เรื่องวุ่นๆของ "กีตาร์" กับ "การเมืองสหรัฐ"

โดย ธนพงศ์ พุทธิวนิช จากคอลัมน์ เปลี่ยนผ่าน ใน มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 1750

Create Date : 09 มีนาคม 2557 Last Update : 9 มีนาคม 2557 2:02:15 น. Counter : 732 Pageviews.		0 comment
Share Tweet

เกาะ"แรบบิท"อดีตฐานทัพลับญี่ปุ่นสุดดึงดูด กระต่ายวิ่งไล่ตามนักท่องเที่ยวเป็นฝูง

========================================================================

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกาะโอกูโนชิมา เกาะเล็กๆ ของญี่ปุ่น สร้างภาพสวยงามให้แก่เหล่านักเที่ยว
หลังจากมีการเผยภาพกระต่ายบนเกาะมีพฤติกรรมวิ่งไล่ตามนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเหตุการณ์น่าประทับใจสำหรับนักเที่ยว

รายงานระบุว่า เกาะดังกล่าวขณะนี้มีนักท่องเที่ยวแห่เดินทางมาเที่ยว
เพื่อหวังได้เล่นกับฝูงกระต่ายหลายพันตัวที่มีพฤติกรรมชอบวิ่งตามนักท่องเที่ยวเป็นฝูง
และแปรสภาพจากเกาะที่เคยถูกใช้เป็นฐานทัพลับของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลก
กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ จนถูกเรียกชื่อว่า "เกาะกระต่าย"

ขณะที่ประวัติของเกาะนี้ ในช่วงปี 1929-1945 ได้ถูกใช้ผลิตก๊าซพิษในโครงการลับของกองทัพบูชิโด
เนื่องจากเป็นพื้นที่อยู่ห่างไกล และร่ำลือกันว่า สาเหตุที่เกาะนี้มีกระต่ายเยอะ
เพราะมันเคยเป็นประชากรหนูทดลองของโครงการลับกองทัพญี่ปุ่น โดยถูกเลี้ยงไว้ในโรงงานลับ
ส่วนอีกกระแสบอกว่ากระต่ายมาจากกลุ่มนักเรียนที่นำกระต่ายไม่ถึง 10 ตัว
มาปล่อยยังเกาะนี้ ก่อนที่มันจะแพร่ขยายประชากรมากขึ้น



========================================================================
ที่มา มติชน

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2557 Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2557 13:50:53 น. Counter : 573 Pageviews.		0 comment
Share Tweet

ศึกตำราเรียนซามูไร-โสมขาวในแดนอินทรี (2)

นอกบ้านผ่านเมือง : ศึกตำราเรียนซามูไร-โสมขาวในแดนอินทรี (2) : โดย...บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์

===============================================================================

จะว่าเป็นเพราะไม่มีทางเลือกอื่น เนื่องจากนับวันยิ่งมีมะกันชนเชื้อสายเอเชียเข้าไปอาศัยในรัฐเวอร์จิเนียมากขึ้น
ซึ่งคนกลุ่มนี้ถือเป็นฐานเสียงใหญ่ของพรรคตราลาเดโมแครต  หรือเป็นเพราะต้องการแก้ไขความผิดพลาดในอดีตให้กลับมาถูกต้อง
สภานิติบัญญัติของรัฐนี้จึงลงมติด้วยเสียงข้างมากไฟเขียวให้แก้ไขตำราเรียนใหม่ของรัฐนี้ด้วยการให้เพิ่มคำว่า
"ทะเลตะวันออก" คู่ไปกับชื่อ "ทะเลญี่ปุ่น" จากเดิมที่เรียกแต่ว่า "ทะเลญี่ปุ่น" เพียงอย่างเดียว

