|
|
|
++คนแห่โทร."อร่อยทั่วไทย" จนสายไหม้++
นายวุฒิพงษ์ โมฬีชาติ รองกรรมการผุ้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานระบบปฏิบัติการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ไปรษณีย์ไทยได้เปิดตัวบริการ "อร่อยทั่วไทย" สั่งได้ที่ไปรษณีย์" เมื่อวันที่ 1 กย.ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ลูกค้าให้ความสนใจสั่งอาหารอร่อยจากไปรษณีย์จนสายคอลล์เซ็นเตอร์ โทร.1545 ไม่ว่าง ซึ่งขณะนี้ไปรษณีย์ต้องขยายสาย เพื่อรอรับคำสั่งซื้อรายการอาหาร สาเหตุที่ได้รับความสนใจ เพราะเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ต้องการลิ้มรสอาหารขึ้นชื่อแต่ละจังหวัด แต่บริการส่งถึงหน้าบ้านในราคาย่อมเยา ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปซื้อด้วยตนเอง
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานระบบปฏิบัติการ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด(ปณท) กล่าวอีกว่า ในขณะนี้บริการ "อร่อยทั่วไทย สั่งได้ที่ไปรษณีย์" ได้มีรายการอาหารกว่า 20 รายการแล้ว โดยมีที่ทำการไปรษณีย์ให้บริการแล้ว 158 แห่งในกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งจะให้บริการในลักษณะสั่งซื้อวันนี้ ได้รับในวันรุ่งขึ้น สำหรับรายกาอาหารที่ได้รับความสนใจและสั่งซื้อมากที่สุด ได้แก่ แดงแหนมเนือง จ.หนองคาย รองลงมาได้แก่ ขาหมูเย็น และหมูยอ แหนมซี่โครงกระดูก จ.อุบลราชธานี ไส้อั่วหมูล้วนและไส้อั่วกระดูกหมู จ.เชียงใหม่ เป็นต้น
"ทั้งนี้ จากการเปิดตัวมา ก็มีทั้งด่า ทั้งชม ผมก็ยอมรับทุกอย่าง เพื่อนำมาปรับปรุงให้บริการดีขึ้น แต่สิ่งที่บริษัท ไปรษณีย์ไทยให้บริการ ก็เพราะต้องการให้คนไทยได้ลิ้มรสอาหารอร่อย อยู่ที่บ้านก็ได้อร่อยรสชาติที่ร้าน เช่น กนินแหนมเนืองที่กรุงเทพฯ แต่ได้รสชาติแดงแหนมเนืองหนองคาย ซึ่งไปรษณีย์ไทย พยายามจะคุยกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการกับไปรษณีย์ ในการรักษาคุณภาพ รสชาติของอาหารให้เหมือนเดิม เพราะมิฉะนั้นทั้งร้านค้าและบริษัทไปรษณีย์ไทยจะเสียชื่อเสียง....
อ้างอิงจากนสพ.ไทยรัฐ 18กย.51
| Create Date : 17 กันยายน 2551 | | |
| Last Update : 17 กันยายน 2551 20:20:24 น. |
| Counter : 705 Pageviews. |
| |
|
 |
|
|
|
+++ไปรษณีย์ไทยยุค " ปลาเปลี่ยนน้ำ" +++
นี่คือคำให้สัมภาษณ์ของผู้จัดการใหญ่ไปรษณีย์ไทย นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ และคุณอนุสรา จิตต์มิตรภาพ รองกรรมการผุ้จัดการใหญ่ สายงานตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท)...
ในขณะที่เทคโนโลยีสื่อสารอันทันสมัยเข้ามาครอบครอบวิถีชีวิตของคนทั่วโกลอย่างรวดเร็ว ไปรษณีย์ไทยมีทิศทางอย่างไรในการนำพาองค์กรเข้าสู่กระแสของยุคแห่งการหลอมรวมสื่อที่ทันสมัย ???
