 10 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 221 ถนนสายศรีสะเกษ-กันทรลักษ์
ชุมชนคน"เผ่าเยอ" ตั้งมาแต่ใดไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน แต่พอมีเอกสารพอที่จะอ้างอิงได้คือ เอกสารการจัดตั้งวัดของจังหวัดศรีสะเกษตามเอกสารวัดบ้านโพนค้อ ได้รับพระราชทาน"วิสุงคามสีมา"
ลงวันที่ 7 เมษายน พุทธศักราช 2266 แสดงว่า +++หมู่บ้านตั้งมาก่อน พ.ศ.2266 +++
+++กลุ่มคนชนเผ่าเยอ+++ เป็นคนกลุ่มน้อย ถิ่นเดิมของชนเผ่านี้ มีถิ่นฐานเดิมกระจัดกระจายอยู่สองฟากฝั่งของแม่น้ำโขง ทางตอนใต้ของประเทศลาว แถบเมืองอัตปือ แสนปางสาละวัน และจำปาศักดิ์
มี"คนเยอ" อีกส่วนหนึ่งซึ่งอยู่โขงเขตหลวงพระบาง

จากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ตามหลักฐานกฏมณเฑียรบาล (พศ.1991) กรมพระยาดำรงราขานุภาพ กล่าวถึงกลุ่มชนคน"เผ่าเยอ" เมืองจามปาหรือจำปา ตามข้อมูลหลักฐานว่าเป็นเมืองจำปาศักดิ์หรือ
นครจำปาศักดิ์ ตามข้อมูลหลักฐานทางประวัติศาสตร์ดังที่กล่าวมา พอจะประมวลได้ว่า กลุ่มชนคนเผ่าเยอกลุ่มนี้อพยพเข้ามายังประเทศไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา
+++สาเหตุอาจสันนิษฐานได้ 2 นัยยะ
นัยยะที่1 ประเทศลาวเกิดสงครามภายในประเทศ อพยพภัยสงคราม
นัยยะที่ 2 เกิดทุพภิกขภัย มีความเป็นอยู่แร้นแค้น และเป็นชนกลุ่มน้อย รัฐเลยไม่เคยช่วยเหลือ หรือเกิดจากการไม่ส่งส่วยทุกปีกลัวจะมีโทษทัณฑ์ จึงชวนกันพร้อมหน้ามาพึ่งไทย อพยพหลบภัย มาตามลำน้ำโขง เข้ามายังฝั่งไทยโดยมี(ตามรอยคนเผ่า) คนเผ่าเยอได้ล่องเรือ+++ "ท้าวกะตะศิลา"+++ (หมายเหตุอาจจะเป็นญาติกับคุณสุริยใส กะตะศิลา แกนนำพันธมิตร อันนี้เดาเอาครับ)
และพระยาไกร(น้องชาย) เป็นหัวหน้าล่องเรือมาถึงปากแม่น้ำมูล แล้วแยกย้ายกันไป +++พระยาไกร+++ ล่องเรือไปในสายธารแห่งห้วยสำราญ พบที่ฐานที่น่าอยู่รวมหมู่เหล่าเข้าสู่แดนทางตะวันออกแห่งเมือง
ศรีสะเกษ (นครศรีลำดวน = ขุขันธ์) สร้างบ้าน สร้างเมือง รุ่งเรืองราษฎร์ นามว่า++"ปราสาทเยอ"++ ส่วนพระเชษฐา "ท้าวกะตะศิลา" มุ่งหน้าสู่ตามลำน้ำมูล ถึงบึงโค้งโคก(โคก หมายถึง พื้นที่น้ำท่วมไม่ถึง) จึงตั้งบ้านนี้ว่า " โค้งโคก" หรือ "คงโคก" คือ อำเภอราษีไศลในปัจจุบัน และเยออีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งแยกออกจาก"คงโคก" อพยพมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของราษีไศล ผ่านมาทางบ้านเก่า(บ้านเจียงอี,บ้านพันทา
เลยมาถึงที่ดอนหรือที่โนนแห่งหนึ่ง ซึ่งโนนหมายถึง พื้นทที่ที่สูงกว่าระดับพื้นดินธรรมดา และ ณ ที่โนนแห่งหนึ่ง มีต้นไม้ที่หมู่คนได้เรียกชื่อว่า "ต้นค้อ" ขึ้นอยู่มากมายจึงตั้งชื่อบ้านนี้ว่า "บ้านโนนค้อ" หรือ
"โพนค้อ" จวบจนทุกวันนี้
วัฒนธรรมของชนคนเผ่าเยอ ::: "เยอ" มีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง เช่น วัฒนธรรมทางภาษา เยอมีแต่ภาษาพูด ไม่มีภาษาเขียน เคยคิดประดิษฐ์อักษรพร้อมๆกับชนชาติเขมร(ขอม) แต่เพราะกลุ่มชนคนเผ่าเยอ เป็นชนกลุ่มน้อย อาณาจักรของชนเผ่าเยอล่มสลาย ไม่มีประเทศเป็นของตนเอง อักษรตัวหนังสือและการเขียน ขาดระบบการจัดเก็บและถ่ายทอดที่ดี จึงไม่มีตัวหนังสือเขียน ปัจจุบันเหลือแต่ภาษาพูดเช่น "กวยขูนะ
เกิดแซมซายกะเฎือ" แปลว่า คนทุกคนเป็นพี่น้องกัน
วัฒนธรรมการแต่งกาย ::: เยอจะมีการแต่งกายเป็นของตนเอง คือ ผู้ชายจะนุ่งผ้าโสร่งไหม หรือ ผ้าเข็น (เหน็บกะเตียว) เสื้อผ้าไหมเหยียบสีดำย้อมมะเกลือ ผ้าข้าวม้าพาดบ่า ส่วนผู้หญิงนิยมนุ่งซิ่นคั่นไหมคู่กับเสื้อไหมเหยียบสีดำย้อมมะเกลือ พร้อมด้วยผ้าสไบเบี่ยง ปัจจุบันเยอมีการประยุกต์การแต่งกายให้เกิดความสวยงามตามสมัยนิยม
ความเชื่อและจารีตประเพณี ::: ชาวเยอมีความเชื่อเช่นเดียวกับคนอีสานทั่วไป เช่น เชื่อผีสางนางไม้ ผีฟ้า พญาแถน เชื่อผีปู่ตา ผีนาตาแฮก เชื่อบุญ เชื่อบาป เข้าวัดฟังธรรม ยึดฮีตโบราณ คือ แต่งงานต้องสู่ขอ ถือเป็นจารีตประเพณีอันดีงาม ของสังคม ++++ ปัจจุบันคนเยออยู่กระจัดกระจายทั่วไปตามอำเภอต่างๆของจังหวัดศรีสะเกษ เช่น อำเภอเมือก็มีบ้านโพนค้อ บ้านโนนแกด บ้านโนนขมิ้น อำเภอราษีไศล ก็เป็นบ้านคงโคก บ้านหลุบโมก บ้านร่องอโศก บ้านใหญ่ อำเภอศิลาลาด บ้าน กุง บ้านขาม อำเภอพยุห์ บ้านหนองทุ่ม บ้านสำโรงโคเฒ่า อำเภอไพรบึง บ้านปราสาทเยอ
++++คนกลุ่มนี้มักเรียกตนเองว่า " กวยเยอ " และมีคำต่อท้ายว่า "เยอ" เช่น กวยเยอ ,เจาเยอ, มูไฮเจาเยอ, ขวญเจ้ามาเยอ จึงได้เรียกว่า "เยอ" หรือ " กวยเยอ" แปลว่า "คนเยอ"
" เจาเดอแซมซายจาโดย " แปลว่า " มานะพี่น้องกินข้าว"