มตินี้ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญทางการเมืองการทูตของเกาหลีที่ต่อสู้มานานให้เปลี่ยนชื่อ "ทะเลญี่ปุ่น"
ซึ่งสะท้อนถึงความโหดร้ายของจักรวรรดิญี่ปุ่นสมัยยึดครองคาบสมุทรเกาหลีเป็นอาณานิคม
โดยเกาหลีเหนือได้ร่วมวงด้วยการเสนอให้ใช้ชื่อว่า "ทะเลเกาหลีตะวันออก"
สุดท้าย รัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งรักพี่คือญี่ปุ่น ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ มีการลงทุนเกือบ 5 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
เป็นรองจากเยอรมนีเพียงประเทศเดียวเท่านั้น แต่ก็เสียดายน้องคือแดนโสมขาว
ที่สามารถรณรงค์ให้มะกันชนเห็นใจในตำนานความโหดร้ายสมัยตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น
จึงลงมติเห็นชอบให้ใช้ชื่อ "ทะเลตะวันออก" คู่ไปกับชื่อ "ทะเลญี่ปุ่น "

แต่ยุทธวิธี "จับปลาสองมือ" นี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผลนัก เพราะแดนซามูไรจะไม่ยอมเสียเกียรติและเสียหน้าเป็นอันขาด
นอกจากจะยืนกรานว่า "ทะเลญี่ปุ่น" เป็นเพียงชื่อเดียวที่ได้รับการรับรองจากสหประชาชาติและองค์การอุทกศาสตร์สากลแล้ว
ยังเป็นชื่อที่ทั่วโลกใช้กันมานานตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 สมัยที่ประเทศนี้ยังคงปิดประเทศ
ก่อนหน้าที่จะส่งทหารลูกพระอาทิตย์ไปยึดครองหลายประเทศในภูมิภาคนี้ ก็ยังจ้างทีมล็อบบี้ยิสต์ให้ช่วยปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองด้วย

จะว่าไปแล้ว "ศึกตำราเรียน" ว่าด้วยการเปลี่ยนชื่อ "ทะเลญี่ปุ่น"
เป็นเพียงศึกยกแรกที่แดนดินถิ่นอินทรีผยองจะต้องเผชิญและต้องเตรียมรับมือให้ดี
เพราะในช่วงเดียวกันนี้ ผู้นำแดนมังกรจีนได้ดาหน้าเตือนทำเนียบขาวว่าให้เคารพในประวัติศาสตร์
และห้ามถือหางในปัญหาพิพาทดินแดนที่ "ทะเลจีนตะวันออก" และ "ทะเลจีนใต้" เป็นอันขาด
ปล่อยให้ประเทศที่มีปัญหาเปิดเจรจาเพื่อคลี่คลายปัญหาโดยสันติวิธีกันเองดีกว่า

คำเตือนนี้มีขึ้นหลังจากแดนตากาล็อกฟิลิปปินส์
จู่ๆประกาศแต่ฝ่ายเดียวเมื่อราวปีสองปีมาแล้วเปลี่ยนชื่อ "ทะเลจีนใต้" เป็น "ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก"

กลัวแต่ว่าอีกหลายประเทศจะเอาอย่างบ้างจนทุกคนเกิดความสับสนว่าจะยึดแผนที่ฉบับใดกันแน่

===============================================================================
ที่มา คมชัดลึก

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2557 Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2557 13:46:38 น. Counter : 593 Pageviews.		0 comment
Share Tweet

ศึกตำราเรียนซามูไร-โสมขาวในแดนอินทรี (1)

นอกบ้านผ่านเมือง : ศึกตำราเรียนซามูไร-โสมขาวในแดนอินทรี (1) : โดย...บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์

===============================================================================

นับตั้งแต่ประกาศย้ายสมรภูมิของสงครามตัวแทนจากตะวันออกกลางมายังทวีปผิวเหลืองเอเชียอย่างเป็นทางการเมื่อ 4-5 ปีมาแล้ว
การเมืองในทวีปนี้ก็ร้อนระอุเรื่อยมาจากผลพวงของนโยบายแบ่งแยกแล้วปกครอง ที่ใช้ได้ผลทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค
เห็นได้ชัดจากการฝึกคอบราโกลด์ประจำปีนี้ ซึ่งเน้นหนักภาคสนาม และปฏิบัติการจริงทั้งทางบก เรือ และอากาศ รวมทั้งการยิงด้วยกระสุนจริง

