ตอนที่ 2: วันทำ PRK
มาต่อกันเลย ที่วันนัดทำ PRK (เนื่องจาก ดองมาหลายวัน)
หลังจากที่ไม่ได้แตะคอมฯ มาหลายวัน เนื่องจาก ตามองไม่เห็น และแล้ว วันนี้ ก็ดีขึ้นมาก ยังมองเห็นไม่ชัด แต่ก็สามารถมองได้ดีขึ้น ก็เลยอยากจะมาเล่าประสบการณ์ การทำ PRK เผื่อจะมีประโยชน์สำหรับ ใครที่สนใจอยากจะทำ lasik
----------------------------------------------------------------------------------------
เริ่มแรกเลย ก็อย่างที่เคยลงไปแล้วในไดฯ หน้าก่อนๆ ว่า เราอยากจะทำ lasik แต่เนื่องจากกระจกตาเราไม่อำนวย คือมันบางมาก ก็เลยต้องทำเป็นแบบ PRK
PRK เป็นวิธีการผ่าตัดรักษาสายตาผิดปกติ (สายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด และสายตาเอียง) แบบถาวรวิธีหนึ่ง โดยการลอกผิวกระจกตาที่อยู่ด้านนอกสุด (ที่เรียกว่า Epithelium) ของกระจกตาออกก่อน ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายผิวถลอก แล้วใช้ Excimer Laser ปรับแต่งความโค้งของผิวกระจกตาโดยตรง วิธีนี้เป็นวิธีที่มีมาก่อนเลสิค หลายสิบปี และยังใช้จนถึงปัจจุบัน (credit: //www.lasikthai.com/th/treatment/prk/default.php)
หลังจากที่รู้ว่า เราจะต้องรักษาโดยวิธีนี้ ก็พยายามหาข้อมูลตลอดๆ แต่ว่า อาการของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป แต่ที่แน่ๆ คือ ได้เจ็บตัวแน่นอน เหอๆ
และพอนัดผ่าตัด เราก็เริ่มกินวิตามินซี 1000 ทุกวัน (ทาง TRSC เค้าแจ้งมา)
----------------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 13 มีนาคม วันนัดผ่าตัด อยากบอกว่า เครียดมากๆ เพราะว่ากลัว ถึงแม้ใครๆ จะบอกว่า ไม่เจ็บๆๆๆๆ แต่เราก็กลัวอยู่ดี พอถึงเวลาพยาบาลก็จะพาเราเข้าไปในห้อง (ไปนั่งทำใจ) ก่อนเข้า เค้าก็จะให้เราทานยาคลายเครียด และยาแก้ปวด จากนั้น ก็เริ่มหยอดยาชา และยาปฏฺิชีวนะให้
เค้าก็หยอดไปเรื่อยๆ แต่อยากบอกว่าพยาบาลใจดีมากๆ พูดกะเราแบบ หนูไม่ต้องกลัวนะคะ บลาๆๆ แล้วก็ค่อยๆ หยอดยาไปเรื่อยๆ จนสุดท้าย เราไม่รู้สึกเวลาที่เค้าหยอดยาแล้ว และคุณหมอก็มา brief ให้ฟังว่า ขั้นตอนการรักษาจะเป็นยังไง ซึ่งปรากฏว่า การรักษาของเรา จะมีการยิงเลเซอร์ 2 ครั้ง เข้าใจว่า ครั้งแรก เป็นการยิงเพื่อลอกกระจกตา ส่วนครั้งที่สองเป็นการยิงเพื่อรักษาสายตาสั้น
พอเข้าไปในห้องยิงเลเซอร์อันเย็นยะเยือก คุณพยาบาลก็เข้ามาถามว่า "อยากให้จับมือมั้ยคะ กลัวมั้ย บอกได้นะ" เราก็ไม่เป็นไรค่ะ จับมือตัวเองดีฝ่า เหอๆ แล้วคุณหมอ (นพ. เอกเทศ ชันซื่อ) ก็มาถึงแล้วก็บอกให้เราจ้องไปที่ไฟสีเขียวนะ จะยิงแล้ว ตอนยิงเราก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก รู้แต่ว่า ก็จ้องไฟไปเรื่อยๆ บางทีมันก็เบลอๆ ไม่รู้อยู่ตรงไหน แต่ก็พยายามมองนิ่งๆ ไว้แหละ ดีที่สุด
ไม่เกิน 5 นาที ก็เสร็จ แป๊บเดียวเองจริงๆ กลัวมาตั้งอาทิตย์ แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่สุดก็คือ....พอคุณหมอยิงเลเซอร์ครั้งที่สอง แล้วเค้าเช็ดลูกตา เราก็มองเห็นไฟห้องผ่าตัดชัดในบัดดลเลยอะ ซึ่งก่อนหน้าที่เค้าจะยิงง่ะ คนที่สายตาสั้นเยอะๆ น่าจะนึกออกว่า เราไม่เห็นหรอกไฟอะ มันจะเป็นดวงๆ เบลอๆ แต่พอเสร็จปุ๊บ ชัดปั๊บเลยอะ ว้าวๆ
วันนั้น ก็ตื่นเต้นใหญ่เลย ยังไม่เลิกกด facebook เล่น เพื่อนก็งง เฮ้ย เล่น fb ได้เลยหรอ เราก็อือ พอมองเห็นๆ แต่มันเบลอๆ นะ
แต่พอยาชาเริ่มหมดฤทธิ์เท่านั้นแหละ..........น้ำตาเจ้ามาจากไหน ไหลพรากๆๆๆๆ แสบตาด้วย เอาเป็นว่า คืนนั้น แสบตาทั้งคืน แล้วก็พอรู้สึกแสบ น้ำตาก็ไหลลลลลลลลล ตลอดๆ ขนาดว่ากินยานอนหลับแล้ว ฉานยังตื่นมาแสบตา น้ำตาไหลเลยแหละ
----------------------------------------------------------------------------------------
และนี่เป็นสภาพหลังจากเพิ่งยิงเลเซอร์เสร็จใหม่ๆ ก็ต้องปิเดตาไว้แบบนี้
Create Date : 18 มีนาคม 2554 | | |
Last Update : 18 มีนาคม 2554 15:45:45 น. |
Counter : 838 Pageviews. |
| |
|
|
|