และก็ถึงเวลาที่ไปรษณีย์ไทย ได้ประกาศจุดยืนชัดเจนในการปรับตัวในเชิงธุรกิจและบริการพร้อมปรับตัวนำเทคโนโลยีสื่อสารและไอทีเข้ามาใช้อย่างกลมกลืน เพิ่มศักยภาพการบริการ ทั้งเบนเข็มเข้าหาบริการด้านขนส่งมากขึ้นเพื่อทดแทนบริการด้านการสื่อสารที่ถูกเทคโนโลยีสื่อสารยุคใหม่เข้ามาแทนที่ ขณะเดียวกัน ยืนยันว่าจดหมายและไปรษณียบัตรไม่กลายเป็นตำนานอย่าง"โทรเลข"แน่นอน เตรียมรณรงค์ให้เยาวชนหันกลับมาใช้การสื่อสารโดยการเขียนจดหมายและไปรษณียบัตร เพื่อฝึกการเขียนที่มีจินตนาการ ทั้งยังมีภาษาที่ไพเราะครบถ้วนกว่าการสื่อสารทางอีเมล์ที่สือสารกันให้สั้นที่สุด กันภาษาวิบัติอย่างในปัจจุบัน
รองกรรมการฯคุณอนุสรา ย้ำชัดถึงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า ปณท พร้อมจะเป็นผู้เชื่อมโยงในประเทศไทยที่ดีที่สุดตามลักษณะของบริการที่ ปณท มีอยู่ คือธุรกรรมของการส่ง"ซึ่งไม่มีเครื่องจักรกลใด ๆ ที่จะสามารถนำส่งแทนคนได้ ด้วยบริการที่ใส่ใจ เต็มใจ และตั้งใจในการให้บริการ" ทั้งนี้ในเรื่องการปรับตัว อย่างเรื่องของการรณรงค์ลดการใช้กระดาษ ทางปณท เองก็อาจจะนำเทคโนโลยีที่เรียกว่า "ไฮบริดจ์ เมล์" มาใช้ นั่นก็คือ การที่จะช่วยลดต้นทุนในการจัดส่งจดหมายให้กับบริษัทที่มีการส่งเอกสารข้อมูลจำนวนมากไปที่ต่างจัหวัดที่ไกล ๆ ก็แค่ทำการพรินต์ และก็จัดส่งไปตามจังหวัดนั้น หรือถ้าหากท่านใดที่ไม่มี อีเมล์ ก็สามารถที่จะมาเปิดเมล์ที่ไปรษณีย์ แล้วก็พรินต์ได้ นี่ก็คือส่วนหนึ่งที่ทาง ปณท กำลังศึกษาอยู่
ปณท. นำเทคโนโลยีด้านการสื่อสารมาปรับใช้อย่างไร ??
ปณท มีจุดแข็งคือเรื่องของเครือข่ายที่ทำการไปรษณีย์ไทยที่มีอยุ่ทั่วประเทศ และในการที่จะทำให้ที่ทำการไปรษณีย์สามารถที่จะทำธุรกรรมได้ทุกประเภทโดยที่มีไปรษณีย์เป็นตัวกลาง และร่วมกับหน่วยงานภาครัฐหรือภาคเอกชน เช่น ปณท เป็ฯ Agency Banking, เป็นจุดให้ SME สามารถที่จะวางสินค้าขาย หรือ การเป็นตัวเชื่อมให้กับ SME จะอยู่ในเว็บไซต์ของ ปณท และสามารถที่จะขายของผ่านไปรษณีย์แล้ว ปณท ก็ทำหน้าที่ส่งสินค้านั้น ๆ ซึ่งการที่นำเรื่องของไอทีมาเพิ่มที่เคาน์เตอร์นั่นก็คือการปรับตัวให้ทันกับกระแสของไอที