ไม่ทราบว่าเป็นเพราะได้กลิ่นข่าวทะแม่งๆ ที่โชยมาเป็นระยะๆ ประกอบกับความตึงเครียดจาก "สงครามยกสุดท้าย"
เพื่อล้มล้างระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากแดนดินถิ่นเจ้าพระยา การซ้อมรบคอบราโกดล์ครั้งที่ 33 ครั้งนี้จึงได้รับความสนใจจากนานาประเทศเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะแดนมังกรที่ส่งคณะผู้แทนเข้าร่วมสังเกตการณ์เป็นครั้งแรก เช่นเดียวกับผู้สังเกตการณ์จากพม่า ลาว เวียดนาม ปากีสถาน  
นิวซีแลนด์ อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ ยูเครน รัสเซีย รวมทั้งแอฟริกาใต้ นอกจากนี้ก็ยังมีนายทหารฝ่ายเสนาธิการจากอีก 10 ประเทศ
คือ บรูไน ฟิลิปปินส์ อินเดีย บังกลาเทศ เนปาล มองโกเลีย ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส และอิตาลี

ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งที่ก้าวมาถึงจุดแตกหัก
ขณะที่เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยก็เปิดหน้าไพ่เต็มตัวว่าสนับสนุนฝ่ายใด
ทุกคนจึงควรจับตามองกลิ่นแปร่งๆ นี้ให้ดีและเฝ้าระวังไม่ให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ปี 2552-2553
อย่างน้อยก็ยังพออุ่นใจได้บ้างว่าแดนดินถิ่นเจ้าพระยาไม่ได้โดดเดี่ยวอยู่เอกาเสียเมื่อไหร่
นอกเหนือจากมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองให้พ้นจากมวลมารร้ายแล้ว ก็ยังมีมวลมิตรแท้ที่พร้อมช่วยเหลือเต็มที่อยู่แล้ว

ไม่ทราบว่าเป็นเพราะสำนึกในความผิดในอดีต หรือเป็นเพราะชอบบริหารความเสี่ยงจากความขัดแย้ง
สงครามตัวแทนจึงได้ย้ายวงไปเกิดขึ้นในแดนดินถิ่นอินทรีผยองด้วย
ระหว่างมวลมิตรสนิทระดับแขนซ้ายและแขนขวาของสหรัฐที่จะให้ต่อกรหรือปิดล้อมแดนมังกร
นั่นก็คือแดนซามูไรญี่ปุ่นและแดนโสมขาวเกาหลีใต้ที่เปิดสงครามตัวแทน
ผ่านการแก้ไขตำราเรียนในรัฐเวอร์จิเนีย ทางภาคตะวันออกของอดีตแดนดินถิ่นคาวบอยเก่า

"ศึกตำราเรียน" หรือสงครามตัวแทนยกใหม่ของสองมวลมิตรของสหรัฐในทวีปผิวเหลืองเริ่มขึ้น
เมื่อสภานิติบัญญัติของรัฐเวอร์จิเนียได้ลงมติด้วยเสียงท่วมท้นให้แก้ไขตำราเรียนที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป
ให้เพิ่มคำว่า "ทะเลตะวันออก" คู่ไปกับชื่อ "ทะเลญี่ปุ่น" ตามข้อเรียกร้องของเกาหลีใต้ จากเดิมที่เรียกแต่ว่า "ทะเลญี่ปุ่น" เพียงอย่างเดียว

===============================================================================
ที่มา คมชัดลึก

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2557 Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2557 13:44:09 น. Counter : 485 Pageviews.		0 comment
Share Tweet

กรุสมบัติลับของตระกูลคิมแห่งโสมแดง (2)

====================================================================

นอกบ้านผ่านเมือง : กรุสมบัติลับของตระกูลคิมแห่งโสมแดง (2) : โดย...บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์

