บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินริงกิตของมาเลเซียร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงวิกฤตการเงินเอเชียเป็นต้นมา
จากการที่นักลงทุนยังคงเทขายสินทรัพย์ของประเทศตลาดเกิดใหม่ กอปรกับการปราบปรามกลุ่มที่เก็งกำไรค่าเงินเมื่อเดือนที่แล้ว
ยิ่งทำให้ตัวเลขเงินทุนไหลออกทรุดหนักมากยิ่งขึ้น
ค่าเงินริงกิตร่วงลงมากถึง 0.1 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 4.4805 ริงกิตต่อดอลลาร์สหรัฐ
ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคม 2541 เป็นต้นมา อ้างอิงจากตัวเลขข้อมูลของธนาคารในท้องถิ่นที่บลูมเบิร์กรวบรวมมา
ก่อนที่จะดีดตัวกลับขึ้นมาเล็กน้อย มาอยู่ที่ 4.48 ริงกิตต่อดอลลาร์ เมื่อเวลา 09.52 น. ตามเวลาท้องถิ่นในมาเลเซีย (ตรงกับ 08.52 น. ในไทย)
ทั้งนี้ ค่าเงินริงกิตร่วงลงมากกว่า 6 เปอร์เซ็นต์แล้ว นับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนที่แล้ว
และถือเป็นค่าเงินที่ร่วงลงมากที่สุดในบรรดากลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชีย จากที่มีการคาดการณ์ว่า
ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ จะจุดชนวนให้เกิดเงินเฟ้อจากนโยบายการคลังของเขาที่กระตุ้นให้เงินทุนไหลออกจากภูมิภาคเอเชีย
นอกจากนี้ บรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์ของมาเลเซียยังมัวหมอง
จากการที่ธนาคารกลางมาเลเซียมีมาตรการปราบปรามการทำธุรกรรมเงินริงกิตในตลาดต่างประเทศ (เอ็นดีเอฟ)
แม้ว่าการทำธุรกรรมในลักษณะดังกล่าว จะทำให้มีความยืดหยุ่นในการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนมากกว่าก็ตาม
นายวิษณุ วีรธาน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของธนาคารมิซึโฮะในสิงคโปร์ระบุว่า
มาตรการดังกล่าวส่งผลให้ปริมาณเงินสดหมุนเวียนในตลาดลดลง
และนักลงทุนต่างชาติที่ถือพันธบัตรยังเทขายเป็นจำนวนมากอีกด้วย
ที่มา matichon