ในยุคที่น้ำมันแพงทุกคนต้องมากการใช้ไปรษณีย์ในเรื่องของการขับเคลื่อนการขนส่งทุก ๆประเภท แทนที่จะมีเครือข่ายในการขนส่งเป็นคัวของตนเอง ขณะเดียวกันทาง ปณท เองก็จะทำการเพิ่มในเรื่องของระบบขนส่ง ให้ทันกับความต้องการของผู้ที่จะมาใช้บริการ คือการที่เพิ่มในเรื่องของการบริการส่งของประเภทที่ใหญ่ขึ้น อย่างในวันนี้ ปณท ทำเรื่องโลจิสติกส์เต็มที่แล้ว และส่งของได้ถึงกว่า 200 กก. ในอนาคตนี้คงเป็นการขนส่งแบบเป็นคอนเทนเนอร์ เพื่อที่จะไปเสริมในภาคของธุรกิจ SME
ขณะเดียวกัน ปณท มองถึงการที่การเชื่อมต่อกับไปรษณีย์ทั่วโลก โดยการที่ไทยจะเป็น Mail-Hub ปณท จึงจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมการพิมพ์ด้วย เพื่อที่จะช่วยหาทางในการที่จะสร้างจุแข็งส่วนนี้ เพราะอุตสาหกรรมการพิมพ์ของประเทศไทยเราก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร รวมถึงเส้นทางการขนส่ง อีกทั้งพาหนะที่ใช้ในการขนส่งอีกด้วย ซึ่งจำเป็นต้องประสานงานร่วมกัน และไม่อยากใหทุกคนลืมว่าไปรษณีย์คือหน่วยงานที่สามารถจะให้บริการสิ่งเหล่านี้ได้
++++โปรตติดตามตอนต่อไปนะครับ+++++
| Create Date : 15 กันยายน 2551 | | |
| Last Update : 15 กันยายน 2551 22:52:40 น. |
| Counter : 561 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
<<<<ความเป็นมาของของไปรษณีย์>>>>>
<<<ความเป็นมาของไปรษณีย์>>>
ในปีพ.ศ. 2423 เจ้าหมื่นเสมอใจราช หัวหมื่นมหาดเล็กเวรสิทธิ์ ได้ทำหนังสือกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หว ถวายคำแนะนำให้เปิดบริการไปรษณีย์ใขึ้นในประเทศไทย โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริเห็นชอบ จึงทรงแต่งตั้งให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์กรมหลวงภาณุพันธุวงศ์วรเดช ผู้ทรงมี ประสบการณ์ เกี่ยวกับการจัดส่งหนังสือพิมพ์รายวัน "ข่าวราชการ" ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการกรมไปรษณีย์ เมือ่สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้า ภาณุรังษีสว่างวงศ์ฯ ได้ทรงวางโครงการและเตรียมการไว้พร้อมที่จะเปิดบริการไปรษณีย์ได้แล้ว ก็ได้ประกาศเปิดรับฝาก ส่งจดหมายหรือหนังสือ เป็นการทดลองในเขตพระนครและธนบุรีขึ้นเมือ่ วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2426 มีที่่ทำการตั้งอยู่ ณ ตึกใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตอนปากคลอโอ่งอ่าง ด้านทิศเหนือ(ปัจจุบันถูกรื้อเพื่อใช้ที่สร้างสะพานคู่ขนานกับสะพานพุทธ) ที่ทำการแห่งแรกนี้ใช้เป็น ที่ทำการไปรษณีย์สำหรับจังหวัดพระนคร ด้วยเรียกกัน ...."ไปรษณียาคาร".....