นายรี ซู ยอง อดีตหัวหน้ากงสุลของเกาหลีเหนือประจำหลายประเทศในยุโรป
และเป็นผู้ดูแลนายคิม จอง อึน ระหว่างปลอมแปลงชื่อเสียงไปเรียนที่สวิตเซอร์แลนด์
เป็นหนึ่งในคนสนิทกลุ่มแรกของนายจาง ซอง แท็ก ที่ถูกสั่งเก็บในฐานะที่กุมความลับไว้มากมาย
นอกเหนือจากคอยดูแลเม็ดเงินที่เป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศนับพันๆ ล้านดอลลาร์
ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการลงทุนและการร่วมลงทุน รวมไปถึงการดูแลธุรกิจที่นานาประเทศถือว่าเป็นธุรกิจเถื่อน
อาทิ ค้ายาเสพติด, ปลอมธนบัตรและส่งออกอาวุธ เชื่อว่าแต่ละปีสามารถทำกำไรอย่างน้อย 200-300 ล้านดอลลาร์
กำไรก้อนนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกให้คณะรัฐมนตรีบริหารจัดการ
ส่วนที่สองเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อในกองทัพ และส่วนที่สามถูกส่งเข้าไปในบัญชีลับของตระกูลคิม

แต่จู่ๆ เมื่อเดือนสองเดือนที่ผ่านมา นายรี ซู ยอง เกิดหายตัวไปอย่างลึกลับ
โดยข่าวกระแสหนึ่งให้ความเห็นว่าอาจหนีไปลี้ภัยที่จีน แต่ทางการจีนปฏิเสธ
ก่อนที่หนังสือพิมพ์ไมนิจิของญี่ปุ่นเพิ่งจะรายงานว่านายรี ซู ยอง คงถูกประหารชีวิตแล้ว
เช่นเดียวกับนายรี ยอง ฮา และนายจาง ซู คิล สองคนสนิทของนายจาง
ในข้อหาพัวพันกับการทุจริตและกิจกรรมต่างๆ ที่ขัดต่อจุดยืนของพรรคกรรมกร

นายรี ยอง ฮานั้น เชื่อกันว่าเป็นคนคอยดูแลการเงินให้นายจาง
ส่วนนายจาง ซู คิล เป็นผู้อำนวยการแผนก 54 ของพรรคกรรมกรมีหน้าที่จัดหาไฟฟ้า
ถ่านหิน เชื้อเพลิง เสื้อผ้าและสิ่งของจำเป็นให้กับกองทัพ
นอกเหนือจากทำธุรกิจอื่นๆ เหมือนกับทุกแผนกที่ต้องหารายได้มาเสริมเอง
แต่เป็นไปได้ว่านายจางและคนสนิทได้แอบยักยอกเงินกำไรเหล่านั้นเข้ากระเป๋าตัวเอง
โดยไม่ยอมแบ่งปันให้ตระกูลคิมหรือเจียดให้เพียงเล็กน้อย
จนทำให้นายคิมตัดสินใจจะดึงการบริหารกองทุนลับในต่างประเทศกลับมาดูแลเอง

จากคำเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งจากศูนย์บริการข้อมูลยุทธศาสตร์เกาหลีเหนือระบุว่า
"ไอ้โม่ง" ตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังการจับกุมนายจาง ซอง แท็กก็คือนายคิม จอง โชล พี่ชายแท้ๆของนายคิม จอง อึน
รายงานชิ้นนี้เผยว่ามีการวางแผนลับสุดยอดเพื่อโค่นอำนาจนายจางมาตั้งแต่ปีที่แล้ว
โดยคนที่รู้เรื่องนี้มีแค่คนในตระกูลคิมไม่กี่คนเท่านั้น ได้แก่นายคิม จอง อึน
นายคิม จอง โชล พี่ชาย นางซุล ซอง พี่สาวต่างแม่และนางคิม ฮยอง ฮุย อาแท้ๆ ผู้เป็นภรรยาของนายจาง
จากนั้นสองพี่น้องร่วมสายโลหิตก็จะพบปะกันทุกวันเสาร์อาทิตย์เพื่อเสริมรายละเอียดต่างๆ
สุดท้ายนายคิม จอง โชล ก็นำองครักษ์ของน้องชาย ไปกวาดล้างนายจางและคนสนิทจนสำเร็จ

====================================================================
ที่มา คมชัดลึก

Create Date : 18 ธันวาคม 2556 Last Update : 18 ธันวาคม 2556 13:47:11 น. Counter : 965 Pageviews.		0 comment
Share Tweet