ผลวิจัยชี้ด้านสว่างความเศร้าสิ้นหวัง
ผลวิจัยชี้ด้านสว่างความเศร้าสิ้นหวัง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 พฤศจิกายน 2552 09:51 น.
เอ เจนซีส์ – การเลิกหวังทำให้คนเรามีความสุขกับสภาพความเจ็บป่วยรุนแรงได้มากกว่า ขณะที่งานวิจัยจากแดนจิงโจ้ระบุความเศร้าทำให้ความคิดกระจ่าง มีสมาธิ และใส่ใจสิ่งรอบข้างมากขึ้น
การศึกษาของเฮลท์ เซนเตอร์ ฟอร์ บีแฮฟวิออรัล แอนด์ ดิซิชัน ไซนส์ อิน เมดิซิน มหาวิทยาลัยมิชิแกน สหรัฐฯ เกี่ยวข้องกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ใหญ่ที่ได้รับการผ่าตัดลำไส้ใหญ่ออก แล้ว
กลุ่มตัวอย่าง 41 คนได้รับการบอกเล่าว่า การผ่าตัดเปิดรูทวารใหม่ที่ทำไว้สามารถแก้ไขได้ และอีกไม่กี่เดือนอาจต้องผ่าตัดครั้งที่ 2 เพื่อเชื่อมต่อลำไส้ใหม่และเปลี่ยนถุงอุจจาระ
กลุ่มตัวอย่างอีก 30 คนได้รับการบอกเล่าว่าการผ่าตัดเปิดรูทวารใหม่เป็นการผ่าตัดถาวร ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีก
ผลศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารเฮลท์ ไซโคโลจี้ฉบับล่าสุด ระบุว่ากลุ่มตัวอย่างกลุ่มที่สองที่ไม่มีความหวังใดๆ มีความสุขมากกว่ากลุ่มแรกในช่วงหกเดือนต่อมา
ปีเตอร์ อูเบล ผู้นำการวิจัย เชื่อว่าสาเหตุที่กลุ่มตัวอย่างกลุ่มที่สองมีความสุขมากกว่า เพราะตระหนักว่าตัวเองไม่มีทางเลือกอื่นและทำใจยอมรับในสิ่งที่เป็น
“เราไม่ได้ต้องการจะบอกว่าความหวังเป็นสิ่งไม่ดี แต่เราแค่อยากชี้ว่าความหวังอาจมีด้านมืดด้วยเหมือนกัน ถ้าทำให้คนเรารั้งรอกับชีวิต”
อูเบลสำทับว่า แพทย์มักไม่อยากบอกคนไข้ว่าหมดหวังแล้ว เนื่องจากความหวังมีบทบาทสำคัญต่อความสุข และคนที่มีความสุขมักมีชีวิตยืนยาวและแข็งแรงกว่าคนที่ไม่มีความสุข
กระนั้น แม้การแจ้งข่าวดีทำได้ง่ายกว่า “แต่อาจไม่ใช่สิ่งดีที่สุดสำหรับผู้ฟัง เพราะมีเรื่องของการปรับอารมณ์เข้ามาแทรกแซง” ทีมนักวิจัยสรุป
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาจากออสเตรเลียที่มุ่งศึกษาภาวะอารมณ์ พบว่าความเศร้าทำให้ความคิดกระจ่างขึ้น
ตรงข้ามกับคนที่สนุกสนานเพลิดเพลินเป็นส่วนใหญ่ คนอมทุกข์มีการตัดสินใจที่ดีกว่า และถูกหลอกยากกว่า
ศาสตราจารย์โจ ฟอร์กาส จากมหาวิทยาลัยนิวเซาธ์เวลส์ เสริมว่าแม้ความเบิกบานส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ความยืดหยุ่น การทำงานร่วมกับผู้อื่น และการใช้กระบวนการความคิดทางลัด แต่ความเศร้าหมองกระตุ้นให้เกิดสมาธิ การคิดอย่างรอบคอบ และการใส่ใจต่อโลกภายนอก
รายงานในนิตยสารออสเตรเลียน ไซนส์ยังระบุว่า คนที่เศร้าซึมสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยข้อเรียกร้องได้ดีกว่า คนที่มีความสุข เนื่องจากรูปแบบที่สมอง ‘ส่งเสริมกลยุทธ์การประมวลผลข้อมูล’
ศาสตราจารย์ฟอร์กาสขอให้อาสาสมัครดูหนังแนวต่างๆ และนึกถึงเหตุการณ์ที่ดีหรือเหตุการณ์เลวร้ายในชีวิตตัวเอง เพื่อกระตุ้นให้อาสาสมัครอารมณ์ดีหรือเศร้า
ขั้นตอนต่อไปคือ ขอให้อาสาสมัครเข้าร่วมชุดภารกิจ ซึ่งรวมถึงการตัดสินความเชื่อที่เล่าต่อๆ กันมาและข่าวลือต่างๆ ผลปรากฏว่ากลุ่มที่อยู่ในอารมณ์เศร้าเหงาทำภารกิจผิดพลาดน้อยกว่าและเป็นนัก สื่อสารที่ดีกว่า
อนึ่ง งานวิจัยก่อนหน้านี้ของฟอร์กาสแสดงให้เห็นว่า สภาพอากาศมีผลต่อคนเรา กล่าวคืออากาศที่เปียกชื้นอึมครึมช่วยกระตุ้นความจำ ขณะที่วันที่มีแสงแดดสดใสกลับทำให้คนเราหลงลืมง่ายขึ้น