ต่อมาในปี พ.ศ.2441 เสนาบดีกระทรวงโยธาธิการ กราบบังคมทูลเสนอความเห็นว่าราชการของกรมไปรษณีย์และราชการของกรมไปรษณีย์โทรเลขและราชการของกรมโทรเลข ซึ่งตั้งขึ้นก่อนกรมไปรษณีย์แล้วนั้นเป็นงานในด้านสื่อสารด้วยกัน ควรรวมเป็นหน่วยราชการเดียวกันเสียเพื่อความสะดวกแก่การดำเนินงาน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเห็นเป็นสมควรจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รวมหน่วยงานท้งสองเข้าด้วยกนเรียกว่า..."กรมไปรษณีย์โทรเลข".... ซึ่งต่อมาได้ย้ายไปใช้อาคารและที่ดินริมถนนเจริญกรุงเป็นที่ทำการและเรียกกันโดยทั่วไปว่า ....."ที่ทำการไปรษณีย์กลาง"..... การไปรษณีย์ เป็นบริการสาธารณะจำเป็นต้องมีระเบียบข้อบังคับเพื่อให้ประชาชนผู้ใช้บริการและเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินบริการทราบและถือปฏิบัติเมื่อเปิดการไปรษณีย์โทรเลข ได้ประมาณ 2 ปีแล้ว รัฐบาลจึงได้ตรากฎหมายขึ้นในปี พ.ศ. 2428 เรียกว่า "พระราชบัญญัติการไปรษณีย์ไทย จุลศักราข 1248" ต่อมาในปี พ.ศ. 2440 ได้ออกพระราชกำหนดไปรษณีย์ ร.ศ. 116 ยกเลิกพระราชบัญญัติฉบับแรกและใช้พระราชกำหนดนี้ตลอดมา จนกระทั่งปรับปรุงใหม่ออกเป็น "พระราชบัญญัติไปรษณีย์ พุทธศักราช 2477" มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการเป็น ผู้รักษาตามพระราชบัญญัติ(ปัจจุบันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติและพระราชบัญญัติฉบับนี้ยังคงมีผลใช้บังคับอยู่)
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2520 ได้มีการจัดตั้ง "การสื่อสารแห่งประเทศไทย" (กสท.)" ตามพระราชบัญญัติการสื่อสารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2519 โดยได้รับมอบกิจการด้านปฏิบัติการทั้งหมด รวมถึงการให้บริการไปรษณีย์จากกรมไปรษณีย์โทรเลขมาดำเนินการ โดยมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ใช้สถานที่ปฏิบัติงาน ณ ที่ทำการไปรษณีย์กลาง ต่อมาสำนักงานใหญ่ย้ายมาอยู่ที่ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่ง กสท.ได้ปรับปรุงและพัฒนาบริการให้เจริญก้าวหน้ามาโดยตลอด จนเป็นรัฐวิสาหกิจชั้นำที่ยิ่งใหญ่ มีศักยภาพเครือข่ายระบบและคุณภาพบริการระดับมาตรฐานสากล
จากนโยบายรัฐบาลที่ต้องการแปรสภาพรัฐวิสาหกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เทียบเท่าภาคเอกชน ซึ่ง กสท. เป็นหนึ่งในรัฐวิสาหกิจที่ต้องดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2546 คณะรัฐมนตรีมีมติให้แปรสภาพ กสท. ตามแผนแม่บทพัฒนากิจการโทรคมนาคม และพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พศ. 2542 แยกกิจการเป็น 2 บริษัท คือ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) ซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทเมื่อวันที่ "14 สิงหาคม 2546"
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด(ปณท.) ยังคงสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตั้งอยู่ที่ อาคารสำนักงานใหญ่ ปณท. ถนนแจ้งวัฒนะ โดยปฏิรูปภาพลักษณ์ใหม่ ปรับปรุงบริการและการให้บริการไปรษณีย์แก่ประชาชนทั่วไปและพัฒนาการให้บริการไปรษณีย์เชิงธุรกิจ เพื่อให้ ปณท.ก้าวไกล ทันสมัย ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและเอื้อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องตลอดไป......................
อ้างอิงจาก ส่วนพัฒนาระบบงานข้อมูลสารสนเทศ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
| Create Date : 13 กันยายน 2551 | | |
| Last Update : 13 กันยายน 2551 23:14:57 น. |
| Counter : 3524 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
ศรีสะเกษ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ผมนายหมีครับ ทำงานที่ไปรษณีย์ไทยจังหวัดศรีสะเกษ ปัจจุบันศึกษาป.โทที่ม.รังสิตสาขาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ครับ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