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณพี่อนุชิต สาระษี "กวยเยอ" หรือคนเยอ ขนานแท้ดั้งเดิม ลูกค้าไปรษณีย์ผมที่มาใช้บริการประจำ ได้อนุเคราะห์ประวัติคนเผ่าเยอให้เพื่อนๆได้รู้จัก ความดีทั้งหมดความรู้ที่ได้ขอยกให้กับชาติพันธ์คนเผ่าเยอ กล่มคนที่น้อยคนนักจะรู้จัก ...............




 

Create Date : 19 กันยายน 2551    
Last Update : 19 กันยายน 2551 11:49:35 น.
Counter : 1663 Pageviews.  

เขาพระวิหาร preah vihear templeอาถรรพ์ที่ร้อนแรง

//www.bloggang.com/data/ibear/picture/1220981739.jpg>




 

Create Date : 10 กันยายน 2551    
Last Update : 15 กันยายน 2551 22:23:24 น.
Counter : 544 Pageviews.  


Mr.bearblog
Location :
ศรีสะเกษ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผมนายหมีครับ ทำงานที่ไปรษณีย์ไทยจังหวัดศรีสะเกษ ปัจจุบันศึกษาป.โทที่ม.รังสิตสาขาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ครับ
Friends' blogs
[Add Mr.bearblog's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.